I LIKE YOU :: CHAPTER 3 [70%]

1976 Words
“เธอเมามากเลยนะยัยจิ๋ม กลับได้แล้ว... เฮ้ย กูกลับก่อนแล้วกัน” ร่างของฉันถูกเฟิร์สลากออกมาจากสถานบันเทิง แต่เท้าฉันตอนนี้เดินไม่เป็นแล้วจริงๆ อย่างกับเป็ดเดินไงงั้นเลยนะ “โหย เฟิร์สจ๋า ขิมเดินไม่ไหวแล้ว อึก วันนี้ขิมไม่หลับเลยนะ ขิมเก่งไหม ก๊ากๆ” “ใช่ไม่หลับ แต่เมาอย่างหมา” “หมาเหรอ? โฮ่งๆ บู้ว... แบบนี้หรือเปล่า” “เหอะ ยัยรั่วเอ๋ย!” ฉันมองเฟิร์สที่ขึ้นคร่อมรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ ก่อนที่ฉันจะกระโดดซ้อนท้ายเขาและกอดเอวหนาแน่นทันที ซบใบหน้าลงกับแผ่นหลังของเขา รถของเฟิร์สแล่นออกไปพร้อมกับสายลมที่ปะทะเข้ากับใบหน้าของฉัน เฟิร์สแบกฉันขึ้นมาที่คอนโด ก่อนจะวางฉันลงบนเตียงนอน ใบหน้าหล่อยืนขมวดคิ้วอยู่แบบนั้น จนฉันยิ้มให้เขาอย่างยั่วยวน “เฟิร์สสุดหล่อ นายหล่อจังเลย” “เงียบไปเลยยัยจิ๋ม ฉันจะไปชงชาร้อนมาให้กิน” “ไม่นะ...” หมับ! เฟิร์สที่กำลังจะเดินออกไป ก็หยุดชะงักทันทีกับสิ่งที่ฉันทำ ตอนนี้ฉันกำลังกอดเขาจากด้านหลัง มือก็เริ่มซุกไซ้เข้าไปในแผงอกล่ำของเขา ก่อนจะจับร่างหนาให้เผชิญหน้ากับฉัน มือของฉันก็ค่อยๆ เลื่อนขึ้นไปโอบกอดคอหนาไว้ พร้อมกับกดท้ายทอยของเขาให้ใบหน้าของเขาแนบชิดกับฉัน “จะทำอะไรของเธอยัยจิ๋ม?” “งืม ไม่เอาสิเฟิร์ส ฉันรู้นะว่านายรู้...” “...” “ฉันอยากจูบนายจังเลย ขอจูบหน่อยนะ” ว่าแล้วฉันก็ทำในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้ตัวสักนิด ริมฝีปากของฉันประกบจูบลงบนริมฝีปากร้อนของเขา ด้วยความที่ฉันเมาและไม่ค่อยจะเป็นประสาเรื่องนี้ แต่ทว่า... ร่างหนากลับทำให้ฉันร้อนไปทั้งตัว เมื่อเขาจูบตอบฉันด้วยความร้อนแรงยิ่งกว่าเปลวไฟ มือหนาลูบไล้ขึ้นมาประคองใบหน้าฉันไว้แน่น บดขยี้จูบฉันอย่างรุนแรง จนฉันค่อยๆ เปิดปากอ้าขึ้นให้เขาได้แทรกลิ้นร้อนๆ ของตัวเองเข้ามาในโพรงปากของฉัน เสียงลมหายใจของฉันหอบถี่ เมื่อรับรู้ถึงแผ่นหลังที่แตะอยู่บนเตียงนอน รสจูบที่เขากำลังทำให้ฉันละลาย รสจูบที่เขากำลังตักตวงจากปากฉันอย่างรุนแรง มือของฉันไปทุกที่บนร่างกายของเขา เลื่อนไปตามแผ่นหลัง จนมาถึงหน้าอกแกร่งที่ฉันแบะเสื้อเชิ้ตเขาออก จนร่างกายท่อนบนของเขาเปลือยเปล่า เราสองคนผละจูบจากกัน เฟิร์สหอบหายใจเหนื่อย ก้มใบหน้าลงมาที่ต้นคอของฉัน ริมฝีปากของเขาแตะลงผิวเนื้อจนร่างกายฉันร้อนรุ่มไปทั้งตัว “อือ เฟิร์ส...” “พอหรือยัง?” “Zzz” “เฮ้ ยัย... เหอะ หลับซะล่ะ” ขิมหลับไปตั้งแต่ที่เขากำลังลงรอยแดง แต่ทว่าเขากลับไม่ลงมัน มองใบหน้าจิ้มลิ้มที่หลับพริ้มพร้อมกับลมหายใจที่ถี่รัว ร่างหนาขยับร่างของขิมให้ติดกับกำแพง ส่วนตัวของเขาก็นอนข้างเธอ ก่อนจะดึงผ้าขึ้นห่มให้ร่างเล็กที่นอนหลับ จะเพราะฤทธิ์เหล้าหรืออะไรก็ตาม... แต่มันกลับทำให้เฟิร์สยิ้มให้กับขิมทันทีอย่างอ่อนโยน ฉันพลิกตัวไปมาอย่างมึนๆ ก่อนจะนอนก่ายอะไรบางอย่างที่อุ่นและนุ่ม แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรทั้งนั้น เพราะตอนนี้อยากจะบอกเหลือเกินว่าฉันมึนหัวมาก! ให้ตายเหอะ เมื่อคืนฉันดื่มไปเยอะเลยใช่ไหมเนี่ย? มือของฉันเลื่อนคลำไปโดนอะไรบางอย่างที่ทำให้ฉันฉุกคิดขึ้นมาได้ นี่มันดวงตา? หมับ~ นี่มันปาก...? หมับ~ นะ นี่มัน... หัวนม? นมใคร ทำไมเล็กจัง? ดะ เดี๋ยวนะ... ใบหน้าของฉันค่อยๆ เงยขึ้นไปมองสิ่งที่ตัวเองกำลังจับและบีบอยู่ก็เบิกตาโพลงด้วยความตกใจกับ ร่างกายมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบมากที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา แต่มันคุ้นมากเลยนะ... ฉันละสายตาจากหน้าอกแกร่งขึ้นไปมองใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังหลับอย่างสบายใจเฉิบ “กะ กรี๊ดดดดดดดดดด!” พลั่ก ตุ้บ “โอ๊ย... อะไรกันวะ! เจ็บตูดนะเว้ย อูย” “นะ นายทำอะไรฉัน? ไอ้ลามก นายทำอะไรฉันเนี่ย!” ฉันรีบดึงผ้าห่มมาคลุมตัวทันทีที่ถีบเฟิร์สตกเตียง ใบหน้าหล่อบิดหน้าไปมาก่อนจะลุกขึ้นยืนกุมตูดตัวเองอยู่ เฟิร์สถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย “ช่วยดูสภาพตัวเองด้วยนะว่าแบนๆ แบบนั้น ฉันจะไปกล้าทำอะไร” “ไอ้...!” “ทำอะไรกับเธอ ฉันไปมีอะไรกับโซฟาดีกว่า อูย” “ไอ้ลามก! แล้วนายขึ้นมานอนที่เตียงฉันทำไมเล่า” “ก็เธอ...” “ทำไม? ฉันทำไม?” เฟิร์สเงียบไปทันที ก่อนจะส่ายหน้าไปมา ยกมือเสยผมตัวเองขึ้นไปอย่างหงุดหงิด จนฉันจ้องมองใบหน้าหล่อที่ดูจะสับสนกับคำพูดของตัวเอง “ก็... เธออ้วกใส่เสื้อฉัน และที่สำคัญฉันเองก็ง่วงมาก ก็เลยนอนกับเธอ” “เตียงก็อยู่ไม่ไกลยเลยนะ ทำไมไม่ไปนอนเตียงนายเล่า!” “ขี้เกียจเดิน ไหนๆ ก็อุ้มเธอมานอนที่เตียงแล้ว ฉันก็เลย... นอนด้วยเลย” “แน่ใจนะ ว่าไม่ได้ทำอะไรฉัน?” “เธอควรจะถามตัวเองนะว่าฉันทำอะไรเธอหรือเปล่า?” ฉันมองเฟิร์สที่เดินตรงเข้ามาใกล้ฉัน ก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาจนฉันรับรู้ได้ถึงลมหายใจของเขา “เพราะเธอเป็นผู้หญิง น่าจะรู้ดีกว่าผู้ชายนะว่าจริงๆ แล้วฉันทำอะไรเธอหรือเปล่า?” “ฟะ เฟิร์ส!” “ปากเหม็นชะมัด ไปอาบน้ำไป” “ไอ้บ้า!” เฟิร์สยกมือโบกไปมา พร้อมกับทำหน้าเหม็นบูดทันที จนฉันรีบวิ่งสวนเขาเข้าไปในห้องน้ำ ฉันสำรวจตัวเองก็พบว่าเสื้อผ้าอยู่ครบ แต่ทว่า... เมื่อคืน ทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามันมีอะไรมากกว่านั้นล่ะ? อย่างกับว่าฉันกับเฟิร์สทำอะไรบางอย่างด้วยกัน จะบ้าเหรอ! ไม่ทำก็ไม่ทำ มันดีอยู่แล้วนี่น่า ขืนหมอนั่นทำอะไรฉันจริงๆ ฉันคงจะเสียใจไปตลอดชีวิตแน่ๆ คนอย่างหมอนั่นมันฟันไม่เลือก มีหญิงไม่ซ้ำกัน ใครได้เป็นแฟนซวยและเหนื่อยแน่ที่ต้องมาตามจับผิดผู้ชายอย่างเขา ฉันปัดความคิดบ้าๆ ของตัวเองออกไป แต่ทฤษฎีของเขาได้ผลจริงๆ ด้วยสิ... เอาเป็นว่า วันนี้จะพักยกก็แล้วกัน ถ้าเขาไม่กวนประสาทฉันก่อนนะ ว่าแต่? ฉันปากเหม็นจริงเหรอ แง ไอ้เฟิร์สบ้า หลังจากเข้าห้องน้ำขัดฟันตัวเองอยู่นานพอควร ฉันก็ออกมาจากห้องเก็บของและเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายของไอ้โรคจิตเฟิร์สอย่างหงุดหงิด จนกระทั่งไปเจอเข้ากับเสื้อเชิ้ตของเขาที่บอกว่าเมื่อคืนฉันอ้วกใส่เขา ความรู้สึกผิดเลยก่อขึ้นมา ฉันเลยกะว่าจะเอาเสื้อของเขาไปซัก แต่ทว่า... เสื้อของเขากลับไม่มีแม้แต่รอยอ้วกของฉัน แถมกลิ่นของเขาก็ยังคงติดอยู่ ไม่ได้มีกลิ่นอ้วกของฉันแต่อย่างใด “ไม่ได้เลอะอ้วกเรา แล้วหมอนั่นบอกได้ไงว่าเราอ้วก?” ฉันขมวดคิ้วทันทีอย่างโมโห ทำไมหมอนั่นจะต้องโกหกฉันด้วยเนี่ย! เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ว่าแล้วฉันก็ออกจากห้องไปเท้าเอวอยู่ตรงหน้าเฟิร์สที่กำลังดูทีวีอยู่ พร้อมกับชูเสื้อให้เขาดู “ไหนว่าฉันอ้วกใส่เสื้อนายไง...” “ก็ใช่” “แล้วทำไมเสื้อของนายถึงไม่มีรอยอ้วกฉันเลยล่ะ กลิ่นอ้วกก็ไม่มีด้วย” “ฉันซักแล้ว” “ซักอะไร? เมื่อกี้ฉันดมเสื้อดู ยังมีกลิ่นตัวนายติดอยู่เลย” เฟิร์สที่กำลังดูดอมยิ้มอยู่สบตาฉันทันที เออ? ฉันพูดอะไรออกไปนะ ดมเสื้อเขา? กลิ่นเขา? กรี๊ด! ตายแล้ว ฉันพูดบ้าอะไรออกไปเนี่ย ใบหน้าหล่อเจ้าเล่ห์ยกยิ้ม ก่อนจะลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับฉันที่ตอนนี้เบือนหน้าหนีสายตาของเขา “กลิ่นตัวฉัน? นี่เธอจำแม้กระทั่งกลิ่นตัวฉันเลยเหรอ ยัยจิ๋ม” “ปะ เปล่านะ! ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลย เรื่องอ้วกฉันเนี่ย ว่ายังไง?” “ก็บอกไปแล้วไงว่าฉันซักเสื้อแล้ว เสื้อฉันแพงนะ ถ้าไม่ซักฉันก็ทิ้งไปแล้ว...” ฉันมองเฟิร์สที่ดูดอมยิ้มอย่างกวนประสาทฉันอย่างที่สุด ก็ได้นะ ในเมื่อไม่พูดว่ามีอะไรเกิดขึ้นก็ได้ อย่าให้ฉันรู้ทีหลังก็แล้วกัน ตายศพไม่หล่อแน่! ฉันนั่งข้างหมอนั่นอย่างหงุดหงิด ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าทันที “นี่เฟิร์ส ทฤษฎีของนายใช้ได้ผล วันนี้ไปผับอีกนะ” “ไม่ต้องเลย” “ทำไมล่ะ? ฉันไม่หลับเลยนะเฟิร์ส ฉันว่ามันดี...” “ไปเมาหัวราน้ำแบบนั้นได้ไง ถ้าจะหายก็ต้องหายด้วยวิธีที่มันดีๆ ไม่ใช่ไปเมาแบบนั้น” เฟิร์สผลักหัวฉันอย่างเบาๆ ก่อนที่ฉันจะทำปากจู๋ ก็จริงอย่างที่หมอนี่พูด “ถ้าจะหายจากอาการหลับ เธอก็ต้องทำอะไรที่มันสามารถช่วยเธอได้จริงๆ” “โห” “และที่ฉันพาเธอไปเที่ยว ก็เพราะอยากจะรู้ว่ามันจะได้ผลไหม? ซึ่งได้ผลไง... เธอเมาเละ” ฉันทำหน้าหงอยๆ มองเฟิร์สที่หยิบสมุดจดสีดำของตัวเองขึ้นมาและขีดอะไรบางอย่างลงไป ฉันเลยชะโงกหน้าจะไปดูก็พบว่าเขาเอี้ยวตัวหลบและปิดสมุดลง “ไม่มีมารยาทเลยนะยัยจิ๋ม” “ก็อยากรู้ว่านายจะมีทฤษฏีอะไรอีกต่างหาก... ขี้หวงจังเลยนะ” “ฉันจะคอยบอกเธอเอง ห้ามมาดูสมุดฉันแบบนี้นะเว้ย” “ทำไม? สมุดจดบันทึกถึงสาวๆ หรือไง” “เออน่ะสิ! ยุ่งจริง ยัยจิ๋มเล็ก” เฟิร์สทำหน้าหงุดหงิดจนฉันแยกเขี้ยวใส่เขา แล้วจะทำยังไงต่อล่ะ? ไอ้นู้นก็ไม่ได้ ไอ้นี้ก็ไม่ได้ พอดี ฉันก็ไม่หายจากอาการบ้าบอคอแตกนี้สักที! ฉันกอดอกอย่างอารมณ์เสีย หันไปมองเฟิร์สที่จ้องหน้าฉันอยู่ก่อนแล้วอย่างนิ่งๆ “มีอะไรอีกล่ะ?” “จะว่าไป ฉันก็มีอีกวิธีหนึ่งนะ ที่พอจะช่วยเธอได้...” “เอ๋? อะไรเหรอ บอกมาเลย ฉันยอมทำทุกอย่างเลย” ฉันรีบกระเด้งตัวนั่งขัดสมาธิ มองเฟิร์สที่เอียงคอมองฉันด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ ไอ้สีหน้าแบบนี้ ฉันไม่ค่อยไว้ใจเลยแหะ ใบหน้าหล่อยกยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะขยับใบหน้าเข้ามาใกล้ฉันจนรับรู้ถึงลมหายใจร้อนผสมกับอมยิ้มรสมะนาวที่หมอนี่ดูดอมอยู่ “ฉันว่าเธอทำได้แน่” “แล้วมันอะไรเล่า บอกมาเร็วๆ สิ” “ทฤษฎีจะช่วยไม่ให้เธอหลับที่ไหนอีก คือ...” “ไอ้บ้าบอกมาเร็วดิ ฉี่ฉันจะราดแล้วนะ” เฟิร์สยิ้มออกมา ก่อนจะดึงอมยิ้มออกจากปากเอื้อมมือมาจับต้นคอฉันไว้และกดลงมาใกล้กับใบหน้าของเขา ตอนนี้ฉันเบิกตาโพลงด้วยความตกใจกับสิ่งที่เขาทำ ระ หรือว่าหมอนี่จะ... จะ จูบฉันเหรอ? บ้าเหรอไง! จูบของฉันมีไว้ให้พี่ตั้มคนเดียวนะ ไม่ได้นะ ไอ้บ้าหื่นกาม! ฉันพยายามหลบใบหน้าหล่อที่ยกยิ้มอยู่แบบนั้น จนกระทั่งเฟิร์สจ้องตาฉันด้วยสายตาที่ไม่ต้องบอกเลยว่าไอ้หมอนี่มันกำลังคิดอะไรพิเรนทร์ๆ อยู่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD