เข้ามาในห้องนอนแล้ว ธาราก็เดินกวาดสายตามองไปรอบห้อง ด้วยความตื่นตาตื่นใจ เมื่อเห็นระเบียง ก็เปิดประตูออกไปสูดอากาศด้านนอก นี่มันสวรรค์บนดินชัดๆ บนห้องนอนที่อยู่ชั้นบนสุดของตัวบ้านอย่างนี้ ทำให้สามารถมองเห็นวิวบริเวณโดยรอบ ได้กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียว
“สดชื่นจัง” ธารายืนกางแขนสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด หลับตาพริ้มด้วยความสบายใจ
“ทำอย่างกับไม่เคยมาที่นี่อย่างนั้นล่ะ” เหมันต์เดินเข้ามากอดหญิงสาวจากด้านหลัง ก่อนจะซุกใบหน้าคมลงที่ซอกคอขาว นัวเนียอยู่อย่างนั้น
“คุณ! ทำอะไรเนี่ย” ด้วยความลืมตัว ธาราจึงพยายามแกะมืออีกฝ่ายออกโดยเร็ว แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้เธอมีสถานะเมียเขาแล้ว จึงไม่ควรจะปฏิเสธการสัมผัสให้อีกฝ่ายระแคะระคายเด็ดขาด ดีไม่ดีถ้าโดนจับได้เธอเองก็จะโดนหางเลขไปด้วย
“ทำไมไม่ขัดขืนต่อล่ะ กำลังได้อารมณ์อยู่แล้วเชียว”
“ก็ฉันเป็นเมียพ่อเลี้ยงนี่คะ ทำไมจะต้องทำอย่างนั้นด้วย”
“แล้วทำไมตอนแรกถึงทำล่ะ” เหมันต์ยังกวนไม่เลิก เขาอยากรู้ว่าอีกฝ่ายจะไปต่อยังไง
“ก็ฉันตกใจนี่นา จู่ ๆ ก็เดินเข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียง”
“แสดงว่าตอนนี้ฉันจะทำอะไรก็ได้แล้วสิ” เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆ ข้างใบหู ก่อนจะสูดกลิ่นหอมที่พวงแก้มขาวอย่างบรรจง มือหนาเริ่มเลื้อยเข้าไปใต้เสื้อตัวบาง
“ยะ...หยุดก่อนค่ะ นี่มันระเบียงนะคะพ่อเลี้ยง ฉันว่ามันไม่เหมาะสักเท่าไหร่” ธาราย่นคอ เอียงศีรษะหนีจากการถูกรุกราน
“ทำไมจะไม่เหมาะล่ะ ก่อนหน้าที่เธอมา เรายังเคยมีความสุขกันอยู่ตรงนี้เลย เธอเองก็ชอบไม่ใช่เหรอ” ชายหนุ่มแกล้งพูดหยอกให้อีกฝ่ายตกใจเล่น
“จะ...จริงเหรอคะ ฉันเคยทำอย่างนั้นด้วยเหรอไม่เห็นจะจำได้เลย” ธาราแกล้งทำเป็นจำไม่ได้
“มารอบนี้เธอดูเปลี่ยนไปนะ ดูหลงๆ ลืมๆ สงสัยต้องรื้อฟื้นความทรงจำซะแล้วสิ” ว่าแล้วก็ซุกไซร้ที่คอระหง สูดกลิ่นกายที่ยั่วเย้าอารมณ์ชายให้พลุ่งพล่านขึ้นทันที
“เปลืองตัวชะมัด” ธาราเผลอบ่นออกมาเบาเสียง เหมันต์ได้ยินไม่ถนัดหูจึงเอ่ยถามอีกครั้ง
“อะไรเปลืองๆ นะ”
“เปล่าค่ะพ่อเลี้ยง ไม่มีอะไร”
“เห็นพื้นที่สีเขียวตรงหน้านี้ไหม” เหมันต์เอ่ย ทั้งที่ยืนกอดอีกฝ่ายจากด้านหลังอยู่
“เห็น ทำไมคะ”
“พื้นที่ที่เธอเห็น เป็นของฉันหมดเลย”
“ออค่ะ” ธาราตอบสั้นๆ เธอยังคงไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการจะสื่อถึงอะไรกันแน่
“ถ้าเธอมาช่วยฉันทำงาน ทุกอย่างทั้งหมดก็จะเป็นของเธอไปด้วยไงล่ะ”
“ฉันไม่ได้ต้องการอะไรเลยนะคะ ที่แต่งงานกับพ่อเลี้ยงก็เพราะ...”
“เพราะอะไรทำไมไม่พูดต่อ ฉันอยากฟัง”
“เพราะว่า...ฉันรักพ่อเลี้ยงไงคะ” เธอไม่น่าเปิดประเด็นนี้ขึ้นมาเลย อายชะมัดที่ต้องพูดคำนั้นออกไป
“รักมากแค่ไหน ไหนบอกมาซิ” เหมันต์อยากจะรู้ว่าเจ้าหล่อนจะเล่นละครได้เก่งสักแค่ไหนกันเชียว
“บอกไม่ถูกค่ะ รู้แค่ว่ารักมาก”
“ฉันเองก็รักเธอมากรู้ไหม ยอมเธอได้ทุกอย่างไม่ว่าเธอจะต้องการอะไร เพราะงั้นเธอจะต้องอยู่ที่นี่กับฉันไปตลอด ห้ามไปจากฉันเด็ดขาด วันไหนที่ฉันรู้ว่าเธอทรยศฉัน รับรองว่าเธอจะโดนฝังอยู่ที่นี่แน่นอน”
ได้ยินอย่างนั้นธาราก็กลืนน้ำลายลงคอด้วยความหวาดกลัว พอจะร้ายทำไมถึงได้น่ากลัวอย่างนี้นะ เธอคงจะยังไม่รู้จักผู้ชายคนนี้มากพอจริงๆ รู้แล้วว่าทำไมน้องสาวฝาแฝดถึงได้กลัวว่าผู้ชายคนนี้จะเอาเรื่อง หากรู้ความจริงเข้า กลายเป็นว่าตอนนี้เธอมารับความซวยแทนน้องสาวแท้ๆ
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ ฉันแค่ล้อเล่นเอง” เหมันต์ขำออกมา เมื่อแกล้งเจ้าหล่อนได้สำเร็จ ดีเหมือนกันอีกฝ่ายจะได้รู้ว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายที่จะมาล้อเล่นได้ง่ายๆ
“จริงเหรอคะ ทำไมหน้าคุณดูจริงจังซะขนาดนั้น” ธารายังคงไม่เชื่อว่าเขาจะแค่ล้อเล่น
“ทำอย่างกับไม่เคยรู้จักฉันมาก่อน เวลาเราอยู่ด้วยกันสองต่อสองฉันก็เป็นคนขี้เล่นอย่างนี้ล่ะ แต่ถ้าอยู่ต่อหน้าคนงานในไร่ก็จะจริงจัง”
“อ๋อ...เข้าใจแล้วค่ะ” ธาราพยักหน้ายิ้มให้
“ถ้าเข้าใจแล้วเข้าไปต่อข้างในกันเถอะ ฉันอยากจะกินเธอเต็มทีแล้ว”
“กินฉัน? หมายความว่า..” นี่เธอต้องเสียตัวอีกแล้วงั้นเหรอเนี่ย ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้เซ็กซ์จัดขนาดนี้นะ
“ใช่...ฉันจะกินเธอไปทั้งตัวเลยล่ะ” ว่าแล้วชายหนุ่มก็อุ้มเธอขึ้นในท่าเจ้าสาว แล้วพาเดินเข้าไปในห้องนอน เปิดประตูระเบียงไว้อย่างนั้นเพื่อรับลมเย็นๆ
เมื่อวางเจ้าหล่อนลงบนเตียงแล้ว เหมันต์ก็จัดการเปลื้องผ้าออกจนตัวเปล่าเล่าเปลือย ความเป็นชายกระเด้งโดดขึ้นมาตั้งตระหง่าน บ่งบอกว่าตอนนี้เขาพร้อมรบแล้ว ธาราได้แต่นอนนิ่งอยู่บนเตียงด้วยท่าทีเขินอาย
“ฉันลืมบอกเธอไปว่า ฉันเป็นคนที่มีความต้องการสูงมาก สูงจนสามารถมีอะไรกับเธอได้ทุกชั่วโมงเลยล่ะ” เขาเอ่ยแค่นั้นก็โน้มใบหน้าคมเข้ามาประกบจูบ
มือหนาข้างหนึ่งบีบเคล้นที่เนินอกกลมแน่นเต่งตึงผ่านเสื้อตัวบาง ส่วนอีกข้างก็ปลดเปลื้องกระโปรงพลิ้วสั้นออกจนพ้นตัวหญิงสาว เหลือไว้เพียงชั้นในตัวจิ๋วลูกไม้สีขาว
“อื้อ..” ธาราจำต้องร้องครวญครางในลำคอ นั่นเพราะตอนนี้ของสงวนโดนฝ่ายชายล่วงล้ำเข้าไปด้วยนิ้วมือหนา ก่อนจะกระตุกมันอย่างถี่รัวราวกับต้องการแกล้งอีกฝ่าย
“เธอกำลังยั่วฉันมากเหลือเกินน้ำค้าง” เหมันต์เอ่ยเสียงกระเส่าข้างใบหู
ธาราได้แต่เหลือบตามองเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถเอ่ยอะไรออกมาได้ เพราะตอนนี้เจ้าหล่อนกำลังให้ความสนใจกับนิ้วที่ซุกซนอยู่นั่นเอง
“อ๊ะ...พะ...พ่อเลี้ยง” ธาราไม่อาจควบคุมความต้องการของตัวเองได้เลย ตอนนี้เจ้าหล่อนเปลือยกายล่อนจ้อน แอ่นอกรับสัมผัสจากชายหนุ่ม เขาโน้มใบหน้าคมลงมาใช้ลิ้นเย็น ตลัดเลียวนยอดอกที่ตั้งชูชันแข็งเป็นไต จนชื้นแฉะไปด้วยน้ำบ่อน้อย
ไม่นานเหมันต์ก็เปลี่ยนท่วงท่า นอนราบลงบนเตียง จับตัวหญิงสาวให้นั่งคร่อมตัวเองไว้ เขาจับมือธาราให้ไปสัมผัสแท่งร้อนที่กำลังแข็งได้ที่ ธารารู้งานรีบโน้มใบหน้าลงไป ใช้ปากครอบครองแก่นกายนั้นจนสุด ก่อนจะครูดขึ้นลงด้วยการเกร็งริมฝีปากบีบรัดไปด้วย
“ซี๊ดส์”
เหมันต์ชมลีลารักของภรรยาอย่างพอใจ แม้ว่าเธอคนนี้จะไม่ได้เร่าร้อนและลีลาเยี่ยมเหมือนน้ำค้างคนก่อน แต่เธอก็ทำให้เขามีอารมณ์ร่วมและสุขสมได้ไม่แพ้กัน
“เก่งมากครับเมียสุดที่รัก” เขาเอ่ยชมเพื่อให้เจ้าหล่อนมีความฮึกเหิมในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่คือครั้งที่สองของอีกฝ่าย ธาราสามารถทำให้เขาประทับใจกับลีลารักได้เพียงแค่ไม่กี่ครั้ง
เหมันต์กลัวว่าตัวเองจะถึงจุดสุดยอดไปเสียก่อน เขาจึงพลิกตัวภรรยาลงไปนอนบนเตียง แยกขาเรียวทั้งสองข้างออกจากกัน ก่อนจะดันแท่งร้อนเข้าไปรวดเดียวจนสุด ธาราพยายามเกร็งขาเข้าหากัน แต่กลับโดนชายหนุ่มยกมันขึ้นไปพาดบนบ่าหนา แล้วจัดการกระแทกกระทั้นแท่งร้อนเข้าไปอย่างรุนแรง ทำเอาเจ้าหล่อนถึงกับหน้าเหยเก ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาบีบเคล้นที่หน้าอกคู่งามของตัวเองไปด้วย ขบริมฝีปากล่างเอาไว้แน่น
ปักๆ ๆ
“ร้องดังๆ เลยครับที่รัก ร้องมันออกมาผัวอยากได้ยิน” เหมันต์ออกคำสั่งด้วยเสียงที่แหบพร่า เขาอยากได้ยินเสียงร้องรัญจวนจากอีกฝ่าย เพราะมันช่วยเพิ่มอรรถรสให้เขาได้มากเลยทีเดียว
“อ๊ะ ๆ ๆ สะ...เสียว อื้อ” ในที่สุดธาราก็กลั้นเอาไว้ไม่ได้ เธอร้องออกมาสุดเสียงไม่สามารถกั๊กความรู้สึกเอาไว้เลย
เมื่อเห็นเจ้าหล่อนมีอารมณ์ร่วมในระดับหนึ่งแล้ว เหมันต์ก็ร่ายลีลารักอย่างชำนิชำนาญ พาเธอผจญภัยกับเส้นทางแห่งรสสวาทอย่างสนุกสนานและเร่าร้อน...จนถึงปลายทางในที่สุด