“เจ็บไหมลูก ล้มเมื่อกี้น่ะ” คนเป็นแม่ถามบุตรชายยิ้มๆ “ไม่เจ็บหรอกครับ แต่หลานสาวคุณแม่น่ะร้ายนักนะ” น้ำเสียงที่พูดถึงไร้ซึ่งแววโกรธเคือง แม้จะรู้เต็มอกว่าถูกแกล้งชนก็ตาม “ตัวลูกยังมองออกว่าถูกน้องแกล้ง แล้วที่ทำเป็นแกล้งแพ้คิดว่าน้องจะรู้ไม่เท่าทันหรือจ๊ะ” อาคิระฉีกยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี “คุณแม่รู้ด้วย แหม…นายอุตส่าห์แกล้งแพ้แบบเฉียดฉิวแล้วนะครับ” “ถ้าแม่ยังไม่รู้เท่าทันลูกชายตัวเองแล้วจะเป็นแม่ได้ยังไงล่ะจ๊ะ แล้วน้องเนยน่ะฉลาดจะตาย ทำไมถึงจะไม่รู้ล่ะ” น้ำเสียงของคนพูดยามเอ่ยถึงหญิงสาวเต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดูเป็นอย่างยิ่ง “แบบนี้นายก็ไม่สนุกสิครับ รู้ทันไปหมดแบบนี้” อาคิระพึมพำเบาๆ อย่างไม่จริงจัง ก่อนหันไปทางเจ้ามอมแมมที่นอนหมอบอยู่แทบเท้าแล้วพยักหน้าให้มันเดินตามเพื่อพากลับเข้ากรง “อย่าคิดว่าตัวเองฉลาดคนเดียวสิจ๊ะ ไปอาบน้ำได้แล้วลูก” ผู้เป็นแม่พูดพลางเดินควงแขนลูกชายตัวใหญ่เข้า