8.ล่า

1042 Words
เมื่อจัดการเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มผู้อ้างตัวว่าชื่อจอห์นก็หมุนร่างจะก้าวจากไป แต่หญิงสาวก็ผวาเข้าไปคว้าแขนของเขา “พี่พาหนูออกไปจากที่นี่ด้วยค่ะ หนูกลัว” เสียงของหล่อนสั่นรัว “อืม ไปสิ” เขาพยักหน้า หล่อนรู้สึกปลอดภัยเมื่อได้ก้าวไปพร้อมกับเขา “หนูไปบ้านพี่ได้ไหม” หญิงสาวถามอีกเมื่อพ้นจากผับมาแล้ว “ไม่ได้” เขาปฏิเสธ “พี่มีแฟนแล้วเหรอ” “เปล่า พี่ไม่มีใคร และไม่คิดจะมีด้วย” “ค่ะ” หล่อนเข้าใจ แค่นี้ก็ถือดีว่าเป็นประสบการณ์ครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตของหล่อนแล้วละ... ในเวลาเดียวกัน ณ มุมส่วนตัวของแก๊งกะโหลกดำ ไอ้ตาปลาดุก-เด่น ราชัน ในสภาพพันผ้าขนหนูผืนเดียว ก้าวออกมาจากห้องน้ำ ชายตามองไปทางหญิงสาววัยรุ่นที่ทั้งเนื้อทั้งตัวพร้อมจะเปลือยเปล่า เพราะมีเพียงผ้าขนหนูพันกายหลวม ๆ เช่นกัน หล่อนกำลังนั่งเล่นมือถืออยู่ปลายเตียง เด่น ราชัน สั่งหล่อนมาจากเอเย่นต์ คนอย่างเขาไม่เคยมีความรักให้กับผู้หญิงคนใด แค่มีความต้องการอันเป็นธรรมชาติ ก็จะปลดปล่อยกับผู้หญิงที่พร้อมจะพลีกาย เดนคนที่สามารถพลิกตัวเองมาเป็นถึงระดับหัวหน้าแก๊ง คุมลูกน้องนับร้อย ย่อมไม่ธรรมดาอยู่แล้ว แม้แต่เรื่องผู้หญิง เด่น ราชันก็ถือว่าเป็นระดับนักรักออกไปในทางดุเดือดเลือดพล่านอยู่ไม่น้อย เขาผลักร่างของหล่อนลงไปนอนแผ่หลาบนเตียง กระชากผ้าขนหนูพันกายของหล่อนหลุดออกมา เผยให้เห็นเรือนร่างงดงามไม่มีที่ติของหญิงสาว เด่น ราชันตามเข้าไปประกบ “โอยยย... หนูเจ็บ” หญิงสาวส่งเสียงออกมา นิ้วจิกลงไปบนแผ่นหลังของเด่น ราชัน ไม่ใช่เพราะเสแสร้ง หล่อนเจ็บปวดจริง ในเมื่อเขาไม่ได้เล้าโลมหล่อนเลย เด่น ราชันไม่ได้สนใจกับสภาพร่างกายของหญิงสาว สักพักเท่านั้น ด้วยความเป็นระดับมืออาชีพ หล่อนส่งเสียงครวญคราง นิ้วจิกบนแผ่นหลังของเด่น ราชันด้วยอารมณ์ซ่านสยิว ทันใดนั้นเอง ประตูห้องกลับมีเสียงเคาะดังขึ้น ปกติ ถ้าหากไม่มีเรื่องคอขาดบาดตายจริง ๆ ไม่มีใครกล้าเข้ามาขัดจังหวะในช่วงเวลานี้เด็ดขาด เด่น ราชันผละออกจากร่างเปลือยของหญิงสาว คว้าผ้าขนหนูพันกาย พร้อมอนุญาตให้สมุนเข้ามา “มีอะไรวะ” “คนของเราสองคนเจอมันที่ผับครับ ตอนนี้ผมให้สกัดทุกเส้นทางเอาไว้แล้ว” “แน่ใจหรือวะว่าเป็นมัน” “ใช่ครับลูกพี่” “ดี เดี๋ยวกูตามไปสมทบ” “ครับลูกพี่” สมุนรับคำแล้วหมุนร่างก้าวออกจากห้องไปในที่สุด “เราน่าจะมีปัญหาแล้วละ” หนุ่มที่กำลังขับขี่บิ๊กไบค์อยู่เบาเครื่องและจอดลงข้างทางในที่สุด “คะ” หญิงสาวขมวดคิ้วสงสัย ไม่เข้าใจความหมายที่เขาพูดถึง “มีปัญหาอะไร” “คุณลงตรงนี้ได้ไหม” “ทำไมล่ะคะ” “ผมบอกไม่ถูก เอาเป็นว่าถ้ายังไม่อยากตาย...” ใบหน้าของหล่อนซีดลง เมื่อได้ยินคำพูดแบบนั้นหลุดออกมาจากปากของเขา “คุณเห็นตึกนั่นไหม วิ่งไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” “เอ่อ...” “ไป๊!” น้ำเสียงของชายหนุ่มค่อนข้างจริงจัง หญิงสาวหน้าเสีย ไม่ใช่เพราะน้ำเสียงเด็ดขาดของเขาเพียงอย่างเดียวหรอก แต่เป็นเพราะเพิ่งเห็นว่าชายหนุ่มล้วงหยิบวัตถุดำมะเมื่อมออกมาจากใต้เสื้อแจ็กเกต ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านั่นคือ ปืนพก! “วิ่ง!” เสียงของชายหนุ่มตะโกน หญิงสาวสับฝีเท้าเร็วที่สุด แม้ว่าสภาพร่างกายของหล่อนค่อนข้างเคลื่อนไหวได้ช้าแค่ไหนก็ต้องเร่งฝีเท้าให้เต็มสปีด ปัง! ปัง! ปัง! กระสุนชุดแรกดังขึ้น หลังจากนั้น ก็พบว่ามีกลุ่มของชายฉกรรจ์มากกว่า 6 คนปรากฏตัวขึ้น ปัง ๆ ๆ ๆ ๆ! ปัง ๆ ๆ ๆ ๆ! เป้าหมายของกระสุนไม่ได้อยู่ที่ร่างของหญิงสาว แต่อยู่ที่ชายหนุ่มบนหลังบิ๊กไบค์ ที่ดังสลับกับเสียงของกระสุนปืน ก็คือเสียงคำรามของพาหนะสองล้อคันนั้น “หยุดมันให้ได้!” ปัง ๆ ๆ ๆ ๆ! ปัง ๆ ๆ ๆ ๆ! กระสุนแต่ละนัดที่พุงเข้าหาชายหนุ่มบนหลังบิ๊กไบค์กลับไม่สามารถหยุดเขาเอาไว้ได้ เสียงเบิ้ลเครื่องคำรามดังกระหึ่มอีกครั้ง ก่อนบิ๊กไบค์จะหายวับไปกับตา “บ้าเอ๊ย! ลูกพี่ด่าแน่!” ไอ้คนเป็นหัวหน้าทีมหลุดปากสบถออกมาอย่างฉุนเฉียว ก่อนจะทำท่าเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ “กูรู้แล้ว นังผู้หญิงคนนั้น... ไปจับตัวมันมา!” “จะดีหรือครับ” “ดีสิวะ” ความคิดของพวกมันย่อมเป็นไปตามลักษณะนิสัยใจคอ ไม่ได้สนใจกับอะไรทั้งนั้น ด้วยว่าแต่ละคนผ่านคดีอาชญากรรมมานับครั้งไม่ถ้วน ไม่มีอะไรที่ไม่กล้าทำ ก่อนที่จะทันมีใครขยับตัว ได้ยินเสียงคำรามของบิ๊กไบค์ย้อนกลับมา “เฮ้ย!” ทุกคนหลุดปากอุทาน หันขวับไปมองที่มาของเสียง ก็พบว่า บิ๊กไบค์อยู่บนฟุตบาท กำลังพุ่งตรงเข้าหา ไม่เพียงแค่นั้น ชายหนุ่มบนหลังบิ๊กไบค์เล็งปืนมาที่ร่างของพวกมัน ฟุด! ฟุด! ฟุด! ฟุด! ฟุด! ฟุด! กระสุนถูกลั่นออกมาเพียงแค่ 6 นัดเท่านั้น พวกมันก็หงายหลังล้มทั้งยืน ไม่มีโอกาสแม้กระทั่งจะได้ยิงต่อสู้ด้วยซ้ำ ป่านนี้ดวงวิญญาณยังงงไม่หายว่าตัวเองตายไปได้ยังไง เสียงคำรามของบิ๊กไบค์ดังกระหึ่มอีกครั้ง คราวนี้ทะยานหายไปกับโค้งถนนอย่างรวดเร็ว หกชีวิตของเดนนรกถูกสังเวยด้วยกระสุนปืนของนักฆ่าระดับพระกาฬอย่างไม่ต้องสงสัย น่าจะกลายเป็นข่าวดังในอีกไม่ช้า ใครกันที่จะสามารถลงมือได้อย่างเฉียบขาด ไม่มีผิดพลาดแม้แต่นิดเดียวแบบนี้ได้ ไอ้หกคนที่เพิ่งตาย น่าจะพอรู้นั่นแหละว่าเป็นฝีมือของใคร เพียงแต่โอกาสที่จะลุกขึ้นมาบอกกล่าว คงไม่มีอีกแล้วละ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD