ตอนที่ 2 แทงข้างหลัง

1436 Words
03:30 น. มุกนิลค่อยๆ ยกแขนซึ่งแน่นหนาด้วยมัดกล้ามของชายแปลกหน้าที่พาดอยู่บนหน้าท้องของเธอออก โชคดีที่ตอนนี้เขายังหลับสนิท ไม่อย่างนั้นเธอคงทำหน้าไม่ถูก มุกนิลก้าวลงจากเตียงด้วยความระมัดระวัง จากนั้นไล่มองหาเสื้อผ้าของตัวเองผ่านความมืดสลัว หยิบขึ้นมาชิ้นแรกเป็นของเขา มันคือกางเกงชั้นใน ดวงหน้าสวยร้อนซ่าอย่างห้ามไม่อยู่ ก่อนจะไล่ควานหาเสื้อของตัวเองต่อ และเมื่อเห็นชุดเดรสชีฟองสีฟ้าของตัวเองขาดวิ่น เธอเผลอเม้มปากเกือบจะเป็นเส้นตรง ชุดมีสภาพเช่นนี้เธอจะออกไปได้อย่างไร มุกนิลอดที่จะเงยหน้าขึ้นมองไปทางเตียงกว้างไม่ได้ และเมื่อเห็นว่าเจ้าของห้องหลับอยู่ ร่างเล็กเปลือยเปล่า จึงตรงเข้าไปยังตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่อีกฝั่งของห้องนอน เลือกหยิบเสื้อเชิ้ตของเขามาตัวหนึ่งก่อนที่จะรีบชิ่งหนีออกไป แม้จุดกลางกายสาวยังเจ็บหน่วงๆ แต่เธอต้องรีบก่อนที่เจ้าของห้องจะตื่น หารู้ไม่ว่ามีสายตาบางคู่ มองดูทุกการกระทำของเธอตลอดเวลา ธาวินยกมุมปากขึ้นสูงขณะลดสายตามองชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อนบนพื้นสภาพขาดลุ่ย เมื่อกี้หญิงสาวใส่เสื้อเชิ้ตของเขาออกไป ความจริงเขารู้ตั้งแต่ที่มือน้อยๆ นั่นขยับย้ายแขนเขาออกจากเอวคอดกิ่วของเธอแล้ว เขาแกล้งหลับเพราะอยากรู้ว่าตื่นแล้วเธอจะทำอะไร ตอนที่เห็นเธอหยิบเศษผ้าบนพื้นแล้วทำหน้ามุ่ย เขาเกือบจะปล่อยเสียงหัวเราะออกมาแล้ว ‘วันไนต์สแตนด์’ คำพูดของหญิงสาวผุดขึ้นในหัว ธาวินเหยียดยิ้มในตาผ่านความมืดก่อนจะครางเสียงพร่าต่ำว่า “โทษทีนะคนสวย สงสัยผมคงไม่สามารถให้คุณตามที่ขอได้แล้ว…” แม้จะไม่รู้ชื่อเสียงเรียงนามของเธอ หากแต่คนอย่างธาวิน ธรรมนัส สามารถทำได้ทุกอย่าง ธาวินขบกรามแน่นเมื่อบางอย่างในร่างกายตั้งผงาดเมื่อนึกถึงรสหอมหวานของหญิงสาวที่เพิ่งแอบย่องหนีออกจากห้องของเขาเมื่อครู่ ****** ได้นอนแค่ไม่กี่ชั่วโมงมุกนิลก็ต้องรีบตื่นแต่เช้าเพื่อมาเตรียมอาหารให้กับคนในบ้าน โดยช่วยกันกับแม่บ้านคนเก่าคนแก่อย่างป้าแม้น “ความจริงคุณมุกไม่ต้องตื่นมาช่วยป้าก็ได้นะคะ ป้าทำคนเดียวได้ค่ะ” ป้าแม้นกล่าวด้วยน้ำเสียงเห็นอกเห็นใจ อาจเพราะท่านรู้ว่าช่วงนี้เธอยุ่งกับการจัดงานแต่งงานด้วยมั้ง “ไม่เป็นไรค่ะ มุกไหว” เธอบอกยิ้มๆ ขณะจัดการซอยต้นหอม ป้าแม้นอายุเกือบจะหกสิบแล้ว ท่านไม่ได้คล่องแคล่วเหมือนเมื่อก่อน ที่สำคัญคือท่านเริ่มปวดหลังและปวดเข่าตามประสาร่างกายที่ถูกใช้งานมานาน อะไรที่พอจะช่วยท่านได้ เธอก็อยากจะช่วยเต็มที่ ตอนเด็กๆ ก็ได้ท่านที่คอยเลี้ยงดู และให้คำแนะนำยามที่เธอทำไม่ถูก “หากคุณผู้หญิงยังอยู่ คงภูมิใจในตัวคุณมุกมากเลยนะคะ” ท่านกล่าวต่อในขณะช่วยเธอจัดแจงถ้วยชาม มุกนิลได้แต่คลี่ยิ้มบางเบา ภาพมารดาในความทรงจำวัยเด็กของเธอ คือท่านเป็นผู้หญิงที่ใจดีมากๆ ทั้งยังทำอาหารเก่งสุดๆ ดูแลเธอกับบิดาอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง นอกจากท่านจะเก่งเรื่องงานในบ้านแล้ว งานนอกบ้านก็ไม่แพ้กัน แต่เสียดายท่านอายุสั้นนัก “คุณมุกวางมือแล้วไปอาบน้ำเถอะค่ะ ที่เหลือป้าจัดการเอง” เสียงของป้าแม้นดังขึ้นเบาๆ เรียกมุกนิลหลุดจากภวังค์ “ค่ะป้าแม้น” มุกนิลเป็นเด็กน่ารัก มีน้ำจิตน้ำใจช่วยเหลือคนอื่น ความจริงงานพวกนี้ไม่ใช่งานของเธอเลย แต่เธอก็ยังมีน้ำใจช่วยหล่อนเสมอมา หญิงสาวเก่งทั้งงานในบ้านและนอกบ้านไม่ต่างจากมารดาที่ล่วงลับไปแล้วเลย “งั้นมุกฝากด้วยนะคะ” มุกนิลปลดผ้ากันเปื้อนออกเพื่อขึ้นไปอาบน้ำ วันนี้ผู้บริหารคนใหม่จะเข้ามาในบริษัท เธอยิ่งต้องไปทำงานเร็วกว่าทุกวัน ใช้เวลาในการจัดการตัวเองไม่นาน มุกนิลก็พาร่างเพรียวบางในชุดทำงานสุภาพลงมายังชั้นล่าง วันนี้สีหน้าของบิดาเคร่งขรึมกว่าทุกวันค่อนไปทางดุ จนมุกนิลหวั่นใจ เมื่อคืนกว่าเธอจะกลับมาถึงบ้านก็เกือบจะตีสี่แล้ว เธอไม่แน่ใจว่าท่านรู้หรือเปล่า ที่เธอกลับดึกเช่นนั้น “เมื่อคืนแกไปนอนค้างที่ไหนมา ถึงได้กลับมาตอนรุ่งสาง?” เสียงทักของบิดาทำให้มุกนิลที่กำลังจะเลื่อนเก้าอี้ชะงักเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ ดึงเก้าอี้ออกแล้วลงนั่งเบาๆ “มุกไปนอนค้างกับเกลค่ะคุณพ่อ” นาทีนี้ทำได้แค่อ้างชื่อเพื่อนไปก่อน หากท่านรู้ว่าเธอไปทำอะไรมา ท่านเอาเธอตายแน่ ท่านยิ่งหัวโบราณอยู่ด้วย “แล้วไป ช่วงนี้ฉันมีปัญหาที่บริษัทมากพออยู่แล้ว อย่าให้ฉันต้องมาเครียดเรื่องของแกอีก” “ค่ะคุณพ่อ” คำพูดของบิดาประกาศิตยิ่งกว่าอะไร ไม่ว่าท่านจะพูดหรือสั่งอะไร เธอทำได้แค่เชื่อฟังและรับฟัง ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่เธอเข้าใจท่านนะ ท่านแบกรับภาระทุกอย่างในบ้าน ยิ่งช่วงนี้งานที่ท่านรับผิดชอบมีปัญหาอยู่ด้วย ท่านคงยิ่งมีเรื่องให้ต้องคิดหนัก และเครียดพอตัว “ทับทิมลูกตัดสินใจได้หรือยังว่าปีนี้จะฉลองวันเกิดที่ไหน?” ท่านคุยกับเธอไม่กี่ประโยคก็หันไปทางลูกสาวคนเล็ก ซึ่งเป็นน้องสาวต่างมารดาของเธอเอง “หนูว่าจะฉลองที่โรงแรมธาราค่ะ คุณพ่อจะว่าอะไรไหมคะ?” “เอาสิลูก ตามใจทับทิมเลย เรื่องงบพ่อจะจัดการให้เอง” “ขอบคุณค่ะ รักคุณพ่อที่สุด” ทับทิมลุกจากเก้าอี้ตัวเองแล้วเข้าไปกอดบิดาพร้อมหอมแก้มฟอดหนักๆ คุณเสกคลี่ยิ้มราวกันชื่นอกชื่นใจและภูมิใจในบุตรสาวคนเล็กที่สุด มุกนิลมองภาพนั้นแล้วได้แต่ยิ้มขื่นในใจ เธอชินแล้วล่ะยอมรับว่าน้อยใจนิดๆ เหมือนกันที่ท่านมักจะกอดและให้ความสนิทสนมกับน้องมากกว่าเธอ พูดถึงน้องสาว มุกนิลยอมรับเลยว่าตอนนี้ความรู้สึกที่มีต่อทับทิมติดลบไปแล้ว ต้องเลวขนาดไหนถึงได้กล้าแทงข้างหลังพี่สาวแท้ๆ สิ่งที่ทำลงไปเมื่อคืน ทับทิมไม่มีความละอายใจบ้างหรือไง อยากจะถามน้องสาวเหมือนกันว่าทำแบบนั้นกับเธอทำไม “พี่มุกมีอะไรหรือเปล่าคะ?” ทับทิมถามเธอด้วยรอยยิ้ม สีหน้าใสซื่อไร้เดียงสาที่ส่งมาให้กัน ทำเอามุกนิลถึงกับกำมือแน่น “เปล่าจ๊ะ” เธอส่ายหน้าปฏิเสธ ก่อนจะลงมือกินข้าวต้มฝีมือตัวเองต่อ มุกนิลคิดว่าการลุกขึ้นมาโวยวายใช่ว่าจะดีเสมอไป “พี่มุกวันนี้ทับทิมขอติดรถไปทำงานด้วยได้ไหม พอดีรถทับทิมจอดไว้ที่คอนโดเพื่อนน่ะ” มุกนิลไม่แน่ใจว่าน้องสาวมีเจตนาอะไร ถึงได้จงใจพูดเรื่องคอนโดขึ้นมา หรือต้องการจะเยาะเย้ยเธอ “วันนี้พี่ไม่สะดวก ไว้วันหลังนะ” เห็นน้องสาวทำหน้าไร้จิตสำนึก เธอขยะแขยงนัก “ทำไมแกไม่สะดวก?” “คือวันนี้ มุกต้องรีบเข้าบริษัท พอดีจะมีผู้บริหารคนใหม่เข้ามาค่ะคุณพ่อ” ความจริงให้น้องติดรถไปด้วยก็ได้นะ แต่เธอกลัวว่าพลั้งเผลอฆ่ามันตายก่อนจะถึงที่ทำงาน “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หนูมุกไม่สะดวก อย่าไปบังคับเลย เดี๋ยวให้ลุงแหวนขับรถไปส่งลูกทับทิมก็ได้” ในที่สุดคนที่นั่งเหยียดยิ้มไม่ยอมพูดตั้งแต่เธอเข้ามาในห้องอาหารแล้วกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงราวกับกึ่งประชดก็ไม่เชิง และเมื่อสบตาเข้ากับหล่อน มุกนิลไม่ชอบรอยยิ้มแบบนี้เลย ตั้งแต่ที่พิมพรรณเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ยอมรับว่าความสุขของมุกนิลค่อยๆ หายไปทีละนิด ตามกาลเวลา +++++++++++ ฝากกดติดตามกันด้วยนะคะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD