เย้ายวน

1614 Words
บทที่11) เย้ายวน "เป็นแฟนกันไหมคะ" แค่แฟน! ไม่ใช่ผัวจะเลิกเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ แต่ก่อนจะเลิกขอให้ฉันได้สนุกกับนายสักหน่อยก็แล้วกันนะ หึๆ "..." เฟียสต้าตาเบิกโพลงอย่างตกตะลึง เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ เวลานี้นั้นจะเป็นเรื่องจริง เขาต้องฝัน เขาต้องฝันไปแล้วอย่างแน่นอน ใช่! กูฝันแน่ เธอเล่นเกลียดกูซะเหมือนขี้ขนาดนั้นแล้วจู่ๆจะมาขอกูเป็นแฟนได้ยังไงกันเล่า แปะๆ มือหยาบยดขึ้ยตบใบหน้าหล่อคมเบาๆเพื่อหวังจะปลุกให้ตัวเองตื่นขึ้นมาจากความฝันที่ไม่มีวันจะเป็นจริง แปะๆ "ตื่นสิวะ!" หากแต่ช่างน่าประหลาดใจที่ไม่ว่าจะตบหน้าตัวเองสักเท่าไรก็ไม่มีท่าทีว่าตัวเองนั้นจะตื่นขึ้นมาสักที "เรื่องจริงเหรอวะ" เฟียสต้ายื่นหน้าเข้าไปชิดขอบหน้าหวานๆนั้นเพื่อความแน่ใจ "เหี้ย... เรื่องจริงนี่หว่า" เฟียสต้าครางแผ่วอย่างเบาหวิว ทั้งร่างกายของเขาชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อด้วยความตื่นเต้นระคนตกตะลึง ก็อยู่ดีๆคนที่เราแอบรักเข้ามาออดอ้อนขอเราเป็นแฟนเป็นใครจะไม่ช็อกบ้างละ ไม่มีหรอกจริงไหม... เผลอๆเป็นลมล้มพับไปเลยอีกต่างหาก อย่างกูตอนนี้ไงเกือบจะหลับแต่ก็กลับมาได้ "ตกลงว่า...ยังไงคะ" แซนดี้ช้อนสองตาขึ้นมองใบหน้าเหยื่ออันโอชะของตัวเองด้วยท่าทีอ้อยอิ่ง "ตกลงว่าพี่เฟียส...อยากจะมีแฟนที่ชื่อว่าแซนดี้บ้างไหมคะ อยากมีแซนดี้เป็นแฟนหรือเปล่าน้า~" จุ๊บ! จูบแม่ง! อ่อยขนาดนี้จะให้ผมต้านทานได้ยังไงก่อน ต่อให้เป็นถึงพระถึงเจ้ามันก็ต้องมีผ้าเหลืองร้อนกันขึ้นมาบ้างแหละวะ "อื้อ" เสียงหวานเล็กดังพึมพำในลำคอระหงอย่างหลงระเริงในรสชาติปากที่หวานปานน้ำผึ้งเดือนห้าของผู้ชายที่ตัวเองเกลียดแสนเกลียด ไฟท์เตอร์เคยบอกกับเธอเอาไว้ว่าพี่ชายฝาแฝดของเขาอย่างเฟียสต้านั้นไม่ดื่มเหล้าและไม่สูบบุหรี่ ยอมรับตรงๆว่าครั้งแรกที่เธอได้ฟังเธอไม่เชื่อในสิ่งที่หูของตัวเองได้ยินเลยแม้แต่น้อย ด้วยคิดว่าผู้ชายกับบุหรี่และสุรานั้นเป็นสิ่งที่คู่กันนั่นเอง หากแต่ตอนนี้ความเคลือบแคลงนั้นมันได้มลายหายไปสิ้นในทันทีที่รับรู้ได้ว่ารสชาติปากของเฟียสต้านั้นปราศจากกลิ่นอบายมุขและหวานหอมมากแค่ไหน "อื้อ" ให้ตาย! สาบานได้เลยว่าเธอเกลียดเขา แต่ในตอนนี้ปากไม่รักดีของเธอมันกำลังจูบตอบเขาอย่างเอาเป็นเอาตายจนร่างกายช่วงล่างของเธอมันเปียกชุ่มไปหมดด้วยความซาบซ่านอย่างที่เธอเองก็ไม่รู้ในแหล่งที่มาที่ไปของมัน "แซนดี้" เฟียสต้าถอนปากออกเพื่อเว้นช่วงจังหวะให้แซนดี้ได้พักหายใจหลังจากที่พึ่งได้รับรสจูบกระชากวิญญาณอันแสนยาวนานจากเขา "หยุดทำไม" แซนดี้หน้ามุ่ยอย่างไม่ค่อยเข้าใจที่จู่ๆเฟียสต้าก็ชะงักไปทั้งที่ทุกอย่างมันกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี อีกเพียงนิดเธอก็จะแตะขอบสวรรค์ชั้นดาวดึงส์อยู่แล้ว แล้วดูสิ่งที่เขาทำ เธอถึงได้เกลียดเขานักหนายังไงกันละ ไม่ได้เรื่อง! "พี่กลัวว่าพี่จะหักห้ามตัวเองไม่ให้รังแกหนูแซนไม่ไหว" เชื่อเถอะว่าเขามีความปรารถนาที่มากล้นมากกว่าเด็กสาวมัธยมปลายอย่างเธอแน่นอน แต่กูก็ต้องรู้จักหักห้ามใจป่ะ น้องยังเด็กพึ่งจะม.4เอง เดี๋ยวตะรางจะได้ถามหาชื่อไอ้อนุชิตเอาพอดี "แล้วทำไมต้องหักห้ามใจในตอนที่ทุกอย่างมันกำลังไปได้สวยด้วยเล่า!" แซนดี้แหวอย่างลืมตัวก่อนจะใช้มือข้างที่ติดสายน้ำเกลืออยู่กระชากชุดคนไข้ที่เธอสวมอยู่ออก อกเป็นอก เอวเป็นเอวขนาดนี้เธอก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าอย่างเขามันจะทนไปได้อีกนานแค่ไหนกันเชียว วันนี้คือวันเสียตัวของเธอ เธอเลือกแล้ว แต่เธอต้องขอบอกเอาไว้ก่อนนะว่าไม่ใช่ว่าเธอรักเขาหรอกนะจึงยอมเสียตัวให้ เธอแค่อยากรู้แล้วก็อยากลอง ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรมากไปกว่านั้น แค่อยากลอง! "แซนดี้ หนูแม่งโคตรดื้อว่ะ!" เฟียสต้ากลืนน้ำลายเหนียวลงคออย่างยากลำบากเมื่อได้เห็นร่างกายขาวผ่องไปทุกอณูของแม่ยอดพธูที่อยู่ตรงหน้า ทั้งๆที่เขาพยายามหักห้ามใจว่าสิ่งที่กำลังทำนั้นไม่ถูกต้อง สำคัญไปกว่านั้นก็คือที่นี่มันโรงพยาบาล ทั้งๆที่เขาพยายามข่มอารมณ์แห่งความต้องการของตัวเองเอาไว้แล้วแท้ๆ แต่เธอดื้อเกินไป เล่นมาแก้ผ้าต่อหน้าต่อตากันแบบนี้ใครกันเล่าที่มันจะอดใจไหว นมก็ใหญ่ ก้นก็เต็มไม้เต็มมือเอาซะขนาดนั้น บอกไอ้เฟียสทีว่านี่มันคือรูปร่างของเด็กมัธยมปลายที่มีน้ำหนักเพียงแค่45กิโลกรัมจริงๆ แม่ง!เด็กผมแม่งโคตรซ่อนรูป "อ๊า~เสียวจัง" ร่างเล็กของหญิงสาวฝืนสังขารเข้าใส่ร่างใหญ่ของชายที่นั่งอยู่บนเตียงคนไข้อันคับแคบอย่างยั่วยวน ก่อนจะจับมือใหญ่มารองแหมะไว้ตรงความเป็นสาวและโยกสะโพกงอนงอนของตัวเองให้ถูไถกับฝ่ามือใหญ่นั้นช้าๆอย่างน่าหวาดเสียว "อ๊า~ผัวขา" เสียงหวานหลุดครางอย่างเผลอตัวเมื่อเจ้าของแผ่นมือใหญ่นั้นเริ่มสอบเข้าออกตรงช่องทางสีหวานนั้นอย่างรู้งานจนเกิดเป็นเสียงเฉื่อยแฉะตามจังหวะที่หญิงสาวเร้าสะโพกสวยนั้นเข้ามา "แน่นดีจังแซนดี้" เฟียสต้าออกขานชื่อหญิงที่รักอย่างล่องลอยโดยที่นิ้วหนาก็ยังคงปรนเปรอความต้องการให้กับเธออย่างไม่ขาดตกบกพร่อง "ชอบให้พี่เขี่ยตรงนี้หรือเปล่าครับ เสียวหรือเปล่า" สองนิ้วกลางและนางยังคงสอดใส่เข้าไปจนสุดโคนนิ้วยาวนั้น นิ้วชี้ที่ยังคงว่างงานถูกมอบหมายให้บดขยี้ปุ่มกระสันสีแดงแจ๋ที่ฉ่ำวาวไปด้วยน้ำสีใสราวกับว่าชำนิชำนาญทั้งที่เขาเองก็พึ่งจะมีประสบการณ์นี้เป็นครั้งแรกไม่ต่างไปจากเธอเลย "อื้อ~" เสียงครวญครางอย่างรัญจวนและซาบซ่านนั้นชวนให้เฟียสต้าหลุดยิ้มออกมาอย่างพอใจที่เขาสามารถที่จะทำให้หญิงที่ตัวเองหลงรักนั้นมีความสุขได้ "เสียวจัง" ปากเล็กห่อเข้าหากันขณะพ่นลมหายใจหนักๆสลับกับเสียงหวานที่สะท้อนออกมาอย่างสาดเสียวราวกับว่ากำลังจะขาดใจตายก็ไม่ปาน "อ๊า จะเสร็จค่ะผัวขา เร็วหน่อย" เมื่อได้ยินดังนั้นสองนิ้วจึงรีบเร่งจังหวะจะโทนเข้าออกตามความต้องการของเธอ นิ้วชี้ยังคงปัดป่ายวนเวียนอยู่กับเม็ดทับทิมนั้นตามหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดิบดี "อ๊า แตกแล้วค่ะหนูแซนแตกแล้ว" แซนดี้ครางออกมาดังนั้นอย่างไม่นึกใส่ใจสักนิดว่าหมอหรือพยาบาลจะบังเอิญเปิดประตูเข้ามาหรือไม่ สะโพกสวยสอบเข้าหาสองนิ้วนั้นอย่างแรงก่อนน้ำสีใสจะกระฉอกออกมาเป็นละอองฝอยจนมันเปียกฉ่ำไปทั่วทั้งแขนแกร่งนั้น "ดีจัง" ร่องรักของเธอยังคงกลืนกินสองนิ้วนั้นไม่ยอมปล่อยให้มันได้เป็นอิสระด้วยว่าเธอรู้สึกอย่างจะขึ้นสวรรค์อย่างเมื่อครู่ไปอีกครั้งนั่นเอง "อ๊ะ จะทำอะไร" แซนดี้เริ่มเสียงเขียวอย่างไม่พอใจเมื่อจู่เฟียสต้าก็ดึงสองนิ้วหนาออกไปโดยไม่บอกกล่าวซ้ำยังผลักตัวเธอให้ออกห่างอีกต่างหาก "นิ้วเย็นๆ มันสู้เอ็นอุ่นๆไม่ได้หรอกนะครับหนูแซน" เฟียสต้ากระตุกยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์จนทำให้หัวใจของแซนดี้เกือบไขว้เขวเพราะเธอไม่เคยจะเห็นมุมซุกซนนี้ของเฟียสต้ามาก่อน เธอแพ้ผู้ชายซุกซนและมีลูกเล่นแพรวพราว... ไม่สิ! ไม่นะ! เธอเกลียดเฟียสต้าและไม่มีวันที่เธอจะมอบหัวใจของตัวเองให้กับเขา ไม่มีวันเด็ดขาด ท่องเอาไว้ให้ขึ้นใจเธอเกลียดเขา! "พี่รู้ว่าหนูแซนเกลียดพี่" เฟียสต้าเอ่ยเสียงเรียบขณะกำลังปลดเข็มขัดกางเกงของตัวเองออกอย่างช้าๆ "แต่พี่รักหนูแซน" "อย่านะ!" แซนดี้เริ่มมีท่าทีหวั่นพรึงเมื่อสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวบางอย่างในตัวของเฟียสต้า เธอมองภาพตรงหน้าที่เขากำลังจับสองขาเธอเอาไว้แล้วแยกมันออกจากกันอย่างช้าๆ แรงมือที่ลงมาตรงข้อเท้าของเธอนั้นมากเกินกว่าที่เธอจะต่อต้านอะไรเขาได้ เขากำลังทำให้เธอขวัญกระเจิงโดยที่ไม่ต้องมีคำพูดข่มขู่อันใดออกมาจากปากของเขาเลยแม้แต่คำเดียว "แซนดี้ขอโทษ" เธอพูดออกมาจากใจจริงและหวังว่าเขาจะสัมผัสความจริงใจที่อยู่ในคำพูดนั้นของเธอได้ หวังไว้ลึกๆว่าเขาจะหยุดในสิ่งที่กำลังจะกระทำแม้เหตุการณ์เมื่อก่อนหน้ามันจะเลยเถิดเกินจะกู่กลับมาแล้วก็ตาม "พี่สัญญาว่ามันจะไม่เจ็บ อ๊า" "กรี๊ด! เอาออกไป เอามันออกไปแซนดี้เจ็บ" -ตัด- ไอ้ซัน ยัยซันนี่ มาเอาลูกสาวพวกแกไปเก็บเดี๋ยวนี้จ้า! มัลลิกา (เขียน)
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD