ตอนที่ 3
เสิร์ฟน้ำชา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะห้องจากด้านนอกเรียกสติคนที่กำลังง่วนกับการทำงานจนถึงเวลาสามทุ่มให้เงยหน้าขึ้นจากคอมพิวเตอร์ตัวแพง
"ครับ"
คนในห้องทำงานสุดหรูที่ประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งอย่างดี ขานรับเสียงเคาะประตูนั่นอย่างสุภาพและแอบแปลกใจว่าใครกันที่มาหาเขาในเวลานี้
"คุณภาคีย์คะ เพียงเอาน้ำชามาให้ค่ะ"
เสียงหวานพูดอยู่นอกห้องแต่ไม่กล้าถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาแต่อย่างใด
"เข้ามาเลยครับ"
คนด้านในเอนกายพิงหลังเก้าอี้เพื่อยืดเส้นยืดสายไปในตัวบอกกับอีกคนให้เข้ามาได้ เธอมาได้จังหวะพอดีและเขาก็รู้สึกดีที่ได้พัก
เพียงดาวพาตัวเองเข้ามาในห้องทำงานที่มันหรูหรามาก ภายในห้องมีชั้นวางหนังสือมากมายภายในชั้นก็มีแต่หนังสือตำราเต็มไปหมด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของเขามองแล้วช่างสบายตา คนตัวเล็กยิ้มน้อยๆ เนื่องจากพึ่งได้เข้ามาในห้องนี้เป็นครั้งแรก เธอเดินตรงดิ่งไปหาชายวัย 44 ปีทันที
"ดึกป่านนี้แล้วยังทำงานอีกเหรอคะ"
"ครับ เหลือเคลียร์งานอีกนิดหน่อย"
เพียงดาวแสร้งพูดในขณะที่เธอมีแผนการร้ายในหัว อีกฝ่ายไม่ได้คิดอะไรเอนตัวพิงเก้าอี้อย่างสบายใจพลางบิดขี้เกียจ ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ในเสื้อเชิ้ดที่พับแขนขึ้นมาดูสุภาพตั้งแต่หัวจรดเท้า แม้จะวัย 44 ปีแล้วแต่เขาก็ยังดูดีมาก ผมดำขลับกับดวงตาที่ดูเอาจริงเอาจังใบหน้าคมเข้มที่จ้องเข้าไปแล้วเหมือนถูกสะกด หญิงสาวแอบใจเต้นนิดหน่อย แต่มันก็แค่นิดหน่อย เพราะเธอมีภารกิจใหญ่ที่จะต้องทำ
แผนการของเธอคืออ้อนให้ตาลุงนี่ซื้อของแพงๆ ให้ แถมต้องอ่อยให้เขาลวนลามเธอจะได้ไปฟ้องยายว่าตาลุงนี่เป็นตาลุงลามกโรคจิตนิสัยแย่ จ้องจะเอาเธออย่างเดียว
'ช่างฉลาดล้ำลึกมาไอ้เพียง'
มือเรียวของหญิงสาวถือกาน้ำชาแล้วรินมันลงถ้วยอย่างอ้อยอิ่ง ภาคีย์มองภาพนั้นด้วยหัวใจที่ตื่นเต้น นานมากแล้วที่บ้านหลังนี้ไม่มีผู้หญิงมาเดินไปไหนมาไหน หัวใจที่ด้านชาของเขากลับเริ่มเต้นขึ้นมาเมื่อใบหน้านวลงามกำลังคลี่ยิ้มแล้ววางถ้วยน้ำชาต่อหน้าเขา
ร่างเล็กพาตัวเองเดินอ้อมจากโต๊ะทำงานมานั่งที่พนักวางแขนตรงเก้าอี้ตัวแพงของเขาก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงใสซื่อปนออดอ้อน
"อีกไม่ถึงสามเดือนเพียงก็จะเรียนจบแล้ว เพียงอยากจะขออะไรคุณภาคีย์หน่อยได้มั้ยคะ"
น้ำเสียงออดอ้อนพร้อมสายตาที่ช้อนมองขึ้นหาเขาอย่างยั่วยวน มือเรียวก็จับไปที่มือใหญ่ของอีกฝ่ายแล้วลูบไปมาเพื่อออดอ้อน
"อยากได้อะไรครับ เด็กดี"
คนตัวใหญ่เชยคางเธอมามองตา เมื่อตาประสานตา กลับเป็นฝ่ายเพียงดาวที่หัวใจสั่นไหวรุนแรงขึ้นมาเสียดื้อๆ
'บ้าจริงเราไม่ได้ตั้งใจมาทำแบบนี้สักหน่อย'
ถึงแม้จะคิดแบบนั้นแต่ก็หยุดหัวใจที่เต้นตึกตักของตัวเองได้สักที่ไหน แถมกลิ่นกายของหนุ่มใหญ่และลมหายใจร้อนผ่าวของเขานั่นยิ่งทำให้เธอเก็บอาการไม่อยู่
"คะ คือว่า กระเป๋าค่ะ!!! กระเป๋าแบรนด์เนมออกใหม่ ราคาเก้าหมื่นกว่าบาท"
เธอรีบพูดขึ้นอย่างตะกุกตะกัก ท่าทีของเธอมันเก้ๆ กังๆ จนทำเอาอีกฝ่ายต้องหัวเราะร่วนให้กับความไร้เดียงสาที่พยายามอ่อยเขานั่น
"ฮ่าๆ นึกว่าอะไร นี่คราวหลังอยากได้อะไรก็บอกเลย ไม่ต้องมาอ่อยผมหรอก ผมสัญญากับยายคุณแล้วว่าจะไม่ฝืนใจคุณ นี่ครับบัตรเครดิตอยากได้อะไรก็เอาไปซื้อนะเด็กดี"
เขาพูดอย่างชอบใจในความพยายามของอีกฝ่ายและไม่คิดว่าเธอจะเข้ามาแบบมีแผนการนั่นทำเอาเพียงดาวแอบรู้สึกผิด ผู้ชายคนนี้ใจดีเกินไป ไม่ไหวหัวใจดวงน้อยๆ ของเธอกำลังเต้นไม่เป็นส่ำกับความใจดีนั่นและสายตาที่เขามองเธอมันช่างอบอุ่น
"อึก...ไม่ใช่สักหน่อย ถึงแม้ตอนแรกจะตั้งใจทำแบบนั้นจริงๆ ก็เถอะ"
หญิงสาวก้มหน้ามองต่ำอย่างรู้สึกผิดที่มองเขาในแง่ไม่ดีตั้งแต่ต้น แผนการอ่อยภาคีย์และให้เขาเกลียดเธอจึงล่มไม่เป็นท่าแถมตอนนี้เธอก็ดันใจเต้นตึกตักไปกับความใจดีเกินเบอร์นั่นไปอีก ไม่อยากจะเชื่อ
'แต่ยังไงก็ต้องอ่อย!!'
มือเรียวที่ลูบไล้อยู่ตรงฝ่ามือใหญ่เปลี่ยนขึ้นมาลูบที่แผงอกอีกคนแทน ส่วนแขนที่ว่างก็เลื้อยไปกอดคอเขาอย่างจงใจ คนตัวใหญ่แอบตกใจนิดหน่อยแต่ไม่ได้ผลักไส เมื่อเขาเคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ อีกคนก็เผยอปากรอรับรสจูบอย่างใจเต้น
'ต้องอ่อยจนกว่าเขาจะยอมลวนลามเธอสิ'
"อื้ม~" เสียงครางพอใจดังมาจากปากฝ่ายพ่อม่าย มือใหญ่เลื้อยไปโอบที่เอวอีกคนขึ้นมานั่งคร่อมตักบนเก้าอี้ทำงานสุดหรูขณะที่ปากยังตวัดลิ้มชิมรสหวานไม่ผละออกจากกัน ด้านคนตัวเล็กก็ใช้ขาเรียวคร่อมเขาบนเก้าอี้ทำงานอย่างเต็มรูปแบบ
ริมฝีปากใหญ่ดูดกลืนเรียวลิ้นเล็กตวัดเข้าชิมอยู่นานหลายนาที เสียงเฉอะแฉะจากการแลกน้ำลายดังไปทั่วห้องทำงานหรู เรียวลิ้นของคนตัวเล็กพยายามชอนไชเข้าไปสำรวจและปลุกเร้าอีกฝ่ายไม่หยุดหย่อน ตอนนี้มันปลุกเร้าไปยังกึ่งกลางความเป็นชายของอาจารย์หนุ่มใหญ่ให้แข็งขืนขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
"เด็กดี ถ้ามากกว่านี้จะหยุดไม่ได้แล้วนะครับ"
อีกฝ่ายผละจากจูบแล้วพยายามบอกว่าถ้าขืนเธอยั่วมากกว่านี้เขาอาจหยุดตัวเองไม่ได้ เป้ากางเกงของเขาตอนนี้แข็งจนแทบปริและใช่มันพร้อมออกมารบน่าดู เขาเตือนเธอเพราะถ้ามากกว่านี้มันหยุดไม่อยู่แน่ๆ แต่คนตัวเล็กนั่นสิ แทนที่จะทำตามแผนที่ตัวเองวางไว้แต่ทำไมกลับเป็นฝ่ายที่ต้องการเขาเสียเองล่ะ
บ้าจริง เพียงดาวอยากเต็มที่จนน้ำเยิ้มออกมาเปื้อนแพนตี้ตัวจิ๋ว ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจมาทำแบบนี้แต่กลับห้ามความรู้สึกตัวเองไม่อยู่เลย
"อึก เพียงอยากทำกับคุณค่ะ"
หญิงสาวกลั้นหายใจพูดในสิ่งที่หน้าด้านที่สุดในชีวิตเพราะทนต่อความรู้สึกตัวเองไม่ไหว หนุ่มใหญ่ที่ทั้งใจดีและจูบเก่งเล่นเล้าโลมเธอจนเด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่งทนไม่ไหวอยากจะปลดปล่อยตัวเองเต็มที่
"แน่ใจหรือคะ เพียงเคยทำแบบนี้มาก่อนมั้ย"
"มะ...ไม่เคยค่ะ แต่ว่าอยากทำ"
อึก...
คราวนี้เป็นฝ่ายหนุ่มใหญ่ที่ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอแทน หญิงสาวที่อยู่ต่อหน้าช่างยั่วยวนและเธอก็เต็มใจ
สองมือใหญ่อุ้มอีกคนขึ้นไปนั่งบนโต๊ะทำงานแล้วดึงกางเกงในตัวจิ๋วของเธอออกทันที
สายตาคมกริบปะทะกับเนินดอกไม้สีชมพูระเรื่อที่มองด้วยตาเปล่าก็เห็นว่ามันหุบสนิท ตอนนี้มันแทบจะลอยชนหน้าเขาอยู่แล้ว หญิงสาวเขินหนักที่ถูกจ้องมองเธอพยายามหนีบขา แต่อีกฝ่ายไม่ยอมจับขาเธอแหวกอยู่แบบนั้นแล้วจ้องอย่างพินิจ
"คะ คุณภาคีย์จ้องแบบนั้น เพียงเขินค่ะ"
"หึ เธอสวยมากเพียงดาว ไม่เคยผ่านมือใครมาเลยงั้นเหรอ"
"อึก...ค่ะ"
"เป็นเด็กดีจังนะ เด็กดีต้องได้รางวัลสิ"
พูดแล้วก็มุดหน้าเข้าไปหาเนินสวาททันที