" ใครกันแน่ที่ ชอบหลอกเด็ก หึหึ "ทิกเกอร์เอ่ยขึ้นพร้อมกับส่ายหัวไปมาอย่างขบขัน
"สรุปคือเรื่องของพี่กับน้องก็ถือว่าเป็นแค่วันไนท์ พี่ก็ซิง น้องก็ซิงเจ๊าๆกันไปเนอะ คนเราทุกคนมันก็ต้องมีครั้งแรกกันทั้งนั้นแหละน้องทิกเกอร์อย่าคิดมากเลยนะ"
ฉันเอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มออกไปแบบแห้งๆแต่ก็เจอสายตาดุไม่พอใจของผู้ชายตรงหน้าส่งกลับมา
"ต้องให้จับกระแทกอีกสักกี่น้ำ ถึงจะเลิกพูดแบบนี้ "
" " ฉันถึงกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อเจอน้ำเสียงเข้มแฝงไปด้วยอารมณ์โกรธเล็กน้อย
"อย่าคิดว่าจะหนีผมไปไหนได้นะใบข้าวและ ผมไม่ได้อยากเป็นพี่น้อง แต่อยากเป็นผัวเข้าใจนะ "
" แต่ "
" รีบกินข้าวซะจะได้กินยาพักผ่อน แต่ถ้าไม่อยากนอนผมก็พร้อมจะเอาข้าวได้ทั้งคืน"
" " ฉันที่มองสายตาของทิกเกอร์ที่สื่อออกมาว่าเขาพูดจริง ก่อนจะหายใจฟึดฟัดไม่พอใจเขาแต่ก็ยอมตักข้าวเข้าปากด้วยความหิวนะ ไม่ได้กลัวสายตาคมดุๆของทิกเกอร์เลยสักนิดเดียว
เฮ้อ เวรกรรมอะไรของฉันว่ะ อยากลองมีเซ็กซ์สักครั้งพอเสร็จสมอารมณ์หมายแทนทีผู้ชายน้ำแตกจะแยกย้ายทางใครทางมันแต่นี้กับตามตื้อฉันราวกับฉันทำผิดที่ไปข่มขืนเขา
หลังจากที่กินข้าวเสร็จทิกเกอร์ก็อุ้มฉันเข้าไปในห้องนอนก่อนจะค่อยๆวางฉันลงบนเตียงอย่างแผ่วเบาพร้อมกับหยิบยาส่งมาให้
"ยาลดไข้ ยาแก้อักเสบ ยังเจ็บตรงนั้นอยู่ไหมจะได้ทายาให้"
" อือ ยังเจ็บอยู่นิดนึง "
" ไหนขอดูหน่อย " ทิกเกอร์เอ่ยขึ้นพร้อมกับจะดึงกางเกงขาสั้นของใบข้าวออกเพื่อเช็คดูว่าตรงนั้นยังบวมแดงอยู่หรือเปล่าเพราะเมื่อคืนเขาเรียกร้องจับกระแทกไม่ยั้งคงไม่ช้ำหรอกนะ
" ว๊ายยย นายจะบ้าเหรอ ฉันก็อายเป็นนะ"
" อายทำไม ผมเห็นหมดแล้ว "
" งืออ ไม่ต้องเลย นายกลับไปเถอะฉันจะนอนแล้ว"
" ผมจะนอนที่นี่"
"'ห๊ะ "
" เมียนอนไหน ผัวก็นั่น"
" ทิกเกอร์ นายไม่มีแฟนเหรอ "
" ไม่มีแฟน มีแต่เมีย"'
"แล้วเมียนายไม่ว่าหรือไง มายุ่งวุ่นวายกับฉันแบบนี้อ่ะ "
" แล้วข้าวจะว่าตัวเองหรือเปล่าล่ะ"
"ว่าอะไร"
" ที่ผมวุ่นวาย "
" " ที่เขาบอกว่ามีเมียคือหมายถึงฉันใช่ไหม ฉันถึงกับถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะสบตามองหนุ่มหล่ออย่างจริงจัง ฉันยอมรับเลยว่าทิกเกอร์หล่อมาก ฉันไม่เคยเจอใครที่หล่อได้ขนาดนี้มาก่อน เขาทำให้ฉันหัวใจสั่นไหว ตื่นเต้น หงุดหงิดและเขินขึ้นมาแทบจะตลอดเวลา
ทั้งที่ตอนนี้ฉันควรจะต้องร้องไห้เสียใจกับการที่ถูกคนรักหักหลัง เพื่อนทรยศแต่ความรู้สึกนั้นมันหายไป ไม่หลงเหลือแม้แต่ความเสียใจหรือนึกคิดถึงพี่ปุณเลยแม้แต่สักนิด
ฉันกวาดสายตาสำรวจเขาอย่างนิ่งเงียบราวกับฉันตกอยู่ในภวังค์เมื่อได้สบตามองดวงตาคมที่แสนเย็นชาคู่นี้
กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีก็สัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆพร้อมกับริมฝีปากหนาที่จูบฉันอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยน มันหวานละมุนจนหัวใจฉันเต้นแรงอย่างผิดจังหวะ ฉันหลับตาซึมซับจูบที่แสนหวานและโหยหาของทิกเกอร์อย่างเคลิ้มตาม ก่อนจะยกแขนเล็กรั้งคอหนาลงมาพร้อมบดเบียดตัวเองแนบชิดทิกเกอร์โดยที่บดขยี้จูบใส่เขาอย่างร้อนแรง
ทิกเกอร์ถึงกับครางในลำคอเบาๆ อย่างพึงพอใจ เขาสอดแทรกลิ้นหนา เกี่ยวตวัดลิ้นเล็กดูดดึงอย่างหยอกเหย้า มือหนาเลื่อนลูบไล้แผ่นหลังเนียนเบาๆ ตามอารมณ์ที่ก่อตัวขึ้น
ก่อนทิกเกอร์จะจับยกร่างเล็ก ขึ้นมานั่งคร่อมตักเขา พร้อมเคลื่อนมือล้วงเข้าไปในเสื้อ กอบกุมเต้าสวย ที่ใหญ่เต็มมือบีบขย้ำอย่างช้าๆ ปลายนิ้วเขี่ยสะกิด ยอดอกชูชันที่แข็งไปมาอย่างหยอกล้อ จนใบข้าวร้องครางราวกับเสียวซ่านไปทั่วร่าง
ฉันตกอยู่ในวังวนของทิกเกอร์ หนุ่มโคตรหล่อตรงหน้าอย่างแรง ก่อนจะรู้สึกตัวเมื่อถูกถอดถอนจากริมฝีปากหนา สบตามองกันอย่างร้อนแรง ราวกับฉันถูกมนต์สะกด จากชายหนุ่มตรงหน้าอย่างหักห้ามใจไม่ไหว
" ค่อยเอากันวันหลังนะ ตอนนี้ข้าวป่วยอยู่ เดี๋ยวไข้กลับ "
ทิกเกอร์ยกมือประคองใบหน้าหวาน พร้อมกับใช้นิ้วเกลี่ยที่แก้มเบาๆสายตาเว้าวอนของใบข้าวทำให้เขาต้องหักห้ามใจ เพราะใบข้าวของเขายังตัวรุ่มๆอยู่
ฉันไม่พูดอะไรแต่โน้มตัวจูบลงบนริมฝีปากหนาอย่างร้อนแรงอีกครั้งราวกับใช้ภาษากายเป็นคำตอบของทิกเกอร์ ฉันรู้สึกชอบจูบของเขา สัมผัสที่แสนอบอุ่น รวมทั้งเสียง กลิ่นกายของทิกเกอร์ อยากหักห้ามใจตัวเองไม่ได้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่ฉันในตอนนี้ไม่สามารถละสายตาไปจากดวงตาคมคู่นี้ได้เลย ก่อนที่เราทั้งสองจะผละออกสบตามองกันอีกครั้ง
" ยังไงข้าว ต้องรับผิดชอบทิกเกอร์ ใช่ไหม "
"ครับ "
"ขอเวลาให้ข้าว ทำใจก่อนได้ไหม ทิกเกอร์ "
" " ทิกเกอร์นิ่งเงียบมองไปยังใบข้าว ด้วยสายตาไม่แสดงความรู้สึกอะไร แต่กับตื่นเต้นกับคำแทนตัวของใบข้าว มันดูน่ารักออดอ้อนเขาในคราวเดียว ใบข้าวอาจจะคิดว่าความสัมพันธ์ของเขาและเธอมันรวดเร็ว แต่สำหรับเขามันคือช้ามากและช้าเกินไปด้วยซ้ำกับ เวลาห้าหกปี ที่เขาต้องแยกออกจากเธอ
" คือ ข้าวหมายถึง ข้าวเพิ่งเลิกกับแฟน เมื่อวานนี้เอง แล้วปุ๊บปั๊บจะมีคนใหม่เลย มันก็รู้สึกทำใจลำบากและมันดูแปลกๆน่ะ "
" นานเท่าไร "
" หมายถึง??"
"ขอเวลาทำใจนานเท่าไร"
" หนึ่งปี " ฉันรีบเอ่ยตอบทันที พร้อมกับส่งยิ้มหวานให้ พลางคิดในใจ สงสัยทิกเกอร์ชอบคนพูดเพราะและออดอ้อนสินะ ชิคอยดูฉันจะอ้อนเขาแบบนี้ดูสิว่าจะทำยังไง
" หนึ่งอาทิตย์ "
" ห๊ะ "
" ให้เวลาหนึ่งอาทิตย์ " ทิกเกอร์เอ่ยขึ้นพร้อมกับมองใบข้าวอย่างคนรู้ทัน
"ฉะ เอ่อ ข้าวขอเป็นช่วงเปิดเทอมได้ไหม อีกแค่สองอาทิตย์เอง นะ นะ ทิกเกอร์ นะค่าา เกอร์ " ฉันยกแขนกอดเอวทิกเกอร์พร้อมกับใช้หน้าถูไถบนไหล่หนาอย่างออดอ้อน
" อืมได้ แต่ระหว่างนั้นต้องรับสาย ตอบแชท และให้ผมมาหาในฐานะคนตามจีบข้าว พอเปิดเทอม ข้าวต้องเป็นของผม ไม่มีข้อต่อรอง "
ทิกเกอร์เอ่ยขึ้นอย่างอ้อมแอ้มพลางใจเต้นแรงขึ้นมา เมื่อถูกใบข้าวแสดง ท่าทางออดอ้อนยังกับแมวน้อยแบบนี้
" โอเคคะ "
" หึหึ กินยาและนอนพักเถอะ "
ทิกเกอร์หัวเราะขึ้นมาเบาๆ เมื่อเห็นใบหน้างอๆของใบข้าว หึ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเธอคิดจะทำอะไรแต่ก็เลือกที่จะยอมตามน้ำ แมวน้อยของเขาไป
ฉันพยักหน้ารับ พร้อมขยับตัวทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นและหันไปหยิบยามากิน ก่อนจะล้มตัวนอน โดยที่ทิกเกอร์จับผ้าห่มมาห่มให้ฉันอย่างอ่อนโยน พร้อมสบตามองฉันนิ่งก่อนจะเอ่ยขึ้น
" สิ่งที่ใบข้าวต้องให้ขึ้นใจไว้ให้ดี ว่าผมเป็นคนขี้หึงและขี้หวงมาก โดยเฉพาะใบข้าวที่เป็นผู้หญิงของผม ข้าวอย่าทำอะไรให้ผมต้องรู้สึกโมโหหรือไม่พอใจ และนี่ถือว่าคำเตือนของผม เข้าใจไหม "
" ชิ แค่นี้ ก็ต้องขู่กันด้วยเหรอ "
" ไม่ได้ขู่ แต่พูดจริง "
" ชอบข้าวมาก ขนาดนั้นเลย "
" อืม ชอบมาก"
" " ฉันถึงกับนิ่งอึ้งจับผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าด้วยความเขินอายกับสายตาที่จ้องฉันอย่างสื่อความหมายและเหมือนจะกลืนกินฉันเข้าไป
"เขิน???"
" ใครเขิน"
" ก็เห็นหน้าแดง "
" มันร้อนต่างหาก"
" หึหึ ร้อนก็ร้อน จุ๊บ พักผ่อนนะ มีอะไรก็เรียกผมนั่งอยู่ข้างนอก "
ทิกเกอร์กดจูบที่ริมฝีปากบางหนักๆหนึ่งทีก่อนจะส่งยิ้มบางๆให้กับความน่ารักของใบข้าวและเขาก็ขยับตัวลุกขึ้นและเดินออกห้องนอนทันที
ฉันได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆอย่างชอบใจและเสียงปิดประตูดังขึ้น เฮ้ออ เขาคงออกไปแล้ว ฉันยกมือแตะที่ริมฝีปากของตัวเองเบาๆนี่ฉันเป็นบ้าอะไรของฉันเนี่ย ทำไมถึงใจง่ายปล่อยตัวให้เขาแบบนี้นะ สงสัยมันคงเป็นความหล่อดาเมจแรงของเขาใช่ไหม ถึงเผลอใจอย่างนี้
งืออ ฉันจะใจอ่อนแบบนี้ไม่ได้นะ ฉันเพิ่งรู้จักเขาเอง แต่ว่าดวงตาคมคู่นั้น ทำให้ฉันถึงรู้สึกคล้ายคลึงกับเด็กผู้ชายในความทรงจำของฉันเมื่อหลายปีก่อน เด็กผู้ชายตัวอ้วนกลมที่โดนคนนิสัยไม่ดีไล่จับในตอนนั้น ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ สงสัยเจ้าอ้วนคงลืมฉันไปแล้วสินะ
.
.
.