EP 25

1234 Words
“คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ” “คุณแม่คิดว่าดูคนไม่ผิดหรอก แรมเป็นคนดี ซื่อสัตย์มาตลอด ส่วนน้องรักเป็นเด็กดี ว่านอนสอนง่าย แค่คุณแม่หาผู้ชายดีๆ ไว้ให้ รับรองอีกไม่นาน ก็คงจะได้อุ้มหลานแล้วล่ะ ไม่ใช่คนเดียวด้วยนะ คุณแม่จะขอให้มีสักสามหรือสี่เลยเชียว” “แล้วคุณแม่คิดว่ายัยแคระจะยอมให้จับคู่ง่ายๆ เหรอครับ” “คุณแม่ไม่ได้จับแบบโจ่งแจ้งนี่จ๊ะ แต่ค่อยเป็นค่อยไป แบบไม่ให้รู้ตัวด้วย” “เมื่อกี้ก็ยังพูดปาวๆ ว่า Plan B อยู่เลย ยัยแคระจบโทจากอังกฤษนะครับ จะไม่รู้ความหมายของคุณแม่เลยหรือไงครับ แล้วยังให้ควงสองหนุ่มไปในป่านี่เหรอครับ ค่อยเป็นค่อยไป” “ป่าที่ไหน นั่นที่ดินของเรา และมีคนของเราตั้งสองคน” “ที่ดินที่เราไม่เคยไปไม่รู้กี่ปี่ต่อกี่ปีด้วย แล้วผมก็ไม่เห็นว่าสองหนุ่มนั้น จะมีทีท่ากับยัยแคระสักนิดเดียวด้วย” “เดี๋ยวก็มีเองแหละ คุณแม่จะค่อยๆ เปิดตัว ค่อยๆ พาออกงาน จับแต่งตัวสวยๆ ให้ใส่เครื่องเพชรดีๆ แล้วก็ยังจะมีคุณแม่คอยหนุนหลังอีกทั้งคน ผู้ชายหน้าไหนกล้าเมินน้องรักบ้างล่ะ” “หวังสูงขนาดนั้น เผื่อตอนตกลงมาเจ็บกับจุกด้วยก็แล้วกันนะครับ” ถ้าเป็นปกติ เวลาแม่พูดอะไรไม่เข้าหู หรือไม่ตรงกับใจ อาชาก็จะหุนหันกลับทันที ไม่สนใครหน้าไหนทั้งนั้น แต่วันนี้กลับใจเย็น ยอมนั่งคุยกับแขกที่เดินมาสมทบได้ “ฉันแค่อยากรอดูทรงของสองคน ว่าจะสนยัยแคระหรือเปล่าเท่านั้นล่ะ กลัวคุณแม่จะผิดหวัง จนอดได้หลานมาสืบสกุลหรอก” 6 ขณะนั่งตรวจบัญชีอยู่ในห้องทำงานของคุณท่าน รักศิกาญจน์ก็นิ่วหน้าให้กับรายจ่ายประจำเดือนของบ้าน ที่ค่อนข้างสูง และไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะค่าอาหาร เมื่อทำเป็นกราฟออกมาแล้ว ยิ่งเห็นชัด จนต้องกลับไปดูว่ามีการจัดงานเลี้ยงบ่อยขนาดไหน แต่ทุกอย่างก็ปกติ ไม่มีงานไหนจัดใหญ่โตเป็นพิเศษ แค่เลี้ยงแขกธรรมดาทั่วๆ ไป บางทีก็เป็นแขกที่ติดต่อเข้ามาขอซื้อเครื่องประดับ เพราะคุณท่านมีเยอะจนไม่รู้ว่าจะเก็บไว้ไหน เลยจะต้องขายออกไป แต่ก็จะคัดคนมากๆ การต้อนรับขับสู้ก็จะเน้นของดีๆ ราคาแพงอยู่บ้าง บางทีก็จะมีรายการต่างๆ หรือพวกยูทูบเบอร์ดังๆ ขอเข้ามาสัมภาษณ์เรื่องเครื่องเพชรบ้าง ของเก่าแก่บ้าง แต่ก็ไม่บ่อยและจำนวนคนมาแต่ละทีก็ไม่ได้เยอะ จนรายจ่ายพุ่งขนาดนี้ เลยจะไปดูว่ามีอะไรผิดปกติในครัวบ้าง วันนี้คุณท่านมีออกงานเลี้ยงตอนเย็นเท่านั้น เลยงดรับแขกช่วงบ่ายไป มีแค่แขกช่วงสายๆ แต่ก็แค่เลี้ยงน้ำชาและแขกห้าคนเท่านั้น อาหารไม่มีอะไรพิเศษ ระหว่างเดินไป ก็สำรวจความเรียบร้อยของบ้านไปด้วย ต้นไม้ในกระถางส่วนที่ไม่ได้ตั้งตามทางผ่าน มีคราบฝุ่นติดอยู่ตามกระถาง ใบและกิ่งก้านอย่างชัดเจน แปลว่าไม่ได้รับการดูแลอย่างน้อยสองสัปดาห์ ฝุ่นตามขอบหน้าต่าง เสา ในมุมอับก็ยังมีให้เห็น หากจะเทียบกับค่าจ้างและจำนวนคนทำงานในบ้าน ถือว่าบกพร่องต่อหน้าที่เลยทีเดียว เกือบสามเดือนแล้วที่รักศิกาญจน์ทำงานมา รู้ระบบระเบียบของบ้าน ทั้งจากปากคุณท่านเอง จากปากปานชีวัน ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบทุกอย่างภายในบ้าน แต่กลับปล่อยปละละเลยเรื่องความสะอาดบางจุด พอเดินไปใกล้ๆ ครัว ก็จะได้ยินเสียงคนคุยกันดังออกมา ซึ่งเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว “มาถึงนี่เลยเหรอคะ” นิ่มกำลังง่วนอยู่หน้าเตาหันมาเห็นพอดี เลยร้องทักด้วยน้ำเสียงแกนๆ คือไม่นุ่มนวล และไม่ได้แข็งกระด้างมากเกินไป แต่คนฟังแล้วแปร่งๆ หู “มาหาน้ำดื่มค่ะ” รักศิกาญจน์ไม่เห็นว่านิ่มจะสั่งเด็กในครัว จัดหาน้ำให้ใดๆ หลังจากบอกไปแล้ว ผิดกับตอนอยู่ต่อหน้าคุณท่าน นิ่มรับหน้าที่เป็นแม่ครัวใหญ่แทนป้านวลผู้เป็นแม่ ที่อายุมากแล้ว ส่วนใหญ่จะนอนพักอยู่ในห้อง ซึ่งจะจัดไว้ให้คนงานในบ้านอย่างเป็นสัดส่วน “ฝีมือทำอาหารของนิ่มจะสู้นวลไม่ได้เท่าไหร่ แต่เห็นตั้งใจอยากรับช่วงต่อ คุณท่านก็เลยให้โอกาส เวลามีงานใหญ่ๆ กับมีแขกพิเศษๆ นวลก็จะออกมากำกับอีกที แต่ก็ต้องตักอาหารไปให้นวลชิมก่อนเสิร์ฟตลอดนะ เท่าที่คุณท่านจำได้ เพราะบอกไว้แบบนั้น ส่วนจะทำตามคำตลอด ทุกวันหรือเปล่า อันนี้คุณท่านก็ขี้เกียจตามสืบ” คุณท่านบอกไว้แล้วตั้งแต่มาทำงานได้ไม่นาน รักศิกาญจน์ก็เห็นว่าจริง นอกจากจะทำอาหารสู้แม่ไม่ได้แล้ว นิ่มยังไม่มีใจรักทางนี้สักเท่าไหร่ ที่อยากทำน่าจะเพราะค่าจ้างงาม มีที่อยู่ ที่กินให้ทั้งตัวเอง สามี และลูกอีกสองคนด้วย แถมยังแอบเอาญาติฝ่ายสามีมาอยู่เป็นครั้งคราว “ก็พี่นิ่มน่ะสิป้า ชอบแอบเอาญาติผัวมาอยู่ตลอด ของกินดีๆ ก็หอบไปให้กันกินในห้องโน่น กว่าไก่จะทำงานเสร็จมากิน บางทีเหลือแต่ผัก เบื่อมาก...” อันนี้บังเอิญตัวเองเดินไปทางสวนหย่อมข้างบ้าน เลยได้ยินไก่คุยโทรศัพท์กับญาติเมื่อวันก่อน ก็แปลกใจอยู่เหมือนกันว่าทำไมนิ่มทำแบบนั้น จะบอกเจ้านายก็เหมือนจะขี้ฟ้องไปหน่อย เลยจะค่อยๆ จับตาดูเอาเอง “จะกินอะไรบ้างล่ะพวกมึง รีบๆ บอกมา จะทำเพิ่มให้” นิ่มถามคนงานนั่ง ที่อยู่ตรงโต๊ะอเนกประสงค์ แต่รักศิกาญจน์ไม่คุ้นหน้าเลย เดาว่าไม่ใช่คนงานด้วยซ้ำ อาจจะเป็นญาติของใครบางคนในนี้ และอาจรวมญาติของนิ่มเข้าไปด้วย อาหารแต่ละจานล้วนแล้วแต่เป็นของดีๆ เมื่อมองไป กำลังจะปรุงก็เป็นพวกอาหารทะเลทั้งนั้น “บ้านนี้เลี้ยงอาหารดีแท้” ก็เย็นนี้เจ้านายไม่อยู่ แล้วจะทำให้ใคร ถ้ากินเองก็ควรจะเลือกราคากลางๆ ไม่ใช่กุ้งตัวใหญ่ ปูม้าอีกเพียบ ที่เด็ดไปกว่านั้น เห็นไวน์ขาวตั้งอยู่บนโต๊ะด้วย “น้องรักมาทำอะไรในนี้คะ” ขณะกดน้ำจากเครื่องทำน้ำเย็นกับน้ำร้อนตรงมุมห้องครัว ปานชีวันก็เข้ามาพอดี เสียงนั้นออกจะห้วนนิดๆ ผิดกับตอนอยู่ต่อหน้าคุณท่านเช่นกัน ท่าทีก็แข็งไปหน่อย “มาหาน้ำดื่มค่ะ” ปานชีวันพยักหน้ารับรู้แค่นั้น แล้วแยกตัวไปนั่งโต๊ะเดียวกับสี่ห้าคน ดูการคุยกันแล้วก็รู้ว่าสนิทพอสมควร นั่นแปลว่าถ้ามีญาติของนิ่มอยู่ด้วย ก็ต้องรู้กันแหละ แต่ไม่บอกเจ้านาย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD