บทที่ 5
เดิมพัน...อีกครั้ง
“สรุปแกมีเรื่องอะไรกับคิมหันต์บอกฉันมานะว่าเรื่องมันเป็นยังไง” เบลเอ่ยคาดคั้นเอาคำตอบทำเอาฉันที่นั่งอยู่ไม่รู้จะพูดยังไง
“ถ้าฉันบอกแกอย่าโกรธนะ”
“ไม่รับปาก”
“ได้ไงกัน งั้นฉันไม่บอกแกแล้ว” ฉันยู่หน้าใส่เบลทันที รู้ดีว่านิสัยอย่างเบลหากรู้เรื่องแล้วคงปรี๊ดแตกแน่ ๆ
“บอกมา อย่าต้องให้ฉันไปคาดคั้นกับคิมเอาเองนะวา”
“ฉันไว้ใจแกนะเบล คือว่า คือเรื่องทั้งหมด...” ฉันเล่าเรื่องทั้งหมดให้เบลอย่างละเอียดฉันรู้ว่าเบลคงโกรธมากกับสิ่งที่ทิมทำกับฉันแต่เบลเลือกที่จะเก็บอาการไว้เพื่อให้ฉันสบายใจ
“ไอ้ทิมนี่มันนรกส่งมาเกิดชัดๆ!” เบลกำหมัดแน่นพยายามควบคุมอารมณ์โกรธของตัวเอง
“กะ...แกอย่าไปบอกใครนะ” ฉันเอ่ยเสียงสั่นเครือว่าจะพยายามกลัดกลั้นน้ำตาไว้แล้วเชียวแต่ไหนกลับไหลออกมาได้ล่ะ “คืนนั้นฉันเองก็...ก็ยอมเขาเหมือนกัน”
“ไอ้บ้าคิมก็เหมือนกัน ฉันไม่คิดเลยว่าจะทำกับแกแบบนี้”
“ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นไปแล้วและฉันก็ลืมไปมันแล้วด้วย อย่าไปรื้อฟื้นมันอีกเลยนะ”
“แกก็เป็นซะแบบนี้แล้วจะตามใครเขาทัน แต่เรื่องแบบนี้ฉันไม่ปล่อยง่าย ๆ หรอกนะถ้าไอ้ทิมมันไม่โดนฉันตบสักฉาดอย่ามาเรียกฉันว่าเบลเลย”
“เบล...ไหนแกบอกจะไม่โกรธไง”
“ยายวา เรื่องแบบนี้ใครเขาก็ต้องโกรธกันทั้งนั้น ไม่รู้ล่ะ ฉันจะให้ป๋าฉันไปจัดการมัน!” ป๋าที่ว่าก็คือคุณพ่อของเบลนั่นแหละ
“ไม่เอาน่า เรากลับกันเถอะนะ ๆ ฉันเหนื่อยมาก ๆ เลย” ฉันปล่อยลูกอ้อนใส่
“แกก็เป็นซะแบบนี้ ไปกลับกันเถอะเดี๋ยวฉันไปส่ง”
“จ้าาาา”
T-C Apartment
ฉันเดินลงจากรถของที่เบลขับมาส่งที่หอเป็นประจำ ปกติเบลจะมาส่งฉันทุกวันเพราะบ้านของเบลไม่ไกลจากหอพักของฉันมากนักหรือไม่ฉันก็จะนั่งรถเมล์ไปเองบ้างเพราะเกรงใจเพื่อนสนิทไม่อยากให้ต้องมารับมาส่งบ่อย ๆ
“ขับดี ๆ ล่ะ บายจ้า” ฉันโบกมือลาเบลก่อนที่เบลจะขับเคลื่อนตัวรถยนต์คันหรูออกไป
แต่ทว่า...
เมื่อฉันหมุนตัวกลับกำลังจะเดินเข้าไปข้างในแต่กลับถูกร่างของใครคนนึงขวางเอาไว้!
หมับ!
“ทะ...ทิม!” ใช่! เขาคือทิม แฟนเก่าของฉัน!
“วา เราคิดถึงวานะ” ทิมจับข้อมือของฉันไว้แน่นและดึงร่างของฉันเข้าหาร่างกายของคนตรงหน้า
“ปล่อยเรานะนายทำกับเราขนาดนี้ยังมีหน้ากลับมาหาเราอีกเหรอ!” ฉันพยายามสะบัดข้อมือออกอย่างแรงแต่ไม่เป็นผล ยิ่งดิ้นมากเท่าไหร่ทิมยิ่งบีบข้อมือของฉันแรงขึ้นมากเท่าตัว!
“วา วาฟังทิมฟังกันก่อนสิ”
“ฟังบ้าอะไร จะมาแก้ตัวอะไรกับฉันอีก!” สรรพนามเปลี่ยนไปฉันกับทิมเราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว เขามันก็แค่ผู้ชายเลว ๆ คนหนึ่งเท่านั้น
“ทิมรักวานะ ทิมขอโทษทิมผิดไปแล้ว” ไม่พูดเปล่าทิมดึงฉันเข้าไปกอดแต่ฉันต้านแรงของเขาเอาไว้
สัมผัสสกปรกแบบนี้มันน่ารังเกียจยิ่งกว่าขยะเสียอีก!
“ปล่อยนะทิม! เราเลิกกันแล้ว”
“ไม่ปล่อย จนกว่าเราสองคนจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม”
“การที่ทิมเอาเราไปใช้หนี้มันก็เลวมากพอแล้ว เราไม่แจ้งตำรวจจับทิมก็ดีแค่ไหนแล้ว เลิกยุ่งกับเราสักที”
“ได้! ถ้าวายังดื้อแบบนี้เราคงต้องบังคับวาแล้วล่ะ” ทิมล้วงไปที่กระเป๋ากางเกงก่อนจะหยิบผ้าสีขาวออกมา
อย่าบอกนะว่ามัน...!
“อย่านะ อื้อ!” ฉันดิ้นเมื่อเห็นว่าผ้านั้นเป็นยาสลบแน่ ๆ แต่ทิมกลับล็อกตัวฉันไว้แน่น
พรึ่บ!
ฉันพยายามกลั้นลมหายใจให้ได้นานที่สุดแต่ด้วยความที่ฉันออกแรงเยอะจนเผลอทำให้หายใจเข้าไปเต็มปอดอยู่หลายทีและตอนนี้รู้สึกได้ว่าสติของฉันใกล้จะหมดลงทีละนิด
“ฮึ วาทำให้เราต้องเป็นแบบนี้เองนะ”
“อะ...ไอ้คนเลว อื้อ”
จนกระทั่ง...
วูบ!
KIMHUN'S PART :
@สนามแข่งรถ K
“คู่ต่อไปใครวะ” ออทัมที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เอ่ยถามขึ้นมาเสียงเรียบ
“ไอ้ทิมกับไอ้เลนท์”
“ไอ้ทิมอีกแล้วเหรอวะ นี่มันยังไม่เข็ดอีกหรือไง”
“แต่กูได้ยินมันพูด ๆ กันนะเว้ยว่ามันเอาเอวาเป็นของเดิมพัน” ผมหันขวับมองไปที่ไอ้ลูคัสทันที ว่าไงนะยายเอวางั้นเหรอ นี่เธอกลับมาคบกับไอ้ทิมอีกงั้นเหรอ!
ก็อย่างว่าแหละเธอมันหลอกง่ายแค่เจอมารยาของไอ้ทิมเข้าไปก็ตายเป็นเบือ
“นั่นไง มันมาละ” ออทัมปรายตามองไปยังข้างล่างผ่านกระจกใสในห้องวีไอพีที่คนข้างนอกไม่สามารถมองเห็นเข้าไปยังด้านในได้
“เชี่ย! เลือดที่มุมปากเอวา” ผมมองไปตามไอ้ลูคัสทันทีก็พบว่าไอ้ทิมลากตัวเอวาเอาไว้ข้างกายและที่มุมปากของเธอก็มีรอยเลือดอยู่ “ไอ้เหี้ยทิมแม่งเกินไปว่ะ มันกล้าตบผู้หญิงได้ไงวะ”
“แล้วมึงจะไปเดือดร้อนแทนทำไมวะ” ผมเอ่ยขึ้นกดเสียงต่ำแต่ในใจก็ร้อนรนไม่แพ้กัน แม้ว่าเธอจะไม่ได้เป็นอะไรกับผมก็เถอะแต่ในเมื่อคนเคยนอนด้วยกันอะนะ และเธอถูกทำร้ายมาแบบนี้ด้วยผมก็ต้องรู้สึกเป็นธรรมดานั่นแหละ...มันก็แค่นั้น ไม่มีอะไรมากกว่านั้น
“ไอ้ทิมมันก็ทำแบบนี้บ่อยไปมึงจะตกใจอะไรวะ” ก็จริงอย่างที่ออทัมพูดนั่นแหละไอ้ทิมมันทำแบบนี้มาหลายครั้งเวลามันติดหนี้มันก็จะเอาสาว ๆ ของมันนั่นแหละมาใช้หนี้แทนถ้าไม่ยอมมันก็ใช้กำลังอย่างเช่นตอนนี้
แต่ทำไมพอเป็นเธอ...ผมกลับใจเย็นไม่ลงวะ!
“ไอ้เชี่ยคิมมึงมีความรู้สึกไหมวะ เอวาเธอถูกทำร้ายมึงเฉยได้ไง” ไหงมาโบ้ยให้ผมสะงั้นล่ะ
“กูกับยายนั่นไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วทำไมกูต้องรู้สึก”
“ไม่รู้สึกจริงเหรอวะ หน้ามึงดูเครียดมากเลยนะ” ไอ้ออทัมกระตุกยิ้มขึ้นอย่างรู้ทัน
“เดี๋ยวโดนกูเตะหน้าหรอกไอ้ออทัมเงียบไปเลยมึง”
“แต่ยายเอวากูขอล่ะมึงช่วยทำอะไรสักอย่างเถอะ อย่างน้อยยายนั่นก็เป็นเพื่อนของเบลเพื่อนมึงนะ”
“จริงอย่างที่ออทัมมันพูดนะมึง” ออทัมพูดเสริม
จริงๆ ก็ไม่ได้อยากทำเลยนะเห็นว่าพวกมันขอมาหรอก
ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายตรงไปยังใครคนหนึ่งทันที
“บอกไอ้เลนท์ด้วยว่าถ้ามันชนะกูจะยกหนี้ให้มันทั้งหมด...แลกกับยายนั่น!” ว่าจบผมกดวางสายและยักคิ้วให้พวกมันเป็นแทนคำพูด
“เชี่ยยย ป๋าคิมแม่งน่ากลัวจัด”
“ก็พวกมึงขอกูเอง กูก็จัดให้”
“มึงอยากได้ยายเอวามากกว่าว่ะ”
“ไอ้ห่าออทัมมึงปากดีอีกแล้วนะ กูอุตส่าห์ช่วย”
“ครับ ๆ ป๋า ผมขอโทษครับ ผมผิดไปแล้ว” อยากจะยกเท้าขึ้นมาถีบพวกมันทั้งสองตัวเลยจริง ๆ คนอุตส่าห์หวังดีช่วยไอ้ห่านี่ก็แซวกันอยู่ได้
“การแข่งขันจะเริ่มแล้วว่ะ”
“มึงจะลุ้นกันทำไม ในเมื่อก็รู้อยู่แล้วว่าผลมันจะเป็นยังไง”
อีกด้าน
“ฉันชื่อเลนท์ ไม่ต้องกลัวเพราะฉันไม่ได้จะทำร้ายเธอ” หลังจากที่ถูกทิมพาตัวมาที่สนามแข่งรถเขาก็ทำกับฉันเป็นครั้งที่สองเขาพาฉันมาเป็นของเดิมพัน แต่เขาแพ้ฉันเลยต้องตกอยู่ในสถานะสิ่งของที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย
‘ถ้าเธอขัดขืนฉันฆ่าเธอทิ้งแน่’ เสียงนั้นอย่างดังกึกก้องอยู่ในหัวเสียงของทิมคนที่ขึ้นชื่อว่าเคยเป็นคนที่ฉันรัก
“คะ...คุณคงรู้ว่าฉันไม่เต็มใจ” ฉันนั่งลงเอ่ยกับเขาเสียงแผ่วเบาภายในห้องเก็บตัวของผู้แข่งขัน
“ฉันช่วยเธอได้เท่านี้แหละ โชคดี” คนที่ชื่อเลนท์ลุกขึ้นทำท่าจะก้าวขาเดินออกไปจากห้องนี้
“ดะ...เดี๋ยวสิ คะ...คุณคะ” ฉันรีบก้าวตามเขาไปทันทีแต่ทว่ากลับชนกับร่างของใครเข้าอย่างจัง!
ตุ้บ!
“อ๊ะ” ฉันหลับตาแน่นเมื่อร่างของฉันกระแทกกับร่างของใครคนหนึ่งเข้า
“จะไปไหน” เสียงทุ้มของผู้ชาย
เอ๊ะ...! เสียงนี้มัน!
“นะ...นาย” ฉันเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้า ใช่! เป็นเขาจริง ๆ ด้วยเขาคือคิมหันต์!
“เจอกันอีกแล้วนะ” ฉันรีบผละออกก่อนจะถอยหลังให้ห่างจากเขาทันที
“ทะ...ทำไม นายถึงมาอยู่ที่นี่” ยิ่งก้าวหนีเขายิ่งก้าวตาม ใบหน้าของเขานิ่งเรียบจนฉันรู้สึกกลัว พลันทำให้ภาพเก่า ๆ ย้อนกลับเข้ามาฉายซ้ำอีกครั้ง
“ฉันเป็นเจ้าของที่นี่”
“เราหมายถึงว่าทำไมนายถึงเข้ามาอยู่ในห้องนี้”
“ฉันก็เข้ามาหาของเดิมพันของฉันไง”
“ยะ...อย่าบอกนะ!” เหมือนเป็นเวรกรรม ยิ่งหนียิ่งเจอ
“ไอ้เลนท์มันซาดิสจะตาย ฉันช่วยเธอไว้นะเนี่ย ขอบคุณสักคำยังไม่มี”
“ไม่มีใครบ้าเท่านายแล้วล่ะ”
“จริงเหรอเอวา หืมม” คิมหันต์เดินเข้ามาประชิดใกล้ร่างของฉันเรื่อย ๆ จนร่างของฉันติดกับกำแพง
“ถอยออกไปนะ” ฉันดันร่างหนาให้ออกห่างเบนใบหน้าออกห่างแต่มือของคิมหันต์กลับจับข้อมือของฉันเอาไว้ให้พ้นทางก่อนจะก้มใบหน้าให้อยู่ในระดับริมฝีปากของฉัน
“ถ้าเสียงดังฉันเอาตรงนี้แน่”
“ออกไป...อุ๊บ!” คิมหันต์ฉวยโอกาสที่ฉันเผลอเข้าล็อกใบหน้าของฉันก่อนจะกดริมฝีปากลงมาโดยไม่ทันตั้งตัว ไอร้อนแผ่ซ่านไปทั่วทั้งห้องเมื่อเขายังคงบดจูบอย่างไม่รู้จักพอ
ฉันไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลยสักนิดเพียงแค่กรีดร้องอยู่ในใจ สัมผัสเริ่มอ่อนลงจากรุนแรงกลับนุ่มนวลจนฉันเกือบเคลิ้มเผลอไผลกับรสจูบที่เขามอบให้ ฉันหลับตาพริ้มรับสัมผัสนั้นอย่างเต็มใจหัวใจกลับสั่นคลอนไปกับรสจูบของเขา
“อยาก...” คิมหันต์ผละใบหน้าออกอย่างอ้อยอิ่มเขากระซิบที่ข้างหูของฉันด้วยเสียงแหบพร่า
“มะ...ไม่นะ”
“รู้แล้วน่า ไม่เห็นต้องทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้เลย”
“กะ...ก็นาย”
“เดี๋ยวไปส่ง”