ร่างเล็กถึงกับไม่พอใจมองค้อนที่เขาจะสั่งอาหารมาประชดเธอแบบนั้น ถ้าเขาสั่งมาจริงๆเธอคงกินไม่หมดและเสียดายตังค์แย่
" เดี๋ยวน้ำผึ้งสั่งเองค่ะ พี่คะน้ำผึ้งเอาแกงเขียวหวาน ไข่เจียวกรรเชียงปู และมัสมั่นไก่ค่ะ ส่วนน้ำขอเป็นน้ำส้มแก้วนึงค่ะ ขอบคุณนะคะ "
ร่างบางสั่งเสร็จแล้วก็ยื่นเมนูให้กับพนักงานพร้อมกับเอ่ยขอบคุณที่เขาบริการเธออย่างดี ซึ่งเธอเอ่ยแบบนี้เป็นประจำเวลาที่เธอไปทานข้าวข้างนอกกับเพื่อนๆ แต่สิ่งเล็กน้อยที่เธอทำตอนนี้อยู่ในสายตาของสตีเฟ่นส์ทั้งหมด
" น้ำผึ้งสั่งเรียบร้อยแล้วนะคะ ต่อไปก็ไม่ต้องพูดขู่พูดประชดน้ำผึ้งแบบนี้แล้วนะ ถ้าคุณสั่งมาจริงๆมันเปลืองมากเลยรู้ไหม คิดถึงคนที่เขาไม่มีจะกินบ้างสิคะ "
" ถ้าผมไม่พูดไปแบบนั้นคุณจะสั่งในสิ่งที่คุณอยากกินรึไง คุณจะตามใจผมทุกเรื่องไม่ได้หรอกนะ ผมพาคุณมากินข้าวคุณก็ควรได้กินในสิ่งที่คุณอยากกินไม่ใช่มาตามใจผมแบบนี้ "
" ทราบแล้วค่ะบ่นเป็นลุงเลย คนแก่ก็งี้เอะอะก็บ่นเอะอะก็บ่น "
" ผมยังไม่แก่ขนาดนั้นสักหน่อย "
ใช่ถึงเขาจะอายุปาไป 36 แล้วก็ตามทั้งๆที่หญิงสาวเพิ่งจะ 23 ปีแต่แล้วไงล่ะ หน้าตาของเขาก็ยังเหมือนเด็กหนุ่มอยู่
" ค่ะ...ไม่แก่เล๊ยยย ห่างกันแค่รอบนิดๆเองเนอะ "
" น้ำผึ้ง "
ร่างสูงที่มองเธอตาเขียวปั่ด พร้อมกับเปล่งวาจาออกมาอย่างคาดโทษ
" ฮ่าๆๆ "
ร่างบางที่หัวเราะออกมาอย่างชอบใจที่ได้แกล้งผู้เป็นเจ้านายได้ เขาในตอนนี้มองเธอตาเขียวปั่ดไม่พอใจที่เธอว่าเขาแก่ เธอก็แค่หยอกเขาเล่นแค่นั้น ความจริงเขายังไม่ได้แก่อะไรด้วยซ้ำ เมื่อเทียบหน้าตากับอายุแล้วก็แตกต่างกันอยู่พอสมควร เขาหน้าเด็กถึงแม้ว่าจะอายุปาไป 36 แล้วก็ตาม
" น้ำผึ้งไม่แกล้งแล้วค่ะ อาหารมาเต็มโต๊ะแล้วกินกันเถอะค่ะน้ำผึ้งหิวแล้ว "
น้ำผึ้งที่รีบพูดตัดบทเพราะกลัวว่าร่างสูงตรงหน้าจะไม่พอใจที่เธอเล่นกับเขาเหมือนจะสนิทสนมมากเกินไป
ตลอดการทานมื้อเที่ยงนี้เป็นไปอย่างมีความสุข แต่สตีเฟ่นส์ที่ไม่เป็นอันกินข้าวเพราะมัวแต่มองหน้าของน้ำผึ้งอยู่โดยที่ไม่ให้เธอรู้ตัว ส่วนน้ำผึ้งเองก็พอใจกับอาหารเลิศรสที่อยู่ตรงหน้าอาหารมากมายตระการตาทำให้เธอละจากความสนใจนี้ไม่ได้ ทั้งหน้าตาอาหารและรสชาติอาหารเธอเพิ่งเคยลิ้มลองเป็นครั้งแรก สายตาลุกวาวเปล่งประกายแห่งความสุขฉายแววออกมาให้สตีเฟ่นส์ได้เห็นตลอดทั้งการกินมื้อเที่ยง
เมื่อทั้งสองคนทานข้าวกันเสร็จแล้วก็กลับเข้ามายังบริษัทแล้วตั้งใจทำงานของตัวเองต่อจนตอนนี้ถึงเวลาเลิกงานโทรศัพท์ของน้ำผึ้งก็ดังขึ้นมา
" ฮัลโหล ว่าไงบิวตี้มีอะไรหรือเปล่า ฉันยังไม่เลิกงานเลย ตอนนี้ไม่สะดวกคุยเท่าไหร่ "
น้ำผึ้งที่กระซิบคุยกับเพื่อนในสายอย่างเบาที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ เธอไม่อยากรบกวนผู้เป็นเจ้านายในเวลางานถึงแม้ว่าอีกแค่สิบนาทีจะเลิกงานแล้วก็เถอะ แต่ตอนนี้ก็ใช่ว่าจะถึงเวลาเลิกงานสักหน่อยคงไม่ดีแน่ถ้าเธอจะใช้โทรศัพท์มาคุยเรื่องส่วนตัวแบบนี้
" คืนนี้ไปแดนซ์กัน ยัยเคทกับยัยน้ำหวานชวนไปร้านที่เพิ่งเปิดใหม่ แล้วพวกมันก็บังคับว่าแกห้ามปฏิเสธ เพราะฉะนั้นตอนนี้ฉันกำลังจะกลับบ้านแล้วเจอกันที่โน่นตอนสามทุ่มนะยะ ห้ามเลทห้ามสาย ห้ามเทเข้าใจไหม "
" ถ้าจะบังคับขนาดนี้ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้แล้วค่ะ ต้องไปแล้วล่ะ ไว้เดี๋ยวคืนนี้ค่อยเจอกันแล้วกัน ดีเหมือนกันจะได้ไปฉลองที่ได้งานใหม่ไปทีเดียวเลย สุดสัปดาห์นี้จะได้พักผ่อนนอนที่ห้องอย่างชิวๆ "
" เออๆเจอกันๆ "
หลังจากวางสายจากเพื่อนชายใจหญิงไปแล้วน้ำผึ้งก็ก้มหน้าก้มตาอ่านแฟ้มงานเอกสารต่อจนตอนนี้เป็นเวลาเลิกงานแล้ว เธอจึงเก็บข้าวของเตรียมตัวจะกลับบ้าน "
" วันนี้น้ำผึ้งคงไม่ต้องทำโอทีแล้วนะคะท่านประธาน เพราะว่าอ่านจบพอดีเลย ถ้าอย่างนั้นขอตัวกลับก่อนเลยละกันนะคะ "
คนตัวเล็กพูดเพียงแค่นั้นก็เก็บของแล้วลุกขึ้นเตรียมจะเดินออกไป
" แล้วคุณกลับยังไง "
สตีเฟ่นส์ที่ไม่ได้รั้งเธอเอาไว้เพราะเห็นว่าเธอทำงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธออ่านเอกสารจนครบทุกเล่มแล้ว และบวกกับวันนี้เพื่อนของเขาก็นัดไปแฮงเอาท์ด้วยกัน เพราะไม่ได้เจอหน้ากันมาหลายเดือนแล้ว หลังจากที่เขามัวแต่ยุ่งๆตอนอยู่ที่อเมริกา คืนนี้เขากะจะไปปลดปล่อยสักหน่อย
" แท็กซี่ค่ะ "
" งั้นเดี๋ยวคุณออกไปพร้อมผมแล้วกันเดี๋ยวผมแวะไปส่งคุณเอง "
ร่างบางรีบยกมือขึ้นมาปฏิเสธเป็นพัลวันด้วยความเกรงใจ
" ไม่เป็นไรเลยค่ะ คอนโดของน้ำผึ้งอยู่แถวนี้เองไม่ไกลเลย น้ำผึ้งกลับเองดีกว่า ขอตัวเลยละกันนะคะ สวัสดีค่ะท่านประธาน "
เธอตัดบทออกไปเพราะไม่อยากให้เขาไปส่งจากนั้นก็รีบยกมือไหว้แล้วเดินออกมาจากห้องของเขาทันทีโดยที่ร่างสูงของสตีเฟ่นส์ยังไม่ทันได้เอ่ยทัดทานเธอด้วยซ้ำ เขาอยากจะไปส่งเธอเพราะอยากจะเห็นที่อยู่ของเธอ แต่วันนี้แผนก็ดันล่มงั้นก็ไว้คราวหน้าแล้วกัน
" คุณน่าค้นหากว่าที่ผมคิดนะอารยา "