บทที่23) ท้องกับใคร
"อย่าไปนะ แซนดี้ท้อง แซนดี้กำลังอุ้มท้องลูกของเราสองคน" เมื่อเห็นว่าเขากำลังหมุนตัวออกไปและทิ้งเธอเอาไว้อย่างไม่ใยดีไปอีกคน ความวิตกกังวลระคนหวาดกลัวก็แผ่ซ่านไปทั่วทั้งสรรพางค์กายของหญิงสาวในทันที
เธออยากให้เขาอยู่ อยากให้เขาดึงเธอเข้าไปกอดและปลอบว่าเธอยังคงมีเขา เธออยากให้เขาอยู่ตรงนี้กับเธอไปอีกนานๆ
"แซนดี้ท้อง?" เฟียสต้าทำเสียงสองล้อเลียนหญิงสาวตรงหน้าอย่างจงใจ "แล้วแซนดี้คนสวยเลือกได้...ท้องกับใครครับ"
"พี่เฟียสต้า" วาจาเหลือร้ายจากผู้ชายที่เคยแสนดีทำเอาหัวใจหญิงสาวที่เคยมั่นใจในตัวเองถึงกับสั่นไหว
"พี่ก็รู้...ว่าพี่เป็นครั้งแรกของแซนดี้"
"ครั้งแรกของชีวิตแต่ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายของชีวิตเธอหรอกใช่ไหมแซนดี้ เธอเดินเข้าห้องกับผู้ชายไปอย่างไม่เลือกหน้าแล้วยังหน้าด้านหน้าทนมาบอกว่าท้องกับฉันอยู่อีกอย่างนั้นนะเหรอแซนดี้!"
นับได้ว่าแผนการณ์อันแยบยลของไฟท์เตอร์นั้นได้ผลเกินคาด เพราะในตอนนี้เฟียสต้าได้เชื่อคำพูดของน้องชายฝาแฝดไปแล้วจนเกือบเต็มหัวใจแล้วว่าผู้หญิงคนนี้เอาไม่เลือกจริงๆ ดูอย่างตอนนี้สิ ทั้งๆที่เธอพึ่งจะร่วมหลับนอนกับเขาไปเมื่อหลายเดือนก่อน มาวันนี้เธอกลับเดินตามน้องชายฝาแฝดของเขาเข้าห้องไปได้อย่างหน้าตาเฉย
เขาโคตรขยะแขยง ผู้หญิงอะไรหน้าไม่อาย หน้าด้านที่สุด
"แซนดี้กับหมอนั่นไม่ได้มีอะไรกัน พี่กำลังเข้าใจแซนดี้ผิดนะ!" แซนดี้เริ่มออกอาการโวยวายเมื่อสัมผัสได้ว่าผู้ชายตรงหน้ากำลังผลักความรับผิดชอบที่ตัวเองเป็นคนก่อมันขึ้นมา
"พี่ทำแซนดี้ท้อง พี่ก็ต้องรับผิดชอบสิ!" เพราะอยากให้เขาอยู่จึงทำให้เธอลืมคำพูดของตัวเองเมื่อสามเดือนที่แล้วไปจนหมดสิ้น
"เรามาทวนความจำกันหน่อยไหม คนสวย" น้ำเสียงนั้นเริ่มแข็งกระด้างจนคู่สนทนาเริ่มหวาดผวา "หนึ่งก็คือหลังจากที่ฉันได้เธอ ฉันขอรับผิดชอบแต่เธอไม่ต้องการและไล่ให้ฉันไปซื้อยาคุมมาให้เธอ สอง เธอบอกให้คิดเสียว่าระหว่างฉันกับเธอเป็นเพียงวันไนท์สแตนด์เท่านั้น และสำคัญที่สุด..."
"พี่เฟียสต้า คะ..คือแซนดี้"
หญิงสาวรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองบ้าใบ้ไปชั่วขณะหนึ่งเพราะทั้งที่อยากจะพรั่งพรูความรู้สึกของตัวเองออกมาให้เขารับรู้แทบตายแต่ก็ทำได้เพียงแค่เรียกชื่อเขาซ้ำๆอยู่อย่างนั้น
"สำคัญที่สุดคือเธอบอกพ่อของเธอว่า ถ้าหากท้องขึ้นมาเธอจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวอะไรกับฉัน เธอไม่อยากที่จะแต่งงาน ใช้ชีวิตหรืออะไรกับฉันที่เธอไม่ได้รัก ไม่แม้ที่จะให้โอกาสฉันได้ใช้คำว่าพ่อกับลูกของตัวเองถ้าหากเธอเกิดท้องกับฉันขึ้นมาจริงๆ!"
"..." ดวงตาหวานเบิกโพลงอย่างพูดอะไรไม่ออกเมื่อนึกย้อนไปถึงคำพูดสิ้นคิดของตัวเองในวันนั้น จริงๆแล้วเธอไม่คิดด้วยซ้ำว่าเขาจะจดจำได้ทุกคำพูด
ไม่สิ..บางคำพูดที่เขาไม่น่าจะรู้อย่างในตอนที่เธอกำลังเปิดใจคุยกับพ่อของตัวเองเขาก็สามารถที่จะถ่ายทอดมันออกมาได้อย่างถูกต้องในทุกๆประโยคเสียอีกด้วย
"พี่...พี่รู้"
"ใช่! ฉันรู้! และฉันก็พึ่งมาคิดได้ว่าตัวเองโง่มากแค่ไหนที่เคยปล่อยให้ตัวเองแทบจะตรอมใจตายเพียงเพราะอยากจะได้เศษใจเหลือๆจากเธอ!" จนถึงตอนนี้น้ำตาของเฟียสต้าก็ยังคงไม่ปรากฎให้แซนดี้ได้เห็นแม้เพียงแต่หยดเดียว ต่างจากเธอที่ทั้งน้ำหูน้ำตากำลังไหลหลั่งออกมาจนแทบจะไม่เหลือเค้าของความสดใสอย่างในวันวาน
เธอหวังให้เขาสงสาร แต่สำหรับเขาเธอหมดโอกาสนั้นไปแล้ว เพราะตอนนี้เขาเข้มแข็งขึ้นมาก มากกว่าที่ใครๆจะคาดถึง
"แต่แซนดี้ไม่ได้นอนกับใครนอกจากพี่ แซนดี้ท้องกับพี่จริงๆ พี่เฟียสต้าได้โปรด...แซนดี้แค่อยากจะขอโอกาส"
"เธอทานยาคุมไปแล้วเธอจะท้องได้ยังไงแซนดี้" แม้จะรู้ดีว่าไม่มีสิ่งไหนที่จะคุมกำเนิดได้ทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ หากแต่เพราะความเจ็บเจียนตายที่เธอเป็นคนมอบให้เมื่อสามเดือนก่อนประจวบกับความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับน้องชายฝาแฝดของเขาที่ยังคงมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ทำให้เขายังคงมีข้อกังขา
เขาเชื่อไม่ลงจริงๆว่าเธอจะท้องกับเขา และหากท้องจริงเธอคงไม่อ้อนวอนให้คนที่ตัวเองเกลียดมาเป็นพ่อของลูกหรอก จริงไหมละ
"ไอ้ไฟท์มันไม่รับเธอเลยหันมาหลอกคนโง่อย่างฉันแทนสินะแซนดี้" เฟียสต้ายกยิ้มสมเพชให้กับหญิงตรงหน้าอย่างไม่คิดจะสนใจว่าเธอจะคิดว่าตัวเองผลักความรับผิดชอบหรือไม่
เขาไม่สน ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนทั้งนั้นแหละ ตอนเจ็บเขาก็เจ็บอยู่คนเดียว ไม่มีใครมาเจ็บด้วยกันกับเขาเสียหน่อย
"พี่เฟียสต้า พี่ก็รู้ พี่ก็รู้อยู่แก่ใจ" เธอว่าอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ เธอรู้ว่าเขารู้ว่าเด็กน้อยในท้องเป็นลูกของเขา เพียงแค่ความเจ็บปวดที่เธอเคยมอบให้เขามันทำให้เขาไม่อยากจะยอมรับความจริงว่ากำลังจะมีลูกกับเธอ
เธอทำเขาเจ็บเกินกว่าที่เขาจะยอมรับได้ว่าเด็กน้อยคนนี้แท้จริงแล้วเป็นลูกของเขา
"เธอเขี่ยฉันทิ้งเองแซนดี้ ฉันมันก็แค่บล็อกโคลี่ในจานข้าวผัดที่ถูกเธอเขี่ยออกเพราะเธอไม่ต้องการ จำเอาไว้ให้ขึ้นใจแซนดี้ เธอเกลียดฉันและเราไม่มีวันที่จะกลับมาเดินด้วยกันได้"
พูดเพียงแค่นั้นร่างใหญ่ก็หมุนตัวไปยังประตูทันที น้ำตาเขาไหลออกมาหลังจากที่ก้าวพ้นมาจากในห้องนั้น เสียงสะอื้นของคนที่อยู่ในห้องทำให้เขาใจอ่อนยวบจนเกือบจะเผลอเปิดประตูกลับเข้าไปดึงเธอมากอดและบอกว่าไม่เป็นอะไร แต่เพราะยังค้างคาใจในความสัมพันธ์ระหว่างเธอและน้องชายฝาแฝดจึงทำให้เขาไม่สามารถก้าวข้ามเส้นบางๆนั้นกลับไปหาเธอได้อย่างที่ข้างในใจลึกๆของเขาปรารถนา
ผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ได้ที่เธอร้องไห้จนหลับไป แซนดี้ตื่นขึ้นมาในสภาพที่ดูไม่จืดเท่าไหร่นักก่อนจะยันตัวขึ้นเพื่อเข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ เธอยืนมองตัวเองในกระจกและปล่อยน้ำตาให้มันไหลออกมาอีกครั้งเมื่อสัมผัสมือลงมาตรงหน้าท้องของตัวเอง
"แม่ขอโทษนะลูก แม่ขอเอาแต่ใจตัวเองอีกครั้งโดยการพาลูกหนีไปนะลูก"
เธอเคว้งคว้าง หว้าเหว่และเปล่าเปลี่ยว ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอยังคงมีครอบครัวที่อบอุ่นรออยู่ แต่ช่างน่าเสียดายที่ความอบอุ่นตรงนั้นมันไม่สามารถที่จะมาเติมเต็มช่องว่างบางอย่างแทนเขาได้อย่างสมบูรณ์ และจะต้องเป็นเพียงเฟียสต้าคนเดียวเท่านั้นที่จะสามารถเติมเต็มมันให้กับเธอได้
เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเป็นอะไร เธอรู้เพียงแค่เธอต้องการเขามาเติมเต็มในส่วนที่ขาดนั้น ...แค่เขาคนเดียวเท่านั้น...
"ถึงจะรักแกมากแต่ฉันก็ต้องทิ้งแก เพราะถ้ามีแกทุกคนก็จะหาตัวฉันเจอ" แซนดี้พูดกับมือถือเคสสีชมพูหวานแหววเป็นตุเป็นตะก่อนจะวางมันลงตรงขอบเตียง เพราะมันสามารถที่จะบอกตำแหน่งที่เธอหนีไปได้ เธอจึงเลือกที่จะทิ้งมันไว้ทั้งที่รักมือถือเครื่องนี้ยิ่งกว่าอะไรดี
มือถือที่ได้มาจากการเป็นหุ้นส่วนในไร่องุ่น เธอใช้เงินก้อนแรกที่เธอหามาได้ด้วยตัวเองตอนอายุสิบสี่เพื่อที่จะซื้อมัน เธอจึงรักมันมาก แต่เธอก็ต้องตัดใจทิ้งมันเอาไว้...
"ไปกันเถอะลูก ไปในที่ที่ไม่มีใครหาเราเจอ ที่ที่มีแค่เราสองคน" มือเล็กหยิบหมวกกันน็อกที่ครอบไว้ตรงกระจกมองหลังขึ้นมาสวม ก่อนจะหยิบเสื้อแขนยาวสีหวานมาใส่และขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์คู่ใจออกรถไป
"ไปไหนดีนะ ขึ้นเหนือหรือลงใต้ดีนะเรา" แซนดี้เริ่มวางแผนเมื่อขับรถมาถึงสถานีรถไฟตรงชานเมืองนครศรีธรรมราช เธอกะว่าจะจ่ายเงินเพิ่มเพื่อที่จะได้นำรถมอเตอร์ไซค์ขึ้นไปด้วย แต่ปัญหาในตอนนี้มันติดตรงที่ไม่รู้จะหนีไปทางไหนดีนี่แหละ
"ไปกรุงเทพละกันเนอะตัวเล็ก" ครู่ต่อมาเธอก็ตัดสินใจได้และก้าวขาไปหาซื้อตั๋วรถไฟขึ้นกรุงเทพในทันที
-ตัด-
น้องหนีขึ้นกรุงเทพแล้ว แต่ผัวน้องยังนอนแฮงค์เหล้าอยู่ที่บ้านอยู่เลย ฮ่าๆ
Mallikar
(เขียน)