"ถ้าไม่มีเงินมาคืนจริงๆ ก็คงต้องมีของมาแลก"
"ถ้าหมายถึงที่ดิน มันไม่ได้เป็นชื่อฉัน"
"ที่ดินผมจะเอามาทำไม"
"แล้วมึง.. แล้วพ่อเลี้ยงอยากได้อะไร" อย่าให้ถึงทีกูบ้างแล้วกัน
"ได้ยินว่าน้องสาวของคุณใกล้จะบินกลับมาแล้ว"
"มึงพูดอะไร!" เพชรกล้าเอื้อมมือไปจะกระชากคอเสื้อภูตะวัน แต่ยังเอื้อมไปไม่ถึงร่างของเพชรกล้าก็ถูกล็อกตัวไว้ก่อน "ปล่อยกูนะ พวกมึงจะมาใช้กำลังกับกูแบบนี้ไม่ได้!"
อึบ! นอกจากจะไม่ปล่อยแล้วยังเตะขาให้อีกฝ่ายคุกเข่าลงตรงหน้าของพ่อเลี้ยง
"ก็บอกแล้วไงว่าเบามือกันหน่อยเดี๋ยวช้ำหมด"
"ครับ"
ตุ๊บ!
"โอ๊ย! อะไรของมึงวะไม่ได้ยินลูกพี่มึงบอกให้เบามือหรือไง!"
"ผมจะให้เวลาเสี่ยจนถึงวันพรุ่งนี้ คิดดูให้ดีว่าจะเอายังไง"
"ก็ได้ บอกลูกน้องมึงปล่อยกูก่อนสิวะ!"
ภูตะวันส่งสัญญาณให้ลูกน้องปล่อย พอถูกปล่อยเพชรกล้าก็ดันตัวลุกขึ้น
"แล้วกูจะติดต่อกลับมา" จังหวะที่เพชรกล้าหมุนตัวกำลังจะออกไป เวทมนต์ก็เดินไปดักหน้าไว้
"จะไปไหนล่ะครับเสี่ย"
"ก็กลับบ้านก่อนไง"
"เจ้านายผมไม่ได้หมายถึงให้เสี่ยกลับไปคิดที่บ้าน ท่านบอกให้เสี่ยคิดอยู่ที่นี่จนกว่าจะคิดออก"
"นายมึงให้เวลากูหนึ่งวัน"
"ใช่..หนึ่งวันเสี่ยอยู่ที่นี่แบบมีลมหายใจได้"
"พวกมึงขู่กูเหรอ"
"ไม่ได้ขู่..แต่เอาจริง"
น้ำลายเหนียวๆ ถูกกลืนลงคอแบบยากลำบาก ป่านนี้พ่อน่าจะรู้เรื่องแล้วทำไมถึงยังไม่บุกเข้ามาตามอีก ..เพราะถ้ากำนันสิงห์พ่อของเพชรกล้ารู้เรื่อง คงให้คนมาตามกลับบ้านแล้ว
"มันจะกล้าทำตามเราเหรอครับพ่อเลี้ยง" เวทมนต์มองตามหลังเพชรกล้าที่ถูกลูกน้องลากตัวไปขังไว้อีกห้องหนึ่ง
"ไอ้นี่มันขี้ขลาด"
"ไม่ได้เลือดพ่อเลยใช่ไหมครับ อุ๊ย..ขอโทษครับพ่อเลี้ยง" หันมองไปเจอสายตาผู้เป็นนายรู้สึกขนลุกเลย
"มันก็แค่ลอบแทงข้างหลัง" ภูตะวันหมายถึงกำนันสิงห์ลอบแทงข้างหลัง เพราะถ้าวันนั้นมันไม่ให้คนซุ่มทำร้ายมีหรือที่เขาจะเสียรู้มัน
การเอาคืนไอ้พวกนี้ต้องทำให้มันเจ็บเข้าไปถึงในทรวง