1
รักศิกาญจน์ ยอดกตัญญู มองตัวเลขในลิฟต์เลื่อนไล่ระดับไปจนถึงชั้นห้าสิบแปด ซึ่งอยู่บนสุดของอาคาร Asarak ชุดที่ใส่อยู่ตอนนี้ ไม่ได้ทำให้ปลื้มกับสถานที่เล๊ย แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ เลยต้องมาตามคำเรียกร้องของผู้มีพระคุณ
“สวัสดีค่ะ คุณพี่ตุ่ม”
กระพุ่มมือไหว้เลขาใหญ่ นั่งอยู่โต๊ะตัวแรก หน้าห้องทำงานของรองประธาน กรรมการแห่ง Asarak Venture (Public) Co., Ltd.
“สวัสดีค่ะ นี่คุณน้องรักใช่มั้ยคะ”
ราตรีละสายตาจากเอกสารไปทักทายสาวสวย ยืนยิ้มให้อยู่หน้าโต๊ะทำงานของตัวเอง มือก็กระพุ่มระดับอกเพื่อรับไหว้
“ค่ะ”
“มายก้อด! ไม่ได้เจอกันแค่ไม่กี่ปี โตเป็นสาวแล้วก็สวยออร่าจับมากค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ คุณพี่ตุ่มก็สวยขึ้นกว่าเมื่อก่อนม้ากเลยค่ะ” คนถูกชมว่าสวยลากเสียงตรงคำว่าม๊ากยาวและสูงกว่าปกติ พร้อมกับยิ้มหวานๆ
“ปากหวานไม่แพ้คุณแรมเลย ว่าแต่มาถึงนี่ มีอะไรให้พี่ช่วยมั้ยคะ หรือว่า...” ราตรีปรายตาไปหาประตูห้องของเจ้านาย
“คุณท่านให้น้องรักมาค่ะ สะดวกให้น้องรักเข้าพบมั้ยคะ”
“เดี๋ยวพี่ไลน์แจ้งคุณปั่นก่อนนะคะ พอดีมีแขกอยู่ค่ะ คุณน้องรักนั่งรอก่อนนะคะ”
“ได้ค่ะ”
“จะรับอะไรดีคะ เดี๋ยวให้น้องจัดมาให้”
“ไม่เป็นไรค่ะ น้องรักเรียบร้อยมาแล้วค่ะ”
“แต่พี่ว่ารับดีกว่าค่ะ เพราะกว่าจะเสร็จคงอีกสักพัก อะไรดีคะ ชา กาแฟ น้ำผลไม้”
“น้ำผลไม้ก็ได้ค่ะ”
“อ้อๆ ของว่างคุณปั่นเป็น Banana Berry Crape นะคะ คลีนด้วยค่ะ คุณน้องรักสนใจมั้ยคะ”
“อืม…”
รักศิกาญจน์คิดนิดหนึ่ง อันที่จริงก็อยากลองของคลีนๆ บ้างแหละ แต่ๆๆ กลัวเจ้าของจะไม่พอใจ หาว่าอยากเทียบรุ่น
“ไม่ดีกว่าค่ะ แค่น้ำผลไม้ก็พอค่ะพี่ตุ่ม”
“ได้เลยค่ะ เดี๋ยวพี่จะให้เด็กพาไปรอห้องรับรองนะคะ”
“อุย จะนานขนาดต้องไปรออีกห้องเลยเหรอคะ”
“น่าจะค่ะ นี่คุณปั่นเพิ่งไลน์มาบอกว่าอีกสักพักค่ะ”
“โอเคค่ะ”
รักศิกาญจน์เดินตามเด็กของราตรีไปยังห้องที่ว่า ตรงมุมขวาสุดของชั้นนี้ มีอาร์มแชร์หนังสีขาวหลายตัว โต๊ะกลางเข้าชุดกัน กางเกงสี่ส่วนผ้าฮานาโกะกับเสื้อยืดพอดีตัว ไม่ใช่ชุดเหมาะสำหรับมาที่นี่เลย ถ้ารู้ว่าจะต้องแกร่วรอนานเป็นชั่วโมง คงจะวกกลับไปเปลี่ยนก่อน
“เฮ้อ จะทำไงได้ล่ะ ก็มาแล้วนี่ รอก็รอละกัน”
คิดอย่างเบื่อๆ แล้วหย่อนบั้นท้ายดินระเบิดไปหาอาร์มแชร์ ขุดมือถือจากกระเป๋าเป้หนังแท้สีน้ำตาล มาท่องโลกโซเชียลฆ่าเวลา แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร เสียงข้อความจากแอปพลิเคชันไลน์ก็ดังขึ้น เป็นเพื่อนที่นัดเจอกันเย็นนี้นั่นเอง
Nana: อยู่ไหนวะเมิง
RakJa: Asarak
Nana: มันที่ไหนล่ะวะ
RakNaJa: ออฟฟิศคุณชายปั่นว่ะ
Nana: ไปทำเชี่ยอะไรวะ
RakNaJa: ธุระให้คุณท่าน
Nana: หอย สรุปมึงทำงานกะท่านละเหรอ
RakNaJa: Nope แค่มาทำธุระให้เฉยๆ
Nana: อ๊าว อยู่ๆ ทำไมท่านถึงมาใช้มึงล่ะ
RakNaJa: ก็กูไปไหว้ท่านตามคำนั่งคุณนายแม่ เสร็จแล้วเลยถูกใช้ให้มานี่ล่ะ
Nana: อืม ว่าแต่อีกนานป่าวกว่าจะเสร็จ
RakNaJa: ไม่น่าจะเกิน 2 ชม
Nana: นัดยังเฟิร์มอยู่ใช่ปะวะ
RakNaJa: อืม
Nana: เค กูจะได้บอกอีกะทิกับอีจีน่า พวกมันยังไม่เข้ามาอ่าน
KaTi: ไม่ต้องๆ กูมาละ
JeeNa: ใช่ กูด้วย
Nana: เอ่อๆ พอเรื่องแดกนี่ รีบเชียวนะ
RakNaJa: เค ไว้ปะกันที่เดิมว่ะ แยกย้าย
รักศิกาญจน์ไม่ค่อยชอบแชตนานๆ เลยรีบปิดแอปพลิเคชันไลน์ก่อน แบบไม่สนใจว่าเพื่อนจะคุยอะไรต่อ ไว้เปิดครั้งหน้าค่อยอ่าน อีกทั้งยังอยากจะเข้าไปศึกษารายละเอียดการลงทะเบียนเรียนต่อในมหาวิทยาลัยเดิม ที่จบปริญญาตรีมา เสร็จแล้วพรุ่งนี้จะได้หาข้อมูลในการร่อน resume หาที่ทำงานสักที
นั่นเลยทำให้ลืมเวลาที่นั่งรอเกือบสองชั่วโมงไปแล้วด้วยซ้ำ
“คุณน้องรักคะ” เสียงนี้ทำเอาสะดุ้งน้อยๆ จนต้องรีบหันไปมองก็เห็นคนที่พามานั่งตรงนี้ยืนยิ้มอยู่
“คะ?”
“คุณปั่นให้เข้าพบได้แล้วค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
รองเท้าผ้าใบที่ถอดแล้วยกสองขาขึ้นมานั่งขัดสมาธิระหว่างรอ ถูกเจ้าของรีบสอดเท้าขาวบางเข้าไป ไม่กี่อึดใจก็ลุกเดินด้วยท่าทีกระปรี้กระเปร่า ถึงจะคุ้นเคยกับคนในบ้านราชรักษ์มาตั้งแต่จำความได้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เข้ามาในห้องผู้บริหารใหญ่
“สวัสดี เชิญ”
อาชา อัศวราราชรักษ์ รับไหว้คนเข้ามาด้วยท่าทีไม่อินังขังขอบใดๆ ขณะปรายตาไปหาอาร์มแชร์หน้าโต๊ะไม้สักเนื้อดีเคลือบมันเงาวับ
“ขอบคุณค่ะ” รักศิกาญจน์ขัดเคืองในท่าทีไม่น้อย ในใจก็ท่องไว้ว่า
“เย็นไว้ๆ มาทำธุระให้คุณท่าน”
“ชื่ออะไรนะเรา”
ประธานแห่ง Asarak ยกขาไขว้กัน ดวงตาก็จับจ้องอยู่กับใบหน้ารูปหัวใจ ผิวแก้วขาว เปล่งปลั่ง และแทบจะปราศจากเครื่องแต่งแต้มใดๆ หรือถ้าแต่ง ก็เนียนเกิน จนเขามองไม่ออก
“รักศิกาญจน์ค่ะ”
กี่ปีเชียววะไม่ได้ปะกัน ทำเป็นลืมชื่อฉันเหรอคุณชาย
“ชื่อที่คุณแม่เรียกเธอน่ะ”
“ก็น้องรักคะ”
นายก็ยังเรียกฉันประจำเลย ทำเป็นมาถาม เดี๊ยะๆ เดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยวเลย
“ไม่ใช่ยัยแคระเร๊อะ” คนถามกระตุกยิ้มตรงมุมปากเล็กน้อย
“ไม่ใช่ค่ะ” คนตอบหน้าบึ้งอย่างไม่ปิดบัง เสียงนั้นก็หนักนิดๆ เพื่อบอกให้รู้ว่าไม่ชอบใจ
“อายุ” แต่อีกคนไม่สน แล้วยังถามต่อหน้าตาเฉย
“คะ”
คนฟังยักคิ้วขึ้นสูง แค่นี้ทำเป็นจำไม่ได้ นายห่างฉันแค่...อืม...กี่ปีวะ ใช่สิบหรือเปล่าวะ
“อายุเราน่ะ”
“ยี่สิบห้าค่ะ”
“พักนี้ไม่ค่อยเห็น หายไปไหนมาล่ะ”
“เรียนค่ะ”
“ที่ไหน”
“อังกฤษค่ะ”
“หมายถึงที่เรียนน่ะ”
“มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด บรูกส์ค่ะ”
“ต่ออะไร ตรี หรือโท”
“โทค่ะ คุณท่านให้มาบอกคุณ...” ไม่อยากให้เขาสักเรื่องส่วนตัวมากไป เลยจะรีบบอกธุระ
“สาขาอะไร” แต่ก็ยังไม่วายถูกแทรกอยู่ดี
“ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศค่ะ คุณท่านไม่สบายค่ะ อยาก...”
“เรียนมาแล้วจะไปทำงานอะไร”
แทรกอีกละ ปั๊ดเหนี่ยวสักหน่อยดีมั้ยวะ อย่าเล่นกับวัยรุ่นของร้อนนะคุณชาย
“เยอะแยะค่ะ คุณท่านอยากให้คุณไปหาท่านค่ะ คุณ...”
“เช่นอะไรล่ะ” อีกละ
“คะ?”
“ที่จะไปทำงานน่ะ เรียนด้านนี้มา จะเอาไปทำอะไรได้นักหนา”
“เยอะแยะไปค่ะ”
“เช่นอะไรล่ะ”
“ก็อาจจะเป็น เจ้าหน้าที่ในองค์การระหว่างประเทศ เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ เจ้าหน้าที่ขององค์กร พัฒนาเอกชนระหว่างประเทศ นักธุรกิจระหว่างประเทศนักวิชาการ นักวิจัย และนักการทูต”