บ้านดำรงเกียรติสุวรรณ
ฉันล้มตัวลงบนเตียงนอนอย่างหมดแรง เหนื่อยจนไม่อยากทำอะไรแล้วทั้งนั้น หลายวันมานี้ต้องคอยแก้ไขปัญหาทุกด้านพยายามประคับประคองทุกอย่างบนฝ่ามือให้กลับมาเข้าที่เข้าทาง แต่โดนมือที่มองไม่เห็นคอยขัดขวางอยู่ตลอด
ทำไมกัน!
ปัญหาทุกอย่างเป็นเหมือนด่านทดสอบในชีวิตอย่างนั้นเหรอแล้วเมื่อไหร่ถึงจะพอ ฉันมันก็แค่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งเองนะ เรียนพึ่งจบอายุยี่สิบสามจะยี่สิบสี่แต่ต้องแบกปากทุกคนทั้งบริษัท เพราะฉันจะไม่มีวันยอมให้พวกตาแก่ในที่ประชุมถอดพ่อออกจากตำแหน่งแน่นอน
“หรือต้องง้อเขาจริง ๆ เหรอ”
ฉันพึมพำกับตัวเองพลางนอนมองเพดานไปด้วยสมองกำลังประมวลผล ทางออกที่มีในตอนนี้คือต้องเข้าร่วมกับโปรเจกต์ของ The sun ให้ได้เพราะนอกจากบริษัทจะได้หน้าแล้วเรายังกลับมามีกระแสอีกครั้งและถือเป็นก้าวแรกของเราในตลาดสากล
“เอายังไงดี”
อยากมีช่วงเวลาที่นอนร้องไห้จนตาบวมเสียใจจนเป็นบ้ากับโชคชะตา แต่ในความเป็นจริงแค่เอนหลังลงบนที่นอนฉันก็หายเหนื่อยและพร้อมสู้ต่อแล้วเพราะร้องไห้ไปก็เท่านั้น ถ้าสุดท้ายแล้วไม่สามารถโน้มน้าวเขาได้ ถึงเวลานั้นค่อยมาเสียใจก็ยังไม่สาย
แต่พอนึกถึงสีหน้าแววตาของเขาแล้วมันทำให้หวั่นใจ
จริง ๆ เขาดูเกลียดมากขนาดนั้นจะยอมรับข้อเสนอเหรอมีแต่จะเหยียบย่ำซ้ำเติมน่ะสิไม่ว่า
ฉันไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นกับเรื่องตอนนั้นมากขนาดนี้ ในขณะที่ฉันใช้ชีวิตปกติไม่ได้เก็บมาใส่ใจ เพราะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กและไร้สาระมากตอนนั้นยังเด็กด้วย
“ทั้งที่ตอนนั้นเป็นเฮียแท้ ๆ ที่ทำก่อน ยังจะมาแค้นจันทร์ทำไม”
ได้แต่บ่นพึมพำกับตัวเองเพราะคิดยังไงก็คิดไม่ตก พรุ่งนี้ต้องเข้าบริษัทไปสะสางงานและรับมือกับบรรดาตาแก่ในที่ประชุมก่อนจะวางแผนเข้าหาเฮียซัน ว่าแล้วก็ลุกไปชำระร่างกายก่อนจะมาพักผ่อนเติมพลัง
8.00 น.
แอตลาสกรุ๊ป
ร่างบางลืมตาขึ้นมาในช่วงเช้าก่อนจะรีบอาบน้ำแต่งตัวเข้ามาทำงานที่บริษัทเหมือนอย่างเคยแต่ทุกอย่างกลับไม่ปกติเมื่อทุกสายตาของพนักงานต่างจ้องมองมาที่เธอด้วยสายตาแฝงแววเคลือบแคลงและสงสัยจนเธอแปลกใจ
เกิดอะไรขึ้น!
เธอเมินสายตาของพนักงานก่อนจะกดลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังชั้นผู้บริหารของตัวเองเพราะวันนี้มีประชุม ร่างบางในชุดเดรสสูทสั้นสีดำลายทางสีขาวก้าวออกมาจากลิฟต์ด้วยท่าทางมั่นใจและสีหน้าเรียบนิ่งก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเห็นเลขาของตัวเองมีสีหน้ากระวนกระวายใจ
“คุณศรี เกิดอะไรขึ้นคะ?”
“คุณจันทร์แย่แล้วค่ะ”
เลขาสาวรีบถลาเข้ามาหาเธอด้วยสีหน้ากังวลยิ่งทำให้สงสัยเข้าไปกันใหญ่ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เลขาดึงมือของเธอให้เข้าไปในห้องทำงานส่วนตัวก่อนหยิบกระดาษปึกหนึ่งออกมา
“นี่มัน”
ดวงตากลมโตเบิกกว้างมือไม้ที่กำลังจับแผ่นกระดาษสั่นเทาไม่ใช่เพราะอ่อนไหวจวนเจียนจะร้องไห้ แต่เธอโกรธจนแทบอยากจะจัดการใครสักคนที่มันกล้าเล่นงานใส่ร้ายป้ายสีเธอ
ในเอกสารเหล่านี้เป็นรูปของเธอที่อยู่ในผับเมื่อคืนและยังเป็นตอนที่เธอนั่งคุยกับคุณรัชพลอีก ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครแต่ตั้งใจเล่นงานเพื่อให้คนมองเธอไม่ดี
“เมื่อเช้าศรีเข้ามาในบริษัทกระดาษพวกนี้ก็ถูกกระจายจนทั่วบริษัทแล้วค่ะ ไม่รู้ฝีมือใครแต่ข้อความในภาพมัน…”
ใช่ ที่คิดว่าคนจงใจเพราะในภาพมีข้อความถูกระบุด้วยว่า
‘เบื้องหลังบริษัทเน่าเฟะ ตกต่ำ ถึงขั้นเอาตัวเข้าแลกแล้วเหรอ’ เธอพยายามตั้งสติ มือขย้ำกระดาษและโยนลงถังขยะก่อนจะเดินไปนั่งบนเก้าอี้ประจำตำแหน่ง มีเวลาอีกสิบนาทีที่ต้องเข้าประชุม
ตอนแรกคิดว่าอาจเป็นคนในบริษัท แต่ถ้าเป็นศัตรูในบอร์ดบริหารทำไมถึงพุ่งเป้าไปที่คุณรัชพลกับเธอเพราะไม่มีใครรู้เรื่องที่เธออยากร่วมโปรเจกต์กับคุณรัชพล ดังนั้นตัดเรื่องที่จะโดนโยงไปได้เลยว่าเอาตัวเข้าแลกเพื่อผลงานนี้
“หรือว่า..”
ร่างบางผุดลุกขึ้นยืนทันทีเมื่อความเป็นไปได้ว่าคนที่ทำในตอนนี้อาจจะเป็นเขา คนที่เกลียดเธอเข้าไส้และรู้เรื่องโปรเจกต์
“คุณศรี”
“คะ?”
เลขาสาวรีบกุลีกุจอเข้ามาด้วยสีหน้าดีขึ้นเพราะคิดว่าเจ้านายอย่างจันทร์เจ้าอาจจะคิดหาทางออกได้แล้ว
“ช่วยติดต่อขอพบคุณทิวากรให้หน่อยค่ะ”
“ทิวากร เอ๋ คุณทิวากร ชวัลกรน่ะเหรอคะ?”
“ค่ะ ขอด่วนเลยนะคะ”
เห็นสีหน้าสงสัยปนแปลกใจของเลขาเธอก็ขี้เกียจจะอธิบายเลยเอ่ยย้ำอีกครั้ง ทำให้อีกฝ่ายรีบรับคำและเดินออกจากห้องทำงานไปแม้สงสัยแต่ก็ไม่มีสิทธิ์ถาม ทำได้แค่คิดในใจ
“แล้วเราจะได้เห็นดีกัน ถ้าอยากจะเหยียบจันทร์นักก็จะไปหาถึงที่แล้วเฮียจะได้รู้สึกพ่ายแพ้จนกระอักเลือดตายอีกครั้ง”
จากตอนแรกจะไม่สนใจเรื่องในอดีต แต่ดูเหมือนเขาจะอยากรื้อฟื้นนักเธอก็จะลงไปเล่นกับใจเขาอีกครั้ง แม้ว่าครั้งนี้เธออาจจะพ่ายแพ้ก็ตาม
คอนโดหรูหราในเครือ TC
ร่างสูงเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นก่อนจะนั่งลงบนโซฟาสีเทาขนาดใหญ่ที่นำเข้าจากอิตาลี ภายในห้องพักหรูหราขนาดใหญ่มีพื้นที่ใช้สอยกว่าพันตารางเมตร แน่นอนว่าราคาของมันก็ไม่ใช่ธรรมดาเพราะเป็นโครงการที่แพงที่สุดในไทยเลยก็ว่าได้
เขายกมือขึ้นนวดคลึงขมับหลังจากได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม ปกติงานหลักของเขาในตระกูลคือการดูแลกาสิโน ผับ บาร์และดูแลเงินทุนสนับสนุนในหลายโครงการของพวกนักพัฒนาที่มีสมองแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เขาไม่ได้ใจบุญแต่หวังผลกำไรต่างหาก
ส่วนป๊า ลุงและอาก็รับผิดชอบดูแลธุรกิจเบื้องหน้าอย่างการเป็นบริษัทที่ทำด้านอสังหาฯ ขนาดใหญ่ถือว่าไม่ได้รวยจนติดท็อปสิบแต่ก็ไม่ได้ดูด้อยจนพวกตำรวจหรือสรรพากรจับตามองว่าทำไมดูรวยผิดปกติ
ตระกูลเขาทำงานช่วยกันมีหน้าที่รับผิดชอบต่างกันดังนั้นกฎในบ้านก็สำคัญ ทุกรุ่นจะต้องมีผู้นำซึ่งปัจจุบันมีปู่เตโชคุมบังเ**ยนอยู่ แต่อีกไม่นานติณณ์จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำซึ่งทุกคนต่างเห็นชอบ รวมถึงเขาด้วยที่ถือว่ามีสิทธิ์เหมือนกันเพราะเป็นหลานคนโตของลูกชายคนที่สองของปู่เตโช แต่ก็นั่นแหละคนอย่างเขาเหมาะกับการทำงานในที่ลับมากกว่าในที่แจ้ง
“คุณซัน”
เวกัสเดินเข้ามาภายในห้องด้วยความเคยชินก่อนจะเอ่ยปากเรียกเจ้านาย ซันเลิกคิ้วเป็นเชิงให้พูดมาเพราะเขาว่างไม่ได้ทำอะไรสามารถรายงานได้เลย
“คุณจันทร์เจ้าพยายามให้คนติดต่อขอเข้าพบคุณซันครับตั้งแต่เช้าแล้วไม่ทราบว่า จะให้พบไหม?”
มือขวาคนสนิทเอ่ยเว้นจังหวะก่อนจะลอบมองสีหน้าผู้เป็นนายไปด้วย เขาไม่แน่ใจว่าผู้หญิงคนนี้มีน้ำหนักในใจของเจ้านายมากน้อยแค่ไหน แต่เรื่องแค้นเนี่ยเขาฟันธงเลยว่าแค้นจริงในตอนนั้นซันถอยหลังและไม่ยุ่งกับผู้หญิงคนนั้นอีก
ไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตาม ผู้หญิงคนนี้อาจจะพลาดเองที่เข้ามาในวงจรของซันอีกครั้ง
“ถ้าบอกว่าไม่ให้พบก็คงจะหาทางมาจนได้สินะ”
ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาดุดันนัยน์ตาคมกริบเขาเอ่ยเสียงเย็นเมื่อนึกถึงท่าทางไม่ยินยอมและต่อต้านของเธอแล้วคงจะไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ
“งั้นตอบรับยัยนั่นไปว่าจะพบตอนเย็นที่เตกีลาผับ”
“ครับ”
เวกัสรับคำด้วยสีหน้าแปลกใจที่เจ้านายยอมเธอง่าย ๆ ทั้งที่แสดงออกว่าเกลียดมาก แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่เขาจะมาสงสัย ชายหนุ่มผมสีขาวใบหน้าผสมผสานรับคำ ก่อนจะเดินออกจากห้องของผู้เป็นนายไป
“เดี๋ยว เอียจะได้กลับบ้านเมื่อไหร่”
“อีกไม่กี่วันแล้วครับ เด็กวัยกำลังซนแต่สอนง่ายเดี๋ยวฟาบิโอจะเป็นคนไปรับถึงโรงเรียนเลยคุณซันไม่ต้องเป็นห่วง”
“อืม”
เมื่อมือขวาออกไปแล้วเขาก็เหม่อมองไปนอกระเบียงกระจกก่อนจะเหยียดยิ้มเมื่อเวลาแก้แค้นของเขากำลังจะมาถึง ทั้งที่ปล่อยเธอไปแล้วตั้งหลายปี แต่คราวนี้เธอก้าวเข้ามาเองเขาก็จะจัดการทบต้นทบดอกให้สาสมกับไฟแค้นที่ลุกโชนอยู่ในใจ
“ฉันเกลียดเธอจนแทบคลั่ง”
เกิดมาไม่เคยมีใครกล้าท้าทายและต่อต้านเขามาก่อนมีเพียงเธอคนเดียวที่ทำแบบนั้น จันทร์เจ้าผู้หญิงที่กล้าลองดีไม่ยอมอยู่ในการควบคุมแต่ต่อจากนี้เธอจะต้องอยู่ในการควบคุมของเขา