หลังจากจบงานมีทแอนด์กรี๊ดที่จัดขึ้นให้ซุปตาร์หนุ่มหล่ออย่างคีย์หรือคีตะได้มาพบปะกับบรรดาแฟนตัวยงทั้งหลาย มนต์ชญา กำปั่นและทีมงานทั้งหลายก็พากันเก็บกวาดสถานที่ โดยที่มนต์ชญาและกำปั่นยังคงมีหน้าที่ในการลำเลียงของขวัญของฝากทั้งหลายจากแฟนคลับ
"เฮ้ย!" อยู่ดีๆกำปั่นก็ร้องขึ้นเหมือนตกใจอะไรบางอย่าง
"เป็นอะไรแก"มนต์ชญารีบวิ่งเข้าไปถามเพื่อน
"มะมะมือ" กำปั่นพูดติดอ่าง
"มืออะไร?" มนต์ชญาคิ้วขมวด
"ฉันเห็นมือเหี่ยวๆโผล่ออกมาจากกล่องสีชมพูนั่น" กำปั่นชีไปที่กล่องของขวัญสีชมพูที่ดูภายนอกแล้วก็ดูเป็นกล่องสีหวานไม่มีพิษภัยอะไร
"มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ" แพรวพราวเองก็ได้ยินเสียงของกำปั่นจึงเดินมาดู
"เอ่อ ไม่มีอะไรครับพอดีแมลงสาปบิน" กำปั่นกลัวจะตกงานก่อนเพราะพูดเรื่องเหลวไหลเลยแกล้งโกหกไปอย่างนั้น
"โถ หนุ่มน้อยแค่นี้ก็ต้องกลัว"แพรวพราวถอนหายใจคิดว่ามีเรื่องอะไร
"ขอโทษครับ" กำปั่นเกาหัวแก้เก้อเอ่ยปากขอโทษและทำงานกันต่อ
แต่มนต์ชญาเชื่อว่าจะต้องมีอะไรแน่นอน เธอหันไปมองกล่องของขวัญเจ้าปัญหาแบบมีนัยสำคัญ
"ชักจะแปลกแล้วสิ" มนต์ชญาบ่นพึมพำกับตัวเอง
............................................
ทีมงานและมนต์ชญากับกำปั่นอยู่เคลียร์สถานที่จนถึงเวลาหกโมงเย็น เธอกับเพื่อนจึงเตรียมตัวไปลาทีมงานเพื่อกลับบ้าน ขณะที่กำลังเดินไปลาแพรวพราว เธอได้เดินผ่านคีตะที่ยังนั่งเล่นมือถืออยู่และกำลังแกะกล่องขนมสีชมพูที่แฟนคลับให้มาเพื่อจะเอามาทานรองท้องแก้หิว
"อย่ากินค่ะ!" มนต์ชญาร้องห้ามเสียงหลง
"อะไรของเธอ?" คีตะหน้านิ่วไม่พอใจที่เธอมาขัดจังหวะขนมเข้าปาก เขาตกใจเสียงที่เธอร้องห้ามจนเค้กช็อคโกแลตร่วงหล่นพื้นไป
"กินไม่ได้ค่ะ อย่ากิน"
"ทำไม อ๋ออยากกินหรือ เอาสิฉันแบ่งให้" เขาคิดว่าพนักงานอย่างเธอน่าจะอยากเรียกร้องความสนใจเพื่อขอขนมกลับไปกินบ้างเพราะว่ามีขนมกองพะเนินเท่าภูเขาขนเข้ารถไม่น่าจะหมดในคราวเดียว
"ไม่ใช่แบบนั้นค่ะแต่ว่า...มันกินไม่ได้ค่ะยังไงก็กินไม่ได้" มนต์ชญาไม่กล้าพูดว่าเธอเห็นวิญญาณยืนคุมอยู่ข้างหลังเขาเหมือนพยายามโน้มน้าวให้เขากินอยู่
"อะไรของเธอท่าจะเพี้ยน" เขาวางขนมที่เตรียมจะเข้าปากลงในกล่องตามเดิมด้วยความเสียอารมณ์ผสมความหิว แล้วเดินออกไป
"กำปั่นแก มันมีวิญญาณตามมาจากกล่องขนมกล่องนั้นแล้วคีตะเขาเอากลับไปแล้วทำไงดี" มนต์ชญาหันไปบอกเพื่อนที่เดินมาตามเธอกลับหอพักพอดี
"แกเห็นหรือ" กำปั่นทวนความแน่ใจแต่ที่จริงเขารู้อยู่แล้วว่าเธอเป็นคนเห็นวิญญาณได้
"ใช่ เห็นตั้งแต่ตอนกลางวันแล้วแต่ไม่แแน่ใจ" เธอบอกถึงสิ่งที่สัมผัสได้
"กลิ่นเหมือนพวกโหงพรายนะจิ๊ดริดว่า" รักยมน้อยเสริมขึ้นมา
"อ้าวแล้วทำไมไม่บอกน้ำมนต์ล่ะ" มนต์ชญาเสียงเขียว
"เอ่อ คือพวกเรา เล่นเพลินไปหน่อยเลยคิดว่าเป็นวิญญาณเร่ร่อนไม่น่าจะมีอะไรน่ะสิ" กระจิ๊ดริดก้มหน้าเอามือไขว้หลังและแกว่งเท้าน้อยๆเขี่ยพื้น ส่วนกะจ้อยร่อยก็ก้มมองนิ้วเล็กๆของตัวเองจิ้มเข้าหากันไปมา
"เฮ้อ ให้มันได้อย่างนี้สิ วันหลังอยู่เฝ้าหอเลย" มนต์ชญาหันไปดุสองรักยมผู้แสนซน
"ไม่อาววว" รักยมทั้งสองพร้อมใจกันส่ายหน้าอย่างเร็ว
"ไปเถอะเราคงช่วยอะไรเขาไม่ได้หรอกตอนนี้ เขาขับรถกลับออกไปแล้วล่ะ"
"ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าแกมาจากไหน และมาทำไม" มนต์ชญาไม่วางใจ ครุ่นคิดอย่างมีสังหรณ์บางอย่าง
..................................