ขณะที่ทั้งสามสาวสามสไตล์กำลังสั่งเครื่องดื่มเพื่อมาดื่มกันที่โต๊ะVIPของพวกเธอ ร่างระหงในชุดแซกสีแดงเพลิงสุดเซ็กซี่ก็ลุกขึ้นยืน ก่อนที่จะเดินออกไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งเป็นห้องน้ำของโซนแขกวีไอพี คนที่กำลังจ้องมองเธออยู่ก่อนหน้าลุกขึ้นตามไปทันทีเพื่อที่เขาอยากจะเสนอบางอย่างให้กับเธอ
“เห้ย ไอ้เจียวจ้าน จะลุกไปไหนวะ” เพื่อนทั้งสองคนแทบจะเอ่ยถามออกมาพร้อมๆ กัน
“ไปทำความรู้จักกับน้องชุดแดงนั่นเสียหน่อย เดี๋ยวฉันกลับมา พวกนายรออยู่นี่แหละ”
เสียงทุ้มเอ่ยบอกเพื่อนทั้งสอง ก่อนที่จะก้าวเดินลงไปทางห้องน้ำของแขกVIP สองหนุ่มมองตามก่อนที่จะยิ้มออกมา ด้วยยังไม่รู้วัตถุประสงค์ของเพื่อนสนิทว่าชายหนุ่มต้องการที่จะยื่นข้อเสนอให้เธอแกล้งมาเป็นแฟนของเขาเพื่อตบตาบิดามารดาก็เท่านั้น
ร่างระหงก้าวเดินออกจากห้องน้ำมาหลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จ หากแต่เดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าวด้วยความรีบและไม่ทันได้มองทางข้างหน้าทำให้ชนเข้ากับร่างหนั่นแน่นที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของคนที่ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำเข้าอย่างจัง กลิ่นน้ำหอมผู้ชายลอยปะทะเข้าที่จมูกเล็ก เธอเผลอสูดดมเข้าไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ ร่างบางเซถอยทำท่าจะหงายไปด้านหลัง หากแต่มือหนากับลำแขนแข็งแรงก็คว้าเอาร่างบางที่กำลังจะหงายหลังไปเข้ามาไว้ในอ้อมกอดได้ทัน
เสียงหัวใจทั้งสองดวงเต้นแทบจะไม่เป็นจังหวะ ก่อนที่ร่างระหงที่มีกลิ่นกายสาวเฉพาะตัวจะเอ่ยขอโทษและพยายามผละออกจากอ้อมแขนของชายหนุ่ม ดูเหมือนเขาจะรู้ตัวว่าเขาโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขนนานเกินไปจึงช่วยพยุงร่างระหงให้ยืนได้อย่างมั่นคง
“ขอโทษนะคะ ดิฉันไม่ทันระวังเลยชนคุณเข้า”
เสียงหวานเอ่ยออกมาก่อนที่จะสำรวจใบหน้าหล่อเหลาของหนุ่มเซอร์ตรงหน้า
‘ผู้ชายอะไรหล่อเท่ ผมยาวเซอร์ได้ใจชะมัด ยิ่งหุ่นก็ล่ำซะไม่มี ปากก็อมชมพูน่าจูบ ว๊าย!!!.... นี่เธอกำลังคิดอะไรบ้าๆ อยู่เนี่ยยัยลี่หลิน’ หญิงสาวคิดในใจก่อนที่จะสะบัดใบหน้างามไปมาเพื่อขับไล่ความคิดที่มันกำลังทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง
“ไม่เป็นไรครับ ผมเองมากกว่าที่ต้องขอโทษที่เป็นคนทำให้คุณต้องเจ็บตัว” เสียงทุ้มเอ่ยออกมาจากริมฝีปากหนาสีชมพูก่อนที่จะส่งยิ้มไปให้หญิงสาวตรงหน้า
“เอ่อค่ะ ถ้าอย่างนั้นถือว่าเลิกแล้วกันไปนะคะ ดิฉันขอตัวกลับไปหาเพื่อนๆ ก่อน หายออกมาสักพักแล้วเดี๋ยวเพื่อนๆ จะเป็นห่วง นึกว่าดิฉันตกห้องน้ำตาย” หวงลี่หลินตอบก่อนที่จะเอ่ยออกมาอย่างติดตลก
เขาขำออกมาเล็กน้อยเรียกสายตากลมให้มองไปที่เขาอย่างตะลึง เขี้ยวเสน่ห์ของชายหนุ่มโผล่ออกมายามที่เขายิ้มและหัวเราะจนเห็นฟันซี่ขาวที่เรียงตัวสวยอยู่เต็มปาก ใจสาวอดที่จะหวั่นไหวไม่ได้ ‘เอ หรือเขาจะเป็นสเปคของเธอกันนะ’ หวงลี่หลินก้มศีรษะลงเล็กน้อยก่อนที่จะหันหลังและเตรียมตัวเดินกลับไปหาเพื่อนๆ ที่น่าจะสั่งเครื่องดื่มรอเธอเรียบร้อยแล้ว
หากแต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าวเธอก็นึกอะไรขึ้นมาได้ ถ้าได้เขาคนนี้ไปเป็นแฟนหลอกๆ ของเธอก็น่าจะดีไม่น้อย เพราะเขาก็ดูสูงหล่อและมีเสน่ห์จนสามารถทำให้เธอหวั่นไหวได้ไม่ยาก ส่วนความร่ำรวยเธอดูๆจากการแต่งกายของเขาแล้วน่าจะผ่านเพราะพ่อคุณนั้นใส่แบรนด์เนมทั้งตัว หากพวกเพื่อนร้ายของเธอได้เห็นไม่ตกหลุมเสน่ห์ของเขาก็คงจะแปลกมากแล้ว เพราะเธอเองเป็นคนที่ไม่เคยสนใจผู้ชายคนไหนมาก่อน หากแต่ผู้ชายผมยาวที่ดูเซอร์ๆ คนนี้กลับทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ
ร่างบางหันหลังกลับไปในจังหวะที่เขากำลังจะหันหลังเดินไปเข้าห้องน้ำพอดี เขาเองก็ไม่ใช่ผู้ชายที่จีบสาวเก่ง ประสบการณ์จีบสาวก็มีน้อยนิดจึงคิดว่าถอยไปตั้งหลักก่อนก็คงจะดีไม่น้อยแต่ขณะที่กำลังหมุนตัวหันหลังให้หญิงสาวเสียงหวานก็เอ่ยดังขึ้น
“อ่ะ..เอ่อ ขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ”
เสียงหวานเอ่ยถามออกไปทันทีก่อนที่ผู้ชายที่เป็นเป้าหมายจะหันหลังเดินจากไป ร่างสูงโปร่งหันกลับมามองก่อนที่จะตอบกลับและเอ่ยถามออกไปเช่นกัน
“ครับ คุณมีอะไรจะถามผมหรอครับ”
“เอ่อ..คือ.. ไม่ทราบว่าคุณ..มีแฟนหรือยังคะ”
คำถามของหญิงสาวตรงหน้าทำเอาใจเขาอดที่จะสั่นไหวไม่ได้ แม้จะรู้จุดประสงค์การมาที่นี่ของเธอมาจากพี่ชายและจุดประสงค์ของตนเองที่เข้าหาเธอว่าคืออะไรก็ตาม
“ยังไม่มีครับ แล้วคุณล่ะครับ”
เสียงทุ้มตอบออกมาพร้อมรอยยิ้มทำเอาใจสาวอดที่จะตื่นเต้นและสั่นไหวอย่างรุนแรงไม่ได้ ‘เฮ้ยๆๆ นี่กะจะพาเขาไปควงหลอกๆ แค่นั้น ใจเย็นสิวะลี่หลิน’ หญิงสาวปรามหัวใจตนเองที่แอบหวั่นไหวให้ชายหนุ่มตรงหน้าไปเสียแล้ว
“คือ..ดิฉันก็ยังไม่มีหรอกค่ะ และก็ไม่คิดว่าจะมีด้วย” หากแต่คำตอบที่เธอตอบออกไปนั้นยังคงเจตนารมณ์เดิมของเธอ นั่นก็คือเธอต้องการหาแฟนหลอกๆ โดยที่อีกฝ่ายเต็มใจรับข้อเสนอของเธอ
“ผมก็คิดเหมือนกับคุณเลยครับ แต่ดูเหมือนตอนนี้ชีวิตโสดของผมจะมีปัญหาซะแล้วล่ะ เพราะที่บ้านของผมบังคับมาว่าให้ผมมีแฟนตอนอายุ30 ก็อีกหนึ่งเดือนข้างหน้าแหละครับที่ผมจะสามสิบเต็ม ทางออกของผมถ้าไม่หาแฟนจริงๆ ก็คงต้องหาแฟนหลอกๆ ไป แต่ผมว่าถ้าเป็นอย่างหลังจะดีกว่า เพราะผมยังไม่อยากมีใครจริงๆ”
เฉินเจียวจ้านแกล้งเอ่ยออกมาอย่างเครียดๆ อันที่จริงก็เครียดจริงๆ นั่นแหละที่ต้องพาแฟนไปพบกับครอบครัวในวันเกิดของตนเอง แต่เขาเพิ่งจะกลับมาจากเมืองนอก และที่สำคัญเขายังไม่คิดจะคบกับใคร
“ดีจังค่ะ ถ้าอย่างนั้น ดิฉันมีข้อเสนอที่น่าสนใจให้คุณ คุณสนใจที่จะฟังข้อเสนอของดิฉันไหมคะ”
หวงลี่หลินเดินตรงเข้ามาใกล้ก่อนที่จะเงยหน้ามองใบหน้าหล่อเหลาของคนตรงหน้าที่สูงกว่าเธอน่าจะราวๆ สิบเซนติเมตรได้ ชายหนุ่มเลิกคิ้วเข้มขึ้นราวกับต้องการตั้งคำถามว่าข้อเสนอที่ว่าคืออะไร
“คือ...ดิฉันกำลังมองหาแฟนหลอกๆ เพื่อควงไปงานแต่งงานของเพื่อนรุ่นเดียวกัน แต่พอดีเจ้าสาวน่ะอยู่คนละกลุ่ม คือเรื่องของผู้หญิงๆ อะเนอะ คุณคงไม่อยากรู้เจาะลึกไปกว่านี้ใช่ไหม” ดวงตากลมโตของหวงลี่หลินเป็นประกายก่อนที่จะอธิบายความต้องการของเธอออกมา
“ครับ ถ้าอย่างนั้น ข้อเสนอของคุณคืออะไรหรือครับ” ชายหนุ่มแกล้งถามขึ้นอย่างสนใจทันที
“ตอนแรกฉันกะจะจ้างคุณให้มาเป็นแฟนหลอกๆ กับฉัน ก็ช่วงนี้ไปจนกว่าเพื่อนคนนั้นของฉันจะแต่งงาน ระยะเวลาก็ราวๆ หกเดือน” หวงลี่หลินรีบบอกข้อเสนอของเธอออกมาทันที ใบหน้าหล่อเหลาของคนตรงหน้าพยักใบหน้าขึ้นลงอย่างเข้าใจ
“แล้วตอนนี้ล่ะครับ จะไม่จ้างแล้วใช่ไหม” เขาถามเธอยิ้มๆ ซึ่งรอยยิ้มนั้นมันก็ทำให้หัวใจเธอนั้นสั่นไหวอีกแล้ว ‘อันตรายเกินไปไหมเนี่ยอีตาคนเนี้ย’ หวงลี่หลินคิดในใจ
“ก็... คุณบอกว่าคุณก็กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องพาแฟนไปเจอครอบครัวอยู่ไม่ใช่หรอคะ ดิฉันก็เลยคิดขึ้นมาได้ว่ามันก็ต้องใช้เวลาลากยาวไปนานหลายเดือนอยู่เหมือนกัน ถ้าคุณจะบอกว่าเลิกกับแฟนที่คุณควงไปแนะนำให้ทางบ้านได้รู้จักแล้ว หรือว่าคุณอยากจะได้แฟนตัวจริงไปเปิดตัวกับครอบครัวล่ะ ถ้าแบบนั้นดิฉันก็คิดว่าเราคงไม่มีอะไรที่จะต้องคุยกันอีก แต่ถ้าคุณต้องการแฟนหลอกๆ เราสองคนก็ถือว่าต่างคนต่างได้ช่วยเหลือกันแฟร์ๆ” หญิงสาวอธิบายออกมาอย่างยืดยาวอีกครั้ง ซึ่งคนฟังก็ได้แต่พยักหน้าขึ้นลงอย่างเห็นด้วย
“สรุปคือ คุณจะให้ผมมาเป็นแฟนหลอกๆ ของคุณจนกว่างานแต่งงานของเพื่อนคุณจะผ่านไป ส่วนคุณก็จะมาเป็นแฟนหลอกๆ ให้กับผมจนกว่าจะได้เวลาที่คิดว่านานพอที่ครอบครัวจะไม่ว่าถ้าผมเลิกกับแฟนใช่ไหมครับ” เฉินเจียวจ้านเอ่ยถามออกมา สาวสวยตรงหน้าฉีกยิ้มหวานให้เป็นคำตอบ
“เป็นความคิดที่ดีครับ แต่ผมว่ายังไงคืนนี้เราก็ต้องมาทำความรู้จักกันก่อนใช่ไหมครับ การที่จะมาเป็นแฟนกันไม่ว่าหลอกหรือจริงอย่างน้อยเราก็ต้องรู้จักประวัติความเป็นมาและนิสัยใจคอของกันและกันก่อน” ชายหนุ่มคล้อยตาม ก่อนที่จะเสนอความคิดที่ว่าให้เขาและเธอได้ทำความรู้จักกันก่อน หวงลี่หลินก็เห็นด้วยเช่นกัน
“แล้วนี่คุณมาเที่ยวกับเพื่อนหรอคะ พอดีดิฉันมากับเพื่อนๆ นั่งอยู่ที่โต๊ะVIP3 ถ้าคุณเสร็จธุระแล้วก็ไปนั่งคุยกันต่อที่โต๊ะได้ค่ะ เพื่อนของดิฉันก็รู้เห็นเรื่องนี้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราก็เลยไม่มีเหตุที่จะต้องปิดบังพวกเธอ”
หวงลี่หลินบอกก่อนที่จะเดินจากไปเมื่อเขาตอบตกลง สายตาคมของหนุ่มผมยาวมองตามร่างบางระหงสุดเซ็กซี่ที่เพิ่งเดินจากไปอย่างสนใจ
‘เธอดูน่าค้นหากว่าที่คิด และงานนี้คงจะสนุกอยู่ไม่น้อย’ ชายหนุ่มคิดในใจ เฉินเจียวจ้านหันหลังเดินกลับไปเข้าห้องน้ำทันทีพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก
“ตกชักโครกมาหรอยะ ไปซะนานเชียว หรือไปเจอใครทำอะไรมิดีมิร้ายมา” เยว่หรูเอ่ยถามขึ้นทันทีที่เพื่อนสนิทสาวอีกคนกลับมาจากห้องน้ำและเพิ่งจะนั่งลงบนโซฟานุ่มข้างๆ เธอ
“โอ๊ย!!! ยูโด เทควันโดสายดำอย่างยัยลี่หลินใครจะมาทำอะไรนางได้” อ้ายฉิงเอ่ยขัดเยว่หรูขึ้นทันที ก็เพื่อนคนนี้ของพวกเธอนั้นเป็นอดีตนักกีฬายูโด เทควันโดของมหาวิทยาลัย
“ฉันว่าแล้ว ว่าพวกเธอต้องคิดแบบนี้คิกๆๆ ฉันไปตกเบ็ดได้ปลาตัวใหญ่มาย่ะ ว่าแต่พวกเธอนั่งอยู่นี่ตั้งนานได้ปลากันสักตัวบ้างยัง” คำตอบของลี่หลินทำเอาสองสาวตาโต ก่อนที่จะมองหาคนที่เพื่อนสาวบอก
“เป็นไง หล่อไหม ลูกชายตระกูลไหน แล้วรวยหรือเปล่า” เยว่หรูเอ่ยถามขึ้นมาทันทีอย่างตื่นเต้น
“เดี๋ยวเขาก็มาให้สัมภาษณ์ แต่พวกเธออย่าลืมนะ ว่าห้ามบอกเขาว่าฉันมาจากตระกูลไหน บอกแค่ว่าเป็นนักเขียนอิสระพอมีพอกินก็พอแล้ว” ลี่หลินรีบบอกเพราะกลัวผู้ชายที่เข้ามาจะรู้ว่าเธอเป็นทายาทลำดับที่สองของตระกูลแล้วจะไม่ยอมจบข้อเสนอแฟนหลอกๆ กับเธอ
“ย่ะ!!! พวกฉันรู้อยู่หรอกน่า เธอนี่ชอบทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากเนอะลี่หลิน ยิ่งถ้าเพื่อนทุกคนรู้สถานะที่แท้จริงของเธอ คงจะไม่มีใครหน้าไหนกล้ามาดูถูกเธอหรอก”
อ้ายฉิงอดที่จะบ่นออกมาไม่ได้ ก็เพื่อนสาวทายาทมหาเศรษฐีคนนี้ของเธอแกล้งเป็นคนไม่มีอันจะกินมาตั้งแต่เรียนสมัยมหาวิทยาลัย เลยมีแค่พวกเธอสองคนที่ไม่ได้ยึดติดกับฐานะเงินทองที่คบหาด้วย จนลี่หลินมาเฉลยฐานะที่แท้จริงกับพวกเธอสองคนก็ตอนที่คบกันมาได้เป็นปีแล้วนั่นแหละ