บทที่21) สำนึกได้ก็สายเกิน
Event Club
แซนดี้กำลังนั่งอยู่คนเดียวตรงมุมอับในคลับของเติมเต็มและเพียงใจ เสียงถอนใจด้วยความหนักใจดังขึ้นเป็นระยะ ในมือของเธอมีมือถือเครื่องหนึ่งที่มีรูปของเธอพร้อมรอยยิ้มสดใสเป็นภาพหน้าจอประดับอยู่บนนั้น เมื่อเห็นแบบนั้นแซนดี้ก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงตัวเองในตอนที่สดใสและมีความสุขมากกว่าตอนนี้
ตอนนี้ความสุขของเธอ...ไม่มีอีกแล้ว มันไม่มีอีกแล้ว
น้ำตาของเธอเริ่มไหลออกมาอีกครั้งขณะเลื่อนดูแกลอรี่รูปภาพในมือถือเครื่องนั้น
มือไม้ของเธอสั่นเทาและปากเล็กนั้นก็เริ่มมีเสียงสะอื้นออกมาหนักขึ้นเมื่อเลื่อนไปเจอรูปคู่ของเธอกับเฟียสต้าเมื่อครั้งไปนั่งคาเฟ่คัพเค้กด้วยกันเป็นครั้งแรก และใช่... มือถือเครื่องนี้คือมือถือของเฟียสต้าที่ลืมเขาลืมเอาไว้เมื่อหลายเดือนก่อน
"แม่โง่เองลูก" สาวน้อยวัยสิบหกปีกล่าวเสียงแผ่วและยกมือขึ้นลูบหน้าท้องของตัวเองด้วยความรู้สึกผิดที่เธอทำให้เขาต้องขาดพ่อไปเพราะความเอาแต่ใจของเธอเอง
เธอพึ่งรู้ตัวว่าท้องเมื่อสัปดาห์ก่อนหลังจากที่ประจำเดือนที่เคยมาอย่างปกติขาดหายไปเกือบ3เดือนด้วยกัน คราแรกเธอคิดเข้าข้างตัวเองว่าคงจะเป็นไปไม่หรอกที่จะท้องก็เพราะเธอได้ทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้วในตอนนั้น หากแต่ผลตรวจร่างกายอย่างละเอียดที่ออกมาจากคลินิกนั้นก็ทำให้เธอไม่สามารถหลอกตัวเองได้อีกต่อไป
เธอท้อง 8สัปดาห์กับอีก2วัน นั่นหมายความว่าการพลั้งพลาดครั้งเดียวในตอนนั้นสวรรค์ก็ส่งเทวดาตัวน้อยคนนี้ลงมาในท้องของเธอทันที
"ครั้งเดียวติดไม่เกินจริงสำหรับแกไอ้แซน" นี่ช่างเป็นตลกร้ายสำหรับเธอเอาเสียเหลือเกิน แล้วอย่างนี้เธอจะเอาหน้าที่ไหนไปขอความรับผิดชอบจากเขากันเล่า ก็ในเมื่อเธอได้เขี่ยความรับผิดชอบที่เขาเต็มใจจะมอบให้ด้วยมือของเธอเองอย่างไม่ใยดีไปเมื่อหลายเดือนก่อน
"พ่อคะ แม่คะ หนูขอโทษนะคะ" เสียงเล็กนั้นเอ่ยออกมาแผ่วเบาจนแทบจะกลายเป็นเสียงกระซิบ แม้พ่อจะเคยบอกเอาไว้ว่าหลานคนเดียวพ่อกับแม่เลี้ยงได้ หากแต่พอถึงเวลาเข้าจริงๆ เธอกลับ...ไม่กล้าหันหน้าเข้าหาใครเลยแม้กระทั่งพ่อกับแม่ของตัวเอง ยิ่งพ่อและแม่ของเฟียสต้ายิ่งแล้วใหญ่ ทั้งคู่เกลียดเธอเข้าไส้ขนาดนั้นจะเอาอะไรมารักหลาน
"เราจะหนีกันนะลูก อันที่จริงมันก็คงจะดีกว่านี้ถ้าในตอนนี้เพื่อนของแม่นั่งอยู่ตรงนี้ด้วย คงจะดีกว่านี้ถ้าเรามีใครสักคนที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างเรา และชี้ทางสว่างให้เราได้เดินหน้าต่อไป"
เด็กสาวได้เริ่มวางแผนเอาไว้แล้วว่าจะหอบลูกในท้องหนีปัญหาไปหลบซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งและค่อยย้อนกลับมาในตอนที่รู้สึกว่าตัวเองพร้อม
"แม่ขอโทษนะลูก แต่แม่คงทนอยู่แบบมีแต่คนเกลียดอีกต่อไปไม่ไหว แม่จะหนีและแม่สัญญาว่าหนูจะไม่ลำบาก" เธอเตรียมเสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็นใส่กระเป๋านักเรียนมาด้วยในวันนี้ บัตรเอทีเอ็มที่ผูกติดกับบัญชีห้างของเธอก็เอามาด้วย เงินเก็บที่ได้จากเปอร์เซ็นไร่องุ่นของพสุธาหรือย่าของลูกนั้นมันมีมากพอที่จะทำให้เธอมั่นใจได้ว่าลูกของเธอจะไม่ลำบากในภายภาคหน้า
"เกาะแม่แน่นๆนะลูกนะ แม่จำเป็นต้องขี่มอเตอร์ไซค์นะลูกเพราะแม่ไม่มีใบขับขี่สำหรับรถยนต์ เกิดเป็นลูกแม่ต้องอดทนนะรู้ไหม" เธอเติมน้ำมันเอาไว้จนเต็มถังแล้วตั้งแต่เมื่อวาน เธอพร้อมสำหรับทุกอย่างแล้วและถ้าหากไม่มีอะไรผิดพลาด...เธอจะหนีไปอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้านี้
"นั่งด้วยได้ไหมครับ" แซนดี้หันไปด้านหลังก็เจอผู้ชายที่คุ้นเคยคนหนึ่ง แวบแรกเธอดีใจจนเนื้อเต้นเมื่อด้วยคิดว่าเป็นเฟียสต้า แต่นาทีต่อมาหัวใจดวงน้อยก็พลอยต้องห่อเหี่ยวเมื่อสังเกตเห็นรอยสักรูปมังกรตรงท้ายทอยของเขา
ผู้ชายคนนี้คือไฟท์เตอร์ ไม่ใช่เฟียสต้า...
"แซนดี้จะกลับแล้วค่ะ ขอตัวนะคะ" เธอรู้ว่าเธอดูเหมือนคนโง่เง่าถ้าหากจะบอกว่าในตอนนี้คนที่เธออยากเจอคือเฟียสต้า ไม่ใช่เขา เธอคิดว่าเพราะเธอคงจะรู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเองจึงทำให้เธอเลิกคิดถึงเฟียสต้าไม่ได้เสียที ทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอรังเกียจเขาอย่างกับอะไรดี
"ว้า มันน่าน้อยใจจังเลย" ไฟท์เตอร์ยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะออกแรงกระชากต้นแขนเล็กนั้นให้เดินตามเขาเข้าไปยังห้องลับในคลับอีเว้นท์
"พี่ไฟท์! คิดจะทำอะไรคะปล่อยแซนดี้นะ!" เสียงหวานร้องตะโกนอย่างตกใจเมื่อจู่ๆก็ถูกเขาลากตัวเข้ามาอยู่ในห้องลับกันเพียงสองต่อสอง และเขาก็เอาแต่นั่งจ้องหน้าจอมือถือหลังจากที่บังคับขู่เข็ญให้เธอนั่งอยู่บนเตียงได้สำเร็จ
"ยิ้มสวยๆสิครับ" เมื่อเห็นว่าแซนดี้ไม่ยอมทำตามไฟท์เตอร์จึงเขาไปฉีกแก้มเล็กนั้นออกจากกันเพื่อคาดคั้นให้เธอยิ้มตามความต้องการของเขา
"โอ๊ย! อ่อยแอนอี้นะ"
"กูบอกให้มึงยิ้ม!" สิ้นเสียงคำรามแซนดี้ก็รีบฉีกยิ้มตามคำสั่งอย่างรักตัวกลัวตายในทันที
"อยากรู้ใช่ไหมกูพามึงเข้ามาในห้องนี้ทำไม งั้นกูขอถามมึงก่อนละกันว่ามึงจำได้ไหมว่ามึงทำอะไรไว้กับพี่ชายของกู อีเด็กเวร!" ไฟท์เตอร์พยายามอย่างหนักในการข่มอารมณ์ตัวเองไม่ให้ตบหน้าของผู้หญิงแพศยาที่บังอาจทำร้ายหัวใจพี่ชายของเขา
"พี่กูผิดอะไร! ทำเขาทำไม จิตใจมึงทำด้วยอะไรอีแซน! หรือมึงไม่มีหัวใจมึงถึงได้มองความรักที่พี่กูมีให้เป็นเพียงดอกหญ้าริมทางที่ไม่ควรค่าให้มึงหันมามอง! มึงหยุดนะ! อย่ามาร้องไห้ต่อหน้ากูเพราะกูไม่มีวันที่จะสงสารอีเด็กเปรตอย่างมึง!"
"ฮึก!" แซนดี้หวาดผวาจนร้องไห้ออกมาด้วยกลัวว่าไฟท์เตอร์จะทำร้ายร่างกายเธอจนลูกน้อยในท้องของเธอเป็นอะไรไป
"แซนดี้ขอโทษ ฮึก! แซนดี้ไม่ได้ตั้งใจ"
"ไม่ได้ตั้งใจแต่มึงแค่เจตนาอย่างนั้นใช่ไหมอีแซน จะบอกให้ก็ได้ว่ากูอ่านเกมมึงออกตั้งแต่วันที่มึงก้าวเท้าเขามาในบ้านของตากูแล้วครับ กูเหี้ยมาก่อน เหี้ยกว่ามึงด้วยซ้ำทำไมกูถึงจะดูไม่ออกว่าเด็กดอกทองอย่างมึงคิดอะไรอยู่ กูถึงต้องแสร้งเป็นเข้าหามึงเพื่อกันไม่ให้พี่กูมาคลุกคลี่กับอีกะหรี่อย่างมึงไง แต่สุดท้ายมึงก็หาทางทำร้ายพี่ชายกูจนได้ทั้งที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย แล้วถ้าจะมีอะไรที่พี่กูผิดเห็นทีว่าจะเป็นเรื่องที่พี่กูดันโคจรมาเจอผู้หญิงสำส่อนอย่างมึงนี่แหละอีแซน!"
"กูจะบอกให้เอาบุญนะว่าคนที่พามึงไปส่งที่บ้านก็คือพี่ของกูเองไม่ใช่กู แล้วเรื่องที่มึงกระทืบเท้าพี่กูจนอักเสบวันนั้นทั้งที่พี่กูวนรถมาซื้อยาให้มึงในวันที่มึงตอแหลว่าไม่สบายเพราะไม่อยากเจอหน้าพี่เขา แล้วไหนจะเรื่องที่พี่เขาอุตส่าห์ทุ่มเทให้กับไร่กาแฟของแม่มึงจนนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ไอ้ที่เขาเฝ้ามึงไม่ห่างในตอนที่มึงนอนโรงพยาบาล ไอ้ที่เขารักมึงจนให้มึงได้ทุกอย่าง ถามจริงเถอะอีแซน มึงเหี้ยกับคนที่รักมึงจนให้มึงได้ทุกอย่างแบบนี้ได้ยังไง มึงทำร้ายพี่กูทำไมอีแซน"
"แซนดี้ขอโทษ ขอโทษจริงๆ" แซนดี้เริ่มสะอื้นหนักจนแทบจะขาดใจเมื่อพึ่งจะมาคิดได้ว่าแท้จริงแล้วคนที่ทำเพื่อเธอตลอดมานั้นมีแค่เฟียสต้าเพียงคนเดียว
"กูไม่รับและไม่ขออภัยทานใดๆให้กับมึง ให้ทานมึงกูให้ทานหมาจรลูกอ่อนซะจะยังดีกว่า แต่ยังไงมึงก็ลองเข้าไปขอโทษพี่เขาดูสิเผื่อเขาจะให้อภัยมึงได้ เขานั่งอยู่ที่นี่แล้วเขาเห็นตอนที่กูลากมึงเข้ามาในห้องนี้ด้วย มึงคงไม่คิดว่าพี่เขาจะโลกสวยพอที่จะคิดว่ามึงกับกูเข้ามาคุยธุระกันหรอกใช่ไหม"
"มะ...หมายความว่ายังไง"
-ตัด-
เรื่องเลี้ยพี่ไฟท์ไม่เป็นสองรองใครอย่างแน่นอน
Mallikar
(เขียน)