- บ่ายวันถัดมา บ้านวัฒนะกุล -
ปกป้องนั่งถือไอแพดอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขกเขาอ่านข่าว และกราฟหุ้นที่แสดงผลอยู่บนหน้าจอไอแพด ทว่าเมื่อเช้าตื่นมาเขาก็รีบลุกไปที่หน้าต่างมองไปที่จอดรถตำแหน่งของเธอ
มันยังคงว่าเปล่า ...
เขาเดินไปจัดการกับตัวเองเมื่อตอนที่ลงมาข้างล่างก็เจอกับปกปราชญ์ที่ทำตาเขียวปั๊ดใส่เขา ก่อนที่ปกปราชญ์จะไปทำงานเขายกไม้เท้าขึ้นชี้หน้าของปกป้องผู้เป็นลูกชายเพียงคนเดียว
"ถ้าน้องเป็นอะไรไป แกต้องชดใช้ด้วยชีวิต"
"มันจะอะไรนักหนาอะพ่อ ก็แค่ลูกเพื่อนคนเดียว"
"ลูกเพื่อน ที่เป็นว่าที่คู่หมั้นแก"
"ผมไม่หมั้น!"
"แกต้องหมั้น"
สองพ่อลูกปะทะสายตากันอย่างไม่มีใครยอมใครทำให้สร้อยม่วงเดินเข้ามาห้ามศึกของพ่อลูกที่มักจะทะเลาะกันเป็นประจำเรื่องของม่านมัสลิน
ปกปราชญ์ไปทำงานกับลูกน้องทั้งสองคนเขารับราชการเป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในขณะที่ปกป้องไม่เอาด้านราชการ เขาก็พยายามพิสูจน์ตัวเองด้วยการทำธุรกิจนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศมาขาย และมีการผลิตสินค้าบางอย่างออกไปค้าขายที่ต่างประเทศจนประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ
สร้อยม่วงทำหน้าที่เป็นแม่บ้านดูแลลูก ส่วนบ้านของม่านมัสลินมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แทบจะทั้งประเทศ
บรื้นนนน!
รถมินิคูเปอร์คันเล็กสีดำขับเข้ามาจอดที่โรงจอดรถในตำแหน่งที่จอดของตัวเอง เธอก้มมองร่างกายของตัวเองดีๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน หญิงสาวชะงักเมื่อเจอกับปกป้อง
หัวใจของเธอเต้นรัวผู้ชายคนนี้คือคนที่เธอเรียกหาเขาในตอนที่เธอมีอันตราย แต่เขากลับหายไปเลย เธอเสียใจนะ แต่เธอชินกับความเย็นชาที่เขามีให้เธอแล้วละ ม่านมัสลินเดินเข้าไปหาปกป้องช้าๆ เธอสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอดเพื่อเรียกกำลังใจก่อนจะสวมกอดลำคอหนาจากทางด้านหลังเหมือนอย่างที่เคยทำ
"พี่ป้องงงง~ มานั่งรอมัสเหรอคะ"
ปกป้องไม่ตอบเขาวางแก้วกาแฟลงเมื่อตอนที่เธอคลายแขนเรียวออกจากลำคอหนา หญิงสาวมองเสี้ยวหน้าไร้ความรู้สึกของเขาเธอรู้สึกจุกที่อก ก่อนจะหอมแก้มชายหนุ่ม ทั้งซ้าย และขวาข้างละหนึ่งที
ฟอด~
"มัส!"
"มัสไปนอนก่อนนะคะ"
ม่านมัสลินใจเต้นแรงไม่ใช่เพราะได้เจอเขาด้วยความดีใจ แต่มันกลับเป็นความเสียใจที่ได้เจอเขาต่างหาก เธอเพียงแค่อยากทำตัวให้เป็นปกติที่สุด อย่างน้อยครั้งหนึ่งเธอก็ทำเต็มที่แล้วหากวันหนึ่งที่เธอถอยหลังออกมา เธอสัญญากับตัวเองว่าเธอจะไม่เสียใจ
กลิ่นน้ำหอมผู้ชายติดตัวเธออยู่ ปกป้องมองตามหลังม่านมัสลินไปจนลับตาเธอเดินไปทางฝั่งซ้ายเพื่อเข้าห้องของตัวเอง ปกป้องรีบดึงเสื้อของตัวเองมาดมกลิ่น นี่มันไม่ใช่กลิ่นของเธอเลย ไม่ใช่
กลิ่นของใคร ...
ปกป้องมองไปที่ประตูห้องของหญิงสาว เขาขมวดคิ้วยุ่งเดินไปหยิบกุญแจรถของม่านมัสลินที่วางเอาไว้ในตำแหน่งที่วางกุญแจรถของบ้านเขามองซ้ายมองขวาไม่เจอใครก็เดินตรงไปที่รถมินิคูเปอร์สีดำของเธอแล้วเปิดออก
ปกป้องพยายามสูดดมกลิ่นในรถ มีกลิ่นอื่นปะปนอยู่ที่ไม่ใช่กลิ่นของเธอ แต่ไม่รู้ว่าเป็นกลิ่นของใคร เขารู้แต่เพียงว่าเป็นกลิ่นน้ำหอมของ ผู้ชาย!
"จิ๊!"
ไปไหนมาวะ ในตอนที่กำลังจะผิดประตูรถหางตาเขาเหลือบไปเห็นกระดาษการ์ดใบเล็กสีดำทอง มือหนายื่นมือลงไปหยิบการ์ดใบนั้นที่ตกอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ
'พนา เมธีภัคดี'
หึ! ปากบอกว่ารักเขา ชอบเขา แต่ลับหลังก็ไประเริงรักกับผู้ชายคนอื่นอย่างหน้าชื่นตาบาน มือหนาขยำนามบัตรแน่นก่อนจะยัดมันใส่กระเป๋ากางเกงของตัวเอง
ผู้หญิงน่ารังเกียจ ...
ทำตัวน่ารังเกียจ น่าขยะแขยง ...
เห็นทีคงอยู่ร่วมบ้านเดียวกันไม่ได้!
ปกป้องมองขึ้นไปบนบ้านแม้ว่าห้องของเธอจะไม่ได้อยู่ตรงนี้ก็ตามเขาเดินปรี่เข้าบ้านในทันที จนเกือบจะสวนทางกับสร้อยม่วงผู้เป็นแม่
"ตาป้องลูก แม่ทำขนมไว้ให้ลูกจะ ..."
เขาเดินผ่านหน้าแม่ของตัวเองไปแล้วขึ้นบันไดชั้นสองเบี่ยงตัวไปทางซ้ายแล้วเคาะประตูห้องเธออย่างแรง
ปัง ปัง ปัง!
เงียบ ไม่มีเสียงตอบรับจากข้างใน ภายในใจเขายิ่งร้อนรุ่มอยากจะฉีกเธอออกเป็นชิ้นๆ ด้วยความเกลียดชัง
ปัง ปัง ปัง"
แกร่ก~
"พี่ป้อง มีอะไรรึเปล่าคะ"
ม่านมัสลินเปิดประตูออกมาในชุดคลุมอาบน้ำบนศีรษะของเธอมีผ้าขนหนูม้วนอยู่บ่งบอกว่าเธอเพิ่งอาบน้ำเสร็จ สายตาของเขาเลื่อนไปเห็นร่องรอยชำที่ร่างกายของเธอบางจุด อารมณ์โมโหมันยิ่งคุกรุ่น
"ไปไหนมา!"
"อะไรคะเนี่ย มัสก็เพิ่งอาบน้ำเสร็จไงคะ"
"อย่ามาเล่นลิ้นกับฉันนะม่านมัสลิน"
"พี่เป็นอะไรคะเนี่ย เวลาโมโหชอบพูดชื่อจริงมันไม่ยาวไปหน่อยเหรอคะ"
ปกป้องถลึงตาใส่เธอเขาเดินกราดเข้าหาเธอแล้วใช้เท้าปิดประตูเสียงดัง สร้อยม่วงที่มองดูเหตุการณ์อยู่ข้างล่างไม่ได้กลัวว่าจะมีเรื่องบัดสีเกิดขึ้นเพราะเธอรู้ว่าลูกชายของเธอเกลียดม่านมัสลินเข้าไส้ รวมถึงเธอด้วย ยัยผู้หญิงหน้าเนื้อใจเสือ
"ปล่อยมัสนะคะ มัสเจ็บ!"
"ฉันถามว่าไปไหนมา!"
"มะ ... มัส"
"ตอบสิวะ! อย่าให้โมโหได้ไหม"
ร่างเล็กสะดุ้งตกใจ น้ำตาใสเริ่มตีตื้นขึ้นคลอหน่วยตา พี่ปกป้องคนที่ใจดีของเธอหายไปไหนแล้วนะ หญิงสาวมองเขาผ่านม่านน้ำตา ปากรูปกระจับของเธอสั่นระริกตอบเขา
"มัสจะถูกข่มขืนค่ะ แต่มีคนมาช่วยมัสไว้"
"ตอแหล!"
"มัสพูดความจริงค่ะ"
"คนอย่าเธอเหรอม่านมัสลินจะถูกข่มขืน ทีกับฉันเธอไล่ปล้ำแทบทุกวัน ไม่ใช่ว่าเธอไปวิ่งไล่ปล้ำใครมากกว่ามั้ง"
เพี้ยะ!
"มัสมีหัวใจนะคะพี่ป้อง ทำไมพี่ต้องพูดจาดูถูกมัสด้วย"
"ใช่ ฉันดูเธอไม่ผิดแน่ สร้างเรื่องว่าจะถูกข่มขืน เพื่อจะให้ฉันสงสาร มุกตื้นๆ"
"อึก ... อึก"
ริมฝีปากบางรูปกระจับเม้มเข้าหากันแน่น มองชายตรงหน้า แตกสลาย เธอแตกสลายไปหมดแล้ว เธอเพียงแค่หวังว่าพี่ปกป้องคนเดิมของเธอจะกลับมา
'ฮื้อออ~ พี่ป้องช่วยมัสด้วย'
'พี่อยู่นี่มัส พี่อยู่นี่ ไม่ต้องกลัวนะพี่จะไล่พวกมันไปเอง'
เด็กชายวัยสิบขวบเอาไม้ไล่ฝูงหมาที่จะมารุมน้องสาวของเขา จนฝูงหมาวิ่งหนีไปหมด เขาโอบกอดเด็กสาววัยห้าขวบเอาไว้แล้วแบกเธอขึ้นหลังเดินกลับเข้าบ้านไป
"เลิกตอแหลแล้วเก็บของออกไปจากบ้านฉัน บ้านฉันไม่ต้อนรับผู้หญิงชั้นต่ำอย่างเธอ!"