เธอไม่เคยจะรัก

1535 Words
บทที่19) เธอไม่เคยจะรัก ดวงตาคมของเฟียสต้าจ้องมองเพดานห้องพักพิเศษของโรงพยาบาลด้วยหัวใจบางเบาและเลื่อนลอย แม้สติสัมปชัญญะของเขาจะยังไม่เข้าที่เข้าทางเท่าที่ควร แต่เขาก็สามารถควบคุมตัวเองไม่ให้ส่งเสียงโวยวายออกมาในทุกๆครั้งที่ตื่นขึ้นมาและมโนภาพเห็นเหตุการณ์ย้อนหลังในตอนที่หญิงสาวที่ตัวเองรักหอมแก้มน้องชายฝาแฝดของเขาและทำอะไรหลายๆอย่างด้วยกัน ก่อนจะตัดภาพมายังตอนที่เธอต่อว่าเขาต่างๆนาๆทั้งๆที่เขารักหวังดีกับเธอ และเสียงของเธอที่บอกว่าไม่รักและไม่ต้องการความเป็นพ่อจากเขาที่แทรกตัวเข้ามาเป็นความจำอันเลวร้ายเป็นสุดฉากสุดท้ายที่มีผลต่อดวงใจในทรวงอกแกร่งนั้นอย่างรุนแรงจนก้อนเนื้อนั้นบีบรัดเข้าหากันคล้ายว่าเขากำลังจะขาดใจตาย "เขาไม่รักแก เขาไม่ได้รักแกไอ้เฟียส" น้ำเสียงแผ่วกระซิบออกมาจากช่องปากหนาที่แฝงไปด้วยความเจ็บปวด น้ำตาของเขาไหลออกมาเป็นทางยาวทุกครั้งที่ต้องย้ำเตือนให้ตัวเองยอมรับความจริงว่าที่ผ่านมามีแค่เขาที่คิดวาดฝันเอาไปเอง "เฟียสต้า พ่อนะลูก พ่อเฟิส์ตนะ" อนุชานั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียงคนไข้ สองมือของพ่อยื่นมากอบกุมมือบุตรชายที่ใหญ่กว่ามือของตัวเองอย่างปลอบขวัญ "ครับพ่อ เฟียสจำได้ครับ" เขาจำได้หมดทุกสิ่งอย่างในระยะเวลาหลายวันที่ผ่านมา จำได้ว่าตัวเองพูดอะไรและอาละวาดใส่ผู้เป็นพ่อไปอย่างไรบ้าง เขาเจ็บ เขาปวด เขารับไม่ได้และไม่อยากจะยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่คนที่ถูกรัก จนต้องมโนภาพโลกอีกใบที่มีแค่เธอและเขาขึ้นมา โลกที่เธอรักเขา โลกที่ทำให้เขามีความสุขมากกว่าโลกแห่งความเป็นจริงที่กำลังเผชิญ เขามีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ในอีกโลกใบนั้นที่เขาเป็นคนสร้างมันขึ้นมา สุดท้ายแล้วภาพความจำที่มันทำให้ทั้งหัวใจของเขาเจ็บปวดมันก็หวนกลับมาฉายภาพซ้ำอีกครั้งหลังจากที่เธอพูดความในใจที่มีต่อเขาออกมาเมื่อหลายวันก่อน และนั่นก็ทำให้เขาเสียใจจนแทบจะขาดใจตาย อันเป็นผลให้เขาต้องถูกพันธนาการเอาไว้กับเตียงอย่างที่กำลังเป็น "อึดอัดไหมลูก พ่อจะแกะให้นะ" อนุชาค่อยๆแกะปมที่ผูกมัดลูกชายเอาไว้อย่างเบามือ น้ำตาของเขาไหลพรากด้วยความรู้สึกสงสารบุตรชายหากแต่ก็ต้องรีบเช็ดมันออกเพราะไม่อยากจะให้ลูกชายได้สังเกตเห็น "เฟียสขอโทษที่ทำให้พ่อต้องเหนื่อยครับ" เฟียสต้าเป็นผู้ชายที่มีจิตใจเปราะบาง การที่ถูกแซนดี้ผรุสวาทใส่ในทุกๆครั้งจึงทำให้เขาเริ่มเก็บเอาไปคิดและมองไม่เห็นสิ่งดีๆที่ตัวเองยังคงมีอยู่ เขากลายเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเอง เพราะเธอบอกว่าเขาไม่สมบูรณ์แบบ... "หิวไหมลูก" อนุชาเอ่ยเสียงนุ่ม "พ่อทำแกงฮังเลที่เฟียสชอบมาฝากด้วยนะ" "หิวครับ" ก็หลายวันมานี้เขาเอาแต่อาละวาดเป็นว่าเล่นจนไม่เป็นอันกินอันนอน หากจะได้กินก็เพียงสิ่งเดียวก็คือยาสลบของโรงพยาบาล จ๊อก~ "พ่อเชื่อแล้วว่าเราหิวจริง" อนุชาหัวเราะให้กับใบหน้าแดงๆด้วยความเขินอายของลูกชาย "เดี๋ยวพ่อจัดใส่จานให้ เราทานเองไหวนะ" "ไหวครับพ่อ" สองฝ่ามือถูกันไปมาราวกับเด็กน้อยกำลังรอพ่อแกะถุงขนมให้ ความอบอุ่นที่พ่อส่งผ่านการกระทำมาให้ช่วยให้เขาลืมทุกความเจ็บปวดไปชั่วขณะหนึ่ง อย่างน้อยๆพ่อก็ยังรักเขา... "อร่อยครับ" แกงฮังเลและข้าวสวยหายเข้าไปในปากกว้างนั้นคำแล้วคำเล่าจนข้าวและจงแกงในชามหมดไปในที่สุด "หมดแล้วครับพ่อ" อนุชาจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกตกตะลึง แล้วจะไม่ให้เขาตกตะลึงได้อย่างไรไหวก็ในเมื่อข้าวแกงที่เตรียมมานั้นเขากะจะแบ่งไว้กินสักสามมื้อ แต่ในตอนนี้ลูกชายของเขาฟาดมันลงท้องไปแล้วจนหมดเกลี้ยง มิหนำซ้ำยังมีท่าทีว่ายังไม่อิ่มอีกต่างหาก "เฟียสต้า เรื่องแซนดี้เราจะทำยังไง ได้คิดเอาไว้ไหมว่าถ้าหากน้องท้องขึ้นมาจะทำอย่างไร" หลังจากรอให้ลูกชายสบายใจขึ้นอนุชาก็เอ่ยถาม "พ่อขอบอกเราตรงๆนะว่าพ่อกับแม่ไม่อยากจะที่จะเห็นลูกเป็นหนักจนถึงขั้นชักอย่างหลายวันก่อนอีก พ่อกับแม่ไม่อยากให้เราทุกข์ใจเพราะ..หนูแซนอีกแล้ว" "เฟียสยังไม่รู้เลยครับว่าถ้าหากน้องท้องแล้วเฟียสจะทำอย่างไร เฟียสรู้แต่เพียงว่าที่สุดแล้วน้องก็ไม่รักเฟียส และเฟียสคงจะต้อง...ตัดใจ" ประโยคหลังนั้นไม่ค่อยเต็มเสียงนักเพราะเขาเองก็ยังไม่แน่ใจต่อความรู้สึกของตัวเองเลยด้วยซ้ำ "บางครั้งก็เหมือนกับว่าเฟียสจะดีขึ้น แต่บางครั้งภาพจำนั้นมันก็ฉายขึ้นมาในสมองของเฟียสจนเฟียสควบคุมตัวเองไม่ได้ บางครั้งเฟียสก็รู้สึกว่าเราสองคนรักกันมากจนแยกจากกันไม่ได้ เฟียสยังสับสนอยู่ครับคุณพ่อ" "เฟียสต้าลูก ฟังพ่อนะ ตลอดชีวิตของลูกยังต้องพบเจออะไรอีกมากมาย มันก็มีทั้งสุขและทุกข์จนลูกแทบจะทนไม่ไหว แต่ที่สุดแล้วไม่ว่าเราจะเจออะไรมา จะดีหรือร้ายมากมายแค่ไหน มีอยู่คนหนึ่งที่ยังคงจะอยู่ตรงนั้นกับลูกเสมอก็คือตัวลูกเอง และตัวของลูกเองนี่แหละที่จะพาตัวเองฝ่าฟันจนผ่านพ้นคืนวันอันโหดร้ายนั้นไปได้ในที่สุด การได้รักใครสักคนนับเป็นเรื่องที่สวยงามและน่ายินดีก็จริงแต่จงจำคำพ่อเอาไว้ว่าอย่ารักใครมากไปกว่าตัวของลูกเอง ไม่ว่าคนๆนั้นจะเป็นใคร รักตัวเองเห็นคุณค่าในตัวเองเข้าไว้และลูกจะไม่มีวันเสียใจอย่างแน่นอน" "พ่อครับ..." "พ่อรักลูกครับเฟียสต้าและถ้าหากเฟียสต้าลองเปิดใจมองให้ดีคนรักลูกมีเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดเลยนะครับ จงอย่าส่งหัวใจของลูกไปให้ใครก็ตามที่ไม่เห็นคุณค่าของมัน และสิ่งที่สำคัญที่สุดที่พ่ออยากจะบอกลูกก็คือ คนที่ใช่ในเวลาที่เหมาะสมแล้วลูกจะไม่ต้องทนปวดใจ พ่ออาจจะแบ่งเบาความเจ็บปวดที่ลูกต้องแบกรับมาไม่ได้ แต่เชื่อเถอะว่าพ่อเองก็เจ็บปวดไม่น้อยไปกว่าลูกเลยเฟียสต้า สู้กับมันได้ไหม สู้กับโรคนี้ที่มันคอยกัดกินความรู้สึกของลูก ก้าวผ่านไปพร้อมกับพ่อได้ไหมเพื่อตัวของลูกเอง นะครับพ่อขอร้อง" "เฟียสจะสู้ครับ เฟียสจะสู้กับมันครับพ่อ" "ดีมากลูก ไอ้ลูกชายของพ่อมันเก่งอยู่แล้ว" "ก็เก่งเหมือนพ่อ" กล่าวจบเฟียสต้าก็สวมกอดผู้เป็นพ่อที่ตั้งแขนรอรับด้วยความอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทั้งจิตใจ ความอบอุ่นที่ทำให้เขาลืมสิ่งที่ทำให้ตัวเองต้องเจ็บปวดไปชั่วขณะหนึ่ง ความอบอุ่นที่หามาจากที่ไหนไม่ได้แล้วนอกจากผู้ชายคนนี้ที่เขาเรียกว่าพ่อ "เฟียสรักพ่อครับ เฟียสจะสู้" ปากดูเหมือนว่าเขาจะเข้มแข็งแต่ข้างในลึกๆเขายังคงสั่นไหวเมื่อนึกไปถึงภาพจำนั้นอีกครั้ง "โห~ ดูเขากอดกันสิ" ฟอร์โต้ โฟร์ตอล ฟริสเต้และเฟย์ตันที่เปิดประตูมาเจอพ่อและพี่ใหญ่ของบ้านพากันเอ่ยปากแซวก่อนเข้าไปกอดทับพ่อและพี่ชายอีกครั้งด้วยความรู้สึกรักและเป็นห่วง "อ้าวๆ ไม่ได้ๆ ทำอย่างนี้ได้ยังไงถอยออกไปเลยนะทุกคนเลย" พสุธาที่ยืนยิ้มกริ่มกับภาพตรงหน้ามาสักพักเดินเข้ามาดึงชายเสื้อของห้าหนุ่มเบาๆให้ถอยห่างออกมา "แม่รักลูกนะครับ เฟียสต้า" ก่อนจะเดินเข้าไปดึงหัวหยักศกของลูกชายคนโตมาแนบอกและลูบแผ่นหลังใหญ่นั้นเบาๆอย่างปลอบประโลม "เฟียสก็รักแม่ครับ รักพ่อและรักน้องทุกคนมากๆเลยครับ ขอบคุณครับที่ไม่ปล่อยให้เฟียสต้องก้าวผ่านจุดยากลำบากนี้ไปอย่างโดดเดี่ยว ขอบคุณครับ ถ้าหากผ่านช่วงเวลานี้ไปได้เฟียสสัญญาว่าเฟียสจะไม่อ่อนแอและแพ้ต่อคำว่ารักอีกแล้วครับ" หกชีวิตที่เหลือหันมามองหน้ากันพร้อมด้วยน้ำตาที่ปริ่มออกมาอย่างซาบซึ้งใจและพร้อมใจเดินเข้าไปสวมกอดอนุชิตอีกครั้งเพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าพวกเขาจะไม่หนีหายไปไหนอย่างแน่นอน... -ตัด- ศิระศิลป์ธิญพล ตระกูลไมโครเวฟที่สุดในบรรดา10ตระกูลรุ่นพ่อ ^^ มัลลิกา (เขียน)
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD