Vekin & Prime - 1-1 รังควาญไม่เลิก

638 Words
ร่างสูงเดินเข้ามาในไซต์งานของเขาที่กำลังที่คนงานกำลังทำงานขะมักเขม้นกันอยู่ ในขณะที่เขากำลังจะเดินเข้าไปในห้องทำงาน ก็มีเสียงเรียกดังขึ้นเสียก่อน "เฮีย" เวคิณหันไปมองก็พบว่าเป็นลูกน้องคนสนิทของเขานั่นเองที่เรียก "มีอะไร" เขาจึงถามขึ้น "ผู้จัดการเรียกพบครับ" คนสนิทตอบกลับมาด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยจะดีนัก ทำให้เวคิณขมวดคิ้ว แต่เขาไม่ได้ถามอะไร เพียงแต่ตอบรับแล้วเดินไปที่ด้านหน้าสำนักงานเท่านั้น สวัสดีครับ ผมเวคิณ พี่ชายของเวลา สองพี่น้องที่ทุกคนรู้จักดี ในตอนนี้ผมมาทำงานปกติ และกำลังเดินไปพบผู้จัดการตามคำสั่ง ผมทำงานอยู่ที่บริษัทรับเหมาก่อสร้างยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง แต่มาประจำการที่ไซต์งานแห่งนี้ ก๊อก ๆ ๆ "เชิญ" เสียงของผู้จัดการดังขึ้นอนุญาต ผมจึงเปิดประตูเข้าไปหาเขา "สวัสดีครับ" พร้อมกับทักทาย "นั่งก่อนสิ" ผู้จัดการกล่าวขึ้นด้วยใบหน้านิ่ง ๆ "ผู้จัดการเรียกผมมามีอะไรหรือเปล่าครับ" ผมจึงเดินไปนั่งและถามขึ้น เผื่อว่าผู้จัดการจะมีงานด่วนเข้ามา หรือมีปัญหาอะไร ปกติแล้วหากไม่มีเรื่องด่วน ผู้จัดการก็จะไม่ได้เข้ามาที่นี่เลย "นี่ของคุณ" แต่อีกฝ่ายไม่ตอบ และยื่นเอกสารบางอย่างมาให้ผมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด "เอกสารร้องเรียน" พอผมหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นเอาสารที่ผมเจอมาหลายครั้งแล้วก่อนหน้านี้ "ใช่ มีการร้องเรียนมาที่สำนักงานใหญ่ เรื่องครอบครัวของคุณ" ผู้จัดการพยักหน้ารับและอธิบายด้านในเอกสารให้ผมฟัง ซึ่งแค่เห็นหน้าซองว่าคือเอกสารอะไร ผมก็ไม่คิดเป็นอย่างอื่นเลย มีคนเดียวเท่านั้นที่จะทำอะไรแบบนี้ได้ เขาคนนั้นที่สืบหาผมจนเจอเมื่อหลายปีก่อน และคอยรังควานผมเรื่อยมา ไม่เคยหยุด "ผมไม่มีครอบครัวครับ" ทำให้ผมปฏิเสธไปทันที ว่าตนเองไม่มีครอบครัว ซึ่งก็หมายถึงเขาคนนั้น "เวคิณ" ผู้จัดการมองหน้าผมนิ่ง เหมือนมีอะไรในใจ และจะกล่าวเตือนผม "ผู้จัดการก็น่าจะรู้จักผมดี คนเดียวในครอบครัวที่ผมเหลืออยู่ในตอนนี้คือเวลา น้องสาวของผมเอง" ผมจึงพูดในสิ่งที่ผู้จัดการรู้ดี เพราะเขาคือคนที่รู้จักผมดีที่สุด ผู้จัดการคนนี้เป็นลุงรหัสของผมเอง เขารู้เรื่องผมและครอบครัวดีว่าเกิดอะไรขึ้น และเขาก็เป็นคนรับผมเข้ามาทำงาน คอยออกหน้าให้เสมอ "ฉันรู้ แต่เรื่องนี้ผู้ใหญ่สั่งให้ฉันตรวจสอบ" เขาก็พยักหน้ารับรู้ และกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าลำบากใจไม่น้อย "หึ ผู้ใหญ่ที่ว่าคงรู้จักเขาสินะครับ" ผมเค้นหัวเราะแล้วพูดขึ้น ผู้ใหญ่ที่ผู้จัดการกล่าวถึง คงจะมีไม่กี่คน หนึ่งในนั้นก็คงจะเป็นคุณเวนัย ที่ต้องการบีบบังคับให้ผมไปทำงานให้กับเขา "ฉันเองก็จนปัญญา ไม่รู้จะว่ายังไง" ผู้จัดการไม่ตอบ แต่มีสีหน้าลำบากใจกว่าเดิม "แล้วผมสามารถทำอะไรได้บ้างครับ" ผมจึงหาทางออกให้กับตัวเอง ว่าสามารถทำอะไรได้บ้างในตอนนี้ "นายไปจัดการเรื่องนี้ให้มันเรียบร้อย" ผู้จัดการจึงเสนอทางเลือกมา "เขาคงไม่มีทางยอมปล่อยผมไป" ซึ่งผมก็รู้คำตอบเกี่ยวกับทางเลือกนี้อยู่แล้วว่ามันจะเป็นยังไง "บางทีการปล่อยวางอดีต อาจจะทำให้เรามีความสุขนะ" เขาก็ยังคงแนะนำผม แต่คำแนะนำนี้ไม่มีทางที่ผมจะทำได้ เพราะมันคือสิ่งที่หลอกหลอนผมมาตั้งแต่เด็ก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD