ตอนที่1
กูชื่อเอื้อ อันตัวกูนี้ถูกพ่อแม่เอามาขายแลกอัฐที่โรงชำเราบุรุษตั้งแต่ยังไม่แตกเนื้อหนุ่ม ครั้นเติบใหญ่ กูโดดเด่นแลโด่งดังที่สุดในหมู่ช็อกกะรี ราคาค่าตัวสูงลิ่ว ได้อัฐได้เบี้ยเป็นพิเศษจากแขกเหรื่อจนมีเก็บมาไถ่ถอนตนเอง
ที่กระท่อมท้ายนา
เสียงฟ้าร้องครืนกึกก้องสนั่นป่า เม็ดฝนห่าใหญ่ตกถี่กระชั้นสาดซัดโถมถา กระหน่ำมาพร้อมแรงลมกลุ่มใหญ่ เกิดแอ่นน้ำขังผสมดินร่วนซุยกลายเป็นโคลนเฉอะแฉะไปทั่ว ต้นกล้าสูงหักล้มเป็นทางตามระลอกลม ได้ยินเสียงแว่วไกลหักโค่นของกิ่งก้านไม้ในป่า วายุพัดมาแต่ละทีทำเอาเรือนหลังเล็กไหวสั่น จนน่ากลัวว่าหลังคาจะปลิวหายไปเมื่อใดก็ไม่ทราบได้ ลมฝนนำพากลิ่นอายดินกลิ่นไม้แลต้นหญ้าผสมมาพร้อมกับไอฝน
ไอ้เอื้อตัวสั่นดังลูกนกตกน้ำ ร่างเล็กผอมบางดังคนขาดสารอาหารหากแต่ผิวพรรณดังถูกทะนุบำรุงดีสะบักสะบอม เต็มไปด้วยรอยช้ำหนักหนาจนตาข้างหนึ่งปิด เจ็บเจียนลุกไม่ไหว กระนั้นอ้ายสองคนที่ร่างใหญ่กว่ามันมากก็ยังจับไอ้เอื้อให้ลุกขึ้น นั่งคุกเข่าต่อหน้าคุณหลวงศรีบาน ชายวัยกลางคนรูปร่างสันทัดผมสีดอกเลา เจ้าของรอยยิ้มจริงใจหากแต่ไกลจากความดำมืดภายในนัก
"มึงลักอัฐกูหรือ?"คุณหลวงตั้งคำถามพร้อมโยนถุงอัฐห่อผ้าใบใหญ่ในมือขึ้นลงกลางอากาศ
"กระผมมิได้ลักขอรับ อัฐนี้พวกแขกให้แกกระผมมาพิเศษ กระผมเก็บเล็กผสมน้อยนานหลายปีจึงได้ครบจำนวนชั่งค่าไถ่ตัว"
"กูไม่เชื่อคำมึงดอก เช่นไรมึงก็แอบลักเอาจากค่าตัวเป็นแน่"
"ค่าตัวนั้นถูกจ่ายโดยตรงกับทางโรงหอมิใช่หรือขอรับ กระผมจักลักมันมาได้เช่นไร"ไอ้เอื้อแก้ต่างแก้ตัว
คุณหลวงเถียงไม่ออกจึงเปลี่ยนเป็นเรื่องเจรจาใหม่ ทำเป็นลืมไม่รับรู้ความจริงที่ไอ้เอื้อบอก
"มึงจักคืนไปเป็นช็อกกะรีที่โรงชำเราหรือจักตายลงกงนี้"คุณหลวงให้ไอ้เอื้อเลือกเพราะไม่ว่าเช่นไรก็ไม่มีทางปล่อยมันไป
เป็นคำถามที่ชวนเกิดโทสะนัก ร่างเล็กกัดกรามแน่น หากแต่สภาพตาปิดไปข้าง หลังจากถูกซ้อมอยู่นาน ทำให้ไอ้เอื้อจะพูดอะไรต้องคิดหน้าคิดหลังให้จงดี
"คุณหลวงลั่นวาจากับอ้ายเอื้อไว้เมื่อนมนานมา ว่าหากมีอัฐมาถอนไถ่ตัวเองเมื่อใด จักออกไปจากโรงชำเรานี้ได้นี่ขอรับ"ไอ้เอื้อถามด้วยหวังว่าคุณหลวงยังมีความสัตย์
คุณหลวงขมวดคิ้วปึงปังบึงเบือนหน้าไม่พอใจไปทางอื่น ไม่อยากรับฟังแต่ประการใด จักออกอุบายเช่นไรไอ้เอื้อก็เป็นไม่ยอม แก้ไปได้ทุกทาง หมายจักออกจากโรงชำเรานี้ให้ได้
คุณหลวงศรีบานจดจำได้ทุกคำที่เคยเจรจาพาทีกับช็อกกะรีผู้นี้ หากแต่จำนวนที่ไอ้เอื้อดึงดูดอัฐเข้าโรงชำเรานั้นมากโขนัก มากกว่าช็อกกะรีทุกคนในโรงชำเรารวมกันเสียอีก
จักปล่อยมันไปได้เช่นไรกัน มันเป็นสมบัติของกู
"หึ กาลเปลี่ยน ค่าเบี้ยค่าตัวมึงก็เพิ่งสิวะ"
"มากเท่าใดขอรับ" ไอ้เอื้อถามน้ำตาซึม
"จนเนื้อหนังมึงเหี่ยวแห้งใช้การใช้การไม่ได้ก็ยังหาไม่ครบกระมัง"คุณหลวงว่าด้วยรอยยิ้มเสแสร้งน่ารังเกียจ
ไอ้เอื้อส่ายหัว เจ็บแค้นนักจนเก็บกดโทสะไม่ไหว
"มึงหนา อ้ายคนพาล ไม่ว่ากูจะมีอัฐมีทองมาให้เท่าใดมึงก็ไม่ปล่อยกูไปดอก กูไม่น่าเชื่อผู้ไม่มีศักดิ์ศรีเยี่ยงมึงผู้ที่กล้าค้าขายอุบาทว์ กูขอให้มึงฉิบหาย ไอ้หลวงศรีบาน กูขอให้มึง…อึก!!!"
ไม่ต้องรอฟังคำสาปแช่งจนจบ ไม้เท้าหัวเหล็กก็กระแทกเข้าหน้าชายหนุ่มเต็มแรงจนเบ้าตาอีกข้างของไอ้เอื้อแตก มันเจ็บร้าวไปทั้งกะโหลก หากแต่เสียงที่เปล่งออกมาเบาจนแทบไม่ได้ยิน
"ไอ้ฉิบหายเอย เห็นหรือไม่ปากมึงนั้นพาจน กูนี้น่าจะยั้งเสียหน่อย เช่นไรเรือนร่างมึงก็มัดขังไว้ขายพวกจับกังได้แท้ๆ จุ๊ๆๆๆ"
คุณหลวงมองเสียดาย ไอ้คนจองหอง สภาพเยี่ยงนี้คงเอาไปทำเงินไม่ได้อีกดอก ตามันบอดแล้วแน่ๆ ไม่กี่ชั่วยามคงใจขาดดิ้นตาย
"ไอ้มวด ไอ้เทิด พวกมึงเอามันไปจัดการเสียให้เรียบร้อย" หลวงศรีบานสั่งลูกน้องร่างใหญ่ที่มีจิตใจเหี้ยมโหดเกินมนุษย์ไม่ต่างกัน ก่อนจะหันไปจิบน้ำชาอุ่นๆ ดังเหมือนว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น
ไอ้เอื้อถูกลากร่างออกไปยังชายขอบป่าทั้งที่พอมีสติ
ชายหนุ่มเจ็บปวดทรมานเหลือแสน ทั้งหวาดกลัวแลเคียดแค้นระคนกันไป
เวรกรรมอันใดกัน กูจักต้องมาตายน่าสมเพชเช่นนี้ ไอ้เอื้อกตัญญูมอบวิญญาณกายทดแทนคุณพ่อแม่แล้ว เก็บอัฐอดออมตั้งอกตั้งใจหลุดพ้นจากขุมนรกกามสวาท ชีวิตไม่เคยทำผิดบาปอันใดร้ายแรง บุญกุศลก็พอได้ทำอยู่บ้าง ถึงไม่ได้มากมายหากพอช่วยเหลือผู้ใดได้ไอ้เอื้อก็ทำ จักไม่มีความดีติดตัวเลยหรือ ร่างใกล้ตายตัดพ้อขณะถูกลากไป
ชายฉกรรจ์ทั้งสองทิ้งร่างไอ้เอื้อไว้ที่แอ่งน้ำขัง แล้วตั้งต้นขุดหลุดดินให้ลึกพอฝังไม่ให้สัตว์มาคุ้ยเขี่ย โดยหาได้สนใจไม่ว่า เจ้าของร่างจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่
ไอ้เทิดไอ้มวดขุดหลุมได้ไม่นานก็เบื่อหน่ายจะต่อสู้กับอุปสรรค ท่ามกลางลมพายุฝนที่กระหน่ำเทลงมาไม่หยุดหย่อน พวกมันเตะร่างอาบเลือดของไอ้เอื้อหล่นตุบลงไปในก้นหลุม ไอ้เอื้อเจ็บเจียนตายหน้าจุ่มจมคว่ำลงดิน สำลักน้ำขังแอ่งทั้งดินโคลนหายใจไม่ออก ขณะที่รวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี พลิกหน้าขึ้นหายใจหายคอได้ ไม่ช้าไม่นานกองดินจำนวนมากก็ฝังกลบไอ้เอื้อทั้งเป็นจนมันค่อยๆ ตายลงอย่างช้าๆ ด้วยความทรมาน
ไอ้เอื้อสิ้นหวัง สติความเป็นคนสุดท้าย มันได้ยินเสียงฟ้าร้องกึกก้องแผ่นดินไหวสะเทือน