เขาใช้ความพยายามมากทีเดียวที่จะไม่พูดอะไรมาก ก่อนที่จะโบกมือไหวๆ ให้เลขาฯ หนุ่มเอาของบางอย่างจากกระเป๋ามาวางให้
เอกสารสองชุดถูกวางอยู่บนโต๊ะเบื้องหน้า สีดามองตามด้วยความไม่เข้าใจ ขณะที่พระรามเอ่ย
“ผมจะมาคุยกับคุณเรื่องสัญญานี้”
“สัญญา? สัญญาอะไรคะ”
“คุณจะรอให้ผมเท้าความก่อนไหม”
พูดมาเท่านี้ สีดาก็ไม่พูดอะไรต่อ ได้แต่นิ่งเพื่อรอฟังอย่างตั้งใจเท่านั้น
พระรามหรี่ตามองท่าทางสงบเสงี่ยมของคนตรงหน้าก็อดคิดไม่ได้เลยว่าในคืนวันนั้นเมื่อร่างกายของเธอไร้อาภรณ์ปกปิดกายแล้ว เธอกลายร่างเป็นผู้หญิงอีกคนที่เขาไม่รู้จัก ซึ่งเขาก็ชอบและปรารถนาเหลือเกินที่จะได้เห็นผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง
“คุณจำได้ใช่ไหมว่าคืนนั้นเราทำอะไรสนุกๆ กัน”
และเขาก็ไม่รอช้าอีกต่อไป เอ่ยปากจนได้
สีดาจำได้แม่นเลยล่ะ ภาพนั้นหวนคืนมาในหัวของเธอ เธอจำได้ทุกสัมผัส ทุกความเสียวกระสัน จนต้องเม้มริมฝีปากเพื่อสะกดกลั้นความรู้สึกเหล่านั้นเอาไว้แล้วพยักหน้ารับ
“จำได้ใช่ไหม” แต่การพยักหน้ารับดูเหมือนจะไม่มากพอสำหรับคำตอบของพระราม
“จำได้ค่ะ”
เมื่อสีดาว่ามาอย่างนี้ เขาถึงได้โบกมือเป็นสัญญาณบอกให้เลขาฯ ของเขาถอยห่างออกไปจากบริเวณนั้น เมื่อคล้อยหลังของ
ชายหนุ่มอีกคนไปแล้ว เขาถึงได้พูดต่อ
“ปกติแล้วเวลาที่ผมมีเซ็กซ์แบบวันไนต์สแตนด์กับใคร
ผมมักจะรักษากฎอยู่เสมอ นั่นก็คือไม่มีการติดต่อกันหลังจากนั้น ไม่มีครั้งที่สอง และไม่มีความข้องเกี่ยวใดๆ กันอีกไม่ว่าจะทางไหน”
เรื่องนั้นสีดารู้อยู่แล้ว ถึงเขาจะไม่บอก เธอก็รับรู้ด้วยสัญชาตญาณ บนอินเทอร์เน็ตก็มีการพูดถึงเรื่องนี้อยู่เยอะแยะ เธอไปอ่านก็พอจะรู้กฎอยู่บ้าง เพียงแต่กฎของพระรามนั้นชัดเจนตั้งแต่แรกว่าต้องเป็นอย่างไร มันถึงได้มีความแตกต่างจากอะไรที่เธออ่านมา
นิดหน่อย
แต่ทว่าสีดาก็ต้องประหลาดใจเมื่อพระรามว่าตามมาอีก
“แต่คุณรู้ไหมว่าผมกลับมาที่นี่ก็เพราะคุณ”
“หมายความว่ายังไงคะ”
“ก็หมายความว่า...” พระรามดูเหมือนจะพูดคำนี้ออกมาได้ยาก เขามองหน้าสีดาเขม็ง ขณะที่เธอก็จ้องเขาอย่างไม่ลดละเช่นกัน
“หมายความว่าอะไรคะ” ถามย้ำมาอีก
พระรามพรูลมหายใจออกมา เอาวะ ไหนๆ ก็มาแล้ว พูดก็พูด!
“หมายความว่าผมติดใจคุณ”
เขายอมรับออกไปจนได้ เป็นครั้งแรกเลยที่เขาพูดกับผู้หญิงที่เคยนอนด้วยแบบนี้ รู้สึกเสียหน้าอยู่หน่อยๆ แต่ไม่ได้รู้สึกเสียศักดิ์ศรีหรือเกียรติอะไร เพียงแต่คิดว่ามันเป็นเรื่องน่าอาย โดยเฉพาะการที่เขาดันเป็นคนแหกกฎที่ตั้งเอาไว้เสียเอง
เคราะห์ดีที่สีดาไม่ได้หัวเราะเยาะเย้ยอะไรเขาในเรื่องนี้ เอาแต่มองพลางส่งสายตาฉงนมาให้
“ติดใจฉัน? หมายถึงติดใจฉันเพราะเรื่องบนเตียงใช่ไหมคะ”
เธอไม่ใช่คนโง่ ฟังแล้วก็พอจะเดาทางได้ แต่เรื่องนี้พระรามขอเป็นคนพูดจะดีกว่า
“ผมติดใจเซ็กซ์ของคุณ คุณทำให้ผมเห็นอะไรบางอย่างที่ผมต้องการ”
“คุณต้องการอะไร”
ดูท่าจะห้ามปากสีดาไม่ให้พูดขัดไม่ได้ พระรามพ่นลมหายใจหนักๆ ใส่ทีหนึ่ง ก่อนจะว่าเสียงเรียบ
“ความรุนแรง”
เท่านั้นสีดาก็รู้สึกหน้าร้อนผะผ่าวขึ้นมา เธอหลบสายตาเขาไปวูบหนึ่ง ก่อนจะกลับมาจ้องตาเขาอีกที
“ฉันก็ไม่ได้รุนแรงอะไรกับคุณมากสักหน่อย แค่ปล่อยให้มันเป็นไปตาม...”
“สัญชาตญาณ”
พระรามเติมคำให้ สีดาถึงเงียบปากได้ เขาพอใจที่ในที่สุดก็ทำให้เธอสงบปากสงบคำได้เสียที ก่อนที่เขาจะเข้าเรื่องอีกครั้งด้วยเห็นว่าสีดายังคงไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อสักเท่าไรนัก
“ผมชอบมีเซ็กซ์แบบรุนแรง พอมีเซ็กซ์กับคุณในคืนนั้น มันก็เลยทำให้ผมติดใจ ถึงได้มาหาคุณเพื่อทำการตกลง”
“ตก...”
“และอย่าเพิ่งถามว่าตกลงอะไร ฟังให้จบ” เขาขัดเสียก่อนที่หญิงสาวจะได้พูด
ริมฝีปากสีสวยปิดสนิท รอฟังเขาแทน
“ผมจะมาตกลงกับคุณ ให้คุณมาเป็นคู่นอนประจำของผม โดยที่ผมจะจ่ายค่าเหนื่อยให้กับคุณ ในทุกๆ วันเสาร์ คุณจะต้องมาค้างกับผมที่คอนโดฯ และกลับในเช้าวันอาทิตย์ เท่ากับว่าในหนึ่งเดือน
เราจะต้องเจอกันสี่ครั้ง”
“นี่คุณมาเสนอให้ฉันขายตัวเหรอคะ”
สีดาถามแบบไม่ได้มีอาการโมโหฉุนเฉียวใดๆ เธอแค่ต้องการความชัดเจนเฉยๆ ขณะที่พระรามเลิ่กลั่กขึ้นมาน้อยๆ ในใจ แต่ก็เก็บความรู้สึกนั้นได้แนบเนียน
“ผมไม่ได้มาเสนอให้คุณขายตัว แค่เสนอให้คุณมาเป็นคู่นอนกับผมโดยมีค่าเหนื่อยก็แค่นั้น ไม่ใช่มานอนแบบไม่ได้ค่าเหนื่อยอะไรเหมือนวันไนต์สแตนด์ นี่จึงไม่ใช่การขายตัว แต่เป็นการจ้าง
เซ็กซ์พาร์ตเนอร์ต่างหาก”
พระรามพยายามหาคำพูดที่ดูดีมาอ้าง หวังว่าจะทำให้
หญิงสาวเข้าใจ ซึ่งสีดาก็เข้าใจ เธอพยักหน้ารับแล้วผายมือน้อยๆ เป็นเชิงให้เขาพูดต่อ
“นอกจากการเจอกันแล้ว ผมก็มีกฎง่ายๆ อยู่ข้อหนึ่ง นั่นก็คือเซ็กซ์ระหว่างเราต้องเป็นไปตามความต้องการของผมเท่านั้น ผมอยากได้เซ็กซ์แบบไหน คุณก็ต้องทำตามนั้น ห้ามขัดจนกว่าเซ็กซ์จะยุติลง
ซึ่งหมายถึงผมถึงที่หมาย”
“แล้วคุณรามอยากได้เซ็กซ์แบบไหนเหรอคะ”
สีดาอยากรู้นักว่าอะไรที่ทำให้เขาติดใจเธอจนต้องมายื่นข้อเสนอบ้าๆ บอๆ แบบนี้ให้ พระรามเม้มริมฝีปากแน่น เขาไม่กล้าพูดเรื่องรสนิยมทางเพศของตัวเองออกมาเลย มันถูกเก็บงำมาตั้งนาน
จะให้มาพูดก็รู้สึกประดักประเดิดอยู่ไม่น้อย
แต่...ถ้าไม่พูดแล้วเธอจะรู้ได้อย่างไร พูดๆ ไปเถอะ เธอจะ
ตกลงหรือไม่ก็ค่อยว่ากันอีกที
“ผมชอบมีเซ็กซ์แบบ BDSM”
“!?”
“รู้จักไหม”
สีดาพยักหน้ารับเร็วๆ ทำไมเธอจะไม่รู้จักคำนี้ล่ะ
BDSM มันเป็นกิจกรรมทางเพศอย่างหนึ่งที่รุนแรงและมีการทรมาน ซึ่งคำว่า BDSM ได้แปลแยกออกมาตามนี้
B – Bondage คือ การพันธนาการ
D – Discipline คือ การลงโทษ
S – Sadism คือ การมีความสุขจากการทำร้ายผู้อื่น
M – Masochism คือ การมีความสุขจากการถูกผู้อื่นทำร้าย
ถึงสีดาจะไม่เคยมีเซ็กซ์ในลักษณะนี้มาก่อน แต่เธอก็เรียนรู้มันผ่านหนังรักผู้ใหญ่บ้าง อ่านจากอินเทอร์เน็ตบ้างเหมือนกัน ซึ่งพอพระรามพูดมาอย่างนี้ เธอก็อดใจวูบวาบไม่ได้
“แล้วเคยมีเซ็กซ์แบบนี้มาก่อนหรือเปล่า”
สีดาส่ายหน้าเร็วๆ ท่าทางประหม่าอย่างเห็นได้ชัด หมดสิ้นความมั่นใจอย่างเคย ทำให้พระรามหลุดหัวเราะออกมา
“ไม่เคย...แล้วอยากลองไหม”
คำเชื้อเชิญนั้นสร้างความพรั่นพรึงให้สีดามากเลยทีเดียว
เธอไม่แน่ใจว่าควรตอบคำถามนี้ดีหรือไม่ กระทั่งถูกเขาถามมาอีก
“ว่าไง อยากลองไหม”
เท่านั้นสีดาก็ส่ายหน้า “ไม่ค่ะ ฉันไม่ชอบความเจ็บปวด”
เพราะคิดไปว่าเธอจะต้องเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำ สีดาจึงปฏิเสธไปโดยไม่คิด ขณะที่พระรามเงยหน้าขึ้นแล้วหัวเราะแห้ง
นี่เขาจะต้องอธิบายไปถึงจุดนั้นจริงๆ ใช่ไหม
ก็คงต้องอย่างนั้นแหละ พระรามรวบรวมสติแล้วว่าออกมา
“แต่ผมไม่ได้ต้องการทำให้คุณเจ็บปวดหรอกนะ เพราะคนที่จะต้องเจ็บปวด คือผมเอง”
“เอ๋?”
สีดาแทบไม่เชื่อหู ไม่เข้าใจในสิ่งที่พระรามพูดไปขณะหนึ่งด้วย ทำให้เขาต้องขยายความเพิ่ม
“ผมชอบเซ็กซ์แบบรุนแรงและทรมาน โดยที่ผมเป็นฝ่ายถูกกระทำ เพราะงั้นถ้าคุณตกลงมาเป็นเซ็กซ์พาร์ตเนอร์ของผม คุณมีหน้าที่กระทำผม...เยี่ยงทาส ส่วนคุณก็จะเป็นนาย”
ในที่สุดก็พูดออกไปอย่างหมดเปลือกจนได้ เขาหวังให้หญิงสาวหัวเราะเยาะ หากแต่เธอไม่ปริปากใดๆ ออกมาสักคำ ได้แต่มองหน้าเขาอย่างอึ้งงันและไม่เข้าใจ
“ทำไมคุณถึงชอบความเจ็บปวดคะ”
เขาก็ไม่รู้จะตอบว่าอะไร มันเป็นสัญชาตญาณดิบในส่วนลึกของร่างกายเขาที่ตอบสนองอย่างฉับไวจนหลั่งสารแห่งความสุขเมื่อถูกทรมานล่ะมั้ง พระรามไม่คิดที่จะค้นหาคำตอบหรอก เขาได้แต่บอกปัดไปเรื่องอื่น
“คุณไม่จำเป็นต้องรู้ เอาสัญญาไปดู อ่านรายละเอียดซะ
ถ้าโอเคก็เซ็น”
เขาคิดจะมัดมือชกเธอในทันใด สีดาไม่รับสัญญามาจากเขา เอาแต่มองใบหน้าคร้ามคมหล่อเหลาแล้วก็ไม่เข้าใจว่า...
“ทำไมถึงต้องเป็นฉันล่ะ”
เธอไม่อยากให้คำว่า ‘เลือก’ หรอก เพราะเธอไม่ใช่ตัวเลือกของเขา เขาต่างหากที่จะต้องง้อเธอ
ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้น เพราะทันทีที่ถาม พระรามก็พ่นลมหายใจอีกระลอกด้วยความเหนื่อยหน่าย
“เพราะคุณชอบเซ็กซ์ที่รุนแรง คุณควบคุมผมได้ ออกปากสั่งผมได้ ผมถึงอยากได้คุณมาเป็นเซ็กซ์พาร์ตเนอร์ เข้าใจหรือยัง”
สีดาพยักหน้า “เรียกว่ามีแววใช่ไหมคะ”
“อืม”
พระรามตอบรับส่งๆ จะมีแววหรือไม่มีแววอะไรก็ไม่สำคัญแล้ว เขาอยากให้เธอเซ็นๆ สัญญาลงมา แล้วจะได้ไปจากที่นี่สักที
เขาอึดอัดจะแย่แล้วที่จะต้องมาตามตื๊อผู้หญิงแบบนี้ มันต้องเป็นฝ่ายที่ผู้หญิงตามตื๊อเขาสิ ทำไมมันถึงได้กลับกันนะ
ทว่า...ในความอึดอัดนั้น พระรามกลับรู้สึกมีความสุขอย่างประหลาด รู้สึก...วาบหวามอยู่ในอก รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากที่ถูก
สีดาคุมเกมอยู่
ใช่ สีดาคุมเกม เพราะนอกจากเธอจะไม่คล้อยตามเขาง่ายๆ แล้ว ยังจะค่อยๆ กดเขาให้สมยอมในอะไรหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การกดอีโก้ของเขาลงเพราะรู้ว่าตัวเองมีอำนาจในการต่อรอง
เขามีความสุขมากจริงๆ
“จะเซ็นสัญญาได้หรือยัง”
แต่เขาก็ไม่อยากอยู่ที่นี่นานอยู่ดี กลัวเหลือเกินว่าถ้า
บทสนทนาดำเนินต่อไปอย่างนี้ เขาจะเก็บความปรารถนาในตัวเธอไว้ไม่ไหว เรื่องแบบนี้ควรไปเปิดเผยในที่ลับกันสองต่อสอง
สีดาคว้าเอาสัญญาไปอ่านจนได้ เธอไล่สายตาอยู่ครู่หนึ่ง
ปากก็ครางออกมา
“ห้าหมื่นต่อเดือน”
“ถ้าน้อยไป ผมเพิ่มให้เป็นแสนนึงต่อเดือนก็ได้”
สีดาทำตาโตเมื่อได้ยินจำนวนเงินนั้น ครั้งละสองหมื่นห้าเลยหรือ? คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม!
แต่...มันก็เป็นการขายตัวไม่ใช่หรือ?
สีดาคิดมากเสียอย่างนั้น ก่อนที่จะต้องชะงักเมื่ออีกฝ่ายว่าขึ้นราวกับอ่านใจเธอได้
“วันไนต์สแตนด์ ได้กันโดยที่เธอไม่ได้อะไรนอกจากความสุข แต่การมาเป็นเซ็กซ์พาร์ตเนอร์ของผม นอกจากจะได้ความสุขแล้ว
คุณยังได้เงินอีก ไม่ใช่เงินในการซื้อตัว แต่เป็นเงินในการซื้อเวลา แบบนี้เรียกว่าคุ้มค่ากว่ากันไหม”
คุ้มสิ ทำไมจะไม่คุ้มล่ะ แต่สีดาก็ยังลังเลที่จะตอบรับ ได้แต่มองจ้องหน้ากระดาษสัญญา จนพระรามต้องตัดบท
“ตกลงจะเซ็นหรือไม่เซ็น ถ้าไม่เซ็น ผมจะได้กลับ มันเสียเวลา”
ไม่พูดเปล่า ทำท่าจะลุกไปอีกด้วย ขณะที่สีดารีบร้องเรียกเอาไว้
“เดี๋ยวค่ะคุณราม”
“อะไร”
“ฉันขอเวลาไปคิดก่อนได้ไหมคะ”
พระรามไม่ขัดหรอก แค่รู้สึกว่ามันน่ารำคาญและไม่ได้ดั่งใจเขาเลย แต่ก็นั่นล่ะ ต้องยอมเพราะเขาเองก็อยากได้สีดามากจนตัวสั่นเลยทีเดียว
“ก็ได้ ผมให้เวลาคุณอาทิตย์นึง ถ้าไม่มีการตอบกลับมาจะถือว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น แต่ถ้าคุณสนใจก็ติดต่อกลับมาที่เลขาฯ ผมได้เลย ไว้ผมจะให้เลขาฯ เอานามบัตรให้อีกที”
“ขอบคุณค่ะ”
สีดายกมือพนม พระรามไม่ได้สนใจเธออีกต่อไปแล้ว
พยักหน้าเรียกเลขาฯ ของตัวเองให้มาเก็บสัญญาฉบับหนึ่งกลับเข้ากระเป๋า และเอาอีกฉบับทิ้งไว้ให้กับหญิงสาว ก่อนจะติดต่อคนขับรถเพื่อที่จะกลับไปยังคอนโดฯ ของตน พระรามเดินออกไปจากไนต์คลับทันทีโดยไม่รอให้คนขับรถติดต่อมาก่อนด้วยรู้สึกไม่ค่อยดีกับการต้องเปิดเผยรสนิยมทางเพศของตัวเองจนหมดเปลือก ทิ้งให้สีดามองตามหลังด้วยสายตาครุ่นคิดเพียงลำพัง
แต่...พระรามก็ไม่วายเหลียวหลังกลับมาดูเมื่อกำลังจะก้าวขึ้นรถที่จอดเทียบอยู่ตรงหน้าไนต์คลับ
สีดากลับไปประจำการทำหน้าที่บาร์เทนเดอร์ของตัวเองที่
บาร์แล้ว โดยไม่รู้เลยว่าในตอนนี้ถูกดวงตาของใครบางคนจับจ้องอยู่อย่างคาดหวัง
คาดหวัง...ว่าเธอจะติดต่อกลับมาในท้ายที่สุด
คาดหวังเหลือเกิน...