บทที่ 12 อาการออก

1752 Words
CASINO Xlll กาสิโนหรูหราขนาดใหญ่ที่รอดพ้นสายตาของตำรวจแน่นอนว่าคงมีเบื้องลึกเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดาแน่นอน บรรดานักเสี่ยงโชคต่างทยอยตบเท้าเข้าสู่ประตูบานใหญ่ที่อาจจะเป็นเหมือนเหมืองทองหรือคุกจองจำไปชั่วชีวิตล้วนไม่มีใครรู้เพราะบ่อเงินตรงหน้ามันหอมหวาน แม้เสี่ยงก็คงต้องลอง ที่แห่งนี้เป็นราวสวรรค์เพราะมีทั้งโซนเสี่ยงโชค โซนเครื่องดื่มมีการแสดงสลับกันไปแต่ละโชว์ ส่วนชั้นใต้ดินคงไม่มีใครอยากรู้หรอกว่ามันเอาไว้ทำอะไร เวลาห้าทุ่มเป็นช่วงเวลาของการแสดงสำคัญอีกอย่างที่ผู้คนรอคอย ‘เต้นเปลือยอก’ เพราะที่นี่ทุ่มเงินมหาศาลให้กับนักเต้นที่ใจกล้า ดังนั้นการแสดงนอกจากจะอวดเรือนร่างเล็กน้อยยังต้องมีพื้นฐาน ทักษะในการเต้นอีกด้วย ร่างบางวางแปลงแต่งหน้าลงบนโต๊ะกวาดสายตามองสำรวจความเรียบร้อย เธอแต่งหน้าเข้มกว่าปกติและยังวาดขอบตาให้โตขึ้นยิ่งกว่าเดิม พยายามไม่ให้มีคนจำหน้าได้ก่อนจะเอาผ้าคลุมของชุดมาปิดครึ่งหน้าเหลือแค่ดวงตาคู่สวย เธอใส่ชุดแบบจินนี่ในตะเกียงแก้วสีดำ ในเมื่อเขาอยากให้เต้นคนอย่างเธอก็ใจกล้าที่จะเต้น เพียงแต่เขาบอกไม่ได้ระบุอะไรไงเธอเลยใช้ช่องโหว่นี้ในการออกแบบการแสดง และโชคดีที่ในห้องแต่งตัวของที่นี่มีชุดแฟนซีหลากหลายเลยหยิบชุดนี้มา “เอาวะสู้ ๆ รอดไม่รอดก็ช่างมัน” ว่าพลางก้มมองเนินหน้าอกของตัวเองไปด้วยและพยายามปลอบใจตัวเองว่าแค่มองไม่มีใครได้จับหรอกขนาดเหล่าดารานักแสดงดังเขายังกล้าเล่นหนังเลิฟซีนเลย เราก็แค่สวมบทบาทหนึ่งไม่ใช่จันทร์เจ้าคนเดิม แต่เป็นจันทร์เจ้าคนที่พร้อมจะทำการแสดงออกมาให้ดีที่สุด “มัวโอ้เอ้อะไรอยู่รีบออกไปสิ” สาวสวยนักเต้นในชุดขนนกฟูฟ่องสีแดงเดินนวยนาดเข้ามา ก่อนจะพยักพเยิดให้จันทร์เจ้าออกไปรอทำการแสดง ก่อนเจ้าหล่อนจะยกปึกเงินในมือขึ้นมาโบกสะบัดเพื่อโอ้อวด จันทร์เจ้าในชุดสาวน้อยในตะเกียงแก้วสีดำไม่สนใจ เธอเดินผ่านหน้าสาวนักเต้นออกไปเพื่อทำการแสดงระหว่างทางเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะของแขกดังสะท้อนทั้งบาร์ทำเอาจิตใจที่พยายามจะสงบพังทลายลง หัวใจเต้นแรงจนยากจะควบคุม ความหวาดกลัว อาการเครียดจนรู้สึกอยากอ้วก ทำได้แค่กัดฟันอดทนเพียงเท่านั้น เธอจดบัญชีแค้นในใจเลยว่าต้องเอาคืนเขา พิธีกรที่ดำเนินการจัดกิจกรรมกำลังเอนเตอร์เทนลูกค้าก่อนจะเอ่ยถึงโชว์สาวสวยคนใหม่เรียกเสียงเชียร์ดังกระหึ่ม ก่อนที่ไฟในบาร์จะหรี่ลงจนมืดสนิท บนเวทีปรากฏเรือนร่างบอบบางสัดส่วนเย้ายวนใจยืนในท่าแบบระบำแขก ดวงตากลมโตถูกวาดด้วยอายไลเนอร์ให้เฉี่ยวขึ้น จันทร์เจ้ากวาดสายตามองทั่วทั้งบาร์ก่อนจะกระตุกยิ้มและเริ่มเคลื่อนไหวร่างกายเมื่อเพลงขึ้น เรือนร่างสวยโยกตามจังหวะดนตรีอย่างชำนาญเพราะตอนเด็กเคยเรียนบัลเลต์ พอเติบโตขึ้นมาหน่อยก็เรียนเต้นทำให้ทุกจังหวะที่ขยับดูสวยมีเสน่ห์จนหลายคนเริ่มส่งเสียงเชียร์ เมื่อถึงท่อนฮุกร่างบางก็หมุนตัวเป็นวงกลมก่อนจะฉีกขาออก ดวงตากลมโตมีเสน่ห์เล่นหูเล่นตากับบรรดาแขกในงานจนร่างสูงในชุดสีดำที่กำลังเดินเข้ามาในบาร์ถึงกับชะงัก ใบหน้าหล่อเหลากระชากลมหายใจปกติก็เย็นชามากอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เขากลับนิ่งมากกว่าเดิมจนลูกน้องสองคนที่ตามมาต่างมองหน้ากัน ความรู้สึกเย็นเยียบแผ่ออกมาจากร่างสูง “นายจะเข้าไปไหมครับ” ฟาบิโอเอ่ยถามเพราะตอนนี้พวกเขาต่างก็เดินมาถึงทางเข้าของบาร์แล้ว ยิ่งเห็นบนเวทีทำการแสดงพวกเขายิ่งเหงื่อแตกพลั่กเพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ซันก้าวขาเข้ามาภายในบริเวณบาร์ นัยน์คมกริบวาววับทันทีเมื่อเห็นภาพตรงหน้า บรรดาแขกต่างโห่ร้องชอบใจและเชียร์ให้สาวสวยบนเวทีถอดเสื้อออก ซึ่งเธอก็ทำเพียงเต้นยั่วยวนยื่นมือไปข้างหลังทำท่าเหมือนจะปลดตะขอเสื้อแต่ก็ไม่ยอมปลด “ถอดเลย!” ชายวัยกลางคนเอ่ยตะโกนจากทางหน้าเวทีเมื่อเห็นสาวสวยเอาแต่เล่นตัว นอกจากจะไม่อายใครแล้วเขายังคึกคะนองด้วยการเดินข้ามรั้วกั้นระหว่างโซนที่นั่งและเวทียกระดับเพื่อขึ้นไปบนนั้น ทำให้ร่างบางที่กำลังเต้นอยู่ชะงักไปเล็กน้อยแต่พยายามรักษาอาการ เธอยังคงเต้นก่อนสายตาจะสบประสานกับร่างสูงที่เดินเข้ามาใหม่ แววตาคมกริบจ้องมองมาอย่างไม่ลดละเธอจึงมองตอบพลางยกยิ้มให้ ความรู้สึกอัดอั้นมากมายปะทุอยู่ภายในจิตใจเมื่อเห็นเขา ในเมื่อนี่คือสิ่งที่เขาต้องการจะเหยียบย่ำ เธอก็พร้อมที่จะท้าทายเขากลับคืนเช่นกัน อยากเห็นเธอหวาดกลัวร้องไห้เสียใจเหรอ ไม่มีวัน!!! ริมฝีปากอวบอิ่มยกยิ้มเอื้อมมือไปข้างหลังเหมือนพร้อมที่จะปลดตะขอเสื้อ เป็นจังหวะที่ชายวัยกลางคนกำลังพุ่งตัวเข้าหาร่างบางพอดี ผู้คนต่างพุ่งความสนใจไปบนเวทีโดยที่ไม่ทันได้สังเกต คนที่ยืนนิ่งแววตาเย็นเหยียบก็หายไปจากจุดนั้น ร่างบางกลืนน้ำลายลงคอเมื่อเห็นลูกค้าในร้านปีนขึ้นมาบนเวที เป็นจังหวะเดียวกันกับที่มือเอื้อมไปปลดตะขอจากข้างหลังขาก้าวขยับหนีจากคนบนเวที ส่วนเสื้อที่ใส่มาหลายชั้นก็เริ่มหลุดออกทีละชิ้น หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกมา ภาพตรงหน้าเริ่มเบลอไปหมด จิตใจสั่นไหวยิ่งแววตากักขฬะของคนที่กำลังคุกคามยิ่งทำให้มือไม้สั่นมันเต็มไปด้วยความรู้สึกเกลียดและโกรธ “คนสวย มาพี่ช่วยถอด” มันเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะยื่นมือออกมาแต่ร่างบางไหวตัวทันและถอยหลังหนี ผ้าคลุมบางเบาสีดำหลุดลงบนพื้นตอนนี้เหลือแค่สายเดี่ยวสีดำที่เหมือนบราเซียกำลังหลุดตามการขยับตัว เสียงตะโกนเชียร์จากข้างล่างทำให้เธอรู้สึกกดดันและเริ่มหวาดกลัว ก่อนจะสะดุ้งเมื่อมือของมันกำลังจะยื่นแตะตัว ฉับ!! แสงวาววับตวัดลงตรงหน้า ความเร็วของมันทำให้เธอมองแทบไม่ทัน มือที่กำลังจะแตะบนตัวพลันตกลงบนพื้นดังตุบ จันทร์เจ้ากลืนน้ำลายลงคอก่อนจะมองข้อมือที่กำลังมีของเหลวสีแดง ไหลทะลักออกมา โดยที่เจ้าของมือยังงุนงงสับสนอยู่ “มะมือ มือขาด!” เมื่อชายคนนั้นรู้สึกตัวก็ร้องลั่น ก่อนจะมองมือที่ขาดออกจากกันด้วยสีหน้าเหมือนคนกำลังจะตาย ส่วนเธอก็หันไปมองยังทิศทางของแสงวาววับนั้น เขากำลังเก็บดาบซามูไรเข้าฟักด้วยสีหน้าเย็นชาเหมือนกับพึ่งใช้มีดสับท่อนไม้เล็ก ๆ ร่างสูงในชุดสีดำราวกับปีศาจจ้องมองร่างบางตาไม่กะพริบ มือหนากระชากเสื้อของตัวเองออกก่อนจะนำมาคลุมทับร่างบางไว้และจัดการอุ้มเธอพาดบ่าลงจากเวทีไป ท่ามกลางสายตาตื่นตกใจของทุกคนในบาร์ ไฟสีแดงภายในบาร์เริ่มหรี่ลงจนเหลือเพียงความมืดและได้ยินพิธีกรกล่าวว่า ‘การแสดงได้จบลงแล้ว’ เธอไม่เข้าใจ นี่มันเกิดอะไรขึ้น!! ฟุบ! “โอ๊ย!” ร่างบางถูกโยนลงมาบนเตียงขนาดใหญ่ในห้องสีทึบตลอดทางเธอเอาแต่เงียบเพราะไม่อยากถามว่า ทำ ทำไม! ในเมื่อทุกอย่างเขาตัดสินใจเอง หรือแค่อยากลองเล่นกับความรู้สึกของเธอเหรอ ถึงได้ทำแบบนี้ “หุบปาก!” เขาตวาดกลับมาใบหน้าหล่อเหลาดูเดือดดาลมากทั้งที่ปกติแทบจะไม่แสดงอะไรออกมา มีเพียงความเย็นชาแผ่กำจายอยู่โดยรอบจนผู้คนหวาดกลัว “ก็คุณโยนฉันนี่ คิดจะทำอะไร!” เธอกำลังจะขยับลุกขึ้นนั่งแต่โดนร่างสูงโน้มตัวลงคร่อมทับจนขยับเขยื้อนไม่ได้ มือหนารวบข้อมือบางไว้เหนือศีรษะจนเธอนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ “ทำไมไม่ร้อง” เขาแทรกเข่าลงมาตรงกลางระหว่างขาเรียวทั้งสองข้างทาบทับตัวลงมาแนบชิดร่างบางทุกส่วน ริมฝีปากบางเอ่ยถามเธอเสียงเข้ม ทำให้ร่างบางได้แต่เลิกคิ้วด้วยความสงสัย “แล้วต้องร้องทำไม คุณเป็นคนเสนอเองนะ ลืมไปแล้ว?” “ไม่อยากทำก็บอกไม่ทำสิวะ!” เสียงเข้มตวาดดังลั่นเขาหงุดหงิดกับเธอมากยิ่งเห็นตอนอยู่บนเวทียิ่งไม่สบอารมณ์ “พูดบ้าอะไร คุณเป็นคนเสนอจันทร์ก็แค่ทำตามแล้วตอนนี้จะมาโมโหใส่จันทร์ทำไม แล้วเมื่อกี้ยังทำร้ายคนอื่นอีก” “เป็นห่วงมัน?” “ไม่ใช่!” “แล้วจะพูดถึงคนอื่นทำไม!!” ใบหน้าคมโน้มลงมาจนแทบชิด “ไอ้บ้าถอยออกไปขี้เกียจเถียงด้วย” เพราะร่างกายของเราแนบชิดจนรู้สึกร้อนตั้งแต่กลางกายจรดปลายเท้า เธอเลยพยายามดิ้นแต่เหมือนว่ามันจะยิ่งทำให้อะไรบางอย่างขยายใหญ่ขึ้น “อย่าดิ้น!” ซันคำรามในลำคอ “ก็ลุกออกไปสิ แล้วก็เก็บปืนด้วย!” ซึ่งจันทร์เจ้าก็ไม่น้อยหน้ายิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุเธอออกแรงดิ้นไม่พอยังสั่งให้เขาเก็บปืนอีกเพราะรู้ดีว่ามันคืออะไร “อย่ามาสั่ง! มีแต่ฉันจะเอาปืนกระแทกปากเธอ” “กรี๊ด” ร่างสูงเอ่ยเสียงเข้มเมื่อเห็นร่างบางปากดีไม่เลิกเลยจัดการกดแนบตัวตนลงมาจนบางสิ่งบางอย่างกำลังดุนดันที่หน้าท้องบาง ยิ่งเห็นเธอกรีดร้องเสียงดังเขายิ่งพอใจแต่ไม่วายต้องกัดฟันแน่นเพราะรู้สึกทรมาน “บอกว่าหยุดดิ้นไงวะ!” “ก็เอาของตัวเองออกไปสิ!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD