เจ้านายหนุ่มกับเลขาสาว 1.2

1476 Words
“ขอบคุณค่ะที่ท่านประธานให้เกียรติดิฉันมาร่วมงานด้วย เรียกดิฉันว่าผึ้งก็ได้ค่ะ เรียกชื่อจริงมันเขินๆ น่ะคะ” “ถ้าอย่างนั้นคุณก็เรียกผมว่าธัญญ์ก็ได้ เรียกซะเต็มยศแบบนี้ผมก็รู้สึกเขินๆ เหมือนกันแล้วอีกอย่างนะครับอย่าเรียกแทนตัวเองว่า ดิฉัน เพราะมันทำให้เราสองคนดูห่างกันจนเกินไป” เขาพูดด้วยรอยยิ้ม และเป็นอีกครั้งที่หัวใจสาวเต้นรัวเมื่อมองเห็นรอยยิ้มของคนตรงหน้า ยามเขายิ้มดูเหมือนความเคร่งขรึมบนใบหน้าคมเข้มจะเหือดหายไปจนสิ้น ใบหน้าของธัญญ์ตอนนี้ดูดีกว่าตอนที่เขาไม่ยิ้มเสียอีก “ค่ะ ได้ค่ะ ผึ้งยังใหม่สำหรับการเป็นเลขา คุณธัญญ์มีอะไรจะแนะนำผึ้งแนะนำมาได้เลยนะคะ ผึ้งยินดีเรียนรู้เต็มที่ค่ะ” “การเป็นเลขาไม่ใช่เรื่องยากหรอกครับ ผมเชื่อว่าคนเก่งๆ อย่างผึ้งทำได้อยู่แล้ว” เขาพูดเพื่อให้อาการประหม่าของเธอลดน้อยลง “ค่ะ ผึ้งจะพยายามจนสุดความสามารถค่ะ” “ดีมากครับ งานเลขาก็เหมือนกับงานด้านอื่นๆ ผึ้งไม่เคยทำมาก่อนอาการประหม่าและกลัวก็ต้องเกิดขึ้นเป็นของธรรมดา แต่ผึ้งไม่ได้เป็นเหมือนเลขาทั่วๆ ไป แต่ผึ้งเป็นเลขาส่วนตัวของผม มีหน้าที่ติดตามผมไปตามสถานที่ต่างๆ อย่างเช่นไปพบลูกค้า งานเลี้ยง บางครั้งต้องมีงานนอกรอบ วันหยุดสุดสัปดาห์ผึ้งอาจจะต้องไปสนามกอล์ฟกับผม ไปที่นั่นที่นี่แล้วแต่ว่าผมจะนัดลูกค้าไว้ที่ไหน ผึ้งจะสะดวกหรือเปล่าครับ” เขาอธิบายหน้าที่ของเลขาโดยสังเขป “สะดวกค่ะ ไม่มีปัญหาค่ะ ผึ้งทำได้ค่ะ” เธอตอบรับเสียงหนักแน่น แย้มยิ้มเต็มดวงหน้า “บางทีวันหยุดของผึ้ง ผมอาจจะใช้งานผึ้งทั้งวันเลยนะครับ และบางครั้งต้องไปต่างจังหวัดหรือไม่ก็ต่างประเทศ ไม่รู้ว่าทางบ้านของผึ้งจะว่ายังไง ผมกลัวว่าแฟนของผึ้งอาจจะว่าเอาได้ด้วย” เขาพูดหยั่งเชิง ต้องการรู้ว่าเธอจะตอบกลับมาว่าอย่างไร “แม่ของผึ้งไม่ว่าผึ้งหรอกค่ะ แม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องงาน ส่วนเรื่องแฟนคุณธัญญ์ไม่ต้องห่วงนะคะ ผึ้งยังไม่มีแฟนค่ะ” เมื่อได้รับคำตอบ ใบหน้าหนุ่มหล่อตึงขึ้นมาทันที กรามเขาขบกัน เกร็งเพียงชั่วขณะ ดวงตาจ้าแสงแห่งแรงโทสะ ทว่ามันเป็นอาการเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่จะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ผู้หญิงตรงหน้าร้ายกาจกว่าที่คิดไว้ ไม่มีแฟน...เธอพูดออกมาได้อย่างไร เช้าของวันนี้เขายังเห็นเธออี่อ๋ออยู่กับชายหนุ่มคนหนึ่งในร้านคอฟฟี่ชอฟอยู่เลย ท่าทางรักใคร่กันดีด้วย เขารู้สึกสงสารผู้ชายคนนั้นขึ้นมา ไม่อยากให้ประสบชะตากรรมเดียวกันกับน้องชาย ธัญญ์คิดไม่ผิดที่คิดสั่งสอนสาวรักเผื่อเลือกตรงหน้า “โล่งอกไปที ผมนึกว่าผึ้งมีแฟนแล้วเสียอีก ผมอยากได้ใบสมัครจากผึ้งจังเลยครับ” เขารุกทันที “ใบสมัคร ใบสมัครอะไรคะ” วชิราภรณ์ถามกลับด้วยความฉงน ไม่เข้าใจความหมายที่ธัญญ์พูด “ใบสมัครขอเป็นแฟนไงครับ” ดวงหน้าของวชิราภรณ์แดงเถือก มองเขาด้วยสายตาตื่นตกใจ หัวใจดวงเล็กๆ เต้นเร็วแรง ตั้งตัวไม่ทันกับการรุกปานจรวดของธัญญ์ “คุณธัญญ์อย่าพูดเล่นแบบนี้สิคะ ผึ้งเขินนะคะ” “ผมไม่ได้พูดเล่นนะครับ ผมพูดจริงๆ” เขาย้ำเสียงหนัก “ผึ้งว่าผึ้งไปทำงานก่อนดีกว่าคะ เลยเวลาทำงานมาร่วมยี่สิบนาทีแล้ว” เธอเอ่ยไปหน้าแดงไป ขวยเขินกับคำพูดและแววตาของธัญญ์ที่เพ่งมองมายังใบหน้าของเธอ หากนั่งอยู่ตรงนี้ต่อไปมีหวังหัวใจของเธอต้องกระดอนกระเด็นออกมาจากร่างกายแน่นอน “เชิญครับ โต๊ะทำงานของผึ้งอยู่หน้าห้องผมครับ เดี๋ยวผมจะเดินไปส่งนะครับ” ธัญญ์ไม่ให้เธอได้ตั้งตัวทัน เขาลุกขึ้นยืนก้าวเดินมายังเก้าอี้ที่เธอนั่ง ผายมือไปทางประตูอย่างสุภาพบุรุษ วชิราภรณ์ลุกขึ้นยืนอย่างงงๆ กับท่าทีของเจ้านายรูปหล่อ แต่ก็เดินตามชายหนุ่มร่างโตออกไปจากห้อง “ขอบคุณมากนะคะ แต่ไม่ต้องลำบากเดินมาส่งผึ้งก็ได้ค่ะ” วชิราภรณ์กล่าวอย่างเกรงใจ “ลำบากที่ไหนครับ ผมเต็มใจเป็นที่สุดต่างหากครับ” ดวงตาของเขายิ้มเสมือนริมฝีปากหนาที่แย้มยิ้มหลังจากพูดจบ “ผึ้งขอตัวทำงานก่อนนะคะ” “เชิญครับ” ธัญญ์ทิ้งรอยยิ้มมหาเสน่ห์ให้วชิราภรณ์อีกครั้ง ก่อนที่จะหมุนตัวเพื่อเดินกลับเข้าไปในห้อง พอหันหลังให้กับเธอเท่านั้น รอยยิ้มของเขาก็เปลี่ยนเป็นบึ้งตึง เรียบขึงดูน่ากลัว “เธอไม่รอดมือฉันแน่ แม่ผู้หญิงเผื่อเลือก” ธัญญ์พูดกับตัวเองเมื่อเดินเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัว  เขารู้สึกคันที่ปากยามเอ่ยวาจาชวนเลี่ยนกับวชิราภรณ์ รู้สึกรังเกียจเวลาได้ใกล้ชิดและสัมผัสร่างกายของวชิราภรณ์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเขาก็ต้องทน อดทนให้ถึงที่สุด เก็บงำความรู้สึกทุกอย่างนั้นไว้ หลอกล่อให้เธอตายใจด้วยถ้อยคำหวาน กิริยานุ่มนวลและอื่นๆ อีกหลายประการที่เขากำลังจะทำนับต่อจากวินาทีนี้เป็นต้นไป   ตลอดครึ่งวันของการทำงานในตำแหน่งเลขาส่วนตัวของธัญญ์ วชิราภรณ์ตั้งใจที่จะศึกษางานตรงหน้า เอกสารหลายอย่างที่เธอไม่คุ้นเคยก็ได้สัมผัส เรียนรู้ถึงระบบการทำงานในการติดต่อลูกค้ารายใหญ่และรายสำคัญที่บริหารงานระดับสูงเท่านั้นที่จะเข้าถึง รวมทั้งตารางนัดหมายของธัญญ์ในแต่ละวัน เธอต้องดูแลไม่ให้ขาดตกบกพร่อง หากเกิดข้อผิดพลาด บริษัทอาจต้องสูญเสียรายได้จำนวนมากไป ทั้งนี้เธอมีครูคอยช่วยสอนประหนึ่งมืออาชีพ รู้งานอย่างมีหลักการ ครูคนนั้นก็กำพล “ผึ้ง เข้ามาหาผมหน่อยครับ” เสียงของธัญญ์ไหลผ่านออกมาจากเทเลคอมเครื่องเล็กบนโต๊ะทำงานของเลขาหน้าหวาน “ค่ะ คุณธัญญ์” วชิราภรณ์กดปุ่มตอบรับ “ผึ้งขอตัวก่อนนะคะพี่ตั้ม” ก่อนะจะเงยหน้าเอ่ยบอกกำพลที่พยักหน้ารับรู้ เลขาสาวยืดตัวตรง ก้าวเดินไปยังห้องทำงานของเจ้านายหนุ่ม เคาะประตูตามมารยาทจากนั้นก็เปิดประตูเข้าไป “คุณธัญญ์มีอะไรให้ผึ้งรับใช้คะ” “นั่งก่อนครับ” “คุณธัญญ์มีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่าคะ” เธอถามอีกครั้ง “กลางวันนี้ผึ้งมีนัดทานข้าวกับใครหรือเปล่าครับ” เสียงทุ้มทว่านุ่มนวลเอ่ยถาม เธอตอบไปโดยไม่ทันคิดว่า กลางวันนี้เธอมีนัดกับกัมปนาท “ไม่มีค่ะ” “แน่นะครับ” ธัญญ์มั่นใจว่า กลางวันนี้วชิราภรณ์ต้องมีนัดกับชายหนุ่มคนนั้น จึงถามย้ำออกไป “ไม่มีจริงๆ ค่ะ” “ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลยครับ ผมกะว่าจะชวนผึ้งไปทานข้าวกลางวันด้วยกันน่ะครับ หวังว่าผึ้งคงจะไม่ปฏิเสธผมนะครับ” ธัญญ์ไม่รอให้โอกาสหลุดลอยไป เขารีบรุกตามแผนการทันที “นะครับ ไปทานข้าวเป็นเพื่อนผมหน่อยนะครับ” ธัญญ์พูดอีกครั้งเมื่อเห็นทีท่าอึกอักของวชิราภรณ์ สาเหตุที่เธอมีกิริยาเช่นนี้เป็นเพราะ เธอเพิ่งนึกออกว่ามีนัดกับกัมปนาท เธอจึงตกอยู่ในอาการเช่นนี้ “หรือว่าผึ้งรังเกียจผม” เขาพูดต่อ ทำสีหน้าเศร้าสร้อย “ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่อย่างนั้น ตกลงค่ะผึ้งจะไปทานข้าวกับคุณธัญญ์” เธอรีบปฏิเสธออกไปทันควันก่อนจะตอบรับในวินาทีต่อมา “ขอบคุณมากเลยนะครับที่ให้เกียรติไปทานข้าวกับผม เที่ยงตรงเจอกันนะครับ” คราวนี้ใบหน้าเศร้าหมองกลับเบิกบานขึ้นในบัดดล “ค่ะ ผึ้งขอตัวไปทำงานต่อนะคะ” เธอส่งยิ้มเป็นมิตรให้เจ้านายหนุ่ม ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปจากห้อง พอไปถึงโต๊ะทำงานของตัวเอง มือนุ่มล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าสะพายออกมา กดหมายเลขโทรศัพท์ของกัมปนาท เพื่อยกเลิกนัดกลางวันนี้ ทุกการกระทำของเธอตกอยู่สายตาของธัญญ์ที่มองผ่านโทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิดหน้าห้องทำงานของเขา “แล้วบอกไม่มีนัด สตอเบอรี่จริงๆ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD