คนไม่มีศิล

1533 Words
หลายวันผ่านไปพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า พร้อมกับเสียงคลื่นที่กระทบฝั่งเสียงดังสู้ๆ เหมือนกับว่าทะเลกำลังปลอบและให้กำลังใจหญิงสาวร่างเพรียว ที่นั่งอยู่บนโขดหินอย่างโดดเดี่ยวเดียวดายในเวลานี้ อย่างน้อยสองสามวันมานี่ เขาก็ไม่แตะต้องเธอ แต่เขาก็ยังคงดื่มเหล้าสูบบุหรี่ในห้อง ซึ่งมันเป็นสิ่งที่หมอพุฒตาลไม่ชอบ เมื่อเธอยิ่งพูดเขาก็ยิ่งทำเธอ จึงเลี่ยงที่จะมาอยู่ข้างนอกมากกว่าอยู่กับเขา ส่วนหน้าที่ภรรยาการหาข้าวหาน้ำเตรียมเสื้อผ้า แม้แต่บีบยาสีฟันเธอก็ทำทุกอย่างให้กับเขาอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แม้ว่าเขาจะไม่ไยดีกับเธอเลยก็ตาม แต่เธอก็ถือว่ามันคือหน้าที่ที่ภรรยาพึงกระทำ พรุ่งนี้ก็จะกลับบ้านแล้วและก็ถึงกำหนด ที่เธอจะกลับไปทำงานที่โรงพยาบาลเหมือนอย่างเคย แน่นอนเธอต้องกลับบ้านไม่เป็นเวลา นั่นคือสิ่งที่เธอเป็นกังวลอย่างมาก หมอพุฒตาลก็ได้แต่หวังว่าเขาจะเข้าใจในงานของเธอ หรือบางทีเขาอาจจะดีใจที่เธอกลับบ้านไม่ตรงเวลาก็เป็นได้ เพราะงานของเธอไม่สามารถหลีกเลี่ยงผู้ป่วยได้ หากมีเหตุฉุกเฉินเธอก็ต้องรีบไป โดยที่ไม่ลังเลเลยสักนิดในการช่วยเหลือชีวิตคน หมอพุฒตาลค่อยๆ เดินออกมาจากโขดหัวหิน เพราะเวลานี้พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าแล้ว น้ำทะเลก็เริ่มหนุนขึ้นมาเรื่อยๆ จนจะมิดหาดสวย หมอสาวร่างเล็กเดินไปตามทางที่เหล่าบรรดาแม่ค้าตั้งแผงลอยเอาไว้ เพื่อเลือกซื้อของไปฝากเพื่อนๆ ที่ทำงานในวันพรุ่งนี้ ปัง! ปัง! ปัง! เสียงปืนดังขึ้นทุกคนแตกตื่นวิ่งกันอลหม่าน ท่ามกลางความวุ่นวาย เสียงกรีดร้องได้ดังขึ้นพร้อมกับเสียงร้องไห้อย่างโหยหวยราวกับปิ่มจะขาดใจ "ช่วยด้วย! ฮึก ฮื้อ!” เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นที่ดังแว่วมา ปนกับเสียงวุ่นวายที่ดังขึ้น บวกกับเสียงวัยรุ่นไล่ยิงแทงกันอย่างกับในหนัง "พวกมึงกล้ามาเหยียบถึงถิ่นพวกกูเหรอ!..” ปัง! ปัง! ปัง! "แน่จริงพวกมึงก็อย่าหมาหมู่สิวะ! อย่าใช้อาวุธ!” "เฮ้ยพวกมึงตามมันไปเร็ว!!” เสียงวัยรุ่นโต้ตอบกันไปมา พร้อมกับเสียงปืนดังลั่น ก่อนจะวิ่งกันไปอีกฟากของถนน ไล่กันไปตามริมฝั่งชายหาดที่น้ำขึ้นมาเกือบมิดแล้วอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายอาญาบ้านเมือง พวกเขาคึกคะนองจนไม่รู้ว่ามีอีกหนึ่งชีวิต ที่มารับกรรมนอนหายใจรวยรินอยู่ในอ้อมอกผู้เป็นมารดา ที่ร้องไห้อยู่ปิ่มจะขาดใจ "ใครก็ได้ช่วยทีเด็กถูกยิง!" "เรียกรถพยาบาลให้หน่อย!" "เรียกแล้วครับแต่รถพยาบาลยังมาไม่ถึง!" ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์กำลังโต้ตอบกันไปมาไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี เลือดที่ไหลออกมาเต็มร่างเด็กหญิงผู้น่าสงสารนั้น ทำให้หมอพุฒตาลทิ้งของที่ถือมา วิ่งเข้าไปยังร่างเด็กหญิงทันที "ฉันเป็นคุณหมอค่ะ คุณแม่ช่วยวางน้องราบกับพื้นก่อนนะคะ" หมอพุฒตาลรีบเข้าไปอย่างไม่ลังเล เพื่อตรวจดูชีพจรที่อ่อนลงมาก เด็กหญิงอายุราวสิบสามปีกำลังจะโตเป็นสาว เลือดที่หน้าท้องก็ไหลไม่หยุด หมอสาวฉีกเสื้อของตัวเองออกอย่างแรง เพราะมั่นใจว่ามันสะอาดที่สุดในเวลานี้ เมื่อเธอเพิ่งซักและใส่มันออกมากดไปที่แผลของเด็กหญิงเอาไว้ "ช่วยกดแผลให้ทีค่ะ" หญิงคนหนึ่งพอมีทักษะอยู่บ้าง เธอเป็นอาสาสมัครประจำหมู่บ้าน เธอจึงลงมือทำตามที่หมอสาวสั่ง เมื่อหมอพุฒตาลจับชีพจรอีกทีกลับพบว่าหยุดเต้นไปแล้ว "ใครมีนาฬิกาช่วยจับเวลาให้ด้วยค่ะ" มีคนเดินมาข้างๆ ก่อนจะไปนั่งลงอีกฟากฝั่งตรงข้ามกับหมอพร้อมกับนาฬิกาข้อมือ แพทย์หญิงพุฒตาลได้ทำการกดลงไป บริเวณหน้าอกเหนือลิ้นปี่ของผู้ป่วย ให้หน้าอกยุบลงไปประมาณ 4-5 cm หรือประมาณ 1 ใน 3 ของความหนาหน้าอกผู้ป่วยแล้วปล่อยให้หน้าอกคืนสภาพ เธอทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆในอัตรา 100 ถึง 120 ครั้งต่อนาที ในระหว่างที่รอรถพยาบาลเธอได้แต่หวังว่าเด็กน้อยจะปลอดภัย กลับคืนสู่อ้อมอกของผู้เป็นมารดาที่ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหล หากเธอเป็นแม่หัวใจของเธอคงแตกสลาย ถ้าเกิดว่าต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้เหมือนผู้หญิงตรงหน้าที่กำลังเผชิญอยู่ หมอสาวทำ CPR ปั๊มหัวใจน้องอยู่ประมาณ 4-5 นาทีรถพยาบาลก็แล่นเข้ามา พร้อมกับชีพจรของน้องที่เต้นขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้หมอสาวยิ้มออกมาอย่างมีความหวัง เลือดที่เปื้อนเสื้อของเธอ ในเวลานี้บ่งบอกให้รู้ว่าเธอทุ่มเทกับทุกชีวิต ไม่ว่าเด็กผู้ใหญ่คนรวยคนจนเธอไม่เคยปฏิเสธในการช่วยเหลือที่จะรักษาผู้คนเลยสักครั้ง เมื่อน้องถูกหามขึ้นรถพยาบาลวิ่งออกไปจนลับตา หมอสาวค่อยๆ เดินช้าๆ กลับไปยังบ้านพักที่เวลานี้มันมืดแต่ก็พอมองเห็นทางเดิน เมื่อเธอเปิดประตูเข้ามาในบ้านก็ต้องตกใจและแปลกใจ กับเสียงที่ได้ยินในห้องนอน ซึ่งมันเป็นเสียงของชายหญิงที่กำลังทำกิจกรรมบนเตียง แน่นอนเสียงนั่นเป็นเสียงของเตชินสามีของเธอ กับผู้หญิงอีกคนที่เธอไม่รู้ว่าเป็นใคร หมอสาวนั่งลงอย่างเหนื่อยหน่ายและเอือมระอา นี่เขาพาผู้หญิงเข้ามากินถึงในบ้าน ขณะที่อยู่ในช่วงฮันนีมูน มันช่างเป็นอะไรที่น่าจดจำและประทับใจเสียเหลือเกิน หมอสาวสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างลึกๆ เธอควรจะเดินเข้าไปเพื่อดูให้แน่ใจกับเสียงที่ได้ยิน หรือจะอยู่นิ่งๆ ปล่อยให้มันเลยผ่านไป ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อยู่แบบเป็นหัวหลักหัวตอ เพื่อให้เตชินทำร้ายหัวใจแบบนี้เรื่อยไป แน่นอนเขาคงไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่ทำ เพราะถ้าเขาเกรงใจเธอสักนิด เตชินคงไม่พาผู้หญิงคนนั้น เข้ามานอนบนเตียงที่เขาและเธอเคยนอนร่วมกัน แม้ว่าเขาจะไม่รู้สึกพิเศษอะไรกับเธอเลยก็ตาม แต่มันก็ผิดอย่างมากที่สามีอย่างเขาไม่ควรพึงกระทำ “อืม~อ้า~ซรี้ดด!..” มันคือเสียงครางของเตชิน “อ๊ะ~อ๊า!..เจ๋งมากมินนี่! อย่างนั้นแหละเร็วอีกนิด!” “อืม~โอ้วว!..เสียวมากมินนี่อ้า” เสียงของเตชินดังขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่มินนี่ได้ทำออรัลเซ็กส์ ให้กับเขาเธอทำราวกับว่ามันคือไอศกรีมแท่งโต อมแล้วดูดอยู่แบบนั้นจนแก้มตอบ ไฟที่สว่างจ้าไปทั่วห้องบ่งบอกให้หมอสาวรู้ว่าเขาตั้งใจ ที่จะให้เธอมาเจอกับภาพเหล่านี้ ผู้ชายคนนี้จิตใจเขาทำด้วยอะไร ช่างเลวทรามต่ำช้าไม่มีที่ติเอาเสียเลย เมื่อเขาตั้งใจที่จะให้เธอได้เห็น หมอสาวตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป ในเมื่อเขาต้องการแบบนี้เธอก็จะทำแบบนี้ เธอจะยอมเขาก็ต่อเมื่อมันสมเหตุสมผลเท่านั้น ในขณะนี้เวลานี้ไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะต้องยอมเขา ปึง!! เสียงเปิดประตูดังขึ้น แต่กลับไม่เป็นผล คนทั้งสองยังคงร่วมรักกันอย่างเมามัน เสียงครางของเตชินยังคงดังระงมไปทั่วห้อง “อืม~อ้า!” ผู้หญิงคนนั้นยังคงตั้งหน้าตั้งตาทำอย่างเร้าอารมณ์ หน้าอกยังกับลูกแตงโมที่เปลือยเปล่าปากแดงกำลังก้มลงดูดท่อนเอ็นนั่นอย่างต่อเนื่อง เธอทำราวกับว่าหมอพุฒตาลไม่มีตัวตนในห้องนี้ ส่วนเตชินก็เอาแต่หลับตาแล้วครางออกมาเป็นระยะๆ หมอสาวแน่ใจว่าเขารับรู้ เมื่อเธอเปิดประตูเข้ามาเสียงดังขนาดนั้นเพียงแค่ทำเป็นไม่สนใจ คงอยากให้เธอนั้นเจ็บช้ำไปถึงทรวง “อืม~อ้า~ซี้ดด!” เตชินยังคงครางออกมาอย่างต่อเนื่อง "ถ้าเสร็จกิจแล้วก็ไปพบแพทย์ด้วยนะ เพราะนอกจากพวกคุณจะทำผิดศีลธรรมแล้ว สิ่งที่พวกคุณกำลังทำมันกำลังส่อถึงอาการป่วยทางจิตอย่างหนึ่งด้วย!” หมอพุฒตาลพูดออกมาอย่างเหลืออด "กรี๊ด! นังบ้า!" มินนี่ร้องออกมาเสียงหลงเธอไม่ได้ตกใจที่ หมอสาวมาเจอ แต่มินนี่กำลังโกรธในสิ่งที่หมอพุฒตาลพูดต่างหาก คำพูดของหมอสาว ทำให้อารมณ์ของเตชินค้างอยู่กลางอากาศ เมื่อเขาสังเกตเห็นเสื้อผ้าของเธอที่เปื้อนเปรอะเต็มไปด้วยเลือดนั้น มันทำให้เขารู้สึกใจเต้นแรงเขาเริ่มแปลกใจ และสงสัยเขาควรสะใจไม่ใช่เป็นห่วงเธอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD