"ฉันตัดสินใจแล้วล่ะ ว่าจะเก็บเด็กไว้ ฉันจะดรอปเรียนเอาไว้ก่อน ค่อยกลับไปเรียนใหม่เมื่อพร้อม"
พายน์เอ่ยขึ้นอย่างตัดสินใจหลังจากที่นัดเกรทมาเจอกันอีกครั้ง
"แล้วเรื่องที่เธอมีความฝันจะไปเป็นเด็กฝึกที่เกาหลีล่ะ?"
สุ้มเสียงเหมือนเดิมเป๊ะ! ไม่ปรากฏอารมณ์ตื่นเต้น ดีใจ โกรธ หรืออารมณ์ใดๆออกมานอกจากความนิ่ง เกรทนิ่งซะจนเดาไม่ออกว่าเขาคิดอะไรอยู่
"นายรู้ได้ยังไง?"
"ก็เหมือนกับที่เธอรู้เรื่องฉันยังไงล่ะ"
ไม่ตอบแต่ย้อน จะว่ากวนตีนก็ไม่น่าจะใช่ บุคลิกของเกรทเป็นแบบนี้อยู่แล้ว
"ฉันกำลังเตรียมตัวย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ ฉันจะบอกพ่อกับแม่ว่าไปเรียน เรื่องของเราหวังว่านายจะเก็บไว้เป็นความลับ จนกว่าฉันจะเรียนจบ"
"ได้ ฉันก็กำลังเตรียมตัวไปกรุงเทพฯอยู่เหมือนกัน เอาไว้ฉันจะรับผิดชอบเรื่องที่พักให้ก็แล้วกันนะ หลังจากนี้ค่าใช้จ่ายเรื่อง...เอ่อ เด็กน่ะ ฉันจะรับผิดชอบทั้งหมด"
"น..นายมีตังเหรอ?"
ถึงแม้จะเรียนโรงเรียนเอกชนค่าเทอมและค่าใช้จ่ายเกือบแสน แต่เงินส่วนมากก็ขอมาจากพ่อแม่ทั้งนั้น
พายน์ไม่คิดว่าเด็กมอปลายแบบพวกเธอจะมีเงินเก็บอะไรมากมาย พายน์มีในบัญชีอยู่เพียงแค่ไม่กี่บาท เงินเก็บจากการที่เธอรับจ้างออกแบบงานกราฟิกตามออนไลน์
พายน์มีฝีมือด้านการออกแบบเลยลองฝึกมาเรื่อยๆ ได้เงินจากการโพสต์ขายตามกลุ่มงานแค่ครั้งละไม่กี่ร้อย เยอะสุดก็หลักพันบวกกับเงินรายเดือนที่พ่อกับแม่ไปทำงานที่เกาหลีส่งมาให้ก็พออยู่ได้
ตอนนี้พายน์อาศัยอยู่กับน้าสาวซึ่งเป็นครูในโรงเรียนประจำแห่งหนึ่งของรัฐบาล ไม่ต้องถามว่าระเบียบจัดแค่ไหน
พายน์หวังจะเป็นอิสระจากน้าสาวหลังจากเรียนจบไฮสคูล แต่ที่ไหนได้...หลุดจากน้าสาวก็จริง ก็ต้องมาติดบ่วงรับบทเป็นแม่ลูกอ่อนซะอย่างนั้น
"เธออย่าห่วงเรื่องนั้นเลย เอาเป็นว่าฉันไม่เอาเปรียบเธอหรอกนะเพื่อความยุติธรรม ฉันจะหยุดเรียนเพื่อออกมาหางานทำด้วย"
"ไม่นะเกรทนายเรียนหมอ ต้องใช้เวลาถึงหกปีในการเรียน ขอร้องเถอะ อย่าให้ฉันต้องรู้สึกผิดเพราะทำอนาคตนายพัง ฉันหยุดเรียนอย่างมากก็แค่ปีเดียว เผลอๆกลับมาเรียนยังจบก่อนนายซะอีก ฉันไม่ได้เดือดร้อนเรื่องนี้ ถ้านายรอปีหน้าโอกาสที่มันจะสอบติดก็ยากไปอีก ถือซะว่าเห็นแก่ฉันเถอะนะ"
พายน์โพล่งออกมายาวเหยียดทีเดียวจบ ก่อนจะก้มลงมองมือของตัวเองที่ประสานอยู่บนตักด้วยความเครียดเชิงขอร้องเกรท
เกรทจ้องพายน์นิ่ง จนพายน์ต้องเบือนหน้าหนีไปทางอื่นหลบสายตาคู่นั้น
พายน์ก็แค่..แค่ไม่อยากเอาเปรียบเกรทมากเกินไป การเป็นหมอมันยากและหนักอยู่พอสมควร เกรทไม่ควรหยุดเรียน
"ได้! งั้นอีกประมานสองสามวัน ฉันจะมารับเธอที่นี่เพื่อไปกรุงเทพด้วยกัน ฉันจะขับรถไปเอง เธอไปจัดการเรื่องที่บ้านให้เรียบร้อยเถอะ"
"อืม"
และทั้งหมดนี้ก็คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้พายน์ต้องมาอาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯจนถึงตอนนี้
ผ่านไปหนึ่งปีที่ความสัมพันธ์ของพายน์กับเกรทแทบจะไม่มีอะไรพิเศษ เกรทก็ทำหน้าที่นักศึกษาแพทย์ได้ดี รวมไปถึงหน้าที่พ่อของลูกได้เยี่ยม
บางครั้งก็ยังเผื่อแผ่มาถึงพายน์จนทำให้เธอแอบเผลอใจคิด ลึกๆแล้วแอบคิดหวังว่าจะอยู่กันเป็นครอบครัวจริงๆ
แต่...เกรทยังคงเว้นระยะห่างความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาไว้เสมอ ทุกครั้งที่มา เกรทจะแสดงความรักกับลูกสาวเท่านั้น
"เอาไว้ฉันเรียนจบ จะซื้อบ้านหลังเล็กๆให้นาเดียสักหลัง เธอกับลูกจะได้ไม่ต้องอุดอู้อยู่ในอพาร์ทเมนท์แคบๆแบบนี้"
อพาร์ทเมนท์แคบๆที่เกรทบอก แทบจะเทียบคอนโดหรูได้เลย เขาเช่ามันเดือนละหลักหมื่นจนพายน์เองก็รู้สึกเกรงใจอยู่ไม่น้อย
ทุกวันนี้เงินทุกบาทต้องพึ่งเกรททุกๆเดือน พายน์อยากจะแข็งแรงเร็วๆ จะได้พาลูกไปฝากเนอร์สเซอรี่ เธออยากออกไปหางานทำเพื่อหาเงินใช้เองบ้าง
"ใกล้ได้เวลาที่ฉันจะกลับไปเรียนแล้ว เรื่องเนอร์สเซอรี่ให้ฉันหาเองหรือว่านายจะจัดการให้"
พายน์เอ่ยถามเรื่องนี้ขึ้นมา เกรงว่าเธอหาเองเขาจะไม่พอใจอย่างตอนที่เธอเลือกโรงพยาบาลที่จะฝากท้อง ตอนนั้นเธอเลือกจะฝากและคลอดในโรงพยาบาลที่ราคาไม่แพงเพื่อจะได้เซฟค่าใช้จ่าย
แต่เมื่อเกรทรู้ เขาถึงกับมาย้ายเธอกะทันหัน วุ่นวายจนพายน์ไม่อยากจะตัดสินใจอะไรเองเกี่ยวกับลูกสักเรื่องแล้ว
เกรทไม่ผิด พายน์เข้าใจว่าเขาคงอยากจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูก ซึ่ง นั่นก็พลอยทำให้เธอสบายไปด้วย
"อืม จัดการไว้เรียบร้อยแล้วล่ะ อีกอย่างเธอเรียนอยู่มหาลัยเดียวกับฉันไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงสอบเข้าคณะเภสัชล่ะ?"
"ดูเหมือนนายจะรู้ทุกเรื่องของฉันเลยนะเกรท"
"เธอเป็นแม่ของลูกฉัน"
คำตอบสั้นๆ แต่ทำให้คนฟังรู้สึกใจสั่นระรัว
"ฉันอยากจะรู้เรื่องยา อยากดูแลนาเดียได้ตอนที่ลูกไม่สบาย อีกอย่างลูกมีพ่อเป็นหมอ มีแม่เป็นเภสัชจะได้มีสุขภาพที่ดีแค่นั้นเอง"
พายน์ตอบอย่างเขินๆ ความจริงเธอเรียนเภสัชก็เพราะอยากอยู่ใกล้ๆหมออย่างเขานั่นแหละ จะให้ลงคณะแพทย์หรือพยาบาลได้เธอก็คงทำไปแล้ว แต่...พายน์กลัวเลือด คงไม่เหมาะกับงานอะไรแบบนั้น
สอบติดคณะเภสัชได้มันก็ฟลุ๊คโชคดีอย่างคาดไม่ถึง แม้ว่าจะเลือกๆดูๆไว้หลายคณะ แต่ท้ายที่สุด พายน์ก็ตัดสินใจเรียนเภสัจแทนเรียนการแสดงอย่างที่เธอฝันไว้มาตลอด แม่ลูกหนึ่งอย่างเธอโอกาสจะเป็นดารามันดูจะไกลเกินเอื้อมไปเสียแล้ว
"ถ้าเหตุผลนั้นก็แล้วไป ทำหน้าที่ของเธอให้ดี เรื่องค่าเทอมฉันจะจัดการให้ก็แล้วกัน ไม่ต้องคิดหางานพาร์ทไทม์อะไรทำทั้งนั้น ฉันไม่อยากให้คนอื่นมาดูแลลูกของฉันนอกจากแม่ของลูกเท่านั้น"
"อืม ได้" พายน์พยักหน้าเห็นด้วย ไม่รู้ทำไมเหมือนกันเธอเชื่อฟังเกรทไปหมดทุกเรื่อง
"เอ่อ เกรทแต่ว่าเรื่องค่าเทอม ไม่ต้องหรอกนะ"
"ไม่ได้! มันคือหน้าที่ของฉัน"
"แต่นี่มันเรื่องเรียน ไม่เกี่ยวกับลูก"
"ทำตามที่ฉันบอกเถอะ"
"อืม..อย่างนั้นก็ได้"
"เอ่อ..ลูกหลับแล้วใช่มั้ย ฉันกลับคอนโดก่อนนะ มีอะไรด่วนก็โทรหาฉัน หรือไม่ก็ลุงดลก็แล้วกัน ในกรณีที่ติดต่อฉันไม่ได้"
กล่าวจบร่างสูงร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตรก็เดินเข้าไปดูลูกสาวในห้อง ก่อนจะจุมพิตที่แก้มยุ้ยเบาๆแล้วก็เดินออกไปอย่างเงียบๆไม่ได้หันมาสนทนาอะไรกับพายน์อีก
"ทำไมถึงได้ดูเย็นชาอะไรปานนั้น?"
พ่นลมหายใจแรงๆออกมาหนึ่งครั้งก่อนจะเดินเข้าห้องไปนอนบ้าง ในหัวก็คิดถึงแต่คนที่เพิ่งจากไปไม่หยุด หลังๆนี้ทำไมหนอ เกรท ถึงได้ดูมีอิทธิพลกับหัวใจเธอเหลือเกิน ยัยพายน์เอ๋ย เธอกำลังตกหลุมรักเขาใช่มั้ย?