บทที่ 6 เอาแต่ใจ
หนึ่งทุ่มภัตตาคารสุดหรูกลางใจเมือง
“ สวัสดีค่ะคุณสุภาพ และทักทายยัยนา ”
“ จ้า เช่นกันนะ ว่าแต่ไม่พาสามีเหรอ? ”
“ คุณธนาไม่ว่างน่ะ เอ่อ...ลืมเลย ลูกจ๋า นี่คือคุณน้าสุภาพกับคุณน้านาจ่ะ ” ป้าแคทหันมาทางฉันพลางแนะนำพวกเขาให้รู้จัก
“ สวัสดีค่ะคุณน้าทั้งสอง ” พนมมือขึ้นไหว้อย่างน้อบนอม พร้อมส่งยิ้มอย่างอ่อนหวาน
“ และนี่คะนิ้งลูกสาวคนโตของฉันจ่ะ ” ป้าแคทบอกกล่าวทันที
“ แต่เดี๋ยวนะ แกบอกว่าหนูแคลไม่ใช่เหรอที่จะแต่งงานกับตาสารัชอะ ” ไม่แน่ใจว่าบ้านนี้จะรู้ไหมว่า ทางครอบครัวป้ามีลูกสาวกี่คน
“ ยัยแคลลูกสาวคนที่สอง นางยังเรียนอยู่ ยังไม่พร้อมจะแต่งงาน ส่วนคนโตพร้อมจะมีครอบครัวแล้ว คงไม่ว่าอะไรใช่ไหมที่ฉันเปลี่ยนคนกระทันหันโดยที่ไม่ได้บอกกล่าว ” ป้าแคทหันไปถามคุณน้านาทันทึ
“ หนูคะนิ้งก็น่ารักดี ผมไม่ติดครับ ถ้าตาสารัชมาเห็นคงพอใจแหละ ” คุณน้าสุภาพพูดขึ้นทันที ผู้ใหญ่ท่านนี้ดูจะใจดีนะ
“ ขอบคุณค่ะ ” ฉันสิ่งยิ้มออกไป
“ ทำไมลูกชายคุณยังไม่มาคะ ”พูดจาแปลกๆ แล้วไม่ใช่ลูกชายของคุณน้านาเหรอ? หรือแบบรักลูกไม่เท่ากัน โบยให้พ่อทีให้แม่ที เหมือนอย่างถ้าลูกคนไหนเกเรจะบอกว่าเหมือนพ่อ ไม่ก็เหมือนแม่ หรือเปล่า?
“ สารัชบอกมาใกล้ถึงแล้ว งั้นสั่งอาหารรอล่ะกัน ” ไม่ทันได้สั่งอาหาร ก็มีเสียงแทรกเข้ามา...
“ ผมมาแล้วครับ ” มาพร้อมรถวีลแชร์หรูที่ไม่ต้องทำอะไร ก็ปรับให้ไปหน้า กลับหลัง เลี้ยวเองได้ ก็คนรวยนี่น่า แต่ทำไมน้ำเสียงของเขาถึงคุ้นหูหนักเหมือนเคยได้ยิน แต่จำไม่ได้ว่าที่ไหน
“ อื้ม~ กลิ่นเหล้าหึ่งมาเชียวตาสารัช ” คุณน้าสุภาพพูดขึ้น
“ ครับ ผมไปกินเหล้ามา ” ยอมรับแบบตรงไปตรงมา ตาแดงๆด้วยนะ อาจจะเพราะพิษสุราแหละ
“ กินเหล้า!! นี่ลูกไม่ฟังเลยเหรอ หมอบอกให้งดเหล้า อีกอย่างเพิ่งสูบบุหรี่มาด้วยเหรอ? หมอก็บอกให้งดนะ วันนี้วันนัดดูตัวกับบ้านคุณแคท ทำไมลูกทำตัวแบบนี้ ” คนเป็นพ่อดูจะผิดหวัง
“ ผมเพิ่งเลิกกับแฟนมาจะไม่ให้เสียใจบ้างเหรอ คนเสียใจต้องไปกินเหล้าสิ ” นี่เขามีแฟนแล้วเหรอ? ทำไมถึงเลิก ไม่ใช่ว่าเพราะต้องแต่งงานใช่ไหม อย่างนั้นถ้าเราทั้งคู่ได้แต่งกัน ฉันคงไม่สบายใจเลย >< เพราะทำให้คนเลิกกัน
“ เฮ้อ ต้องขอโทษแกด้วยนะยัยแคทที่ทำให้เสียมารยาท ” คุณน้านาหันมาพูดกับป้าแคททันที
“ สารัชนี่หนูคะนิ้งคนที่แกต้องแต่งงานด้วย ” เป็นพ่อก็แนะนำให้ลูกชายฟัง
“ สวัสดีค่ะ ” ฉันยิ้มและกล่าวทักทายผู้ชายคนนั้นไปทันที
“ อืม หวัดดี ” หน้าก็ไม่ยิ้มตอบ บอกบุญไม่รับเลยนะ ทำไมไม่รักษาหน้าพ่อแม่บ้าง! เชอะ คิดว่าตัวเองไม่อยากแต่งอยู่คนเดียวหรือไง ขาพิการแล้วยังจะทำตัวไม่ดีอีก นอกจากฉันจะมีใครยอมแต่งอีกล่ะ เชอะ!
“ นี่คุณน้าแคทแม่ของหนูคะนิ้ง ” คนเป็นพ่อแนะนำต่อ
“ สวัสดีครับ ” อ๋อ เลือกปฏิบัติจริงๆ ค่อยยังชั่วที่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่อยู่บ้าง
“ จ้า ไหว้พระเถอะลูก ว่าแต่เป็นไงบ้าง ร่างกายของเราน่ะ ”
“ หมอบอกว่าไม่มีวันหายดีต้องนั่งวีลแชร์ตลอดชีวิต ผมขอพูดตรงๆเลยนะครับ ถ้าคุณน้ากับลูกสาวไม่โอเคสามารถบอกกันตรงนี้ได้เลย ผมไม่อยากฝืนใจครับ ”
“ ฝืนใจอะไรเล่าตาสารัช เนอะยัยแคทเนอะ ” แม่ของฝ่ายชายออกตัวทันที คุณน้าดูแล้วเหมือนท่านอยากให้ลูกชายได้ภรรยาเร็วๆแล้วน่ะ กลัวขายไม่ออกหรือไง
“ น้าไม่ขัดข้องหรอกจ่ะ ” ป้าแคทพูดขึ้น
“ แต่...เอ๊ะ ผมจำได้นะเมื่ออาทิตย์ก่อนพ่อบอกผมว่าชื่อแคลไม่ใช่เหรอ? ที่จะแต่งงานกับผม ” ใส่ใจด้วยหรือนี่ เหอะ!
“ ใช่จ่ะ แต่คนรองของน้ายังไม่พร้อม น้าเลยเปลี่ยนมาเป็นคนโตมาแทน สารัชคงไม่ว่าอะไรหรอกใช่ไหม คะนิ้งเรียนจบแล้วและกำลังทำงานอยู่ ตอนนั้นน้าเห็นลูกสาวคนโตทำงานอย่างมุ่งมั่นตั้งใจเลยไม่อยากรบกวน แต่ลูกสาวคนรองก็ดื้อดึง ถ้าไม่ทำตามสัญญาก็กะไรอยู่ น้าเลยเปลี่ยนให้เป็นคนโตแทน ”
“ ไม่ใช่รีบย้อมแมวขายหรอกใช่ไหมครับ ” จึก...รู้สึกแทงใจดำมากก รู้ดีไปอี๊กก!
“ สารัช! ขอโทษน้าแคทเลย พูดจาเสียมารยาท ” คนเป็นพ่อดุลูกชายทันที
“ เอ่อ....ไม่เป็นไรค่ะ เราห้ามความคิดของใครไม่ได้หรอก ” ฉันพูดขึ้นแทนป้าแคทพร้อมมองหน้าเขาอยากเคืองๆ
“ คุณจะแต่งงานกับผมเหรอ รับได้ไหม ผมขาพิการ เดินไม่ได้ตลอดชีวิตเลยนะ ”
“ คนเราถ้าจะรักกันก็รักด้วยใจ ไม่ใช่สภาพร่างกาย ถ้าถามฉันตอนนี้ รับได้ค่ะ ฉันไม่ได้นึกรังเกียจอะไรคุณเลย พร้อมจะดูแลคุณด้วยค่ะ ” แหม่...คำพูดดูสวยหรูจัง...หึหึกดดันดีนัก เพิ่งคิดสดๆร้อนๆเลยอะ
“ น่ารักมาก ความคิดหนูคะนิ้งดีมาก สารัชว่าไงลูก ” คนเป็นแม่หันถามลูกชาย ว่าแต่สองแม่ลูกนี้เขาไม่ชอบกันเหรอ คนลูกแทบจะไม่สบตาหรือพูดตอบคนเป็นแม่เลย
“ ว่าไงสารัช ” คนเป็นพ่อเห็นลูกชายเงียบเลยถามต่อ
“ ครับ ผมจะแต่ง พรุ่งนี้เลย งานต้องจัดขึ้นพรุ่งนี้เท่านั้น ส่วนเรื่องชุดผมให้สิทธิ์เจ้าสาวเลือก แต่ผมบอกไว้ก่อนแต่งกันให้อยู่ครบจนถึงสามเดือนก่อนแล้วผมจะจดทะเบียนสมรสให้ ”
“ มันเร็วไปนะลูก พ่อจัดงานให้ไม่ทันหรอก ”
“ งั้นจัดเล็กๆก็ได้ค่ะ ” คนเป็นแม่พูดเสริม
“ ผมต้องการงานใหญ่ที่สุด จัดที่โรงแรมผมนะพ่อ ตอนนี้ก็โทรไปบอกผู้จัดการให้จัดรอเลย ส่วนเรื่องอื่นๆก็จัดการกันเอาเองนะครับ แต่ถ้าฝ่ายหญิงคิดว่ากระทันหัน ก็ยกเลิกได้นะครับ แต่หลังจากนั้นจะไม่มีการแต่งงานเกิดขึ้นอีก สัญญาถือว่าโมฆะ ” เอาแต่ใจสุดๆ ว่าแต่...ดูจะไม่ลงรอยกับผู้เป็นแม่จริงๆแหะ
“ สารัช! ” คุณน้าสุภาพพูดปรามทันที
“ ผมต้องขอโทษที่เอาแต่ใจด้วยนะครับ คุณน้าแคทแต่ผมเป็นคนตรงๆต้องการอะไรหรือไม่ ผมก็บอกไปหมดแล้ว แล้วแต่จะคิดไตร่ตรองเอาเองแล้วนะครับ งั้นผมขอลา แล้วเจอกันครับ ”
นี่มันทุ่มครึ่งแล้วนะ จะไปจัดงานอะไรยังไงก่อน จะเตรียมทันเหรอ? เขาคนนั้นพอพูดจบก็จากไปทันที ทิ้งผู้ใหญ่ให้นั่งหน้าตึงเครียดกันทันที
“ ผมไม่อยากบังคับฝ่ายคุณเลย ถ้าไม่โอเคหรือไม่สะดวกก็ยกเลิกได้เลยนะครับ ผมมีค่าเสียเวลาให้ ” คุณน้าสุภาพพูดขึ้นด้วยใบหน้าเจือนๆ
“ ไม่ได้สิคุณ พูดแล้วสัญญาแล้วจะคืนคำได้ไงเนอะ ยัยแคท ” แม่ฝ่ายชายดูท่าจะไม่ยอมมากๆกลัวลูกชายไม่ได้แต่งงานอะ
“ เอาตามที่สารัชว่าเถอะค่ะ งั้นฉันกับลูกขอกลับไปเตรียมตัวก่อนนะคะ แล้วจะให้ทางร้านส่งชุดเจ้าบ่าวมาให้ ส่วนเรื่องสถานที่จัด ยัยนาแกก็ค่อยส่งมาให้ฉันนะ ”
“ ได้ๆ ” แม่ฝ่ายชายดูจะดีใจสุดๆ แต่สายตาดูสะใจมากกว่านะ แปลกๆแล้วอะ
❣️ _________ ❣️
นามปากกาธัญญวรินทร์
? อย่าลืมกดหัวใจ ❤️ กดติดตาม กดเข้าชั้นให้ด้วยน่าาา ที่รักก