“ไม่มีงานทำหรือไง” คนตัวเล็กยู่ปากอย่างไม่สบอารมย์นัก โดยไม่ทันได้สังเกตุเลยว่ามีสายตาเพชรฆาตกำลังจ้องมอง และเจ้าของสายตาคู่นั้นก็เผลอแอบยิ้มไปกับการกระทำของเธอ
“จะกินข้าว หรือจะให้ฉันกินเธอ เลือกเอา” คนตัวเล็กบนหน้าตักแกร่งหันขวับจ้องมองคนข้างหลังตาเขียว แต่มีหรือที่กาวินจะสะทกสะท้าน
“เดี๋ยวนะ เรารู้จักมักจี๋ หรือสนิทกันตอนไหนไม่ทราบคะ คุณซุปตาร์” เอิงเอยหันไปแหวใส่คนตัวโตเสียงเบา เธอไม่สามารถขยับไปไหนได้เลย เมื่อคนข้างหลังยังคงรัดรอบเอวเธอไว้แน่นอย่างนี้
“คนไม่สนิทกัน เค้าจูบกันหรอ ฉันเพิ่งรู้” อร๊ายยยย!!! หน้ามึนเกินไปแล้วนะไอดาราบ้านี้ เดี๋ยวปั๊ดฟ้องแดดดี้เลย รับรองตานี้ไม่มีชีวิตอยู่บนโลกนี้ต่อไปแน่
แต่เราจะทำร้ายคนคนนึงได้เลยเหรอ ชีวิตคนทั้งชีวิตเลยนะ เอิงเอยกำลังตีกันกับความคิดของตัวเอง
ขณะที่กาวินยกมือขึ้นเล่นผมของคนบนหน้าตักแผ่วเบา พลางตักข้าวต้มกินไป บังคับป้อนเอิงเอยไป อย่างอารมย์ดี
กาวินเองก็ไม่รู้การกระทำของตัวเองเหมือนกัน เขารู้แค่ว่า อยากมาเจอก็มา อยากทำอะไรก็ทำ แม้จะเพิ่งห่างกันเมื่อครู่ แต่ก็คิดถึงกลิ่นหอมของสาวน้อยจนไม่เป็นอันทำอะไร ถึงกับเทงานออกมา ไม่ใช่เพราะเยลลี่มาสายหรอก แต่เขาเองที่ไม่มีกะจิตกะใจทำงาน
@คอนโดหรูใจกลางเมือง
เอิงเอยพยายามหลอกล่อกาวินด้วยความเร็วแสงในขณะที่กาวินเองก็ไม่ได้ตามเธอแต่อย่างใด แม้จะผิดคาดไปบ้างแต่ก็ใจชื้นขึ้นมาที่ซุปตาร์อย่างกาวินไม่ใช่โรคจิตที่คอยสะกดรอยตามเธอ
ยัยเด็กนั่นตลกชะมัด ฉันจะตามเธอทำไม ในเมื่อเราอยู่ที่เดียวกัน คิดแล้วก็ขำ
“ยิ้มอะไรพี่วิน”
“เปล่า ทำไมไม่นอน”
“เพราเพิ่งอาบน้ำเสร็จ กำลังจะนอน”
“อืม นอนเถอะ อีกสองวันไปงานเปิดตัวหนังพี่ไหม”
“เพราพาเพื่อนไปด้วยได้ไหม”
“คนไหน”
“เอิงเอย แต่เพราขอถามเพื่อนก่อนนะ ไม่รู้นางจะว่างไหม”
“เอาซิ เดี๋ยวพี่จัดที่ให้”
“โอเค เพรานอนก่อนนะ ยังมึนอยู่เลย”
กาวินลูบผมน้องสาวแผ่วเบาก่อนเดินแยกเข้าห้องนอนตัวเองไป
“พี่วินแปลกๆ แหะ ปกติไม่เห็นให้พาเพื่อนไปเลย แอบสนใจยัยเอยหรือเปล่าเนี่ย” กะเพราเพียงแค่สงสัยเท่านั้น เพราะตั้งแต่เด็กจนโต กาวินจะหงุดหงิดทุกครั้งกะเพราชวนเพื่อนมาบ้าน หรือเพื่อนของเธอบางคนก็ไปเกาะแกะกาวินจนเขาอาละวาดจนต้องแยกย้ายไปคนละทิศละทาง
“คนถือตัว หยิ่งยโส แบบนายกาวิน เทย์เลอร์ ยอมให้อลิสเบศธ์ เทย์เลอร์ พาเพื่อนไปได้ น่าคิด น่าคิด” กะเพราทำได้เพียงแค่คิดก่อนทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มขนาดหกฟุต หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเข้าแอพพลิเคชั่นไลน์
กะเพรา : อีกสองวันว่างไหม ไปดูหนังเป็นเพื่อนหน่อย
เอิงเอย : ได้ซิ จะไปพร้อมกันหรือ ไปเจอที่โน่น
กะเพรา : เจอที่ห้างก็ได้
เอิงเอย : เค
กระเพรา : เสร็จแล้วฉันต้องไปธุระต่อ แกกลับเองได้ไหม
เอิงเอย : ไม่มีปัญหา แล้วไปกี่โมง
กะเพรา : หนังรอบดึกอะ สี่ทุ่ม
เอิงเอย : เค
ครืด ครืด ครืด
ยังไม่ทันวางโทรศัพท์จากการพิมพ์แชทกับกะเพรา ก็มีสายเรียกเข้าจากใครบางคนโทรเข้ามา ซึ่งไม่ต้องเดาเลยว่าใคร เพราะเจ้าตัวถือวิสาสะบันทึกชื่อให้เรียบร้อย
[พี่วิน]
เอิงเอยกรอกตาไปมาด้วยความรำคาญ ก่อนซุกมือถือเข้าใต้หมอน ไม่อยากรับสายของซุปตาร์โรคจิต
ติ้ง ติ้ง ติ้ง
[ข้อความเข้าจากพี่วิน : ถ้าไม่รับสาย ฉันจะไปหาเธอที่คอนโด]
“โอ้ยยยยย ไอ้บ้านี่ต้องการอะไรเนี่ย” เอิงเอยแอบโวยวายเงียบๆ ขณะที่สายเรียกเข้าดังขึ้นอีกครั้ง
ครืด ครืด ครืด
[พี่วิน]
“เฮอ ต้องรับซินะ”
“ฮัลโหล~” น้ำเสียงยานคางถูกส่งไปยังปลายสายบ่งบอกว่าเธอกำลังหลับไหลอยู่ และเขาเสียมารยาทมากแค่ไหนในการโทรมาก่อกวน แหม สกิลการเอาตัวรอดของฉันเนี่ยเป็นเริศ
(ฉันรู้ว่าเธอยังไม่นอน) ไอบ้านี้ มีตาวิเศษหรือไง
“มีอะไรคะ”
(พูดกับคนที่เกือบได้กัน ให้มันดีๆ หน่อยไม่ได้เหรอ) กวนประสาทชะมัด
“ถ้าโทรมากวนฉันจะวางแล้วนะ” กาวินเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองโทรมาทำไม รู้แค่ว่ากดดูรูปเธอทางอินสตาแกรมได้สักพักแล้วก็กดเบอร์โทรหาเธอทันที อาการแบบนี้มันเรียกว่าอะไรนะ
(เรียกพี่วิน เหมือนตอนนั้นหน่อยซิ) ฉันว่าตานี่โรคจิตแล้วละ
“ทำไมฉันต้องทำแบบนั้น”
(ให้เรียกก็เรียกเถอะน่า อย่าถามมากได้ไหม จะนอนแล้ว) เอ้า!! ตาบ้านี้ จะนอนก็นอนไปซิยังมีหน้ามาหงุดหงิดใส่คนอื่นอีก บ้าหรือเปล่า
“พี่วิน”
(ขอหวานกว่านี้ เอาแบบตอนนั้นอะ ตอนที่ฉันเกือบดูดนมเธออะ) โรคจิตจริงแหละ หรือมีอาการทางประสาท
“พี่วินขาาาา~ พอใจยังค่ะ ฉันจะนอนแล้ว”
“เรียกพี่วิน แล้วทำไมยังแทนตัวเองว่าฉัน”
“แล้วจะเอายังไงฮะ ไม่พอใจก็วางไปเลยไป”
“พี่วินว่า บางทีหนูคงลืมว่ารูปอะไรอยู่ที่พี่นะ” หน็อยยยย!!! น่าโมโหชะมัดแล้วสรรพนามนั่นน่าขนลุก
“พี่วินหนูเอยจะนอนแล้วนะคะ ฝันดีค่ะ!!”
เอิงเอยไม่รอให้ปลายสายเอ่ยอะไร เธอชิงตัดสายไปก่อนแล้วโยนโทรศัพท์มือถือลงบนที่นอนขนาดหกฟุต หรือฉันควรเปลี่ยนเบอร์ดีไหมนะ แต่ถ้าแด๊ดถามจะตอบยังไงล่ะเอิงเอยถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนหลับตาลงช้าๆ จนผลอยหลับไปในที่สุด
เอิงเอยคงไม่รู้ว่าสรรพนามที่เธอเรียกกาวินทำให้ตอนนี้มีคนที่ใกล้บ้าหนึ่งอัตรา เพราะตั้งแต่เอิงเอยวางสายไปกาวินยังคงจ้องมองโทรศัพท์ แล้วยิ้มออกมาเหมือนคนบ้าหลายนาทีแล้ว
“หนูเอยหรอ" กาวินยิ้มให้กับสรรพนามน่ารักที่คนตัวเล็กเอ่ยขึ้นมาเพื่อเรียกแทนตัวเองระหว่างเขาและเธอ แน่นอนว่าเขาพอใจมัน
"บ้าไปแล้วมั้งไอ้วิน สงสัยจะเอ็นดูเพื่อนน้องสาวมากไปหน่อย” ยัยนี่มันน่าแกล้งขนาดนี้ใครมันจะไปอดใจไหววะ กาวินวางโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียงแล้วค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงช้าๆ จนหลับไปในที่สุด
[04.06 AM.]
“เป็นอะไรว่ะเนี่ย นอนไม่หลับเลยวะ” จะหลับลงได้ยังไงในเมื่อหัวสมองเห็นแต่ภาพเอิงเอยตลอดเวลา ใบหูก็ได้ยินแต่เสียงหวานเรียก พี่วินหนูเอยจะนอนแล้วนะคะ ฝันดีค่ะ
สงสัยต้องไปหาหมอบ้างแล้วละ อาจจะเป็นโรคอะไรบางอย่าง หรือไม่ก็ยัยเด็กนั่นต้องทำอะไรฉันแน่ๆ “นอนไม่หลับโว้ยยยยยยย!!” กาวินพลิกไปพลิกมาจนผลอยหลับไปจริงๆ ตอนไหนก็ไม่รู้