11

1687 Words
ช่างเป็นกิริยาที่อ่อนโยนเหลือเกิน หัวใจสาวเกิดความชุ่มฉ่ำราวกับต้นไม้แห้งเหี่ยวเฉาได้น้ำ หากการปลุกปลอบโยนในครั้งนี้ เขาไม่หักหาญน้ำใจเธอก็คงดีไม่น้อย รวิษาคงจะซึมซับความอ่อนโยนที่ได้รับด้วยหัวใจที่เป็นสุข ไม่ใช่สุขครึ่งทุกข์ครึ่งเช่นนี้ ร่างกายบึกบึนไม่ได้ขยับเอวเคลื่อนไหวตามที่ควรจะเป็น เขาสร้างความคุ้นเคยให้กับเธอด้วยการโยกตัวช้าๆ วนกายแกร่งไปรอบๆ กลีบดอกไม้สาว เสยร่างกายไปพร้อมๆ กันด้วย ในขณะที่ใบหน้าคมเข้มก้มลงเชยชมดอกบัวสล้าง “อา...อืม” ร่างข้างใต้เผยอปากผ่อนเสียงร้องไปตามการปลุกเร้าของชายหนุ่ม แล้วเป็นเธอเองที่กระหายสวาทแทน ทั่วกายร้อนรุ่มและอึดอัด สมองพร่าเลือนคล้ายกับคนไม่มีสติ ขยับสะโพกกลมกลึงส่ายช้าๆ ไปมาไม่รู้ตัว “เธอพร้อมแล้วมิ้น” เขาชอบใจยิ่งนักกับอากัปกิริยาของรวิษา แสนยวนใจยั่วอารมณ์ดีชะมัด เขายืดตัวตั้งตรง ฝ่ามือใหญ่จับข้อพับสาวทั้งซ้ายขวาดันออกไปทางด้านข้าง เพื่อที่เขาจะได้ขยับกายแกร่ง เดินเครื่องเต็มสูบ “อืม...อา คุณโอม คุณโอม...อา” เธอกัดฟันเล็กน้อย กระแสไฟฟ้าอ่อนๆ แล่นพล่านยามที่สิ่งแปลกปลอมขยับเข้าออกร่างกาย อัคราโยกไหวเอวจากเนิบช้าคล้ายกับให้เธอปรับสภาพ ก่อนจะเร่งความเร็วในอีกนาทีต่อมา “โอ้...สุดยอด สุดยอด มิ้น...อูวว์” เขาผ่อนลมหายใจร้อนๆ แรงๆ ออกมาพร้อมกับเสียงกระสันห้าวต่ำทุกครั้งที่ขยับโยกเคลื่อนไหวตัวตนแข็งแรง ช่องทางรักแสนตีบตันนี้กำลังกระชากใจเขาให้กระดอนกระเด็น ความเสียวสยิวสูบฉีดในกระแสเลือด กระตุ้นเพลิงเสน่หาให้ลุกโชนมากกว่าครั้งไหนๆ ความมันในการเร่งเร้าจังหวะมีมากจนเขาไม่อยากหยุด เสือกกายเข้าออกถาโถมสุดแรง “อา...คุณโอมขา...คุณโอม” เธอดีดดิ้นใต้ร่างหนา เปล่งเสียงร้องปานจะขาดชีวาไม่ขาดสาย ความเจ็บจืดจางเมื่อถูกเขาปรนเปรอ “พระเจ้า...ดิ้นอย่างนั้นแหละมิ้น ดิ้นอย่างนั้นแหละ โอ้ว...” เขาชื่นชมร่างน้อยที่ส่ายดิ้นรับแรงรัก ซึ่งเธอก็ทำตามอย่างว่าง่าย “ดีมาก น่ารักมากมิ้น” ณ ตอนนี้ความเจ็บปวดของรวิษามลายหายไปสิ้น ความหฤหรรษ์เข้าแทรกทุกพื้นที่ในกาย เธอยกสะโพกส่ายร่อนโดยสัญชาตญาณ ดีดดิ้นตามที่เขาชอบและเอ่ยสั่ง ทั่วร่างชุ่มไปด้วยเหงื่อ ชีพจรเต้นตุบๆ ภายในช่องท้องถูกพายุสวาทโหมใส่ รวิษาร้อนรนไม่ต่างกับไฟลวก ร่างทั้งร่างแทบหลอมละลาย “อา...คุณโอม...อา...อืม” เสียงหวานพร่าครางไม่เป็นศัพท์ ยิ่งเวลาผ่านไปอัครายิ่งออกแรงรักมากขึ้น จังหวะของเขานั้นเติมความแรงและเร็วเข้าไปด้วย หนำซ้ำลิ้นยังพลิ้วสะบัดยอดถัน ก่อนที่ปากจะทำหน้าที่ดูดกลืน สวรรค์น้อยๆ ที่เห็นรำไรจึงเด่นชัดขึ้นมาอีกครั้ง “จะถึงแล้วใช่มั้ย ไปเลยมิ้นโอ้ว...ไปเลย” เขาดันใบหน้าออกห่างสิ่งสวยงามอวบใหญ่ ฝ่ามือหนายันอยู่ข้างลำตัวของรวิษา เพิ่มแรงอัดใส่ร่างระหงเร็วรี่ เน้นจังหวะหนักหน่วงทอดมองดวงหน้าที่พราวไปด้วยไอพิศวาสราวกับสัตว์ป่าหิวโหย “คุณโอม...อา...อา...มิ้นมิ้น...อา” ความรู้สึกนั้นเกิดขึ้นกับเธออีกแล้ว ร่างกายเบาโหวงราวกับปุยนุ่น ก่อนจะค่อยๆ ลอยสู่ท้องฟ้าในยามค่ำคืน มีหมู่ดวงดาวพรรณรายหลายร้อยหลายพันดวงเปล่งแสงระยิบ มันสวยงามมาก รวิษารู้สึกเพลิดเพลินกับความงามตรงหน้า แต่แล้วอยู่ๆ ร่างของเธอก็ถูกดึงด้วยแรงมหาศาลกลับไปยังพื้นดิน “กรี๊ดดดดดดดด...อา” เธอเปล่งเสียงกรีดร้องออกมาดังลั่น หน้าตาบ่งบอกถึงความสุขปนทรมาน เมื่อร่างของเธอถูกดีดกลับขึ้นไปบนท้องฟ้า ไม่นานนักพลุไฟหลากสีก็ระเบิดเจิดจรัส ส่วนตัวเธอก็ถูกเหวี่ยงให้ข้ามผ่านม่านเมฆสีทมิฬ ไปยังอีกฝั่งหนึ่งที่งามจับใจ งามยิ่งกว่าสิ่งใดในโลก เพราะมันคือสรวงสวรรค์ในดินแดนกามารมณ์... “โอ้ว...มิ้น แน่นมากแทบขยับไม่ได้เลย พระเจ้า...อา...อูวว์” อัคราปล่อยเสียงแทบขาดใจ กายแกร่งแทบจะขยับไม่ได้ เนื่องจากกล้ามเนื้อสาวภายในช่องทางรักโอบรัดสิ่งนั้น มันไม่ใช่เพียงการโอบรัดเพียงอย่างเดียว ยังมีอาการเกร็งแข็งของร่างสาวควบคู่ไปด้วย ไม่แปลกที่เขาจะขยับเคลื่อนไหวไม่ได้สะดวก “อา...คุณโอม คุณโอม...อา” แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่หยุดเคลื่อนไหว เพิ่มแรงมากขึ้นกว่าเดิมนำพาความเป็นชายขยับเข้าออกเส้นทางหฤหรรษ์ รวิษาที่เพิ่งรู้จักกับความสุขจากการเสพสมครั้งแรกถึงกับครางกระเส่า “โอ้ววว...อืม” เขาเองก็ปล่อยเสียงครางออกมาเบาๆ จังหวะของอัคราช้าลง เขาจับขาสาวพาดบนบ่าแข็งแรงของเขา หัวเข่าแกร่งแยกออกไปโอบสะโพกกลมกลึง มือใหญ่ประคองบีบดอกปทุม เมื่อจัดท่วงท่ารักเรียบร้อย อัคราเริ่มโถมแรงใส่ร่างสมส่วนอีกครั้ง “โอ้ว...อูวว์” เขาครางเสียงพร่า “สุดๆ ไปเลยมิ้น เยี่ยมมาก” “อา...คุณโอม คุณโอม” เธอครางรับแรงกระชั้นที่สาดใส่อย่างบ้าคลั่ง พละกำลังของเขาไม่ลดถอยลงเลย รุนแรงอย่างไรก็อย่างนั้น เร็วขนาดไหนก็ยังเร็วอยู่อย่างนั้น ที่สำคัญยังเพิ่มความหนักหน่วงทุกครา ร่างน้อยแทบจะหายใจไม่ทัน ทรวงอกสาวตกอยู่ในอุ้งมือใหญ่ที่นวดเฟ้นอย่างเมามัน นานแค่ไหนรวิษาไม่อาจคาดเดาถึงเวลาได้ รู้เพียงว่าทุกแรงส่งของเขาสะท้านสะเทือนหัวใจเธอยิ่งนัก เขาไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ยังคงตั้งหน้าตั้งตาขยับเอวรุกล้ำเข้าออกกลีบดอกไม้ฉ่ำหวาน แหงนใบหน้าสูดปากสูดลม ส่งเสียงร้องคราง “อูวว์...พระเจ้า...โอ้ว” เขายังครวญรัญจวนไม่หยุด เสมือนกับกายแกร่งที่มุดเข้ามุดออกดอกไม้งามอย่างไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงที่ใด “คุณโอม...อา คุณโอม” รวิษาเสียวแทบขาดใจ ร้องครางระบายความรู้สึกถึงความกระสันซ่านที่ลามเลียทั่วกาย อัคราเปรียบเสมือนอาชาไนยหนุ่มแสนคึก เรี่ยวแรงดังช้างสาร สาดใสเร่งเร้าเข้าสุดออกสุด บางครั้งก็ว่ายวนกายแกร่ง ดันเข้าเสยใส่ลีลาของเขาแพรวพราวจนเธอไม่อาจต้านทาน สุขสมกับเกมสวาทอีกรอบ “โอ้ว...มิ้นรัดฉันแน่นอะไรอย่างนี้” คนตัวโตครางกระเส่า ปล่อยดอกอุบลให้เป็นอิสระ ก่อนจะมายันร่างตรงหัวไหล่ของเธอทั้งสองข้าง “ไม่ไหวแล้ว...อา ไม่ไหวแล้ว” เขาเป็นฝ่ายควบคุมตัวเองไม่อยู่บ้าง ความอัดอั้นที่กินระยะเวลานานร่วมชั่วโมง ดอกกุหลาบงามที่ทำให้เขาแทบคลั่ง กำลังทำให้อัคราทานทนต่อไปไม่ไหว เขากำลังเดินทางไปแตะขอบสวรรค์ชั้นฟ้า ชั้นเดียวกับรวิษาที่ย่างเท้าเดินนำหน้าไปเยี่ยมชมความงามแห่งนั้น “โอ้ว...โอ้ว...โอ้ว” เขาเร่งเครื่องเต็มพิกัด มีแรงเท่าไหร่สาดโครมลงไปเท่านั้น ร่างสาวไถลไปตามพละกำลังของอัครา จนศรีษะของเธอชิดริมเตียงอีกฝั่งหนึ่ง “อา...คุณโอม / โอ้ว...อูวว์...สะ...สุดยอด” เสียงครางครวญของเขาและเธอดังพร้อมๆ กัน ในจังหวะสุดท้ายที่เขากระชั้นเข้าใส่ ร่างใหญ่ที่สั่นเทิ้มเหนือร่างเล็กพ่นลาวาสวาทที่อัดอั้นมานาน รินรดดอกกุหลาบงามที่เต้นตุบๆ ก่อนที่เขาจะทรุดฮวบลงบนร่างของเธอ เมื่อทุกอย่างผ่านพ้นไปรวิษาหลับตานิ่ง เธอต้องการให้ทุกอย่างเป็นแค่ความฝัน เป็นฝันร้ายที่เข้ามาอยู่ในห้วงนิทรา แต่มันไม่ได้เป็นดังที่คิด ทุกอย่างเป็นเรื่องจริง ร่างของคนที่ตนเองแอบหลงรักยังคงทาบทับร่างของเธออยู่ แก่นกายชายยังคงฝังอยู่ในความเป็นอิสตรี ลมหายใจเหนื่อยหอบยังคงเป่ารดตรงเนินอก เวลานี้เธอเป็นของอัคราทั้งกายและใจ “ฮือ...ฮือ” เธอเสียใจในสิ่งที่ไม่อาจหวนกลับมา เสียใจที่เคยยกย่องเชิดชูเขา เสียใจที่เขาหักหาญน้ำใจ เสียใจที่เขาไม่เห็นคุณค่าในตัวเธอ และเสียใจที่ตัวเองพ่ายแพ้ต่อไฟเสน่หาที่เขาปลุกระดม เสียงร้องไห้เบาๆ ดังเข้าไปในหูของคนขี้รำคาญ อัคราชักสีหน้าเล็กน้อยก่อนจะพลิกกายลงนอนข้างร่างนางเปลือย ตะแคงร่างเท้าแขนใช้ฝ่ามือรับน้ำหนักของศีรษะ “จะเสียใจทำไม เธอน่าจะดีใจมากกว่านะที่ได้ตอบแทนบุญคุณฉัน” เขาพูดราวกับไม่แยแสเรื่องที่ตัวเองทำลงไป ใช้มืออีกข้างกอบกุมทรวงอกสาว แล้วบีบเบาๆ รวิษาปัดมือใหญ่ข้างนั้นให้ออกห่าง ทำท่าจะลุกขึ้นนั่งแต่เขากลับใช้ฝ่ามือกดลงไปตรงบริเวณเนินอกสาว “จะไปไหน?” ชายใจดำถาม “จะกลับห้องค่ะ” สาวผู้น่าสงสารตอบเสียงเบา กำลังจะปัดมือใหญ่ทว่าเขากลับดึงมือออกไปเสียก่อน แล้วใช้ร่างกาบใหญ่โตเก็บกักร่างบางแทน “เธอจะกลับห้องได้ก็ต่อเมื่อฉันให้กลับ” รอยยิ้มร้ายเฉิดฉายบนใบหน้าหนุ่ม ใจสาวหล่นวูบเมื่อเห็นสีหน้าของเขาเวลานี้ “แค่ครั้งเดียวมันตอบแทนบุญคุณที่เลี้ยงดูเธอมาไม่ได้หรอกมิ้น” คนที่ถูกทวงบุญคุณม่านตาขยายกว้าง และไม่ทันที่เธอจะประท้วงหรือห้ามปราม ปากสาวก็ถูกปิดทับด้วยปากหนา เขามอบจูบเร่าร้อนเช่นเดียวกับลีลารักที่ร้อนยิ่งกว่าให้กับเธอครั้งแล้วครั้งเล่า จนสาวน้อยประสบการณ์แทบจะทานรับไม่ไหว แต่ทว่าเธอก็ต้องทนจนกว่าเขาจะพอใจ ร่างกายสาวชอกช้ำไม่เท่ากับหัวใจที่แตกสลาย...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD