Episode5

1145 Words
(อะไรนะ! ต้องบินด่วนเลยเหรอลูก) "ค่ะแม่ ทางเอเจนซีโทร.มาแจ้งเมื่อเช้านี้เองค่ะ มะรืนนี้หนูต้องเข้าไปปฐมนิเทศ ได้วีซ่าเมื่อไหร่ก็ต้องบินทันทีเลยค่ะ" มินธิราบอกกับมารดา หลังจากที่ทราบข่าวจากทางเอเจนซีเมื่อเช้านี้ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เธอกำลังจะเดินทางไปยื่นหนังสือลาออกกับทางโรงพยาบาล (จ้ะ ในเมื่อตัดสินใจจะไปแล้ว เดินทางตอนไหนก็เหมือนกัน จะบินวันไหนก็ค่อยบอกอีกทีละกัน แม่กับน้องจะได้ไปส่งที่สนามบิน) "ค่ะแม่" หลังจากนั้นสองสัปดาห์ มินธิราก็ออกเดินทางบินลัดฟ้าไปยังสวีเดน หญิงสาวตื่นเต้นไม่น้อยเพราะจะได้กลับไปเยือนดินแดนในฝันอีกครั้ง จึงทำให้เธอไม่อาจข่มตาหลับลงได้ตลอดระยะเวลาเดินทางประมาณสิบชั่วโมงกว่าๆ สนามบิน โกเธนเบิร์ก แลนด์เวทเตอร์ สวีเดน... มินธิราในชุดกางเกงสแลกขายาวสีดำ เสื้อตัวในสีขาวคลุมทับด้วยเสื้อสูทเนื้อดีสีดำเช่นเดียวกับกางเกง และรองเท้าผ้าใบสีขาว เข็นกระเป๋าออกมาจากประตูผู้โดยสารขาเข้าพลางสอดส่ายสายตาหาผู้ที่มารอรับ ตอนแรกหญิงสาวตั้งใจจะลงเครื่องที่สตอกโฮล์ม เพื่อจะได้แวะหาเจนแวบรา แล้วจึงจะต่อเครื่องมาลงที่โกเธนเบิร์ก แต่ทุกอย่างกลับกะทันหันและฉุกละหุกไปหมด จึงไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจเอาไว้ ช่วงนี้ยังเป็นเวลาเช้าอยู่คนจึงเยอะพอสมควร มินธิราใช้เวลามองหาคนที่มารอรับอยู่นาน จนในที่สุดก็เห็นป้ายชื่อตัวเองเป็นภาษาอังกฤษขนาดใหญ่ จึงรีบเดินเข้าไปหาคนที่กำลังชูป้ายอยู่ พลางนึกในใจว่าเขาใช่นายจ้างของตนหรือไม่ ชายหนุ่มผู้มีผมสีน้ำตาลอ่อน นัยน์ตาสีเขียวอ่อน อายุน่าจะราวๆ สามสิบต้นๆ ทำหน้าตาประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อมีหญิงสาวเข้ามาทักทาย "สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมินธิราค่ะ" เธอบอกพร้อมกับชี้ที่ป้ายชื่อที่ชายหนุ่มกำลังถืออยู่ "เอ่อ...สวัสดี ผมเซนครับ" เซนทักทายและแนะนำตัวอย่างงงๆ เพราะว่าก่อนหน้านี้เขาจะเห็นรูปถ่ายของเธอมาก่อน แต่ไม่นึกว่าตัวจริงจะสวยและดูเด็กกว่าในรูปขนาดนี้ "เอ่อ...คุณคะ คุณ!" มินธิราเห็นอีกฝ่ายเอาแต่ยืนนิ่งตาไม่กะพริบดั่งคนต้องมนต์ จึงเรียกพลางโบกมือตรงหน้าเขา "อ้อ! ขอโทษครับ พอดีคิดอะไรได้ขึ้นมาในหัวแวบหนึ่งน่ะครับ" "อ๋อค่ะ ว่าแต่คุณเป็น..." "ผมเป็นเพื่อนของโฮสต์คุณครับ พอดีเขามีประชุมด่วนที่ต่างเมือง อีกหลายวันกว่าจะกลับ เลยวานมาให้ผมมารับคุณแทน หวังว่าคงไม่เป็นการเสียมรรยาทเกินไปนะครับ" "ไม่ค่ะๆ ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นหรอกค่ะ" "โล่งอกไปทีครับ ผมว่าเราไปที่รถกันดีกว่า แล้วค่อยคุยกันระหว่างทาง" "ค่ะ" เซนเก็บป้ายแล้วช่วยลากกระเป๋าให้หญิงสาว เขาเดินนำหน้าเธอไปหารถที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถ "ผมเห็นประวัติของคุณ เป็นถึงจิตแพทย์แล้วทำไมถึงเปลี่ยนอยากมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กละครับ" "..." "เอ่อ...สงสัยผมจะเสียมรรยาทเกินไป ต้องขอโทษด้วย ถ้าไม่สะดวกก็ไม่ต้องตอบก็ได้ครับ" เมื่อถามออกไปแล้วเห็นหญิงสาวนิ่งเงียบ เซนจึงรีบขอโทษทันที "ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ใช่เรื่องไม่สะดวกอะไรหรอกค่ะ ฉันแค่ตื่นเต้นนิดหน่อยที่ได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง ส่วนเรื่องที่คุณถาม ก็รู้สึกเบื่อๆ โรงพยาบาลน่ะค่ะ เลยอยากมาหาประสบการณ์ใหม่ๆ บ้าง อีกอย่างก็มีเพื่อนสนิทที่ทำงานอยู่สตอกโฮล์มเหมือนกันน่ะค่ะ แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้แวะหาเธอก่อน" "อ๋อ อย่างนี้นี่เอง ผมเองก็เบื่อกับงานที่บริษัทเหมือนกันครับแต่ลาออกไม่ได้ ยื่นใบลาออกทีไรไม่เคยอนุมัติสักครั้ง" "ทำไมถึงอยากลาออกละคะ" มินธิราถามด้วยความรู้สึกที่ผ่อนคลายมากขึ้น หลังจากที่ได้คุยกับเซนมาสักระยะ "เบื่อหน้าเจ้านายน่ะครับ จู้จี้ขี้บ่นเกินไป" "คงไม่ต่างจากหัวหน้าแผนกของฉันหรอกค่ะ แต่ว่าแล้วก็อยากเห็นหน้าเจ้านายของคุณจังเลยค่ะ" "อ๋อ! เดี๋ยวก็ได้เห็นครับ" เซนว่าพลางยิ้มมุมปาก "เดี๋ยวก็ได้เห็น หมายความว่ายังไงเหรอคะ" เธอถามพร้อมกับเลิกคิ้วสูง "ก็เขาเป็นคนคนเดียวกันกับโฮสต์ของคุณยังไงล่ะครับ" "หา!" มินธิราตกใจจนเผลอร้องเสียงดัง "ไม่ต้องตกใจขนาดนั้นหรอกครับ เขาไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอก แค่เป็นคนค่อนข้างเจ้าระเบียบและเคร่งขรึมนิดหน่อย" "อ้อ...ว่าแต่ภรรยาของเขาละคะ" สีหน้าของเซนเปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้ยินคำถาม "ภรรยาของเขาเสียไปนานแล้วครับ ตอนนี้อยู่กับลูกสาวแค่สองคน อ้อ! ก่อนหน้านี้มีแม่บ้านด้วยคนหนึ่ง แต่ประสบอุบัติเหตุล้มหัวกระแทกพื้น ตอนนี้ยังรักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่ พวกเราก็เลยต้องการให้คุณเดินทางมาด่วนยังไงล่ะครับ" "อย่างนี้นี่เอง" รถแล่นห่างออกมาจากตัวเมืองที่คึกคักประมาณสิบหนึ่งชั่วโมง ก็ชะลอความเร็วลงเมื่อถึงหน้าบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง เซนเลี้ยวรถผ่านประตูเข้าไป แล้วขับช้าๆ ผ่านสวนหย่อมก่อนจะถึงตัวบ้าน ซึ่งสองข้างทางเต็มไปด้วยไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิด ตัวบ้านดูใหญ่โตโอ่อ่าทาด้วยสีขาวทั้งหมด ล้อมรอบด้วยสนามหญ้าสีเขียว และดอกไม้หลากหลายสีสัน ช่างดูสวยงามราวกับอยู่ในเทพนิยาย เซนช่วยหญิงสาวยกกระเป๋าลงจากรถแล้วลากเข้าไปด้านใน โดยมีมินธิราเดินตามหลังไม่ห่าง พอเข้ามาด้านในแล้วก็ยิ่งดูอลังการกว่าด้านนอกหลายเท่านัก เซนพาเธอเดินชมรอบบ้าน ตั้งแต่ห้องรับแขกที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น มีประตูสามารถเปิดออกไปยังสวนดอกไม้ได้ ห้องอาหารที่มีโต๊ะอาหารตัวยาวตั้งเด่นเป็นสง่า และห้องครัวขนาดใหญ่อีกด้วย "บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ อยู่กันแค่สองสามคนคงเงียบเหงาน่าดูนะคะ" มินธิราถามพลางมองไปรอบๆ "ครับ บาสเตียนเขาค่อนข้างบ้างาน อลิซเลยต้องใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับแม่บ้าน ตอนนี้ยิ่งแล้วใหญ่ต้องอยู่กันสองคนพ่อลูก ก็ยิ่งเงียบขึ้นไปอีก" "แล้วคุณไม่ได้อยู่ที่นี่เหรอคะ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD