รองเท้าที่ไม่คุ้นเคยทำให้เดินยากพอสมควร จนชัชเองต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน
“เป็นอะไร”
“เดินไม่ค่อยถนัดน่ะค่ะ”
“ฉันเลือกรองเท้าส้นเตี้ยให้เธอแล้วนะ หรือต้องลากรองเท้าแตะ” เขาประชด แต่ก็ก้มดูเท้าให้เธอ จนมยุรินถึงกับเกร็ง ไม่คิดว่าผู้ชายตัวสูงดูดีไม่ยอมก้มหัวให้ใครแบบเขาจะนั่งลงแทบเท้าของเธอ
“เปลี่ยนรองเท้าไหม” เขาเอ่ยถาม พลางเงยหน้าขึ้นมามอง เขาหล่อมาก ดูดีแม้ขนาดทำหน้านิ่วคิ้วขมวดแบบนี้ มยุรินมองเขาแล้วถึงกับตาลอย
“อุ๊ย!” เธอมัวแต่มองเขาเพลิน จึงโดนเขาลากเข้าไปในร้านรองเท้าทางด้านหน้า
เขาสั่งพนักงานว่าเอารองเท้าเพื่อสุขภาพใส่สบายให้เธอ ราคาไม่ต้องพูดถึงมันแพงจนเธอไม่กล้าสวม
“แพงจังค่ะคุณชัช”
“ถ้าเธออยากตอบแทนฉัน คืนนี้แล้วกัน” เขากระซิบที่ริมหูก่อนจะรูดบัตรเครดิตจ่ายค่ารองเท้าให้เธอด้วยใบหน้าเรียบเฉย ไม่มีสะทกสะท้านกับราคาสินค้าที่ต้องจ่ายเลยสักนิด
รองเท้าคู่ใหม่ใส่สบาย สบายจนเธอแทบลอยได้เวลาเดินตามเขาไปซื้อของ
“ชอบไหม” ชัชเอ่ยถามเด็กสาว เธอรีบส่ายหน้าแต่เขาพยักหน้ากับพนักงานว่าเอา เธอยิ่งปฏิเสธ ส่ายหน้า โบกไม้โบกมือว่าไม่เอา เขาก็ซื้อทุกอย่างที่เธอบอกว่าไม่เอา
ผู้ชายอย่างชัชเอาแต่ใจ เขาไม่ชอบให้ใครขัดใจ และที่สำคัญเขาอยากเอาชนะด้วย
ชัชพาเด็กสาวมารับประทานอาหารญี่ปุ่น ร้านหรูหราและอาหารแปลกตาทำให้เธอมองแล้วทำตัวไม่ถูก
“กินสิ” เขาคีบอาหารให้เธอ
“ค่ะ” มยุรินรับคำ เธอจับตะเกียบอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ท่าทีของเธอทำให้ชัชชะงัก
“ใช้ตะเกียบไม่เป็นเหรอ”
“ค่ะ” ไม่เคยไปกินอาหารร้านหรูหราแบบนี้มาก่อน อย่าว่าแต่ใช้ตะเกียบเลย ถ้าสิ่งไหนที่นอกจากช้อนเธอก็ไม่ถนัด แม้แต่ช้อนส้อมเธอก็ยังไม่ถนัดเลย ปกติใช้แค่ช้อนธรรมดากินข้าวก็หรูแล้ว
ที่บ้านยากจนมาก เธออยู่กับยาย พี่สาวมาทำงานกรุงเทพฯ ก่อน พอยายเสียก็ไปรับเธอมาอยู่ด้วยกัน ฝากฝังให้ทำงานกับชัชด้วย พอพี่สาวหนีไปกับแฟนหนุ่ม เธอก็เหมือนเหลือตัวคนเดียว
เธอไม่อยากจะเชื่อว่ามยุรีจะทำแบบนั้น เพราะปกติพี่สาวดีกับเธอมาก เรียกว่ามยุรีเป็นพี่สาวที่รักเธอมากคนหนึ่งเชียว
ชัชไม่ถามซ้ำเขาเรียกพนักงานให้นำช้อนมาเพิ่มให้เธอ กลายเป็นว่าเธอดูแปลกไปจากคนอื่น เพราะใช้ช้อนตักซูชิกิน
การออกจากบ้านไปชอปปิงกับชัชในครั้งแรกที่มาเมืองใหญ่ทำให้มยุรินได้ข้าวของกลับมามากมาย เขาซื้อให้เธอไม่อั้น เธอยังเฝ้าถามตัวเอง แล้วให้รู้สึกแปลกประหลาดในหัวใจไม่น้อย อาจเพราะว่าข้าวของพวกนี้แพงมากจนเธอไม่มีเงินจ่าย ทำงานไปอีกกี่ชาติก็ยังไม่มีจ่าย นอกเสียจากว่าเธอจะกลายเป็นมหาเศรษฐีในชั่วข้ามคืน
“เป็นไงอาหารญี่ปุ่นร้านที่พาไปกินอร่อยไหม” เธอส่ายหน้าไปมา เมื่อเขากวักมือเรียกให้เธอไปนั่งลงใกล้ ๆ กับเขาบนโซฟาตัวโปรด
“ไม่อร่อยอย่างนั้นเหรอ” เขาขมวดคิ้วเข้าหากัน
“เอ่อ... หนูไม่เคยกินน่ะค่ะ” อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ เธอไม่เคยกิน เขากินปลาดิบหน้าตาเฉย ในขณะที่เธอพะอืดพะอมแทบอยากจะอาเจียน แต่ต้องฝืนกิน
“ก็เห็นทำหน้าเหมือนจะอ้วก หัดกินเอาไว้ ต่อไปจะพาไปกินอีก” เธอทำหน้าเหยเก
“ไม่ชอบกินอาหารญี่ปุ่นแล้วเธอชอบกินอะไร” เขาขมวดคิ้วเข้าหากัน ชัชรู้สึกแปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงได้ใส่ใจเธอนัก
“หนูชอบกินข้าวไข่เจียวค่ะ”
“ถ้าจะกินข้าวไข่เจียวก็ทำกินอยู่บ้านเถอะ” เขายิ้มขำ แต่เห็นสีหน้าเศร้า ๆ ของเธอแล้วเขาจึงหยุดขำแล้วเอ่ยถาม
“เล่าเรื่องของเธอให้ฟังบ้างสิ” ชัชไล้สะโพกผายของเธอเล่น มองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาจับเธอแต่งตัวเสียใหม่แบบนี้ทำให้เธอดูดีขึ้นมาก เป็นเด็กสาวหน้าตาดี สวยสมวัย ที่สำคัญก็คือเธอเป็นคนผิวดีมาก
เขามีเสื้อผ้าสวย ๆ อีกมากมายที่จะจับเธอสวมใส่ เวลาพาเธอออกไปเดินเที่ยว
มยุรินทำให้เขารู้สึกแปลกไปจากผู้หญิงคนอื่น เธอใสซื่อน่ารักไร้เดียงสา เพราะถ้าเขาไปกับสาว ๆ คนอื่น แม้แต่คู่หมั้นของตัวเองก็จะโดนออดอ้อนให้ซื้อข้าวของให้ และต้องเป็นแบรนด์เนมเท่านั้น แต่คนตรงหน้าไม่เคยอยากได้อะไร จะเพราะเธอเคยลำบากไม่มีเงินก็ไม่น่าจะใช่ เพราะบางคนก็เคยลำบากเหมือนกับเธอ แต่พอได้โอกาสก็รีบไขว้คว้าเอาไว้อย่างเต็มที่ แต่มยุรินไม่ใช่ เธอเจียมเนื้อเจียมตัวจนเขานึกเอ็นดูเสมอเวลาได้อยู่ด้วยกัน
“หนูอยู่กับยายน่ะค่ะ พ่อแม่เสียหมดแล้ว”
“บ้านเธออยู่ไหนนะ ฉันจำไม่ได้แล้ว” เธอบอกชื่อจังหวัดให้เขาได้ฟัง แถวบ้านเธอเงียบสงบ และยังทุรกันดานอยู่มาก เป็นจังหวัดเล็ก ๆ ที่คนส่วนใหญ่ย้ายออกกันไปตั้งรกรากที่อื่นกันเป็นจำนวนมาก คนที่เหลืออยู่ในหมู่บ้านส่วนใหญ่จะเป็นคนชราและวัยกลางคน เด็ก ๆ แทบไม่มี วัยทำงานก็น้อยมาก แทบนับหัวได้
ความลำบากที่เด็กสาวเล่าให้ฟังทำให้ชัชนึกเห็นใจวูบขึ้นมาในอก เขายอมรับว่าเห็นใจเธอเป็นอันมาก อาจเพราะเกิดมาเขาไม่เคยลำบาก สุขสบายมาตลอด แต่ความสุขสบายของเขาก็ต้องแลกมาด้วยแรงกดดันมหาศาลจากครอบครัว โดยเฉพาะคนเป็นบิดา
เธอเหมือนสิ่งเล็ก ๆ ที่เข้ามาเติมเต็มหัวใจของเขา ไม่น่าเชื่อว่ามยุรินจะทำให้เขามีความสุขได้ขนาดนี้
เธอทำให้เขาผ่อนคลายและเร่าร้อนในเวลาเดียวกัน เด็กสาวใสซื่อไร้เดียงสาที่ทำให้เขาหัวใจเต้นแรงแบบไม่เคยเป็นกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน
ชัชมีความสุขกับตุ๊กตาตัวน้อยของเขา มยุรินน่ารักเอาใจเก่งขึ้น และไม่เคยขัดใจทั้งเรื่องบนเตียงและเรื่องอื่น ๆ แพนเฮ้าส์ที่นาน ๆ ครั้งจะแวะมาพักกลายเป็นรังรักของเขาไปอย่างไม่น่าเชื่อ
นี่เป็นความสุขแรกในชีวิตหลังจากที่มารดาเสียชีวิต ชัชรู้สึกหวงแหนมยุรินสุดหัวใจ
“เวลาจูบทำแบบนี้” เขาสอนจูบเธออย่างดูดดื่ม ท่าทีเงอะงะของเธอในคราแรก กลายเป็นจูบตอบเขา ชัชอยากบดเบียดร่างน้อยอีกครั้ง และเธอกับเขาก็เร่าร้อนอยู่บนเตียงนอนกว้างตลอดค่ำคืน
เสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นในตอนเช้าตรู่ทำให้ชัชรู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย เขาหยิบมาดูก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากัน
ชื่อปลายสายคือบิดาบังเกิดเกล้า เจ้าชีวิตที่ไม่มีใครกล้าขัดใจถ้ายังไม่อยากตาย
“ครับท่าน” เขาตอบรับก่อนจะลุกไปจัดการกับธุระส่วนตัวในตอนเช้า มยุรินน่ารัก เตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้เขาพร้อมสรรพ
“คุณชัชเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมดูเคร่งเครียดจัง” มยุรินเอ่ยถามขณะกลัดกระดุมเสื้อให้เขา