ปันรักกับเอสเพื่อนซี้สองคนของเธอชวนแพทตี้ออกไปผับเมก้า เธอรีบออกไปหาตามนัดหมายตั้งแต่หัวค่ำ
“กินข้าวให้อิ่มก่อนค่อยไป ฉันมีเรื่องอยากให้แกช่วยเป็นตีนผีให้สักหน่อย”
บุคลิกของแพทตี้ที่นิ่มๆ เรียบๆ ตรงกันข้ามกับนิสัยการขับรถของเธออย่างมาก แพทตี้ขับรถเร็วและหวาดเสียว ทักษะการขับขี่บางอย่างเธอได้รับการฝึกมาจากญาติผู้พี่ที่เป็นนักแข่งรถยนต์ หลายครั้งในเวลาที่คิดจะไปหาเรื่องคนอื่นแล้วหนีให้ทัน เพื่อนๆ ก็จะขอร้องให้แพทตี้ไปเป็นคนขับรถให้ และเธอเป็นคนเดียวในกลุ่มเพื่อนที่ขับรถยนต์เป็นตั้งแต่อายุสิบสี่
“ที่รัก แกคิดจะหาเรื่องใคร?” ชื่อเล่นของปันรักก็คือรัก ซึ่งเพื่อนสนิทเรียกกันว่าที่รัก
“ก็ไอ้คนที่ฉันต่อยมันคราวที่แล้วในผับน่ะสิ”
คราวก่อนปันรักกับเอสพร้อมกับเพื่อนอีกสองสามคนเจอแก็งค์ลูกคนรวยเข้ามาหาเรื่อง ปันรักที่เป็นนักมวยสากลสมัครเล่นเมาพอกรึ่มๆ พอโดนคว้าแขนเสื้อจึงได้บันดาลโทสะต่อยอีกฝ่ายคว่ำลงไปนอนนับดาว แต่ก็ต้องวิ่งหนีกันหัวซุกหัวซุน
เอสหันไปมองเพื่อนซี้ข้างบ้านยิ้มๆ “แกไม่เห็นวิกผมของที่รักเหรอแพทตี้? วันนี้เตรียมปลอมตัวสุดฤทธิ์”
แพทตี้เพิ่งสังเกตว่าการแต่งตัวของเพื่อนสองคนดูแปลกตาไปอย่างมาก
“เออจริง...เห็นทีแรกฉันเกือบจำพวกแกไม่ได้”
ทั้งสองคนแต่งตัวเหมือนพวกบ้าแฟชั่น เครื่องประดับก็เยอะจนน่าขำ
“ฉันเตรียมชุดมาให้แกด้วยนะแพทตี้ ต้องใส่ให้มันเข้ากัน เราจะได้ดูเป็นแก็งค์เดียวกัน คืนนี้ถ้าฉันไม่ได้แกล้งไอ้ลูกเทวดานั่น ฉันคงนอนไม่หลับ”
คนทั้งสามไปนั่งหลบมุมคอยมองดูกลุ่มหนุ่มสาวที่เดินเข้าออกเลือกโต๊ะนั่ง เอสตาไวมองเห็นแก็งค์ลูกเทวดานั่งอยู่โซฟาที่มุมหนึ่ง
“ในที่สุดก็หามันเจอจนได้ ไอ้เสี่ยมิกซ์”
ปันรักชี้ให้แพทตี้ดูคนที่เธอต่อยจนหน้าหงายไปคราวก่อน หลังจากการตามสืบจึงได้รู้ว่าคนที่ลวนลามเธอก็คือลูกมหาเศรษฐีที่มีกลุ่มก๊วนเป็นคนฐานะระดับเดียวกัน
“นั่นมันดาราวัยรุ่นหญิงที่กำลังดังนี่หว่า? ชื่ออะไรนะ? ติดอยู่ตรงปากนี่..ช่วยคิดทีสิแพทตี้”
เอสหันไปขอความคิดเห็น
“เพียงขวัญ คนที่เพิ่งเล่นซีรีย์แย่งแฟนเพื่อนน่ะใช่ไหม?”
“เออๆ เพียงขวัญ ใช่ๆ”
“มากับวนิษาด้วยนี่? ท่าทางข่าวบันเทิงซุบซิบในเน็ตเป็นเรื่องจริงสินะ สองสาวนี่ชอบออกล่าผู้ชายรวยๆ ตามผับใหญ่ๆ”
“เราอย่าเดาเลยดีกว่าน่า...ดูไปเรื่อยๆ ก่อน” แพทตี้มองสองสาวด้วยความชื่นชม “สองคนนั่นสวยจริงๆ เลย ดูสิ...หุ่นเปรี๊ยะ ผิวใส หน้าคม เป๊ะจริงๆ เหอะ สวยกว่าในภาพข่าวเยอะเลย”
แพทตี้เคยผจญภัยฝ่าดงเท้ากับเพื่อนสองคนมาหลายครั้ง ปันรักเป็นคนไม่ยอมใคร เธอมักจะหาทางแก้แค้นคนอื่นอยู่เสมอ ทำให้เอสและแพทตี้ถูกลากเข้าไปร่วมขบวนการแก้แค้นด้วยบ่อยๆ
ไม่นานนักปันรักกับเอสก็เริ่มทำตามแผน เพียงขวัญที่คิดจะวางยาหนึ่งในแก็งค์ลูกเทวดา ปันรักกับเอสจึงได้หาทางช่วยเหลือโดยการสับเปลี่ยนตัวคน
“แกไปรอที่รถเลยแพทตี้!”
ยังไม่ทันจะออกประตู แพทตี้ก็เจอกับคนที่เธอคาดไม่ถึง นั่นคือรองผู้จัดการแผนกประชาสัมพันธ์คนใหม่
“เธอนี่เอง!”
ปัง! ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นเบื้องหลัง เนติรีบลากแขนลูกน้องที่ยืนอยู่ตรงหน้าให้วิ่งออกไปทางประตู
“ไปหลบที่รถกันค่ะ”
เธอเปลี่ยนเป็นคนดึงข้อมือเขาให้วิ่งไปที่รถของพวกเธอ หญิงสาวกดรีโมทเปิดประตูรถแล้วผลักเขาขึ้นไปเบาะด้านหลัง ส่วนตัวเธอขึ้นไปนอนหมอบที่เบาะด้านหน้า
หญิงสาวกดล็อครถอย่างว่องไว
“หมอบลงสิคุณ เดี๋ยวโดนลูกหลง”
ลานจอดรถเป็นพื้นที่ว่างล้อมรอบอาคารเมก้า รถของเอสจอดอยู่ใกล้ทางออก
เสียงปืนโป้งป้างขึ้นรอบด้าน เดาไม่ได้ว่ามาจากทิศทางไหน?
“สงสัยคราวนี้คงเป็นศึกระหว่างแก็งค์ เพื่อนของฉันคงหาทางหลบไปแล้ว” เธอแอบชะโงกขึ้นมองเหตุการณ์ภายนอก “รถคุณจอดไว้ที่ไหนล่ะ?”
“วันนี้ผมให้คนมาส่ง คิดว่าคงเมาแน่ ไม่อยากขับเอง”
“ดีแล้ว! ดวลปืนกันสนั่นแบบนี้เดี๋ยวพ่อคงแห่มาปิดแล้วตรวจค้นแน่ เราออกไปจากที่นี่กันก่อนดีกว่า”
แพทตี้นั่งประจำการที่คนขับ กดปุ่มสตาร์ทแล้วออกตัวรถกระชากจนเนติกลิ้งตกจากที่นั่งข้างหลัง
โพล๊ะ!
“โอ๊ย!”
เอี๊ยด! อ๊าด!
คนสองกลุ่มกำลังยิงต่อสู้กัน แต่แพทตี้กลับฉวยโอกาสสตาร์ทรถเร่งเครื่องหลบห่ากระสุนออกมาได้ โดยมีเจ้านายกลิ้งอยู่พื้นด้านหลังเบาะคนขับ
“พ้นเขตอันตรายแล้ว ท่านรอง”
“คุณ! คุณเป็นตีนผีหรือไง? ถึงกล้าขับฝ่าดงปืนออกมาแบบนี้” ชายหนุ่มใช้สองมือจับเบาะข้างหน้าไว้คนละข้างแล้วเหนี่ยวตัวโผล่หน้ามาข้างคนขับ
“อ๋า! ฉันพาท่านรองหนีออกมาได้ขนาดนี้ ก็คิดว่าเป็นคำชมก็แล้วกันค่ะ”
เขาลุกขึ้นทิ้งร่างพิงพนักที่นั่งด้านหลัง เพิ่งนึกออกว่าตั้งแต่ลากแขนโปรแกรมเมอร์สาวออกจากผับ ยังไม่ได้ยินเธอกรีดร้องสักนิด
“คุณดูไม่กลัวเลยนะ”
แพทตี้ยิ้มแหยๆ เธอเคยเจอสถานการณ์เฉียดตายมาแล้วหลายหน จนนึกว่าตัวเองเป็นตำรวจหน่วยสวาทไปแล้ว
“ก็...ก็กลัวเหมือนกันค่ะ ไม่งั้นไม่รีบหนีมาที่รถหรอก”
เสียงไซเรนรถตำรวจหลายคันอยู่ด้านหลัง คาดว่าคงเข้าระงับเหตุในผับเมก้า เนติเอี้ยวคอไปมองพลางถอนหายใจ
“ดีที่ออกมาก่อน เดี๋ยวเขาคงปิดผับตรวจคนข้างใน”
“ครั้งนี้ ถือว่าฉันช่วยท่านรองเอาไว้ใช่ไหมคะ?” เธอมองผ่านกระจกมองหลัง เห็นชายหนุ่มใช้สองแขนพาดไปบนพนักเบาะ แหงนหน้าขึ้น แพทตี้อ้าปากหวอ....อีกแล้ว!
….ท่าทางนี้ของเขา มักจะทำให้สติของเธอกระเจิดกระเจิงอยู่เรื่อย....
“มานั่งข้างหน้าเถอะค่ะ จะได้คาดเบลท์” เธอทำเหมือนเห็นแก่ความปลอดภัย เรียกเขามานั่งข้างคนขับเพื่อจะได้คาดเข็มขัดนิรภัย
“คุณคิดจะทำอะไร?”
**************************