ทายาทสุดท้ายแห่งสกุลมู่หยาง

1677 Words
“ขอรับ แต่ท่านพ่อไม่เคยสอนให้ข้าใช้อาวุธแบบที่ท่านพี่มี เพราะท่านแม่ไม่อยากให้ข้าต่อยตีกับผู้ใด ท่านแม่อยากให้ข้าเรียนหนังสือให้มาก ข้าจึงอ่านเขียนได้ขอรับ พรุ่งนี้ เมื่อท่านพี่ไปรบ จะส่งข่าวมาให้ข้าได้หรือไม่” “ได้สิ พี่จะเขียนอักษรให้เจ้า” มู่หยางหย่งเล่อ จรดปลายพู่กันเขียนข้อความประโยคหนึ่งไว้ให้กับน้องชายของเขา ‘จินเอ๋อร์ จงตั้งใจศึกษาเล่าเรียน รอพี่ชายเจ้าคว้าชัยกลับมา’ “ข้าจะรอท่านพี่ขอรับ ข้าจะเก็บตัวตามที่ท่านแม่บอก รอท่านพี่กลับมารับข้า” “เจ้าจำอักษรพี่ได้หรือไม่” “จำได้ขอรับ” “ดี พี่จะส่งข่าวหาเจ้าบ่อยๆ” “ข้าจะอยู่กับท่านเยี่ยนชาง ท่านพี่ไม่ต้องห่วง” “เยี่ยนชาง ข้าขอฝากจินเอ๋อร์ไว้กับเจ้า อย่าให้ผู้ใดรู้ว่าจินเอ๋อร์อยู่กับเจ้า จนกว่าเราจะยึดค่ายได้ เมื่อนั้นเจ้าจงรีบพาจินเอ๋อร์มาหาข้า ต่อไปนี้อย่าเรียกชื่อเขา ให้ทุกคนเรียกเขาว่านายน้อย” “พระองค์จะเลี้ยงเด็กในค่ายทหารอย่างนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ” “ใช่ เอาตำราพิชัยสงครามให้เขาอ่าน ตำรายุทธ์ทั้งหมดของเจ้าด้วย” “กระหม่อมดูแล้วนายน้อยอายุไม่น่าจะถึงสิบขวบนะพ่ะย่ะค่ะ” “อีกไม่กี่เดือนข้าก็อายุสิบเอ็ดปีแล้ว ข้าไม่ใช้เด็กแล้วท่านพี่” “ใช่ จินเอ๋อร์ของพี่โตแล้ว เยี่ยนชาง เจ้าไปพักผ่อนเถอะ” “กระหม่อมขอทูลลา” “จินเอ๋อร์ จงตั้งใจเรียน อย่าทำให้พี่ของเจ้าต้องมีห่วง เจ้าทำได้หรือไม่” มู่หยางหย่งเล่อเดินมาส่งน้องชายขึ้นรถม้า ในใจนั้นกังวลเป็นห่วงน้องชายอย่างยิ่ง “ข้าจะรอข่าวจากท่านพี่” หยวนจินกอดลาพี่ชาย แล้วรีบขึ้นรถม้าไป มู่หยางหย่งเล่อมองขบวนรถม้าจนสุดสายตา “นายท่าน ถึงเวลาต้องออกเดินทางแล้วขอรับ” มู่หยางหย่งเล่อพยักหน้าให้ซ่งชีฟง เขาขึ้นหลังม้าและหันหลังเดินทางในทิศตรงกันข้ามของน้องชาย ในใจก็หวนคิดถึงน้องชาย มีเพียงการปราบปรามกบฏและชัยชนะเท่านั้น น้องชายกับเขาจึงจะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข มู่หยางหย่งเล่อเดินทางถึงค่ายทหารของเขา เหล่าทหารทำความเคารพเขาอย่างพร้อมเพรียง หลังจากวางแผนการรบได้อย่างรัดกุมแล้ว เช้าวันรุ่งขึ้นเขาก็เดินทางเข้ายึดค่ายทหารรักษาชายแดนต้าหยาง กลุ่มของเขาต่อสู้กับหลู่โหย่วอี้ที่เป็นแม่ทัพกบฏถึงเจ็ดวันเต็ม เขาจึงสามารถเข้ายึดค่ายทหารได้ หลู่โหย่วอี้ถูกจับคุมขังอยู่ในคุกทหาร ทหารใต้บังคับบัญชาของหลู่โหย่วอี้สวามิภักดิ์ต่อมู่หยางหย่งเล่ออย่างง่ายดาย เพราะใจจริงพวกเขาก็ไม่ได้คิดเป็นกบฏต่อแผ่นดินแคว้นหนิงตั้งแต่ต้น และทหารแคว้นอู่ถูกฆ่าล้างไม่เหลือแม้แต่คนเดียว “เรียนท่านแม่ทัพ คนของเราที่ส่งไปสืบข่าวที่เมืองหลวง กลับมาแล้วขอรับ” เจิ้งเหว่ยอีคุกเข่าลงต่อหน้ามู่หยางหย่งเล่อ ที่กำลังหารือเรื่องการวางแผนเข้าเมืองหลวงช่วยเหลือฮ่องเต้และเหล่าข้าราชบริพารที่ถูกหลู่หนานอ๋องจับตัวไว้ รองแม่ทัพเจิ้งก้มหน้าลงมองพื้นไม่กล้าสบตาของนายเหนือหัว “ข่าว ไม่ดีอย่างนั้นหรือ” มู่หยางหย่งเล่อมองรองแม่ทัพเจิ้งเหว่ยอี อย่างประเมินสถานการณ์ เขารู้ว่าข่าวที่รองแม่ทัพเจิ้งได้มาคงไม่ใช่ข่าวดีอย่างแน่นอน “ฮ่องเต้! ฮ่องเต้ทรงสิ้นพระชนม์แล้วพ่ะย่ะค่ะ ตั้งแต่ที่หลู่หนานอ๋องเข้ายึดหวังหลวง ไอ้โจรกบฏผู้นั้นก็สังหารฮ่องเต้ ฮองเฮาและเหล่าเชื้อพระวงศ์จนหมดสิ้นพ่ะย่ะค่ะ” มู่หยางหย่งเล่อกำมือแน่นตัวสั่นเทาด้วยความโกรธ “เสด็จพี่รัชทายาท มีข่าวของพระองค์หรือยัง พระองค์กำลังเดินทางไปซานเป่ย ตอนนี้คงถึงแล้วใช่หรือไม่ ส่งคนไปสืบข่าวให้ข้าเดี๋ยวนี้” มู่หยางหย่งเล่อพูดเสียงดัง จิตใจพะวงคิดถึงพี่ชายที่ติดต่อไม่ได้นานนับเดือน “รัชทายาท เดินทางไปไม่ถึงซานเป่ยพ่ะย่ะค่ะ พระองค์ถูกลอบสังหารระหว่างที่กำลังจะถึงชายแดนซานเป่ยพ่ะย่ะค่ะ” “เสด็จพ่อ ลูกอกตัญญูนัก ไม่ได้อยู่ปกป้องพระองค์ แม้วาระสุดท้ายของพระองค์ลูกก็มิได้อยู่ปรนนิบัติ ลูกช่างอกตัญญูนัก หลู่จื่อเทา! ข้ากับมันไม่อาจอยู่ร่วมโลกกันได้อีกต่อไป หนี้เลือดนี้มันจะต้องชดใช้ด้วยชีวิต นำตัวหลู่โหย่วอี้ไปลานประหาร” มู่หยางหย่งเล่อในชุดเกราะนักรบหยิบดาบประจำกายแล้วเดินออกจากกระโจมทันที เขาเดินมารอทุกคนที่ลานประหารในมือถือดาบอย่างมั่นคง ในใจก็คิดถึงเหตุการณ์สมัยที่ตัวเขายังเด็ก ห้าขวบต้องสูญเสียมารดาผู้เป็นที่รักไป ไม่กี่ปีต่อมาท่านอาหญิงก็ถูกเนรเทศจากเมืองหลวงและมาเสียชีวิตไปต่อหน้าต่อตาเขา เขาคิดว่าเขายังเหลือเสด็จพี่รัชทายาทและเสด็จพ่อที่ดีกับเขา แต่บัดนี้คนที่เขารักทุกคนได้จากเขาไปหมดแล้ว มู่หยางหย่งเล่อมองดูหลู่โหย่วอี้ที่ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลไฟไหม้ด้วยสายตาเย็นชา ทหารจับนักโทษหลู่โหย่วอี้ให้คุกเข่าลงต่อหน้าท่านแม่ทัพของพวกเขา หลู่โหย่วอี้มองมู่หยางหย่งเล่อพร้อมกับตัวสั่นเทาอย่างหวาดกลัว “เจ้ากลัวอย่างนั้นหรือ หลู่! โหย่ว! อี้!” มู่หยางหย่งเล่อชี้ปลายดาบไปที่คอของหลู่โหย่วอี้อย่างข่มขวัญ “ทะ ท่าน ต้องนำตัวข้า กะ กลับไปตัดสินความที่เมืองหลวง ท่านจะฆ่าข้าตอนนี้ไม่ได้” หลู่โหย่วอี้ลนลานพูดอย่างกลัวตาย เขาไม่กล้ามองสบตาของมู่หยางหย่งเล่อแม้แต่น้อย “กลับเมืองหลวงอย่างนั้นหรือ จะกลับไปทำไมเล่า เจ้าชอบต้าหยางแห่งนี้มิใช่หรือ” มู่หยางหย่งเล่อกดดาบลงบนลำคอของหลู่โหย่วอี้ ค่อยๆบาดลงเนื้อของเขาทีละเล็กทีละน้อยจนเริ่มมีเลือดไหลออกมา “อ้าก! ท่านกำลังทำผิดวินัยทหาร ทรมานนักโทษอย่างข้า” หลู่โหย่วอี้แผดเสียงร้องออกมาเมื่อดาบค่อยๆบาดลึกเข้าผิวกายของเขาอย่างเจ็บปวด “เจ็บอย่างนั้นหรือ ปวดอย่างนั้นหรือ เจ้ารู้สึกทุกข์ด้วยหรือ แต่คงไม่เท่าความเจ็บปวดของเหล่าราษฎรกระมัง พวกเขาสูญเสียบ้าน สูญเสียคนที่รัก เพราะความโลภของพวกเจ้า” “สงครามก็เป็นเช่นนี้ จะมาโทษพวกข้าได้อย่างไร” “ถ้าพวกเจ้าไม่โลภในสิ่งที่ไม่ใช่ของเจ้า สงครามนี้จะเกิดขึ้นมาได้อย่างไร” “ถ้าจะโทษก็ไปโทษคนแคว้นอู่นั้น โทษพ่อเจ้าด้วยที่ไม่ยอมยกต้าหยางให้พวกนั้น” “พูดกับคนขลาดอย่างเจ้าช่างเปลืองน้ำลาย ตนเองยอมตกเป็นเบี้ยให้ศัตรูใช้เดิน แม้กระทั่งดินแดนของบรรพบุรุษก็คิดจะยกให้คนอื่นปกครองง่ายๆ ข้าไม่แปลกใจเลย ทำไมคนโง่อย่างเจ้าถึงโดนจับได้ง่ายดายนัก” “จะพูดว่าจับข้าได้อย่างง่ายได้อย่างไรกัน ในเมื่อเจ้าใช้เวลาล้อมจับข้าถึงเจ็ดวันเจ็ดคืน ใช้เวลามากเพียงนี้ ยังมาดูถูกข้า เป็นเจ้าเองที่ไม่เก่งกล้า” “เจ้าคิดอย่างนั้นหรือ แล้วมันผู้ใดที่หลบอยู่ในวงล้อมของคนแคว้นอู่ ปากก็ร้องบอกให้พวกมันปกป้อง แล้วมันผู้ใดที่ไปแอบหลบในหีบผ้าใบใหญ่อย่างคนขลาด มิใช่เจ้าหรอกหรือที่วิ่งหนีหัวซุกหัวซุนออกมาเพราะหีบที่ใช้หลบซ่อนโดนจุดไฟเผา” “มู่หยางหย่งเล่อ! เจ้าช่างปากดียิ่งนัก ถ้าเจ้าฆ่าข้า ท่านพ่อข้า จะต้องฆ่าเจ้าแน่นอน” “พ่อเจ้าอย่างนั้นหรือ เจ้าคิดว่าข้า มู่หยางหย่งเล่อ จะกลัวโจรกบฏอย่างหลู่จื่อเทาอย่างนั้นหรือ ไอ้คนเนรคุณที่ฆ่าได้แม้กระทั่งพี่สาวแท้ๆ ของตัวเอง” “ท่านพ่อข้าจะต้องฆ่าเจ้าแน่ เจ้าต้องตายแน่” “ข้าไม่เคยกลัวตาย และข้าจะตามฆ่าพ่อเจ้าไปทุกหนทุกแห่ง เจ้ารอไม่นานหรอก ข้าจะส่งพ่อเจ้าไปอยู่เป็นเพื่อน” พูดจบมู่หยางหย่งเล่อก็ง้างดาบสุดแขนแล้วฟันลงบนคอของหลู่โหย่วอี้ทันที หัวของหลู่โหย่วอี้หลุดกระเด็นหมุนกลิ้งลงไปนอนแทบเท้าของหยวนจินที่เดินทางมาถึงและมองดูพี่ชายสำเร็จโทษนักโทษอยู่นานแล้ว เขามองใบหน้าเปื้อนเลือดของหลู่โหย่วอี้ด้วยสายตาเย็นชา แล้วมองกลับไปยังพี่ชายที่ยืนถือดาบมองมายังเขาด้วยท่าทางสง่างาม หยวนจินก้าวข้ามหัวของโจรกบฏหลู่โหย่วอี้เดินอย่างมุ่งมั่นมาหาพี่ชายที่ยืนคอยอยู่ “มาแล้วหรือจินเอ๋อร์” มู่หยางหย่งเล่อจับบ่าของน้องชาย ทั้งสองส่งยิ้มให้กัน รอยยิ้มที่หายไปกลับคืนมาเมื่อเขาได้ล้างแค้นให้คนตระกูลหยวนและชาวบ้านผู้บริสุทธิ์สมดังตั้งใจแล้ว “ข้า มู่หยางหย่งเล่อ วันนี้ได้สังหารโจรกบฏหลู่โหย่วอี้เพื่อเซ่นสังเวยต่อดวงวิญญาณของผู้บริสุทธิ์ได้สำเร็จแล้ว บัดนี้ฮ่องเต้และเหล่าราชนิกุลสกุลมู่หยางแห่งแคว้นหนิงได้ถูกโจรกบฏหลู่หนานอ๋องสังหารสิ้น เหลือเพียงข้า มู่หยางหย่งเล่อ ที่เป็นบุตรของฮ่องเต้เพียงผู้เดียว วันนี้ข้าขอรับน้องชายข้า กลับเข้าสู่สกุลมู่หยาง นามของเขาคือ มู่หยางจิน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD