“นายไม่ต้องห่วง เรื่องระหว่างฉันกับจารวี ยังไงคนแรกที่ต้องรู้ก็คือแม่ของฉัน แม่ไม่มีวันปล่อยให้พ่อบงการเรื่องคู่ครองของฉันอย่างแน่นอน” นั่นอาจจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผล ที่ทำให้ฌอนเลือกที่จะทำตามข้อเสนอของจารวี
“ผมกลัวคุณปานมุกจะอาละวาดนะสิครับ”
“ถ้าเธอไม่อาย นายก็ปล่อยให้เธอแสดงอิทธิฤทธิ์จนหนำใจ”
“นายน้อยกำลังคิดจะทำอะไรเหรอครับ อย่าลืมนะว่าพ่อของเธอกับนายท่านเป็นเพื่อนรักกัน” อัศวินยังคงกังวลใจ กลัวความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของสองตระกูลจะสั่นคลอน เพราะฌอนเป็นต้นเหตุ
“เพื่อนรักแล้วไง เขาเป็นเพื่อนพ่อฉันนะ ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันสักหน่อย”
“นายน้อยครับ”
“เรียกอยู่ได้ แค่นี้นะฉันง่วงแล้ว”
“ง่วงก็กลับห้องสิครับ ผมเตรียมเอกสารที่นายน้อยต้องเซ็นไว้บนโต๊ะทำงานนะครับ”
“อืม... พรุ่งนี้เช้าเดี๋ยวไปจัดการให้”
“หมายความว่ายังไงเหรอครับพรุ่งนี้เช้า”
“ซักไซ้ไล่เรียงอยู่ได้ คืนนี้ฉันจะนอนกับเมียจบนะ”
“ฮะ! อะไรนะครับ”
“นายฟังไม่ผิดหรอก ก่อนออกไปอย่าลืมปิดไฟด้วยนะ” พอพูดจบประโยคฌอนก็ตัดสายจากอัศวิน ทำเอาผู้ช่วยคนสนิทของเขาถึงกับมึนงง เพราะปกติแล้วเจ้านายหนุ่มจะหวงความโสด แต่ทำไมเขาถึงคิดตกลงปลงใจกับจารวีอย่างง่ายดาย
ฌอนรั้งหญิงสาวร่างอรชรเข้ามาไว้ในอ้อมกอดของเขา เธอเป็นดั่งสิ่งล้ำค่าที่เขาตามหามาแสนนาน ไม่ว่าการเริ่มต้นของเขาและเธอ อาจดูแปลก ๆ จับต้นชนปลายไม่ถูก แต่สำหรับชายหนุ่มหญิงสาวคือสิ่งที่โชคชะตานำพาให้มาพบกัน
เขาจะทำให้ทุกวันให้เป็นวันที่ดี จนจารวีไม่อยากหย่าเลยคอยดู ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ภรรยาของเขาก็คือหญิงสาวคนนี้ คนที่เขาเพิ่งทำความรู้จักได้เพียงไม่กี่วัน
เช้าของวันใหม่ จารวีงัวเงียตื่นขึ้น เธอพยายามนึกถึงเหตุการณ์ของช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ก่อนจะรีบก้มลงไปสำรวจตัวเอง ซึ่งพบว่าชุดของเธอยังคงเป็นชุดเดิม ผ้าปูเตียงก็ไม่ได้ยับยู่ยี่ สภาพไม่น่าถูกฌอนลักหลับ
หญิงสวาได้เผยรอยยิ้มเล็ก ๆ ออกมาประดับบนใบหน้าของเธอ อย่างน้อย ๆ ฌอนก็ไม่ได้ฉวยโอกาส ในเวลาที่เธอเมา
Rrrr!!! พอมีสายเรียกเข้า ทำให้จารวีเอี้ยวตัวเอื้อมมือไปคว้าสมาร์ตโฟนขึ้นมากดรับสาย
ซึ่งมินดาตั้งใจโทรมาขอโทษจารวี เพราะเธอเองก็เพิ่งรู้ว่าญาติไม่ได้ไปตามนัด เขาเพิ่งส่งข้อความมาแจ้งเธอในตอนเช้าของวันนี้ จากนั้นหญิงสาวจึงรีบโทรหาจารวีทันที
“ฮะ! แกว่าอะไรนะ!” จารวีถึงกับสร่างเมา อาการแฮ็งค์หายไปในพริบตาเดียว เมื่อรู้ว่าอาจารย์คนนั้น ไม่ใช่คนเดียวกันกับสามีของเธอคนนี้
“แกฟังไม่ผิดหรอก ขอโทษนะยัยจา เดี๋ยวฉันจะหาคนใหม่ให้แก เอาแบบหล่อล่ำรวยแสนดี เฟอร์เฟ็กต์อย่างไม่มีที่ติเลย โอเคไหม... อย่าโกรธฉันเลยน๊า....”
“อาหารเช้าพร้อมแล้วนะครับ... ที่รักคุณตื่นหรือยัง” น้ำเสียงทุ้มดังแว่วมาจากด้านนอก สงสัยเช้านี้เขาคงให้พนักงานขึ้นโต๊ะที่ระเบียงของห้องรับประทานไปชมวิวไป ทำเอาจารวีปรับสีหน้าแทบไม่ทัน
“ไม่ทันแล้วละแก ผัวเรียกไปกินข้าวเช้าแล้ว แค่นี้นะ”
“เดี๋ยว! เดี๋ยว! เดี๋ยวก่อนยัยจา หูฉันเฝื่อนไปหรือเปล่าวะแก เมื่อกี้ฉันได้ยินแกพูดว่า... ผะ... ผะ ผัวเหรอ”
“อืม!”
“ใครอ่ะ... ผัวแก”
“ไม่รู้เหมือนกัน”
“ฮะ! แกบ้าไปแล้วเหรอ หรือแกเมาคลื่นจนเสียสติไปแล้ว”
“เปล่า”
“แกพูดว่าเปล่าไม่ได้นะยัยจา... โอ๊ย! ฉันจะบ้าตาย แกไปคว้าเอาผู้ชายที่ไหนมาทำผัวเนี่ย”
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่รู้ อยู่ ๆ เขาก็โผล่มา ฉันคิดว่าเขาเป็นญาติของแก ก็เลยจับให้เซ็นสัญญาซะเรียบร้อย จากนั้นเขาก็พาฉันไปจัดการเรื่องทะเบียนสมรส”
“ฮะ! ทะเบียนสมรส! ฉันไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าแกดี ถึงผู้ชายคนนั้นเขาจะเป็นญาติของฉันก็เถอะ แกก็ไม่ควรด่วนตัดสินใจจดทะเบียนสมรสกับเขา นี่แกตั้งใจจะหาพ่อของลูกไปด้วยเลยรึไง”
“อ้าว! ฉันก็ต้องทำให้ทุกอย่างให้มันสมจริงน่ะสิ แค่นี้นะเมาค้าง อยากซดอะไรร้อน ๆ”
“แกกับเขาเอากันจนมดลูกพังไปแล้วใช่ไหมยัยจา ทำไมแกทำอะไรติดจรวดแบบนี้วะ ไม่คิดจะโทรหาฉันบ้างเลยหรือไง”
“แล้วแกล่ะ ทำไมไม่คิดจะโทรหาฉัน”
“ก็คุณตรีภพของแกน่ะสิ ใช้งานฉันยังกับทาส หลายวันมานี้ฉันต้องออกแบบบรรจุภัณฑ์ ไม่รู้ว่าเขาจงใจหรือเปล่าให้ฉันแก้แบบเป็นว่าเล่น เกือบเที่ยงคืนก็ยังไม่ได้หลับได้นอนเลย”
“สงสัยเขาอยากให้แกอ่อยล่ะมั้ง”
“อ่อยกับผีน่ะสิ ปล่อยฉันไว้กับยามที่บริษัท ในเวลานี้เขาคือผู้ชายที่ฉันอยากสาปให้กลายเป็นหินมากที่สุดเลย”
“ปากกับใจไม่ตรงกันระวังมันจะเข้าตัวนะ”
“แกหยุดพูดเลยนะ ใครเขาจะเหมือนแกล่ะ แต่ละคืนเล่นไปกี่ท่าล่ะแม่คุณ!”
“อีเพื่อนชั่ว แค่ท่าเบสิกก่อนดีไหม ท่ายากมันต้องไล่ไปตามลำดับ ค่อย ๆ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ แกอย่าลืมสิฉันทั้งโสดแถมยังเวอร์จิ้นนะจ๊ะ”
ฌอนแอบได้ยินในสิ่งที่จารวีโต้ตอบกับเพื่อนรัก ทำให้เขาถึงเขายกยิ้มมุมปาก เพราะไม่เชื่อว่าหญิงสาวจะไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องบนเตียง ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้ใส่ใจ ถึงเธอจะเคยมีใครมาก่อน ขอแค่ปัจจุบันจารวีหยุดที่เขาก็เป็นพอ
“เหรอ... ขอให้แกโชคดีกับการมีผัวเป็นตัวเป็นตนนะยัยจา ส่วนฉันขออนุญาตใส่เกียร์เดินหน้า พุ่งชนกำแพงใจของคุณตรีภพก่อนแล้วกัน ลองดูสักตั้ง น้ำหยดใส่หินทุกวันหินมันยังกร่อนนับประสาอะไรกับใจของคน” มินดายังคงมีความมุ่งมั่นในการพิชิตหัวใจของตรีภพ ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกเขาไม่เคยชายตาแลเธอเลยสักนิ
“ใครน๊า... เพิ่งบอกกับฉันว่าจะสาปให้เขากลายเป็นหิน”
“ก่อนสาปแม่จะทำให้เขาคลั่ง จนหลงหัวปักหัวปำ ดูซิ! ผู้ชายอย่างคุณตรีภพจะเร่าร้อนสักแค่ไหน”
“แกก็พูดเกินไป แค่นี้นะ ฉันหิวแล้ว”
“หิวข้าวหรือหิวผู้ชาย”
“ฉันไม่ได้ไวไฟอย่างแกนะ ของแบบนี้มันต้องค่อยเป็นค่อยไป”
“จ้าแม่คนดี แล้วเจอกัน บ๊าย...บาย” เมื่อวางสายจากมินดา ใบหน้าและแววตาของจารวีได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง