Chapter 21 ความหมายของสร้อยเส้นนี้

1575 Words
หัวใจของหญิงสาวกระตุกวูบ เขาต้องรู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับสร้อยเส้นนี้แน่นอน ไม่อย่างนั้นเขาไม่ถามย้ำเรื่องนี้บ่อยขนาดนี้แน่ แล้วเธอก็ไม่รู้ความหมายของมันด้วยสิ เพราะเธอเองก็เพิ่งเคยเห็นมันเป็นครั้งแรก หญิงสาวรับสร้อยเส้นนั้นจากมือของชายหนุ่ม เธอพลิกดูรายละเอียดเล็กน้อยผ่านๆ แบบรวดเร็วที่สุดเพื่อไม่ให้เป็นพิรุธ มันเป็นสร้อยรูปกระทิงฝังนัยน์ตาเพชรสีน้ำเงิน ด้านหนึ่งสลักชื่อ เดลล่า ส่วนอีกด้านเป็นรูปดอกเบญจมาศ ตรงกลางดอกมีสัญลักษณ์ตัว R เป็นภาษาโรมัน “ฉันเห็นว่าสวยดี ฉันก็ซื้อมาให้เดลล่า แต่ก็เอาไปให้ช่างสลักชื่อเพิ่มเล็กน้อย” หญิงสาวโกหก “ฉันเพิ่งรู้ว่าผู้หญิงอย่างเธอจะเห็นกระทิงสวย มันไม่เหมาะที่จะซื้อให้เด็กสักนิด” “มันก็เป็นรสนิยมส่วนตัวของฉัน” หญิงสาวไหวไหล่น้อยๆ “ราคาคงไม่แพง” เขาถามขึ้นมาลอยๆ หยั่งเชิงเธอ “แน่นอนอยู่แล้ว ฉันคงไม่มีปัญญาซื้อของแพงให้ลูก” ชายหนุ่มพยักหน้าเล็กน้อยอย่างเข้าใจ หยิบสร้อยจากมือของเธอและยกมันขึ้นตรงกลางระหว่างเขากับเธอ สายตาคมมองผ่านกระทิงตัวนั้นจ้องหน้าหญิงสาวนิ่ง ถามเธอย้ำด้วยน้ำเสียงเข้มและเรียบ “แล้วเธอรู้ไหมว่าเพชรคู่นี้ราคาเท่าไหร่” หญิงสาวพยายามปรับสีหน้าให้เรียบที่สุด ทำใจดีสู้เสือ เธอไหวไหล่เล็กน้อยกลบเกลื่อน ตอบกลับเขาไปด้วยน้ำเสียงสบายๆ “ฉันก็ซื้อมาไม่กี่ยูโร” “หึ!” ชายหนุ่มเค้นเสียงออกมาจากลำคอ “ถ้าฉันไม่รู้จักสร้อยเส้นนี้ดี ฉันจะไม่มีวันถามเธอ มันเป็นสร้อยที่มีเส้นเดียวในโลก” ใบหน้าของหญิงสาวเริ่มเปลี่ยนสี ยังดีที่เป็นตอนกลางคืนและไฟในห้องแค่สลัว ทำให้ไม่เป็นที่ผิดสังเกตมากนัก “เธอจะบอกความจริงฉันได้หรือยัง” ชายหนุ่มถามย้ำเสียงเข้ม จ้องตาเธอนิ่ง ดวงตาของเขาเยือกเย็น หากแต่ดุดันน่ากลัวในเวลานี้ “เอ่อ!” หญิงสาวพูดไม่ออก เธอถูกเขาต้อนให้จนมุม เมื่อไม่มีทางเลือกหญิงสาวจึงยอมบอก สิตมนสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ หลายครั้งติดต่อกันเพื่อเรียกความมั่นใจให้กับตัวเอง “ก็ได้...” หญิงสาวตัดสินใจบอกออกมา “เธอเป็นลูกของเพื่อนฉัน เพื่อนของฉันทิ้งเพียงจดหมายเอาไว้ให้และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย และสั่งให้ฉันออกจากเมืองนั้นอย่างเร็วที่สุด ฉันทำตามรายละเอียดที่เธอแจ้งไว้ในจดหมายเท่านั้น” สิตมนบอกเสียงเบา “แล้วจดหมายฉบับนั้นอยู่ไหน” เขาถามต่อ “มันอยู่ในกระเป๋าของฉัน ซึ่งคุณก็สั่งให้คนเผาทำลายไปแล้ว” “ฉันต้องเชื่อคนโกหกซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างเธอหรือเปล่า” “แล้วตอนนี้ฉันมีอะไรที่เป็นของตัวเองเหลือติดตัวบ้างล่ะ” หญิงสาวถามกลับ “โอเคๆๆ” คราวนี้ชายหนุ่มกลับยอมง่ายๆ เรื่องที่เธอบอกสามารถพิสูจน์ได้อย่างง่ายดาย แต่ไม่ใช่เวลานี้ ซันเซสถามต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบเหมือนเดิม สายตาคู่คมยังจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของเธอเพื่อจับโกหกจากแววตาคู่นั้น ซึ่งตอนนี้มันแสดงออกว่ากำลังหวาดกลัว มันบอกให้เขารู้ว่าเธอไม่ได้โกหก “แล้วเธอคิดจะทำยังไงต่อ ปล่อยเดลล่าให้อยู่ที่นี่กับฉันอย่างนั้นเหรอ” น้ำเสียงของเขาเบาลง แต่ก็ไม่ถึงกับอ่อนโยน หญิงสาวทำหน้าเว้าวอนขอความเห็นใจ พยักหน้าเบาๆ เป็นเชิงตอบรับ “ถ้าหากคุณจะกรุณา ช่วยรับอุปการะเด็กสักคน ฉันแค่ทำตามความต้องการของเพื่อนจริงๆ” อย่างน้อยเธอก็ได้รู้ว่าเดลล่าปลอดภัย พ่อของเธอก็รักเธอมาก ส่วนเธอก็จะได้ออกไปตามหาซารีน่า ซึ่งก็เป็นทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้ “เพราะอะไรทำให้เธอเชื่อว่าฉันจะทำอย่างนั้น ฉันไม่ใช่คนใจดีอย่างนั้นหรอกนะ” เขาบอก “เธอก็เห็นว่าที่นี่ไม่มีผู้หญิง ฉันก็ไม่มีเวลาว่างมากพอพี่จะมาดูแลใครหรอกนะ” “ได้โปรดเถอะนะคะ” หญิงสาวเว้าวอน “แล้วฉันต้องทำตามไหม” เขาย้อนถามทันที “ได้โปรดเอ็นดูเธอด้วยนะคะ” เธอพยายามใช้น้ำเสียงอ่อนหวาน เว้าวอนเขา “แอ้ๆ” เดลล่าส่งเสียงร้องเตือนอีกครั้ง ชายหนุ่มยื่นมือไปรับขวดนมที่อยู่ในมือเธอมาป้อนเดลล่าเอง เขาทอดสายตามองคนที่อยู่ในเตียงเด็กด้วยแววตาอ่อนโยน “ฉันยอมรับว่าเอ็นดูเดลล่ามาก ฉันหลงรักเธอตั้งแต่วินาทีแรกที่เจอ ตกลง... ฉันจะอุปการะเธอ” ชายหนุ่มบอกเหมือนยอมง่ายๆ หญิงสาวไม่ได้รู้สึกแปลกใจเพราะคิดว่าเขาเป็นพ่อของเดลล่า อย่างไรเขาก็ต้องอุปการะเธอ และซารีน่าก็บอกย้ำกับเธอเอาไว้ตั้งแต่ต้น ว่าเขาจะรู้เรื่องทุกอย่างโดยไม่ต้องพูดอะไร หญิงสาวสัมผัสได้ว่าแววตาของเขาอ่อนโยนเมื่อพูดถึงเดลล่า และอ่อนโยนทุกครั้งเมื่อเขาได้อยู่กับเด็กน้อยคนนี้ นั่นยิ่งย้ำให้เธอเชื่อว่าทั้งคู่เป็นพ่อลูกกัน ชายหนุ่มบอกตัวเองในใจ ‘ใกล้ถึงเวลาที่เขาจะปล่อยผึ้งน้อยตัวนี้บินออกจากรัง เพื่อนำอาหารกลับเข้ามา และคนเลี้ยงผึ้งอย่างเขาจะรอคอย รีดน้ำผึ้งออกจากตัวเธอเอง’ ตอนนี้เขาเพียงต้องการความแน่ใจอีกหน่อย ทำให้หญิงสาวตายใจ ไม่ให้เธอรู้ว่าตัวเองกำลังถูกตลบหลังเป็นตัวล่อของเขา “คุณจะปล่อยฉันไปใช่ไหมคะ” หญิงสาวถามต่อทันที “ฉันก็ไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำกับคนหมดหนทางหรอก เมื่อเธอยอมรับตามตรงและไม่มีทางเลือก ฉันก็ยินดีช่วยเหลือ” หญิงสาวยิ้มกว้างให้เขาอย่างดีใจ ไม่คิดว่าทุกอย่างจะง่ายดายแบบนี้ “ขอบคุณนะคะ” ชายหนุ่มเริ่มแผนการของตัวเอง ทำเป็นใจดีกับเธอทุกอย่างให้หญิงสาวตายใจ “ถ้าเธอยอมพูดตามตรงกับฉันตั้งแต่ตอนแรก ฉันก็ยอมให้เธอไปตั้งแต่วันนั้น ฉันบอกเธอแล้วไง ขอเพียงแค่เธอพิสูจน์ได้ว่าไม่เคยคิดร้ายกับคาร์ลอส เธอจะเป็นอิสระทันที” “ตอนนั้นฉันกลัวไปหมด แต่ก็ต้องทำใจดีสู้เสือค้านหัวชนฝาเอาไว้” “เธอไม่คิดหรือไงว่าคฤหาสน์หลังใหญ่โตแบบนี้จะไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างอื่นให้จับผิดเธอได้ กล้องวงจรปิดที่นี่มีประสิทธิภาพเยี่ยมมากจนสามารถมองเห็นหน้าของเธอได้อย่างชัดเจนแม้ในที่มืด” “เพราะความโง่ของฉันเอง” หญิงสาวสบตาเขาอีกครั้ง “คุณจะปล่อยฉันไปจริงๆ ใช่ไหมคะ” หญิงสาวถามย้ำ “เธอไม่ห่วงเดลล่าบ้างเหรอ อย่างน้อยเด็กน้อยคนนี้ก็เป็นลูกของเพื่อนเธอ เธอกล้าปล่อยไว้กับคนที่ไม่เคยรู้จักได้อย่างไรกัน” ชายหนุ่มย้อนกลับด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ แต่แทงลึกไปเฉือนขั้วหัวใจของเธอ มันเป็นประโยคต่อว่าที่นุ่มนวลแต่เจ็บลึกเหมือนถูกแทงนับร้อยแผล “ก็เพราะฉันห่วงมากถึงได้รีบกลับมาที่นี่ แต่ฉันก็อยากให้เธออยู่ที่นี่กับคุณ ฉันเป็นคนต่างด้าวที่เข้ามาอยู่ในเมืองนี้ ดูแลเธอเพียงลำพังไม่ไหว” ชายหนุ่มหรี่ตามองอย่างจับผิด “เธอไม่ได้กำลังโกหกใช่ไหม” “ตอนนี้ฉันไม่กล้าโกหกคุณแล้ว” เธอยังตีหน้าเศร้าบอกด้วยน้ำเสียงรันทดเหมือนเดิม แต่ก็ไม่สามารถปกปิดสายตาพญาเหยี่ยวอย่างเขาไปได้ “เธอบอกฉันได้หรือเปล่าว่าเพื่อนของเธอชื่ออะไร เกี่ยวข้องกับฉันยังไง” “เธอชื่อซารีน่า คุณน่าจะรู้ดีกว่าฉันว่าเธอเกี่ยวข้องกับคุณยังไง” ชายหนุ่มกลั้นยิ้มเอาไว้ พอใจในคำตอบที่ได้รับ แต่เขาต้องสร้างเกมให้เธอเดินเพื่อคำตอบที่เขาต้องการต่อ “ฉันไม่เคยรู้จักคนชื่อนี้” ‘หึ! คงจะผ่านผู้หญิงมามากจนจำชื่อไม่ได้หมดสิ ไอ้ผู้ชายหน้ากบ’ หญิงสาวต่อว่าเขาในใจ ชายหนุ่มมองหน้าเธอนิ่ง เดาทางได้ยาก “คุณกำลังคิดว่าฉันแต่งเรื่องโกหกคุณใช่ไหม” เธอถามต่อ “โอเคๆ ฉันจะเชื่อเธออีกสักครั้ง ฉันอาจจะเคยรู้จัก แต่คงนานมากจนจำไม่ได้ แล้วเธอล่ะ... จะทำอย่างไรกับชีวิตของเธอต่อ” เขายอมรับง่ายๆ หญิงสาวส่ายหน้า “ฉันไม่รู้ เริ่มแรกคงต้องไปหางานทำ ฉันเรียนจบจากที่นี่คงจะหางานทำได้” หญิงสาวบอกไปตามความจริง เธอไม่อยากโกหกเขาอีก ถ้าเขาจับได้เธอไม่อยากถูกมองว่าเป็นผู้หญิงปลิ้นปล้อน “อยากทำงานกับฉันไหม” ชายหนุ่มเอ่ยปากชวน หญิงสาวก็รีบปฏิเสธทันที “ฉันไม่อยากรบกวนคุณมากกว่านี้ ขอพยายามด้วยตัวเองดีกว่า และถ้าหากว่าคุณจะกรุณา ฉันขอเอกสารชุดนั้นได้หรือเปล่า วันนี้คุณก็ได้พิสูจน์แล้วว่าฉันไม่เคยคิดร้ายกับคุณ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD