หลังจากที่ทั้งสองสาวตกลงกับแฟนหลอกๆ ได้แล้ว แผนการที่คิดเอาไว้ตั้งแต่ต้นก็เริ่มขึ้นทันที ยกเว้นก็แต่เยว่หรูที่ไม่ยอมตกลงไหว้วานชายหนุ่มอีกหนึ่งคนในกลุ่มของพี่ชายเพื่อนที่เคยตามจีบและเหยียดหยามความเป็นผู้หญิงของเธอในสนามแข่ง แม้จะเป็นการคบกันหลอกๆ เพื่อตบตาคนอื่น แต่เธอก็ยังรู้สึกตะขิดตะขวงใจอยู่ดี
“เยว่หรู เธอจะเอาไง วันนี้ฉันกับยัยลี่หลินจะชวนพี่ตงหานกับพี่เจียวจ้านไปออกเดตกันแล้วนะ ขืนอยู่ๆ มีแฟนโผล่ไปโดยไม่มีใครเคยเห็นว่าเราควงพวกพี่ๆ เขามาก่อน ต้องไม่มีใครเชื่อแน่นอน หาสักคนเถอะน่า เธอก็ถือว่าเก่งและสวยที่สุดในสนามเลยนะ ทำไมไม่เลือกมาสักคนล่ะ ก็แค่ตัวหลอกไม่ใช่ตัวจริงของพวกเราสักหน่อย ดูๆ พี่อวี่ซินก็ออกจะเต็มช่วยเหลือเธอดีออก ทำไมเธอไม่รับน้ำใจของเขาล่ะ”
อ้ายฉิงเอ่ยถามเพื่อนขึ้นมาด้วยความกังวล กลัวว่าเพื่อนจะหาแฟนหลอกๆ ไปสงบปากสงบคำของถิงถิงกับเยว่หรูไม่ทัน ถึงแม้ระยะเวลาจะยังอีกนาน หากแต่หกเดือนมันก็เร็วมากพอหากไม่ทำอะไรเลย
“ก็ฉันไม่ถูกชะตากับอีตานั่น พวกเธอไม่รู้อะไร นายคนนั้นน่ะฉายาคาสโนว่าประจำสนามเลยนะ และอีกอย่างเขาเคยมาจีบฉันด้วย พอฉันไม่เล่นด้วยก็ปากหมาใส่ หาว่าฉันไม่ชอบผู้ชายบ้างล่ะ เมื่อคืนฉันไม่ต่อยปากไปก็ดีแค่ไหนแล้ว” สาวสวยสุดมั่นบ่นออกมาให้เพื่อนฟังในที่สุด
“ห๊า....พี่อวี่ซินน่ะหรอเคยจีบเธอ” หวงลี่หลินอุทานออกมาทันทีด้วยความตกใจ
“อืม....จีบแบบอยากฟาดฟันมากกว่า แบบว่าอยากลองอะไรแบบนี้ อีตานั่นเคยจริงจังกับผู้หญิงที่ไหนกัน”
เยว่หรู่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายยามที่นึกถึงหน้าหล่อๆ ที่เจ้าเล่ห์ของชายหนุ่ม
“ถ้าเป็นแบบนั้นเธอก็อยู่ให้ไกลๆ พี่เขาเลย ถ้าพี่เขาเป็นแบบที่เธอพูดมาจริงๆ แม้จะเป็นแฟนหลอกๆ ก็คงจะมีปัญหาตามมาอีกไม่น้อยเลยล่ะ”
อ้ายฉิงรีบบอกเพื่อนทันที ถึงแม้จะเป็นแค่คู่ปลอมๆ เธอก็ไม่อยากให้เพื่อนรักต้องมาเจอปัญหาระหว่างการเดทปลอมๆ ครั้งนี้
“แล้วนี่พวกเธอจะไปออกเดตปลอมๆ กันเมื่อไหร่ อ้อ ซักประวัติของพี่เจียวจ้านอีกทีนะ ฉันว่าแซ่เขาคุ้นๆ อะ เหมือนจะเป็นแซ่เดียวกับว่าที่พี่เขยของเธอเลยยัยลี่หลิน”
เยว่หรูเอ่ยถามออกมา ก่อนที่จะนึกขึ้นได้เรื่องนามสกุลของแฟนหลอกของลี่หลิน
“เออ...ตอนแรกฉันก็รู้สึกคุ้นๆอยู่ แต่เขาอาจจะไม่เกี่ยวข้องกันก็ได้นะ ฉันไม่เคยได้ยินพี่ลี่จินพูดถึงน้องชายของพี่เจียงข่านเลย ไม่เป็นไรเอาไว้ฉันถามเขาเพื่อความแน่ใจอีกทีก็แล้วกัน แต่ถ้าเป็นญาติของพี่เจียงจริงก็ดีสิ อะไรจะได้ง่ายๆ”
หวงลี่หลินทำท่าคิดก่อนที่จะตอบออกมา โดยไม่ได้คาดคิดเลยว่าไอ้ที่ว่าง่ายๆมันไม่ได้ง่ายแบบที่เธอคิดหรอก
“แล้วว่าที่พี่เขยของเธอเขาเคยเจอกับเธอหรือยัง” อ้างฉิงเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ยังจ้า เพราะฉันไม่ค่อยกลับบ้านพวกเธอก็รู้ เวลากลับไปก็จะเจอแต่ป๊ากับม๊า แล้วก็เจี่ยของฉัน”
ทายาทอันดับสองของตระกูลหวง ซึ่งเป็นตระกูลใหญ่อันดับสองของเมืองเอเอ่ยออกมาราวกับไม่ได้สนใจใส่ใจอะไรจนสองสาวส่ายหน้าให้กับแม่คุณหนูเล็กแต่ชอบทำตัวเป็นโลโซ
ทางด้านหนุ่มๆ หลังจากผ่านการพูดคุยกับทั้งสามสาวเมื่อคืนที่ผ่านมา วันนี้มีเพียงสองหนุ่มเท่านั้นที่มีภารกิจที่ต้องไปทำ นั่นก็คือภารกิจทำหน้าที่แฟนหลอกๆ ของทั้งสองสาวนั่นเอง ส่วนอีกคนที่กำลังทำหน้าเศร้าเป็นหมาเหงาจนเพื่อนทั้งสองอดที่จะขำกับอาการของไอ้คาสโนว่าตัวพ่อที่ไม่เคยถูกผู้หญิงปฏิเสธมาก่อน แต่กลับถูกแม่สาวสุดเท่ ที่มีอาชีพนักบิดเฉกเช่นเดียวกันเมื่อคืนแหกอกเอา เพราะเธอบอกไม่ต้องการให้เขามาช่วยเป็นแฟนปลอมๆ ให้ เพราะเธอสามารถหาเองได้สบายๆ แน่นอนว่าเธอไม่ได้พูดไปอย่างนั้น หนุ่มๆ ทั้งสนามไม่ว่าจะเป็นรุ่นน้อง รุ่นพี่ หรือรุ่นเดียวกัน ต่างก็สนใจแม่ดาวสนามคนนี้ทั้งสิ้นเยว่อวี่ซินรู้ดี
“ไม่ออกไปไหนหรือวะ หรือว่าอยากนอน” ลู่ตงหานเอ่ยถามขึ้นมาอย่างยิ้มๆ
“อืม.... อยากนอน เดี๋ยวเย็นๆ จะเข้าไปที่คลับ อย่ากลับช้านักล่ะ”
เสียงเอื่อยเฉื่อยดังมาจากริมฝีปากหนาของคนที่นอนเอกเขนกอยู่บนโซฟาตัวยาว
“ได้สิ แค่พาน้องอ้ายฉิงไปทานข้าวที่ห้างสรรพสินค้ากับเดินช๊อปปิ้งนิดหน่อยแค่นั้นเอง”
ลู่ตงหานตอบออกมาอย่างอารมณ์ดีจนคนฟังอดที่จะหันไปมองไม่ได้
“ตงหาน... นายอย่าบอกนะว่านายชอบแม่สาวน้อยสุดแสนจะเรียบร้อยคนนั้นน่ะ”
ที่เยว่อวี่ซินว่าเธอว่าเป็นสาวสุดแสนเรียบร้อยก็เพราะว่าเพื่อนๆ อีกสองคนนั้นแต่งตัวสวยแซ่บน่าค้นหาทุกคน โดยเฉพาะแม่สาวดาวสนามที่กล้าปฏิเสธเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
“ก็... ไม่รู้ว่ะ น้องเขาก็น่ารักดี แต่ถึงฉันจะชอบเขา เขาก็ไม่ชอบฉันอยู่ดีแหละ นายก็รู้เป้าหมายของสาวๆ กลุ่มนี้ดีหนิ” ลู่ตงหานตอบเสียงเบา
“กฏของสาวๆ คืออะไร ห้ามตกหลุมรักใช่ไหม แบบนี้ถ้าใครตกหลุมรักใครก่อนก็แย่น่ะสิ พวกนายก็เตรียมใจเอาไว้บ้างเถอะ แค่คู่หลอกๆ ไม่ใช่ตัวจริงของเขาสักหน่อย”
เยว่อวี่ซินเอ่ยขึ้นเตือนสติของเพื่อนก่อนที่จะเปลือกตาจะค่อยๆ ปิดลง ลู่ตงหานถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนอาการกระดี๊กระด๊าเมื่อสักครู่จะหายไปจนหมดสิ้น ‘ใช่สิ ฉัมันก็แค่ตัวปลอมของเธอนี่นา’
เมื่อถึงเวลานัดหมาย สองหนุ่มก็ได้ไปรับแฟนหลอกๆ ของตน โดยแยกกันขับรถไปคนละคัน เมื่อสองสาวเห็นยานพาหนะสุดหรูที่มาจอดรอเธอทั้งสองคนก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ แสดงว่าสองหนุ่มนี่รวยจริงๆ ดีๆ จะรวยกว่าว่าที่เจ้าบ่าวของยัยโหรวโหรวเสียอีก
“สวัสดีครับ น้องลี่หลิน น้องอ้ายฉิง”
ลู่ตงหานและเฉินเจียวจ้านเอ่ยทักทายทั้งสองสาว สายตาคมสองคู่สำรวจไปที่คู่เดทของตน วันนี้แม่สาวสุดเซ็กซี่ในชุดแซกสีแดงเพลิงคนเมื่อคืนกลับกลายเป็นแม่สาวเซอร์ๆ ในชุดเสื้อครอบเอวลอย กับกางเกงยีนขายาวเอวสูง ทรงผมถูกปล่อยสลายยาวไปกลางหลัง ดูสวยหวานแต่ยังคงความเซ็กซี่เล็กๆเอาไว้ แต่ก็ผิดกับเมื่อวานไปจนแปลกตา ทำเอาเจียวจ้านอดที่จะตกตะลึงไม่ได้ ส่วนอ้ายฉิงก็มาในชุดเรียบร้อย เสื้อยืดน่ารักกับกระโปรงสั้นแค่หัวเข่า ทรงผมถูกถักเปียมองแล้วก็ให้ความรู้สึกว่าน่ารักเต็มไปหมด ทำเอาลู่ตงหานตกตะลึงไปเช่นกัน ก่อนที่สองหนุ่มจะได้สติเมื่อเสียงหวานสองเสียงดังประสานกันทักทายเขาทั้งสองคนกลับบ้าง
“สวัสดีค่ะพี่เจียวจ้าน พี่ตงหาน”
สองสาวเอ่ยทักทายกลับเช่นกัน ก่อนที่จะเดินตรงไปหาคู่รักปลอมๆของตนที่ยืนเปิดประตูรถรอเธอทั้งสองคนอยู่แล้ว เมื่อทั้งสองสาวขึ้นรถคันหรูของทั้งสองหนุ่มเรียบร้อยแล้วจึงพากันไปในสถานที่เดตที่ทั้งสองสาวเป็นคนกำหนด ด้วยอาชีพนักเขียนนิยายจึงทำให้เธอต้องอ่านหนังสือให้มากๆ เพื่อนำมาปรับใช้กับงานของตน หวงลี่หลินจึงขอให้เจียวจ้านพาเธอไปเดตที่ห้องสมุดขนาดใหญ่ใจกลางเอมืองเอ ก่อนที่จะนัดเจอคู่ของอ้ายฉิงตอนรับประทานมื้อกลางวัน
ขณะที่อยู่ภายในรถหวงลี่หลินใช้หางตาคอยลอบมองและสังเกตใบหน้าหล่อเหลาของแฟนปลอมๆ ในตอนกลางวัน ใบหน้าขาวเนียนหากแต่ปรากฏไรหนวดเขียวครึ้ม ที่ดูเหมือนว่าเขาเพิ่งจะโกนมันออก ริมฝีปากหนาสีชมพูได้รูป ขนตางอนยาวราวกับดัดมา คิ้วก็เข๊มเข้ม จมูกที่มองจากด้านข้างก็ยังเห็นสันดั้งได้ชัดจนหญิงสาวรู้สึกอิจฉา ทรงผมที่มัดไว้เมื่อวานวันนี้ถูกมัดรวบไว้ด้านหลังเช่นเดิม มองยังไงเขาก็ดูดีไปซะหมด ไม่ว่าจะรูปร่าง หน้าตา หรือฐานะ แต่แปลกทำไมถึงยังไม่มีแฟนกันนะ หรือว่าเขาอาจจะรู้สึกเหมือนกันกับเธอ
ทางด้านเจียวจ้านที่กำลังสนใจในการขับรถโดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าหญิงสาวข้างกายกำลังแอบมองเขาอยู่ รถคันหรูแล่นเข้าไปจอดที่ห้องสมุดขนาดใหญ่ของเมืองเอ นี่เป็นครั้งแรกในรอบสี่ปีที่เขาได้กลับมาเยือนห้องสมุดที่สมัยตอนเป็นเด็กๆ เขามาที่นี่บ่อยครั้ง ด้วยเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือคนหนึ่ง นั่นทำให้เขาไม่ปฏิเสธหญิงสาวข้างกายเมื่อเธอเลือกสถานที่เดตเป็นห้องสมุดแทนที่จะเป็นห้างสรรพสินค้าหรือสวนสนุกแบบผู้หญิงทั่วไป
สองหนุ่มสาวเดินเคียงข้างกันเข้าไปในห้องสมุดก่อนที่สาวสวยอย่างหวงลี่หลินจะเอ่ยทักทายบรรณารักษ์ของห้องสมุดที่นี่
“สวัสดีค่ะพี่จ้าวเยว่”
“อ้าว สวัสดีค่ะน้องลี่หลิน ไม่เจอกันหลายวันเลยนะคะ”
บรรณารักษ์สาวเอ่ยทักทายก่อนที่สายตาจะหันไปเห็นชายหนุ่มที่เดินเคียงข้างมากับหญิงสาวรุ่นน้องที่ชอบอ่านหนังสือจนมาเจอเธอที่นี่บ่อยๆ
‘ทุกทีไม่เห็นจะมีผู้ชายมาเดินตามแบบนี้นี่นา’ บรรณารักษ์สาวคิดในใจก่อนที่จะตัดสินใจเอ่ยถามออกมา
“เอ่อ แล้วคนข้างๆ น่ะใครคะ”
“อ่ะ.เอ่อ”
“สวัสดีครับผมเจียวจ้าน เป็นแฟนของน้องลี่หลินครับ”
ชายหนุ่มพอเห็นหญิงสาวอึกอักที่พูดออกไป เขาจึงตอบเพื่อให้อีกฝ่ายหายสงสัย
“อุ้ย!! นี่น้องลี่หลินตัดสินใจคบกับใครสักคนแล้วหรอคะ พี่ดีใจด้วยนะคะ”
จ้าวเยว่ทำตาโตก่อนที่จะเอ่ยแสดงความดีใจกับหญิงสาวที่เธอรักและเอ็นดูเหมือนกับเป็นน้องสาวคนหนึ่งออกมา
“อ่ะ...เอ่อ ขอบคุณค่ะ ลี่หลินขอตัวเข้าไปหาหนังสือที่ต้องการก่อนนะคะ เอาไว้เราค่อยคุยกันใหม่”
หญิงสาวเอ่ยขอบคุณออกไปอย่างเสียไม่ได้ ก่อนที่จะหันไปมองใบหน้าหล่อเหลาที่ยิ้มกริ่มอย่างเจ้าเล่ห์ เธอไม่รู้ว่าเธอคิดถูกไหมที่เลือกผู้ชายคนนี้มาเป็นแฟนปลอมๆ เพราะรู้สึกว่าเขาจะดูหล่อและโดดเด่นเสียเหลือเกิน มือบางจับจูงมือหนาให้เดินตามไป ก่อนที่ทั้งสองหนุ่มสาวจะหายเข้าไปในห้องสมุด
โหรวโหรวที่ผ่านมาทำธุระแถวนี้พอดีบังเอิญเห็นทั้งสองหนุ่มสาวตั้งแต่ลงจากรถคันหรูเคียงข้างกันเข้าไปในอาคารแล้ว เธอจึงแอบเดินตามมาจนกระทั่งได้ยินเสียงทักทายและแนะนำตัวระหว่างยัยลี่หลินกับผู้ชายข้างกายกับบรรณารักษ์สาวคนนั้น ‘นายคนนั้นเป็นแฟนยัยลี่หลินจริงๆ หรอเนี่ย แบบนี้ที่มันบอกยัยถิงถิงเอาไว้มันก็ทำได้จริงน่ะสิ ไม่ได้การละ เรื่องนี้ต้องไปคุยกับยัยถิงถิงซะหน่อยละ คนแบบยัยลี่หลิน ยัยเยว่หรูและยัยอ้ายฉิง ไม่มีทางที่จะมีแฟนหล่อๆ รวยๆ แบบพวกเราได้หรอก’ คิดแล้วหญิงสาวร่างระหงอวบอิ่มที่จิตใจมีแต่ความอิจฉาริษยาเข้าครอบงำก็รีบเดินกลับไปที่รถและตรงไปหาเพื่อนสนิทที่ร้านเสื้อผ้าของอีกฝ่ายทันที