บทที่7) พื้นที่ทับซ้อน
โรงเรียนธัญศิลาวิทยา
"หลังเลิกเรียนขอเชิญสรินยาเข้าไปพบครูในห้องอำนวยการของโรงเรียนด้วยนะคะ"
"สรินยา"
"นักเรียนทำความเคารพ" ร่างเล็กของแซนดี้ลุกพรวดขึ้นจากที่นั่งเพื่อทำหน้าที่ของหัวหน้าห้องโดยอัตโนมัติหลังจากได้ยินน้ำเสียงเข้มๆ ของอาจารย์ประจำวิชา
"อีแซนดี้มึงเป็นอะไร ยังไม่หมดคาบนะ" สาลี่ที่สังเกตได้ว่าเพื่อนร่วมห้องนั้นกำลังพากันหัวเราะในท่าทีของเพื่อนสาวก็รีบดึงชายเสื้อนักเรียนของเพื่อนเบาๆ เพื่อเป็นสัญญาณให้เธอนั่งลงตามเดิม
"ขอโทษค่ะอาจารย์" เมื่อรับรู้ดังนั้นใบหน้าขาวใสก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับลูกตำลึงสุกเพราะความเขินอายในท่าทีโง่ๆ ที่ตัวเองพึ่งจะแสดงออกมา
"ไม่เป็นไรค่ะ" และเพราะเธอและเพื่อนอีกสองคนมีผลการเรียนที่ดีเสมอมาจึงทำให้น้ำเสียงเข้มๆเมื่อก่อนหน้ากลายเป็นน้ำเสียงอ่อนนุ่มในทันที
"หลังหมดคาบเชิญพบอาจารย์ที่ห้องอำนวยการด้วยนะคะ สรินยา"
"ค่ะอาจารย์"
ห้องอำนวยการ
"สรินยา เธอคงจะทราบมาบ้างแล้วใช่ไหมคะว่าต้นเดือนสิงหาคมทางโรงเรียนจะมีการจัดกิจกรรมกีฬาสี" อาจารย์นิ่มนวลกล่าวเปิดประเด็นในทันทีเมื่อเห็นว่าคนที่ผลักประตูห้องเข้ามาคือเธอ
"ยังค่ะ" แล้วจะให้เธอรับรู้เรื่องสำคัญแบบนี้ได้ยังไงกันก็ในเมื่อพื้นที่ของสมองและหัวใจของเธอนั้นมันเอาแต่คิดถึงผู้ชายที่ชื่อไฟท์เตอร์อยู่ตลอดเวลา
"ถ้าอย่างนั้นก็ถือว่าเธอรับรู้แล้ว" อาจารย์นิ่มนวลเลือกที่จะมองข้ามในความสะเพร่าของลูกศิษย์คนโปรดก่อนจะเอ่ยต่อ "ยังไงเธอก็ช่วยจัดแจงในเรื่องการจับฉลากสีให้กับครูหน่อยนะสรินยา อันที่จริงเรื่องนี้ควรเป็นหน้าที่ของครูประจำชั้นที่จะต้องแจ้งให้หัวหน้าห้องทราบ แต่ในตอนนี้น้องสาวของอาจารย์กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล อาจารย์จึงต้องรับหน้าที่เป็นครูประจำชั้นชั่วคราว หวังว่าเธอคงจะไม่ติดใจอะไรใช่ไหมสรินยา"
"ค่ะอาจารย์" แซนดี้ตอบรับอย่างว่านอนสอนง่าย "แล้วไม่ทราบว่าสีที่จะให้นักเรียนจับฉลาก มีสีอะไรบ้างคะอาจารย์"
"ปีนี้มี3สี สีชมพู สีฟ้า และสีเขียวจ๊ะสรินยา ถ้าจะให้ดีจัดการให้เรียบร้อยภายในเย็นวันนี้และส่งรายงานเล่มนี้ให้อาจารย์หลังเลิกเรียนนะคะ"
"รับทราบค่ะอาจารย์"
ห้องเรียน
"ในโหลแก้วนี้จะมีฉลากที่ระบุสีที่ในแต่ละคนจะได้เข้าร่วมในวันงานกีฬาสีทั้งหมดสามสีด้วยกัน ก็คือ สีชมพู สีฟ้ากับสีเขียว ยังไงเดี๋ยวแซนดี้ขอเรียกชื่อเล่นละกันนะง่ายดี"
"จอมขวัญค่ะ" เสียงหวานของหัวหน้าห้องเอ่ยเรียกเพื่อนร่วมห้องออกมาจับฉลากตามลำดับเลขที "สีชมพูค่ะ"
"เทียนหอม สีฟ้าค่ะ" แซนดี้พูดเสียงดังฟังชัดและหันกระดาษใบเล็กให้ทุกคนได้ดูเพื่อเป็นหลักฐานยืนยัน
"เฌอพราว สีเขียวค่ะ" สิ้นคำพูดของหัวหน้าห้อง สาลี่กับวีวี่ที่รับหน้าที่เป็นลูกมือก็รีบจดรายละเอียดลงในสมุดบันทึกในทันที
"วีวี่ถือให้เราหน่อยค่ะ" เมื่อเพื่อนร่วมห้องนั้นได้หยิบฉลากกันจนครบทุกคนแล้ว คราวนี้ก็มาถึงทีของแซนดี้ที่จะได้หยิบฉลากบ้าง
ฝ่ายวีวี่ที่เป็นคนอาสาถือโหลแก้วให้เพื่อนสาวได้หยิบฉลากก็หันไปมองหน้าสาลี่ที่ยืนอยู่ด้านหน้าด้วยความรู้สึกลุ้นจนตัวโก่งว่าแซนดี้นั้นจะหยิบฉลากได้สีเขียวเหมือนกับเธอทั้งสองคนหรือไม่
"แซนดี้ สีเขียวค่ะ" วีวี่รีบแจ้งให้เพื่อนๆ ทราบโดยทั่วกันก่อนจะกระโดดโหยงเหยงเข้าไปแท็กมือกับสาลี่ด้วยความดีใจที่ความต้องการของพวกเธอนั้นสมหวังดังปรารถนา
เลิกเรียน
"เห็นพี่หยดฟ้าที่เป็นประธานนักเรียนเขาประกาศลงในไลน์กลุ่มของโรงเรียนว่าชุดสำหรับใส่ในวันงานกีฬาสีน่ะให้พวกเราจัดหาซื้อกันเองได้เลย แต่ผู้หญิงต้องใส่กระโปรงนะ" แซนดี้แจกแจงข่าวสารของโรงเรียนให้เพื่อนทั้งสองได้รับรู้ขณะที่ทั้งสามกำลังนั่งทานไอศกรีมในร้านที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของโรงเรียน
"กระโปรงเหรอวะ" สาลี่ว่าก่อนจะกลืนไอกรีมก้อนโตลงกระเพาะไป "เดี๋ยวก็มีดราม่าเรื่องสั้นเกินงามเหมือนปีที่แล้วอีกหรอก"
แซนดี้กับวีวี่พยักหน้าเชิงเห็นด้วยหลังสาลี่ว่าจบ เพราะเมื่อปีการศึกษาที่ผ่านมาได้มีปัญหาทำนองนี้เกิดขึ้นมาแล้ว
"นั่งด้วยได้ไหมครับ"
"พวกกูไปก่อนนะแซนดี้" สาลี่ที่เห็นว่าผู้มาขอร่วมโต๊ะเป็นใครก็รีบดึงตัวของวีวี่ให้ออกห่างจากตรงนั้นในทันที
"ไม่ได้" แต่หารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วชายหนุ่มคนนี้นั้นคือเฟียสต้า หาใช่ไฟท์เตอร์ที่เพื่อนสาวของพวกเธอหลงรักจนหมดหัวใจไม่
"เมื่อคืนก่อนเป็นยังไงบ้าง" เพราะเขามัวแต่วุ่นๆ อยู่กับการดูแลไร่กาแฟให้กับแม่ของเธอหลังจากคืนที่พาตัวเธอไปส่งที่บ้าน จึงเป็นเหตุให้เขาไม่ได้รับรู้ความเป็นไปของเธอหลังจากคืนนั้นนั่นเอง
"อย่ามาวุ่นวายกับแซนดี้จะได้ไหม รำคาญ" ถ้าหากถามว่าผู้ชายแบบไหนที่ผู้หญิงไม่ชอบมากที่สุด คำตอบของเธอก็คงจะเป็นผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าของเธอในขณะนี้นี่แหละ
"พี่แค่เป็นห่ว...
"เก็บความห่วงใยของพี่เอาไว้ตรงนั้นแหละ แซนดี้ไม่ต้องการ แล้วถ้าพี่ไม่ว่าอะไรแซนดี้ก็คงจะต้องขอตัวเพราะพี่ไฟท์เขารอแซนดี้อยู่นานแล้ว"
เฟียสต้ามองตามแผ่นหลังเล็กนั้นด้วยสายตาละห้อยอย่างหมดอาลัยตายอยาก และถึงแม้ว่าเขานั้นจะรู้สึกโกรธและแค้นน้องชายอย่างไฟท์เตอร์ที่บังอาจเข้ามาวุ่นวายกับดวงใจของเขามากแค่ไหน หากแต่เขาก็ยังคงไม่หน้ามืดจนถึงขั้นบังคับฝืนใจผู้หญิงที่ตัวเองรักและทำร้ายน้องชายร่วมสายเลือดของตัวเองได้ลงคอ
บ้านนฤเบศน์
ก๊อกๆ
"แซนดี้ลูก พี่เฟียสเขามาหาแหนะลูก" ศันสนีย์ที่กำลังเตรียมอาหารเที่ยงอยู่ในครัวรีบขึ้นมาเคาะประตูเรียกลูกสาวในทันทีที่เฟียสต้านั้นเดินทางมาขออนุญาติพาลูกสาวของเธอออกไปเที่ยวสวนสัตว์นอกตัวเมือง
"แซนดี้ปวดหัวค่ะแม่"
เมื่อได้ยินยังนั้นคนที่มีนิสัยไม่ชอบเซ้าซี้ลูกก็เลือกที่จะไม่ถามอะไรต่อ ก่อนจะรีบวิ่งลงมาชั้นล่างอีกครั้งเพื่อแจ้งให้กับเด็กหนุ่มรุ่นลูกนั้นได้รับรู้ว่าลูกสาวคงจะไม่สะดวกที่จะเดินทางไปเที่ยวกับเขาในวันนี้
"ไม่เป็นไรครับ" เฟียสต้าเมื่อรับรู้ดังนั้นก็แอบเหลือบมองไปตรงบันไดอย่างนึกน้อยใจ เธอจะไม่สบายได้อย่างไรก็ในเมื่อประมาณ5นาทีที่ผ่านมาเธอยังโพสต์สเตตัสว่าอยากจะไปเที่ยวสวนสัตว์กับคนสำคัญของเธอสักครั้งอยู่เลย
แต่เขามันก็คงจะโง่เองที่คิดเอาไปว่าคนสำคัญของเธอนั้นคือตัวเอง
"ไปซะได้ก็ดี ผู้ชายอะไรน่ารำคาญชะมัด" ลิ้นเล็กแลบออกมาอย่างรู้สึกรังเกียจรังงอนเจ้าของรถสปอร์ตคันหรูที่พึ่งออกตัวพ้นรั้วบ้านของเธอไป
"โสดไม่โสดอยู่ที่คนถาม ว่างไม่ว่างอยู่ที่คนชวน" ก่อนจะหันกลับมาเช็คความเรียบร้อยผ่านกระจกบานใหญ่ และคว้าชูเบอร์รี่สีสันสดใสที่พึ่งถอยออกมาใหม่ๆ ขึ้นมาประดับสองเท้าของตัวเอง
"คนอะไรทำไมสวยจัง"
แซนดี้: พี่ไฟท์อยู่ที่ไหนแล้วคะ
แซนดี้: งือ~ ตอบเค้าหน่อยงับ
กว่าครึ่งชั่วโมงผ่านไปที่คนปลายทางกดอ่านข้อความและไม่คิดที่จะตอบอะไรกลับมาจนทำให้เธอนั้นเริ่มรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
แซนดี้: ก็ไหนบอกว่าจะรับแซนดี้ไปเที่ยวสวนสัตว์ละคะ
แซนดี้: ร้องไห้ลิ้วนะ งือ~
ติ๊ง!
"อ๊ะ ตอบกลับมาแล้ว"
เฟียสต้า: หายปวดหัวรึยังครับหนูแซน
เฟียสต้า: นอนหลับพักผ่อนเยอะๆนะครับ เป็นห่วงน้า~
แซนดี้: อืมค่ะ
"ไอ้คนที่อยากให้มาไม่มา ไอ้คนที่อยากให้ไปตายก็เสือกมาวุ่นวายกับกูอยู่ได้ เวรของอีแซน!"
ติ๊ง!
"อะไรอีก!" มือเล็กที่กำลังจะขว้างมือถือทิ้งเพื่อระบายอารมณ์กลับต้องชะงักลงกลางคันเมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนข้อความดังขึ้นมาอีกครั้ง
ไฟท์เตอร์: ไม่ว่างครับ
"ไม่ว่างอีกแล้วเหรอ" เธอพึ่งจะเข้าใจถึงคำว่าหมาหงอยก็วันนี้นี่เอง
"หลอกให้ฉันคอยเก้ออีกแล้ว"
เมื่อคนที่อยากเจอหน้าส่งข้อความมาบอกว่าไม่ว่าง จากที่แกล้งป่วยเพื่อหนีหน้าผู้ชายอีกคนกลับกลายเป็นว่าเธอนั้นรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะตายเอาเสียจริงๆ
เธอคิดถึงจนแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว แล้วดูสิ่งที่เขาทำเขาตอบแทนความคิดถึงของเธอสิ ไอ้ผู้ชายใจร้าย! (แต่ก็ยังรักเขาอยู่ดี)
-ตัด-
เทเหล้าหกยังพอทน เทใจผิดคนมันเสียเวลา กอดๆ นะพี่เฟียส
มัลลิกา
(เขียน)