เรือนร่างบอบบางในชุดมินิเดรสแบบสองชิ้นกำลังยืนส่องกระจกและหมุนซ้ายหมุนขวาเพื่อสำรวจความเรียบร้อย เธอไม่อยากใส่เดรสที่ดูทางการมากไปเพราะจะไปผับเลยใส่เป็นกระโปรงสั้นแบบหนังสีดำกับเกาะอกสีดำที่ตกแต่งตรงขอบเสื้อให้เว้าดูมีมิติมากยิ่งขึ้นแทน
“คอแอบโล่ง ๆ แฮะ”
เสียงหวานพึมพำกับตัวเองก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักเพื่อหาสร้อยคอที่เข้ากับชุด เลือกอยู่สักพักก็ได้โชกเกอร์สีดำและมีจี้เงินดูเข้ากันมาหนึ่งชิ้น
เมื่อทุกอย่างเรีอบร้อยเธอก็คว้ากระเป๋าสะพายไหล่แบรนด์หรูติดมือมาด้วย ระหว่างทางลงบันไดแม่บ้านที่เข้าไปเตรียมยาให้กับผู้เป็นพ่อก็เปิดประตูพอดี ทำให้เธอได้ยินเสียงท่านไอออกมาเป็นระยะจนอดห่วงไม่ได้
“วันนี้อาการไอคุณพ่อยังไม่เบาลงอีกเหรอคะ”
จันทร์เจ้าถามด้วยความแปลกใจเพราะเมื่อวานอาหมอก็เข้ามาตรวจอาการแล้วเห็นบอกว่าทรงตัวไม่น่ามีปัญหาอะไร
“พึ่งหนักช่วงค่ำนี่แหละค่ะคุณจันทร์ เมื่อวานเหมือนจะดีขึ้นคุณผู้หญิงก็คอยดูแลอยู่ตลอดทั้งวัน”
“ถ้าอาการแบบนี้ทุกวัน ป้าใจโทรหาจันทร์ได้ตลอดนะคะ”
“ได้ค่ะคุณจันทร์”
โชคดีที่นอกจากแม่บ้านก็มีแม่ที่คอยดูแลพ่อไม่ห่าง แอบอิจฉาความรักของพวกท่านขึ้นมาไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีทั้งคู่ยังคงรักและดูแลกันตลอด ส่วนตัวเธอเองตั้งแต่เด็กจนโตก็ไม่เคยมีแฟนเลย ตอนเรียนมหาลัยก็ตั้งใจเรียนเป็นหลักเพราะมีความฝันแต่พอเจอสถานการณ์ในบริษัทแบบนี้เธอคงจะทิ้งมันไม่ลงนอกจากกอบกู้ขึ้นมาใหม่
พอนึกถึงเรื่องมหาลัยเธอเป็นคนมีเพื่อนน้อยมากที่สนิทก็คงจะมีแค่ฮารุคนเดียว ซึ่งรายนี้หลังจบก็ทำงานที่บริษัทของครอบครัวเช่นกัน เป็นบริษัทนำเข้าอะไหล่รถสปอร์ตหรูแต่ช่วงนี้ฮารุไปเที่ยวพักผ่อนที่ต่างประเทศเราเลยไม่ได้ติดต่อกัน
เพื่อนของเธอคนนี้ดีกรีความสวยเป็นถึงดาวคณะเลยนะไม่ว่าใครต่างก็ต่อคิวจีบยาวเหยียดแต่ไม่มีใครสามารถเอาชนะใจของฮารุได้เลย ส่วนเธอก็มีบ้างแต่เพราะเธอเป็นคนเก็บตัวไม่ได้เป็นเจ้าแม่ปาร์ตี้หรือเข้าสังคมอะไรขนาดนั้นเลยไม่ค่อยมีใครกล้ามาวุ่นวายด้วยนอกจากเขา ‘เฮียซัน’
“แล้วจะไปนึกถึงเขาทำไม”
เจอหน้าคนประสาททีเดียวกลับสลัดภาพเขาไม่ออกเลยแต่ช่างเถอะวันนี้เธอจะไม่เจอเขาแน่นอน
เตกีลา ผับ
สายตาหลายคู่จับจ้องมาที่เรือนร่างบอบบางในชุดเดรสเกาะอกสีดำตัดกับผิวกายของเธอทำให้ไม่ว่าใครก็ไม่อาจละสายตาไปได้ โดยเฉพาะใบหน้าเรียวสวยตราตรึงใจ จมูกเชิดรั้นน่ามันเขี้ยวและริมฝีปากอวบอิ่มน่าสัมผัส
นัยน์ตากลมโตกวาดมองไปยังบันไดทางขึ้นโซนวีไอพีที่ล่าสุดมีนัดกับคุณรัชพล ภายหลังเธอไปสืบมาแล้วว่าถ้าไม่ได้สมัครสมาชิกรายปีจะไม่สามารถใช้บริการชั้นนี้ได้ นอกจากจะเป็นแขกหรือมีลูกค้าวีไอพีพาขึ้นไป พอรู้แบบนั้นเลยให้คุณศรีช่วยจัดการ แต่การตรวจสอบและการทำงานของผับหรูก็ช้ายิ่งกว่าการทำงานของระบบราชการไทย อีกทำให้เธอต้องมาแบบปกติ
“คุณลูกค้ามากี่ท่านครับ”
“เอ่อ”
ร่างบางหลุดจากภวังค์ความคิดเมื่อพนักงานหนุ่มหล่อเดินเข้ามาใกล้ ก่อนจะฉีกยิ้มหวานถามอย่างสุภาพทำให้เธอชะงักไปกับรอยยิ้มนั้น ก่อนจะกระแอมไอในลำคอแก้เก้อ ด้วยความหัวไวเลยมองซ้ายมองขวาทำท่าดูโต๊ะภายในร้านตามโซนต่าง ๆ ก่อนจะจบลงด้วยการทิ้งสายตาไว้ที่บาร์เหล้าแทน
“มากับเพื่อนสองคนค่ะ ว่าจะมานั่งจิบเหล้าฟังเพลงรอเพื่อนเลยจะไปนั่งที่บาร์”
“งั้นเชิญครับ เดี๋ยวผมนำไป”
มารอบแรกก็โดนลวนลามครั้งนี้เธอเลยต้องป้องกันตัวเองไว้ก่อนโดยการโกหกว่ามารอเพื่อน
“เชิญครับ แล้วคุณลูกค้าอยากรับเครื่องดื่มอะไรดีครับ”
“ขอบคุณค่ะแต่เดี๋ยวสั่งกับบาร์เทนเดอร์เองก็ได้ค่ะ”
“ได้ครับผม”
เมื่อเห็นว่าเธอออกตัวปฏิเสธพนักงานหนุ่มก็ไม่คิดตื้อต่อเพราะกลัวว่าจะเป็นการเสียมารยาทแม้ใจจะอยากบริการสาวสวยคนนี้เต็มที่ก็ตาม
คล้อยหลังพนักงานหนุ่มจันทร์เจ้าก็ชโงกหน้าขึ้นไปดูยังโซนวีไอพีอีกครั้ง ก่อนจะหันกลับมาสั่งเครื่องดื่มเบา ๆ กับบาร์เทนเดอร์ อย่าง BLUE MAGAROTA ค็อกเทลสีฟ้า รสเปรี้ยวอมหวานเหมาะกับการจิบระหว่างรอคุณรัชพล เพราะได้ยินว่าทุกวันศุกร์เขาจะชอบมาที่เตกีลาผับ เธอเลยมาดักรอ
“ถ้าไม่เพราะหมดหนทางแล้วและโดนกรรมการเร่งรัดคุณพ่อ ไม่มีทางที่ฉันจะมานั่งอะไรแบบนี้แน่นอน”
ฉันชักสีหน้าไม่พอใจใส่ผู้ชายบางคนที่ทำเล่นหูเล่นตาใส่เพราะเห็นว่ามาคนเดียว บางคนถึงขนาดชูแก้วเหล้าขึ้นเป็นเชิงขอชน แน่นอนว่าฉันปรายตาเย็นชาใส่อย่างไม่พอใจทันที
นั่งรออยู่นานก็ไม่มีทีท่าว่าจะเจอคุณรัชพลเลย จากแก้วเดียวก็เริ่มเป็นสองและจากสองก็เป็นสามจนใบหน้าสวยเริ่มแดงก่ำ แต่ยังคงประคองสติได้
“นั่น คุณรัชพล!!”
ด้วยความตื่นเต้นปนดีใจสาวสวยที่มีบุคลิกสง่า เย็นชา เป็นต้องสลัดภาพนั้นออกไป ก่อนจะคว้ากระเป๋าและรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปตามทางเดินชั้นวีไอพีแม้จะชนผู้คนบ้างแต่นาทีนี้เธอไม่สนใจ
ปั๊ก!
“โอ๊ย!”
ร่างบางล้มลงกับพื้นทันทีเพราะวิ่งมาเร็วกลัวว่าจะไม่ทันเป้าหมาย แต่ไม่คิดว่าจะมีใครเดินเข้ามาขวางทางอย่างกะทันหันทำให้เธอไม่ทันระวังและชนเข้ากับอกแกร่งของอีกฝ่ายอย่างจัง
“จะรีบไปตามผู้ชายที่ไหนไม่ทราบ”
เสียงเย็นเยียบเอ่ยออกมาทำให้ฉันที่กำลังยกมือกุมจมูกชะงักและรีบเงยหน้าขึ้นมองเขาทันที น้ำเสียงเย้ยหยันแบบนี้มีคนเดียว ‘เฮียซัน’ และคนตรงหน้าที่ฉันวิ่งชนก็เป็นเขาจริง ๆ
ใบหน้าดุดันกำลังจ้องมาที่ฉันด้วยสายตาเย็นชาจนน่าขนลุก ถ้าเป็นเวลาปกติคงไม่สนใจ แต่ตอนนี้โมโหกับคำพูดของเขาเลยรีบลุกขึ้นยืนเพื่อเผชิญหน้ากับปีศาจตรงหน้าทันที
“ก็รู้นี่ว่าจะตามผู้ชาย จะสไลด์หน้ามาขวางทำไมไม่ทราบ!”
ตั้งแต่เกิดมาแทบจะไม่แสดงสีหน้าท่าทางอะไรออกมาเลย เพราะพ่อสอนเสมอให้พยายามเก็บสีหน้าอย่าให้ใครเดาทางเราออก แต่กับเขาคนนี้ทำฉันอารมณ์พลุ่งพล่านมาก ไหนจะแววตาและคำพูดนั่นอีก เกลียดมากทำไมไม่ต่างคนต่างอยู่ไป
“ก็นี่มันผับฉัน ฉันจะไปที่ไหนก็ได้แม้แต่จะเฉดหัวเธอออกไปตอนนี้ยังทำได้เลย”
อะไรนะ ผับเขาเหรอ!
ฉันเบิกตากว้างมองเขาตาไม่กะพริบ ทำไมตัวเองถึงได้ซวยเจอเขาตั้งสองครั้งสองครา ก็เพราะเขาเป็นเจ้าของที่นี่นั่นเองแล้วแบบนี้จะทำยังไงดีถ้าไม่ได้โอกาสวันนี้คงจะแย่ เพราะคุณรัชพลเหมือนจะมีบินไปต่างประเทศด้วย
“เอ่อ ขอโทษ”
ในเมื่อเขาเป็นต่อเลยยอมเอ่ยปากขอโทษออกไป เพื่อคิดหาแผนการใหม่เพราะไม่มีทางล้มเลิกความตั้งใจแน่นอน
“เก็บปากของเธอไปเถอะ!”
ยิ่งเห็นยิ่งหงุดหงิดและกลัวตัวเองจะรักษาความสงบเยือกเย็นไว้ไม่ได้ ร่างสูงจึงถอนสายตาโกรธเกรี้ยวออกจากร่างบาง ก่อนจะหมุนตัวเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสองโซนวีไอพีตามด้วยลูกน้องคนสนิททั้งฟาบิโอและเวกัส
หมับ!!!
“เดี๋ยวก่อนค่ะ”
“อย่ามาจับ!”
“!!!!”
ร่างบางรีบคว้าชายเสื้อของร่างสูงไว้จังหวะที่เขาเตรียมจะแยกออกไป ก่อนจะสะดุ้งเมื่อเขาหันกลับมาตวาดเสียงดังพร้อมกับใบหน้าดุดันพร้อมจะฉีกกระชากเธอเป็นชิ้น ๆ
ร่างบางเม้มปากแน่นพยายามทำใจดีสู้เสือ แม้ว่าเสือตัวนี้จะเกลียดเธอมากก็ตาม ดูได้จากสายตารังเกียจเดียดฉันท์นั้นสิ ทำเหมือนกับว่าเธอมันแค่ขยะชิ้นหนึ่ง มันทำให้เธออึดอัดมาก
ภายใต้บรรยากาศแสนกดดันและเหล่าบอดี้การ์ดรอบกาย จันทร์เจ้ายังคงกำชายเสื้อของเขาไว้แน่น เธอรวบรวมความกล้าช้อนสายตาขึ้นมองเขาอีกครั้ง
“ขอขึ้นไปด้วยได้ไหมคะ”