บทที่10) เป้าหมายใหม่
โรงพยาบาลคิระนครศรีธรรมราช
เฟียสต้านั่งมองหญิงสาวที่ตัวเองรักที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ในสภาพอิดโรยและมีเฝือกห่อหุ้มอยู่ตรงแขนขวาด้วยความเป็นห่วง
โชคดีเหลือเกินที่เขายังคงนั่งคุยเล่นอยู่กับพ่อแม่ของเธอหลังจากที่รับประทานอาหารด้วยกันเสร็จ แม้ว่านั่นจะเป็นการทำให้หญิงสาวอึดอัดจนถึงขั้นต้องโกหกว่าจะไปเข้าห้องน้ำเพราะไม่อยากจะสนทนากับเขาก็ตามทีเถอะนะ
แต่อย่างน้อยๆเขาก็ยังได้ทำหน้าที่พาเธอมาถึงมือคุณหมอได้อย่างรวดเร็ว โล่งอกไปที
"ตื่นมาแล้วเราก็ไล่พี่อีกตามเคย" เฟียสต้าว่าอย่างตัดพ้อ เขาไม่ได้โง่พอที่จะดูไม่ออกว่าแซนดี้นั้นปรารถนาที่จะได้รับพรให้เขาหายไปจากชีวิตของเธอ ไม่สิ หายไปจากโลกใบนี้เลยต่างหาก..
เธอไม่อยากแม้กระทั่งหายใจร่วมโลกใบเดียวกับเขาด้วยซ้ำ...
"แค่กๆ" เสียงไอแหบแห้งที่ดังขึ้นดึงให้เฟียสต้าหลุดพ้นจากวังวนความน้อยเนื้อต่ำใจในทันที
"น้ำ"
"น้ำครับ" เฟียสต้ายื่นหลอดเข้าจ่อปากสีหวานนั้นอย่างเอาอกเอาใจ เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยด้วยซ้ำว่าแซนดี้มีโรคประจำตัวเป็นไมเกรน พอรู้อย่างนั้นแล้วก็อยากที่จะดูแลเธอมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
แม้เธอจะไม่ต้องการก็ตามทีเถอะนะ
แซนดี้ดูดน้ำในแก้วใหญ่นั้นจนเกือบหมดก่อนจะแสร้งเบือนหน้าหนีคนทันทีที่รับรู้ได้ว่าคนตรงหน้านั้นคือเฟียสต้า ผู้ชายน่ารำคาญที่เธอเกลียดมากที่สุดในโลก
"สักพักพี่ก็กลับแล้ว ติดงานน่ะ แต่แซนดี้ไม่ต้องกลัวเหงานะเพราะพี่ไหว้วานไอ้ไฟท์มันให้มาช่วยอยู่เป็นเพื่อนหนูแซนแล้ว" เขาโกหก! แค่หน้าของน้องชายฝาแฝดเขายังไม่อยากจะมอง แล้วจะเอาอะไรมานั่งคุยกันได้ โกหกทั้งเพแหละ!
"อ้าว...แซนดี้ก็คิดว่าพี่เฟียสจะอยู่เป็นเพื่อนกันซะอีก" ก็ลองดูสิว่าใครมันจะแน่กว่ากัน หากไฟท์เตอร์คิดที่จะย่ำยีหัวใจของเธอ เธอก็จะทำลายหัวใจของพี่ชาบฝาแฝดของเขาด้วยเหมือนกัน!
"พี่ยินดีครับ พี่ยินดีที่จะอยู่เป็นเพื่อนหนูแซน" เขายินดีเสมอถ้าหากนั่นเป็นสิ่งที่เธอต้องการ แม้จะรู้ตัวดีว่าเธอแค่กำลังใช้ตัวเองประชดน้องชายฝาแฝดของตัวเองก็ตามทีเถอะนะ
ก็เพราะรักเธอมากไง ถึงได้ยอมโง่อยู่อย่างนี้...
"พี่เฟียสใจดีที่สุดเลย น่ารักนะเนี่ย~" สองมือเล็กยกขึ้นบีบสองแก้มคมจนปากหยักหนาห่อตัวเข้าหากันอย่างหมั่นเขี้ยว
จุ๊บ!
"อยู่เป็นเพื่อนหนูแซนไปอีกนานๆน้า~ หนูแซนจะได้ไม่เหงา~" ก่อนจะกดริมฝีปากลงบนปากหยักหนานั้นเพื่อความสมจริงมากยิ่งขึ้นในบทบาทที่กำลังแสดงแกล้งทำ
"..." ไม่รู้หรอกว่าเธอคิดยังไง แต่ไข่เขาโด่แล้ว แม่งเอ้ย!ขนาดแค่แตะปากกันนิดหน่อยเป็นเอามากไอ้ลูกชายเวร
"พี่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ" นิ้วทั้งห้าที่ข้าชักหรือจะสู้แม่นางที่ข้ารักซักให้ข้า
แต่ตอนนี้แค่เพื่อนเธอยังไม่อนุญาติให้เป็น พึ่งตัวเองไปก่อนละกันเนาะเรา
"อย่างพวกพี่น่ะตามอีแซนไม่ทันหรอกจะบอกให้" คิดจะปั่นหัวคนที่สันทัดในเรื่องนี้อย่างแซนดี้ คุณคิดผิดค่ะคุณกิตติ!
"แล้วแขนก็ดันมาหักอีก กรรมจริงๆ" เห็นทีกิจกรรมกีฬาสีโรงเรียนที่กำลังจะจัดขึ้นในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้าเธอก็คงจะพลาดการเข้าร่วมความสนุกไปเสียแล้วสิ
ไมเกรนกำเริบ หัวแตกแขนก็เสือกมาหัก เวรของอีแซนจริงๆ
"อ๊ะ! เจ็บอ่า" คราแรกแซนดี้คิดจะฝืนสังขารตัวเองโดยการเอื้อมแขนไปหยิบสมาร์ทโฟนที่อยู่ตรงลิ้นชักข้างหัวเตียง หากแต่ดูเหมือนว่าสภาพร่างกายของเธอในตอนนี้มันไม่ได้เอื้ออำนวยให้เธอได้ทำในสิ่งที่ตัวเองปรารถนาได้เลย
"เซ็งๆ เซ็งโว้ย!" เรือนผมสีน้ำตาลยาวสลวยสลัดไปมาอย่างเอาแต่ใจตัวเอง มันจะมีอะไรที่น่าหงุดหงิดมากไปกว่าการที่เธอไม่สามารถที่จะทำอะไรตามใจตัวเองไม่ได้อีกไหม ตอบ!
"เป็นอะไรครับคนสวย" เฟียสต้าที่กลับมาพร้อมเคบับเจ้าดังในมือเอ่ยถามอย่างเอาอกเอาใจหลังจากได้เห็นภาพแม่ยอดดวงใจของตัวเองกำลังชักดิ้นชักงออยู่บนเตียงคนไข้
เด็กน้อยของไอ้เฟียส คนอะไรขนาดหงุดหงิดยังน่ารักเป็นบ้าเลย จะทำให้ผมตกหลุมรักคุณซ้ำๆไปอีกนานแค่ไหนกันครับเนี่ย!
"หนูแซนจะหยิบมือถือ แต่หยิบไม่ถึงเจ็บแขนอ่า ฮือ~" ปากสีหวานแบะคว่ำคล้ายจะร้องไห้ "พี่เฟียสหยิบให้หนูแซนหน่อยจะได้ไหมคะ~"
"เรื่องแค่นี้เองได้อยู่แล้วครับ" เฟียสต้าที่แม้จะพอตามเกมทันอยู่บ้างหากแต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ต่อลูกอ้อนของหญิงอันเป็นที่รักอยู่ดี
เป็นให้ได้ทุกอย่าง ถึงเธอจะไม่รักผมก็เถอะนะ น้อยใจแหละแต่กูก็แค่ผู้ชายร่วมโลกเดียวกับเธอคนหนึ่งเท่านั้นนี่หว่า แฟนก็ไม่ใช่ เพื่อนเธอก็ไม่ให้เป็น
อย่างนั้นแล้วจะให้กูไปเรียกร้องขออุทรณ์หาสวรรค์วิมานอะไรได้เล่า แต่ก็เอาเถอะอย่างน้อยๆก็ยังได้อยู่ใกล้ๆกับเธอ
แค่นั้นก็เกินพอแล้วสำหรับเขา
"ขอบคุณค่ะ~" แซนดี้ยกมือพุ่มขึ้นไหว้ชายรุ่นพี่อย่างขอบคุณก่อนจะฉีกยิ้มหวานจนตาหยีโชว์ลักยิ้มสองข้างอย่างน่ารักน่าเอ็นดู
ตาย! ไอ้เฟียสตาย!
"พี่เฟียสคิดว่า หนูแซนสวยไหมคะ" เมื่อรับรู้ได้ว่าเหยื่อกำลังจะหลงเข้ามาติดในกับดักที่ตัวเองตั้งใจวางเอาไว้ แซนดี้จึงริเริ่มแผนการณ์ขั้นต่อไปในทันที
"ไม่สวยเหรอคะ" แซนดี้เริ่มใจไม่ดีจึงเอ่ยถามซ้ำ คราแรกเธอคิดว่าเขาคงจะตอบกลับมาในทันทีว่าเธอมีเสน่ห์สำหรับเขามากแค่ไหนเพราะเธอก็พอจะดูออกว่าเฟียสต้ารู้สึกอย่างไรกับตัวเอง
แต่มันไม่ได้เป็นไปตามที่เธอคาดการณ์ เขาเงียบไป เงียบเสียจนเธอเริ่มรู้สึกอับอายขึ้นมา ไม่น่ามั่นหน้าเลยอีแซนบ้าฉิบ!
"สวยครับ" เฟียสต้าเอ่ยตอบอย่างจริงใจ "สวยมากเสียจนพี่อยากจะได้หัวใจของหนูแซนมาครอบครอง อยากจะเป็นคนในหัวใจของแซนดี้"
เป็นไงเป็นกันวะ! จะหมู่หรือจ่าก็ค่อยว่ากันอีกที กูสารภาพขนาดนี้เธอยังไม่ยอมใจอ่อนก็ให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
"แล้วถ้าหากได้เข้ามาอยู่ในหัวใจ จะดูแลแซนดี้ตลอดไปได้ไหมคะ" เอาสิ! ให้ท่าขนาดนี้ไม่คว้าเอาไว้ก็โง่เต็มกลืนแล้วค่ะ
"ตลอดชีวิตของอนุชิตครับผม" ดวงตาสองคู่สบกันด้วยความหมายที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ในสายตาของเฟียสต้าเธอคือนางฟ้าตัวน้อยๆประจำใจที่เพิ่มพูนความสดให้กับชีวิตของเขาในทุกๆวัน ในขณะที่ในสายตาของแซนดี้มีแค่ความว่างเปล่าที่แฝงมาด้วยความเกลียดชังและอยากที่จะเอาชนะเพียงเท่านั้น
แต่ช่างน่าเสียดายที่ในตอนนี้ความรักนั้นมันได้ทิ่มแทงดวงตาของชายหนุ่มเสียมันมืดบอดจนพาให้เห็นกงจักรอย่างแซนดี้เป็นดอกบัวที่แสนสง่างาม
ช่างน่าเสียดาย...
"เป็นแฟนกันไหมคะ"
-ตัด-
น่าสงสารพี่เค้านะคะ
มัลลิกา
(เขียน)