เมื่อศาลมีคำตัดสินให้แก้วกานดามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตราที่กำหนดเอาไว้ ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท
ถึงแม้ว่าแก้วกานดาจะแสดงเจตจำนงตั้งแต่แรก เพื่อให้เห็นถึงความสำนึกผิด ซึ่งพยาบาลสาวไม่ขอสู้คดี แต่ทว่าความผิดที่มีกลับกลายเป็นทวีคูณ เมื่อนายแพทย์ลูคัสผู้มากด้วยอิทธิพล เขาไม่มีทางปล่อยให้คนที่กระชากหัวใจไปจากอกข้างซ้าย ได้ชดใช้ความผิดแค่ปีสองปี ท้ายที่สุดแล้ว แก้วกานดาก็กลายเป็นเหยื่อ เมื่อถูกผู้ชายสองคนยัดเยียดความผิดให้กับเธอ อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้
เหมันต์คือแฟนหนุ่มที่เพิ่งคบกันได้ไม่ถึงปี แต่เธอก็รู้สึกดี เพราะเขาเคยช่วยเหลือบิดาของเธอ ให้ผ่านพ้นวิกฤตอันโหดร้ายในชีวิตมาได้ แก้วกานดาจึงยอมจำนนทำตามเงื่อนไงที่เขาร้องขอทุกประการ ส่วนลูคัสนายแพทย์ผู้มากด้วยอิทธิพล เขามีบารมีล้นฟ้า หล่อ รวย เพอร์เฟกต์ไปเสียหมด ผู้ชายอันตรายคนนี้กำลังจะก้าวเข้ามาในชีวิตของเธอ โดยที่แก้วกานดาไม่ทันระวังตัว ซึ่งเขาจะเข้ามาในรูปแบบของเจ้ากรรมนายเวร ที่ทำให้อดีตพยาบาลสาว มีชีวิตผกผันไปตลอดกาล
เธอจะต้องได้รับพลังงานด้านลบจากเขา เพราะความโกรธและการอยากเอาชนะของนายแพทย์ลูคัส กำลังจะทำให้แก้วกานดาเผชิญหน้ากับหายนะ ที่แสนโหดร้ายอยู่ก็เหมือนตายทั้งเป็น ถึงแม้นชีวาวาย ผู้ชายอย่างเขาก็คงไม่หยุดที่จะจองเวรเธอ
//หน้าเรือนจำ////
หลายปีต่อมา ทุกคนคนคงคิดว่าการได้อิสรภาพของนักโทษ คือสิ่งที่ผู้ถูกกักขังต้องการที่สุด แต่แท้จริงแล้วพวกเขาเหล่านั้น ต้องเจอกับมรสุมชีวิตลูกใหญ่ ซึ่งกำลังจะถาโถมเข้ามาใส่ในชีวิตอีกครั้ง
พวกเขาต่างรู้ดีว่า การกลับสู่โลกภายนอกไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าหากไม่มีเงิน ไม่มีอาชีพ ที่สำคัญหากไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม ก็ไม่ต่างจากคนที่ตายทั้งเป็น
เฉกเช่นอดีตพยาบาลสาว ซึ่งอิสรภาพกำลังจะเกิดขึ้นกับเธอในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้ แก้วกานดาเดินออกมาจากเรือนจำด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ พอก้าวเท้าพ้นจากเขตแดนกักขัง เธอสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ ยาวๆ หลายครั้ง ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ
ครั้งแรกในรอบหลายปี ที่เธอได้มองเห็นโลกใบนี้ได้อย่างเต็มตาอีกครั้ง หญิงสาวได้สูดหายลมใจเข้าเต็มปอดซ้ำๆ ราวกับเธอไม่ได้รับออกซิเจนแสนสดชื่นแบบนี้มาเนิ่นนาน น้ำใสๆ เริ่มคลอออกมาจากดวงตาคู่สวยด้วยความรู้สึกปลื้มปีติยินดีเกินบรรยาย หูของเธอได้ยินเสียงเรียกของมารดาและน้องสาวแว่วมาแต่ไกล ทำให้หญิงสาวร่างเล็กหันไปตามเสียงด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ที่ประดับเอาไว้บนใบหน้างาม
“แก้วกานดาลูกแม่”
“พี่แก้ว!” เสียงเรียกของกิ่งฉัตรดังไม่แพ้มารดาของเธอ บ่งบอกให้รู้ว่าคนทั้งคู่ดีใจมากแค่ไหน ในอิสรภาพที่แก้วกานดากำลังได้รับ
ทั้งสามโผเข้ากอดกันร่ำไห้ ไม่มีวันไหนที่หญิงสาวกินอิ่มนอนหลับ เธอดูซูบผอมลงไปมาก แต่ทว่าความสวยบนใบหน้ายังคงมีไม่จืดจาง เธอมีจิตใจงดงามเกินกว่าที่ใครหลายคนเข้าใจ
แต่ผู้ชายอย่างลูคัสคงไม่มีทางเข้าใจ เมื่อความโกรธแค้นเข้ามาครอบงำจิตใจของนายแพทย์หนุ่ม จนลืมนึกถึงสิ่งผิดชอบชั่วดี สายตาคมของเขายังคงแอบจ้องมองเธอ มาจากข้างในรถสปอร์ตคันหรู มันคงถึงเวลาที่เขาจะทวงคืนความยุติธรรมให้กับแฟนสาว แค่เธออยู่ข้างไหนนั้นมันยังไม่สาแก่ใจลูคัส
แก้วกานดาจะต้องได้รับโทษจากเขาอีกหลายร้อยเท่าพันเท่า ให้สาสมกับที่นายแพทย์หนุ่มต้องสูญเสียเฮเลนไป เธอคือรักแรกและรักเดียวของเขา จึงทำให้ลูคัสอาฆาตแคนลึกฝังใจ จนไม่อาจอภัยให้กับแก้วกานดาได้
“แม่มากับกิ่งแค่สองคนเหรอคะ แล้วพ่อละ พ่อไปไหน”
หญิงสาวเอ่ยถามออกไป พลางมองซ้ายแลขวา แต่กลับไม่พบแม้แต่เงาของบิดา เขาเกลียดลูกสาวขี้คุกคนนี้ให้แล้วใช่ไหม ถึงไม่มารอรับกลับบ้านพร้อมหน้าพร้อมตากัน
“เดี๋ยวแม่จะพาไปพบพ่อ แม่โทรเรียกแท็กซี่ไว้แล้ว เขาจอดรออยู่ด้านนอก เรารีบไปกันเถอะ”
แก้วกานดายอมเดินตามมารดาและน้องสาวไปขึ้นรถอย่างว่าง่าย สายตาของเธอมองออกไปชมวิวข้างทางด้วยหัวใจที่ดูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง หญิงสาวอยากถามข่าวคราวของคนรัก แต่ก็ไม่กล้าเอื้อนเอ่ยออกไป เพราะเหมันต์ไม่ติดต่อ หรือมาเยี่ยมเธอร่วมปีแล้ว ส่งจดหมายไปเขาก็ไม่ตอบกลับ เธอได้แต่รอวันที่จะได้รับอิสรภาพ เพื่อไปถามไถ่เขาด้วยตัวเอง เขาหายไปไหนในช่วงเวลาที่เธอต้องการกำลังใจ หรือมีใครอีกคนซ่อนเอาไว้ เพื่อแทนที่เธอ
เมื่อรถแท็กซี่ขับขับมาในบริเวณวัดแห่งหนึ่ง แก้วกานดาพยายามคิดบวก บิดาของเธอคงบวชเป็นพระ มารดาถึงได้พามาวัดแบบนี้ แต่เมื่อเดินตามนางกนกและกิ่งฉัตรไปเรื่อยๆ ยิ่งทำให้หัวใจของเธอเต้นระรัว ความหวาดกลัวกำลังก่อตัวขึ้น
ใครเล่าจะรู้ว่าวันที่เธอได้รับอิสรภาพ กลับไม่ไดเจอแม้แต่เงาของผู้เป็นบิดา เมื่อเขานั้นได้ลาลับจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เมื่อหลายปีก่อนด้วยสาเหตุที่เธอนั้นต้องจุกในอก
“กราบพ่อสิแก้วกานดา” น้ำตาของหญิงสาวไหลออกมาเป็นทางราวกับสั่งได้ เธอทรุดเข่าลงกับพื้นด้วยหัวใจห่อเหี่ยว ถ้าเธอทำงานที่โรงพยาบาลบิดาคงไม่ต้องเสียชีวิตลงอย่างกะทันหันแบบนี้
“เพราะแก้ว พ่อเลยด่วนจากไปแบบนี้ แก้วขอโทษ แก้วขอโทษนะคะพ่อ”
หญิงสาวร้องไห้ฟูมฟายปิ่มจะขาดใจตายเสียให้ได้ เธอโทษตัวเองถึงสาเหตุการเสียชีวิตของบิดา เพราะแก้วกานดาเชื่อว่าสิ่งที่กระทบจิตใจ ของผู้ป่วยภาวะโรคหัวใจ คงไม่พ้นคำตัดสิน ที่เธอถูกพิพากษาให้รับโทษทัณฑ์ ทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็นผู้กระทำ
“พี่แก้ว พ่อไปสบายแล้วนะ พี่หยุดร้องก่อนได้ไหม กิ่งทนไม่ไหวจะร้องตามอยู่แล้วเนี่ย” ในที่สุดสามคนแม่ลูก ก็ได้นั่งกอดคอกันร้องไห้อยู่หน้าเจดีย์ ซึ่งเป็นที่บรรจุอัฐิเสาหลักของครอบครัว
ภาพอันน่าเวทนา กลับทำให้สายตาคมของผู้ชายหนึ่งคน แสยะยิ้มร้ายออกมา ราวกับว่าเขานั้นกำลังสะใจ เวลาที่เห็นแก้วกานดาและคนที่เธอรักร่ำไห้ มันคือสิ่งที่ลูคัสปรารถนา
“ถ้าแก้วอยู่พ่อก็คงไม่ด่วนจากไปไวแบบนี้ แก้วไม่ดีเองค่ะ เมื่อรักบังตา เห็นผิดเป็นถูก ยอมเอาชีวิตลิสรภาพที่มีเข้าแลก แต่สุดท้ายเหมันต์ก็หายไป ทำไมแก้วถึงโง่ขนาดนี้คะแม่” เธอโผตัวเข้าไปซบหญิงวัยกลางคนเอาไว้ พลางหลั่งน้ำตาออกมาราวกับสายน้ำไหล
“แก้วไม่ใช่คนโง่ แต่เพราะว่าเขาเคยช่วยเหลือครอบครัวของเราเอาไว้ ครั้งหนึ่งที่พ่อรอดมาได้ ก็เพราะคุณเหมันต์ ถือเสียว่าบุญคุณครั้งนั้นทดแทนกันไปหมดแล้ว เริ่มต้นชีวิตใหม่นะแก้ว ยังไงหนูก็ยังคงเป็นลูกสาวคนโตของแม่เสมอ”
ถ้อยคำปลอบโยนของกนก สร้างความตื้นตันใจให้กับหญิงสาวขึ้นมาอย่างท่วมท้น อย่างน้อยในความโชคร้ายเธอก็ยังหลงเหลือความโชคดีอยู่บ้าง ที่ได้ผู้หญิงอย่างกนกมาเป็นแม่เลี้ยง เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานางดูแลเธอกับบิดา ประหนึ่งมารดามารดาผู้ให้กำเนิดแก้วกานดา ถึงแม้ว่าจะมีกิ่งฉัตรเข้ามาเติมเต็ม กนกก็ไม่เคยละทิ้งให้ลูกติดอย่างเธอ ที่รู้สึกโหยหาอ้อมกอดของมารดา จนกระทั่งมีนางเข้ามาในชีวิต