บทที่ 2 ถูกใจ

1827 Words
ดูความร้ายของยัยเด็กแสบที่ทำไว้กับลูกชายสุดที่รักของผม แล้วขับรถหนีไม่ดูดำดูลูกผมสักนิด พ่ออย่างผมทนไม่ได้ยืนมองลูกชายที่ถูกสาวสวยจูบตูดยังไม่พอ ยัยแสบยังแถมรอยโบ๋จากการถูกแทงฝากไว้อีก ลูกชายผมสะบักสะบอมจนผมหน้าผมตึงและหงุดหงิดขั้นสุด ไหนจะยัยลิต้าบ้าบอนั่นอีกเสียงชวนแสบแก้วหู ที่ยอมให้ขึ้นรถมาด้วยเพราะเห็นว่ามีเรื่องอยากเคลียร์กับผม ลิต้าคือยัยคนที่ชวนผมไปกินต่อในห้องน้ำเมื่อตอนเที่ยงนั่นเอง ทีแรกนึกว่าจะเด็ดแต่ดันเป็นของผ่านการใช้งานมาหลายมือทำให้ผมยังไม่สุดเหวี่ยงอย่างที่ตั้งใจในตอนแรก ผมคิดว่าตกลงกันจนเจ้าใจดีกับเธอก่อนกินกัน แต่มันดันไม่จบเมื่อเธอตื้ออยากคุยมากเลยให้นั่งรถมาด้วยและบอกให้ชัดเจนจะได้จบๆ เมื่อพูดกันไม่รู้เรื่องผมจึงจอดข้างทางเพื่อไล่ยัยนั่นลงจากรถเพราะทนรำคาญไม่ไหว เธอดันคว้าคอผมแล้วพยายามบดจูบ จนผมต้องผลักเธอออกแรงๆกำลังจะด่าสวนกลับ ผมดันได้ยินเสียงโครมพร้อมกับยัยแสบมาเคาะกระจก ผมเลยไม่ได้ไล่ยัยลิต้าลงเพราะรู้สึกพอใจกับคนที่ยืนหน้าหน้าตึงพร้อมหาเรื่อง ผมอยากเห็นเรื่องสนุกเธอเป็นคนเดียวกันกับที่ผมเล็งเอาไว้ แต่ใครจะคิดว่าเธอแสบกว่าที่ผมคิดไว้เสียอีก "ไอ้ดีเดย์ลูกชายสุดที่รักมึงไปไหนวะ ทำไมเปลี่ยนเป็นคันนี้ล่ะ มึงนี่เปลี่ยนรถเปลี่ยนผู้หญิงบ่อยเหมือนเปลี่ยนกางเกงในเลยว่ะ" ปากเสียมาคนแรกเลยไอ้ธีร์ธาม ปากหมาแต่เช้าคนยิ่งหงุดหงิดที่ต้องเอาลูกชายไปรักษา เกิดมายังไม่มีสาวสวยคนไหนได้จูบตูด เสียซิงให้รถยัยเด็กแสบนั่นผมต้องเอาคืนแสบๆเหมือนกัน ผมเอารถมาจอดที่คณะเป็นที่จอดประจำของพวกผมสี่คน ไอ้ธีร์ธามมันมาจอดข้างๆก่อนลงจากรถเพื่อนกวนตีน "เสือกแต่เช้าเลยนะมึง ทำอย่างกับมึงไม่เปลี่ยนวันละคันและวันละคน มึงเป็นคนดีตายล่ะ" ผมทำหน้าเหวี่ยงใส่มัน ที่บ้านมันทำธุรกิจนำเข้ารถหรูมันเลยเปลี่ยนรถขับเป็นว่าเล่น พอๆกับเปลี่ยนตุ๊กตาหน้ารถนั่นแหละ แต่ถ้าคันไหนที่มันหวงและรักมากมันจะไม่ยอมให้สาวคนไหนขึ้นไปนั่งบนรถได้เด็ดขาด ผมเห็นเพียงยัยจุ้นคนหนึ่งที่ปากมันบอกว่าเป็นเพื่อนน้องเลยได้นั่ง ถุยตอแหลชัดๆใครๆก็รู้จักนิสัยมันดีถ้าไม่สนใจจริงจังจ้างมันก็ไม่ให้นั่งหน้าคู่กับลูกชายสุดที่รักแน่ๆ "ไงเพื่อนรัก กูได้ข่าวและภาพมาชัดแจ๋วลูกชายโดนสาวสวยจูบตูดลูกรักมา แต่มึงกับไม่เอาเรื่องแถมไม่ด่าไม่ฟาดกลับหรือทำโหดใส่ สำคัญมากเลยไม่กล้าเล่นงานเหรอวะ" ปากเสียคนที่สองแสนรู้ทุกเรื่องก็ไอ้ติวเตอร์ แต่จะว่าไปเพื่อนผมสามคนมันมีคนส่งข่าวและรู้ทุกเรื่องของเพื่อน พวกผมเลยไม่ต้องพูดอะไรมากเพราะรู้ทันกันทุกเรื่อง "แสนรู้นะมึงดมกลิ่นเก่งพันธุ์อะไรวะใช่พันธุ์เดียวที่ตำรวจหรือทหารใช้ดมกลิ่นหรือเปล่า" ผมสวนกลับไอ้ติวเตอร์ที่มันขับรถเข้ามาจอดที่ของมัน พอมันเห็นพวกผมมันรีบเปิดประตูมาเล่นงานผมอีกคน พวกมันชอบรุม "ไอ้เหี้ย เล่นแรงนะมึงระวังมึงจะโดนกัดหรือไม่ก็โดนจับตอน ได้ข่าวว่าแสบไม่เบากูจะไปเป่าหูให้เล่นแม่งหนักๆดีไหม เหมาะกันดีคนหนึ่งก็หมา ส่วนอีกคนก็แสบเหมือนคนถือเชือกจูงหมา" ไอ้ติวเตอร์มันทำหน้ากวนตีน ผมขึงตาดุๆใส่มันไม่คิดจะยอมแพ้ ดีที่ไอ้ไนท์กี้ยังไม่มาไม่งั้นพวกมันคงรวมหัวเล่นงานผมอีกคน วันนี้ผมคิดไว้แล้วว่าจะต้องไปเก็บค่าเสียหายที่ทำกับลูกชายผมไว้ แต่จะไม่เอาเป็นเงิน อยากทำให้เธอเลือดขึ้นดูสิจะทำยังไง "แล้วนี่ไอ้ไนท์กี้มันยังมาไม่ถึงอีกเหรอวะ" ไอ้ธีร์ธามมันเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น "สงสัยเมื่อคืนจะนัวหนักหรือเปล่าวันนี้เลยช้า" พวกมันก็เป็นอย่างนี้ทุกคนจะว่าผมคนเดียวก็ไม่ได้ ตอนนี้ทุกคนต่างโสด แต่ผมคิดว่าอีกไม่นานพวกมันคงสิ้นลายกลายเป็นแมวหรือไม่ก็หมา นินทามันได้ไม่นานมันก็ขับรถมาจอดที่ว่างเป็นคันสุดท้าย "รวมหัวกันแต่เช้าจะไปก่อเรื่องที่ไหนอีกล่ะ วันนี้กูขอบายเพลีย" ปากเป็นอย่างนี้ทุกคนถึงว่าคบกันได้ แต่ผมเป็นคนที่พูดตรงมากคิดยังไงก็พูดออกมาตอนนั้นเลย ไม่สนว่าจะเป็นเพื่อนสนิท ผู้ชาย ผู้หญิงถ้าน่ารำคาญผมด่าไม่ยั้ง แต่กับยัยเด็กแสบนั่นผมไม่เข้าใจว่าทำไมผมต้องผ่อนปรนให้เธอ หรือเพราะความคล้ายกัน ดื้อ รั้น ไม่ยอมแพ้ใคร ทำให้ผมสนใจและติดอยู่ในสมองตอนเธอพร้อมจะบวกไม่กลัวแม้แต่ผมที่หน้าเหวี่ยงพอสมควร "ไปกันเถอะรอไอ้เหี้ยไนท์กี้คนเดียวตอนนี้กำลังจะสายแล้ว" ไอ้ติวเตอร์มันมองดูเวลาที่นาฬิกาแบรนด์หรูราคาแพงริบที่ใสไว้ที่ข้อมือ ธุรกิจที่บ้านมันทำกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ไม่ต้องพูดถึงความรวยว่าระดับไหน ส่วนที่บ้านของผมทำเกี่ยวกับอุตสากรรมการนำเข้าและส่งสินค้าขนาดใหญ่ มีท่าเรือและคลังสินค้าจำนวนมาก ไม่ต้องพูดถึงความรวยของพวกผมทั้งสี่ ฉะนั้นผมไม่จำเป็นต้องเรียกร้องค่าเสียหายจากยัยเด็กแสบเป็นเงินก็ได้ ความคิดอันชาญฉลาดของผมอยากได้อย่างอื่น ผมจะไม่ยอมให้เธอปฏิเสธและจ่ายเป็นเงินผมมีสิ่งที่อยากได้มากว่านั้น "เฮ้ย พวกมึงไปกินข้าวที่คณะบริหารกันเปลี่ยนบรรยากาศ" ผมตั้งใจจะไปทวงค่าเสียหายกับยัยแสบ พวกเพื่อนมันเถียงกันกัดกันอย่างกับหมา ไม่พ้นเรื่องผมที่พวกมันชอบแซวผมกับยัยเด็กแสบ ผมปล่อยให้พวกมันพูดไป ผมเดินนำพวกมันที่โรงอาหารเพราะรู้ว่าพวกมันต้องตามมาเหล่สาวโดยเฉพาะได้ไนท์กี้ที่มันเล็งยัยหมากระเป๋าไว้ แล้วผมกับได้ไนท์กี้ก็เจอเป้าหมาย "ยัยตัวแสบจ่ายค่าเสียหายพี่มาเลยนะ นั่นมันลูกชายสุดที่รัก ลูกสาวสุดสวยของเธอจูบตูดผู้ชายไม่คิดจะรีบผิดชอบหน่อยเหรอ ตูดนั่นพี่ไม่เคยให้ใครแตะเธอเปิดซิงลูกชายพี่เลยนะ" ยัยเด็กแสบถึงกับสะดุ้งเมื่อไปยืนต่อแถวอยู่ข้างหลัง และโน้มตัวเอาปากเข้าไปใกล้กับใบหูจนยัยเด็กแสบแอบขนลุกซู่ขึ้นมา "มาได้ยังไงตกใจหมด แล้วปากเหรอคะที่พูด ใครได้ยินพากันคิดไปถึงไหนแล้ว ปากเหมือนรถดูดส้วมเน่าๆจริงๆเลย" พอตั้งสติได้ยัยแสบก็หันมาพ่นพิษใส่ผม ดูคำพูดยัยเด็กแสบนั่นไม่คิดจะกลัวผมสักนิด ปากร้ายหน้าสวย หน้าเชิดไม่เกินตัว "พี่ก็อยากรู้ว่ารถดูดส้วมเป็นยังไง มาลองดูดปากกับพี่แล้วบรรยายสรรพคุณปากเหมือนรถดูดส้วมให้ฟังหน่อย ไม่แน่คนปากร้ายแถวนี้จะติดใจปากรถดูดส้วมหนุบหนับจนลืมไม่ลง อยากดูดปากไม่รู้จบ" เอาสิครับผมเคยยอมใครที่ไหนอยากรู้ฤทธิ์เดชของเธอเหมือนกันว่าเยอะแค่ไหน จะได้กำราบให้อยู่ในอุ้งมือทีเดียว เป็นหมาพุดเดิ้ลเชื่องๆน่ารักอยู่ในโอวาสเจ้าของ "เมษาไม่คิดจะเอาปากดีไปดูดปากรถดูดส้วมอย่างพี่หรอกค่ะ ถอยเมษาจะเดินไปหาเพื่อน" แม้เธอจะแทนตัวเองด้วยชื่อแต่น้ำเสียงดูห้วนไม่หวานหูเหมือนผู้หญิงคนอื่นที่เข้าหาผม เป็นของหายากและถูกใจอยากเก็บไว้สะสมลับฝีปาก แล้วคิดว่าคนหน้าตึงหน้าเหวี่ยงดื้ออย่างผมจะยอมฟังเธอไหม ผมย่อมไม่อยให้แน่นอน "ถ้าเธอไม่อยากให้พี่เอาเรื่องที่เธอฝากรอยเสียบสวยงามไว้ให้พี่ดูต่างหน้าเธอต้องเลี้ยงข้าวเที่ยงพี่ และเย็นนี้ต้องจัดชุดใหญ่ให้ ไม่งั้นพี่ก็จะไม่หลบให้เธอ" ผมยังต่อรองกับยัยแสบถ้าหลวมตัวไปกินข้าวกับผมเมื่อไหร่เสร็จผมแน่ จะกำราบความดื้อความแสบให้อยู่หมัด "ถ้าเลี้ยงข้าวเที่ยงและข้าวเย็นจะจบไม่มาให้เห็นหน้าและกวนประสาทอีกใช่ไหมคะ" ผมพยักหน้าเป็นอันตกลง "พี่อยากทานอะไรคะจะสั่งให้ ส่วนเย็นนี้นัดกันอีกทีมีเบอร์แล้วไม่ใช่เหรอคะ" เธอดูยอมรับเงื่อนไขง่ายๆ คงคิดว่าผมจะไม่มากวนล่ะสิ คิดผิดที่ผมรับปากตกลงคือแค่วันนี้ที่จะไม่กวน ส่วนวันอื่นผมไม่ได้ตกลง อันนั้นเธอคิดเอาเองแล้วผมก็ไม่ผิดด้วย ยัยแสบเธออยากแสบกับผมก่อน ผมก็มีวิธีเอาคืนที่สมน้ำสมเนื้อ ยัยแสบสั่งกับข้าวให้ผมเหมือนของเธอ เธอกำลังจะเดินไปหาเพื่อนที่โดนไอ้ไนท์กี้ตอแยไม่เลิก น้องคนนั้นคงรู้จักความร้ายกาจของเพื่อนผมน้อยไปเสียแล้ว ดูเหมือนในโรงอาหารจะเกิดสงครามขึ้นสองคู่ และเป็นที่น่าสนใจของสาวๆคณะนี้ที่เอาแต่มองและโปรยยิ้มให้กลุ่มพวกผม เพื่อนผมที่เหลืออีกสองคนนั่งรออยู่ที่โต๊ะพวกมันก็อ่อยเหยื่อเก่งเช่นเคย สงครามจบสิ้นลงเหลือเพียงเย็นนี้ที่ผมต้องเตรียมรับมือจากยัยแสบดูจากอาการยิ้มมุมปากที่เธอเผลอแสดงออกไม่รู้ตัวว่าผมมองทัน ผมก็พอจะเดาออกว่ามันคงไม่จบที่กินข้าวธรรมดาแน่ๆเธอคงคิดแผนเตรียมเล่นผม คิดผิดแล้วยัยหนูเอ๋ยจะมาเล่นงานพี่ดีเดย์ แล้วยัยหนูจะเสียใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD