เป็นแฟนกันไหม

1394 Words
ตอนที่ 9 หลายวันผ่านไป วันนี้เป็นวันรับน้องของคณะ มิลินกับปราการได้มาที่นี่แต่เช้า ส่วนฟ้าใสและเมษาก็ตามมาติดๆ “ตื่นเต้นไหมพวกเธออ่ะ” ฟ้าใสถามเพื่อนๆ “ไม่นะ เธอตื่นเต้นหรอ” ปราการตอบ แล้วย้อนถามฟ้าใส “เออสิ ฉันได้ยินมาว่าพี่ว๊ากคณะนี้น่ากลัวสุดๆไปเลย” ฟ้าใสพูดพร้อมทำหน้าขนลุก “นั่นสิ ฉันได้ยินมาเหมือนกัน” เมษาพูดเสริม “ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัว ถ้าเธอไม่ทำผิดก็คงไม่โดนอะไรอยู่แล้ว” ปราการพูดน้ำเสียบเรียบนิ่ง “วันนี้จะโดนอะไรบ้างไม่รู้” ฟ้าใสพูดพร้อมกับลูบแขนไปด้วย “เงียบๆหน่อยตรงนั้นน่ะ” พี่ว๊ากตะโกนเสียงดังมาทางปราการและฟ้าใส “เอาแล้วจะโดนทำโทษหรือเปล่า” ปราการพูดด้วยน้ำเสียงชวนขนลุก แล้วมองไปยังฟ้าใสที่ตอนนี้เอามือลูบแขนของตัวเองอยู่ มิลินแอบอมยิ้มท่าทางหยอกล้อของปราการ “เอาละ กิจกรรมต่อไปของเราก็คือ เล่นเกมค่ะ” เสียงกลองดังกระหึ่มของรุ่นพี่แล้วก็เสียงเชียร์จากเพื่อนๆในคณะดังขึ้น “เกมยืนบนหนังสือพิมพ์นะคะ กติกาก็คือ ให้ทุกคนจับกลุ่ม 4 คน ยืนบนหนังสือพิมพ์ให้ได้ห้ามร่วงลงพื้น ใครถ่วงถือว่าแพ้ แล้วจะโดนลงโทษนะคะ จับกลุ่มได้เลยค่ะ” “ค่ะ/ครับ” เสียงทุกคนตอบรับคำสั่งของรุ่นพี่ “งั้นเราก็อยู่ทีมเดียวกันเลยเนาะ” ฟ้าใสพูด “พอดีเลยเนาะ เหมือนนัดกันมาเลย” เมษาพูด “อื้ม” มิลินยิ้มพร้อมกับพยักหน้า “อ้ายมาสี่คน” ปราการพูด ทำให้มิลินยิ้มออกมาน้อยๆ ทุกคนมายืนรวมตัวกันเป็นทีมละสี่คน คนละจุด รุ่นพี่จึงได้พูดขึ้น “ค่ะเดี๋ยวรุ่นพี่จะแจกหนังสือพิมให้คนละแผ่นนะคะ ให้สัญญาณเมื่อไหร่ ก็ยืนได้เลยค่ะ” รุ่นพี่อธิบาย “เอาหนังสือพิมพ์มาพับครึ่งค่ะ” ทุกคนทำกันอย่างพร้อมเพรียง มิลิน ปราการ เมษา ฟ้าใส ยืนได้อย่างสบาย รุ่นพี่กวาดสายตามองตอนนี้ยังไม่มีทีมไหนตกรอบเลย “ขณะนี้ยังไม่มีใครหล่นนะคะสงสัยในง่ายไป งั้นทุกคนลงแล้วพับอีกครึ่งค่ะ” หลังจากที่รุ่นพี่ให้สัญญาณ ทุกคนต่างขึ้นไปยืนบนหนังสือพิมพ์ มิลินมองดูเพื่อนๆหลายคน ตกรอบไปหลายทีมแล้ว ตอนนี้มิลินกอดคอกับเพื่อนอย่างสนิทแนบแน่น “อ่ะ ยังมีทีมที่ไม่ตกรอบอีก คราวนี้พับไปอีกสองรอบเลยค่ะ” รุ่นพี่อธิบาย “โห โหดเกิน” เพื่อนอีกทีมหนึ่งของมิลินพูดขึ้น มิลินหันไปมองเล็กน้อย โหด จริง ! พื้นที่ตอนนี้แทบจะไม่มีที่ให้ยืนแล้ว ได้แต่กอดเพื่อนๆไว้จนตัวเกร็ง “ถ้าไม่ทำแบบนี้ งั้นจะมีทีมที่ชนะหรอคะคุณน้อง พี่จะให้เวลาคิดก่อน 3 นาที จับเวลา” รุ่นพี่ยิ้มกรุ่มกริ่ม หันไปหยิบแก้วน้ำขึ้นมาจิบเบาๆ เนื่องจากใช้พลังงานเสียงเยอะ มิลินหันหน้ามาหาเพื่อน ขมวดคิ้วผูกเป็นปม เหมือนกำลังใช้ความคิด “เอาไงอ่ะ มันเล็กเกินไป” ฟ้าใสบ่นอุบอิบ ทำหน้าเครียดเล็กน้อย มิลินพอจะคิดอะไรได้ งั้นลองวิธีนี้คงจะเวิร์ค! “งั้นต้องมีคนหนึ่งขี่หลัง” มิลินพูดเสนอความคิด “จะขี่หลังคนเดียวได้ไง พื้นที่มันยืนได้แค่สองคนเอง ที่ยืนได้อ่ะ” เมษาพูดเสริม นั่นสิ ! ลำพังขี่หลังคนเดียวพื้นที่ก็ไม่พอให้สามคนยืน มิลินยืนใช้ความคิดอีกรอบนึง “งั้นเอางี้ ฟ้าใสเธอแข็งแกร่ง ให้เมษาขี่หลัง ส่วนฉันมิลินขึ้นมา” ปราการเสนอความคิด วิธีนี้เข้าท่า มิลินว่าเวิร์ค มิลินค่อยๆคลายคิ้วที่ผูกโบว์ลง “โห นี่นายมองเห็นฉันเป็นผู้หญิงบ้างไหมเนี่ย” ฟ้าใสมองปราการตาขวาง บังอาจว่าว่าฟ้าใสแข็งแรงซะได้ ผ่านไป 3 นาที “หมดเวลาค่ะ” เสียงรุ่นพี่ประกาศกร้าว “ไม่ทันละ งั้นเอาเป็นตามนั้นเลยนะ” ปราการพูด “โอเค” ฟ้าใสตอบ ปราการย่อตัวลง เพื่อให้มิลินขี่หลัง มิลินค่อยขึ้นมาขี่หลังของปราการ มิลินรู้สึกประหม่าเล็กน้อย มิลินยังไม่เคยใกล้ชิดปราการขนาดนี้เลย ใบหน้าของมิลินเริ่มร้อนผ่าว มิลินสลัดความคิดนี้ออกไป มันเป็นแค่เกมน่ามิลิน! “หนักไหม” มิลินถามปราการ มิลินถามปราการด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ไม่หนักเลยจะขี่ทั้งวันก็ได้นะครับ” ปราการพูดล้อมิลิน พร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ่ม มิลินชะงัก คิดไปไกล ปราการทำไมพูดแบบนี้ มิลินคิดดีไม่ได้นะ ! “บ้า” มิลินเขินหน้าแดง “มิลินคิดไปไหนเนี่ย หมายถึงมิลินตัวเบา แบกทั้งวันก็ได้” ปราการอธิบายอย่างลนลาน “นี่ๆ อย่ามัวแต่จีบกัน มายืนได้แล้ว”ฟ้าใสเรียกให้ปราการมายืนทรงตัวที่หนังสือพิมพ์ก่อน “ครับคุณฟ้าใส” ปราการตอบพลางเดินเข้าไปยืนบนหนังสือพิมพ์ แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ปราการที่ยืนอยู่ กลับโดนเมษาดึงเพราะฟ้าใสใกล้จะล้ม เนื่องจากไม่ทันได้ทรงตัวดี ทำให้ปราการหงายหลังล้มไปกับมิลิน ปราการได้พลิกตัว เอามือรองศีรษะมิลินไว้เพื่อไม่ให้หัวมิลินกระแทกพื้น ในขณะที่ร่างมิลินกำลังจะกระแทกพื้น มิลินได้แต่หลับตาปี๋เพราะความกลัวศีรษะกระแทกพื้น มิลินคิดในใจ หากหัวเธอกระแทกพื้นคราวนี้ คงได้ความจำเสื่อมแน่ๆ ปกติเธอก็หลงๆลืมๆบ่อยอยู่แล้ว “มิลินเป็นอะไรไหม” ปราการถามมิลินด้วยความเป็นห่วง มิลินค่อยๆลืมตาขึ้น พบกับใบหน้าของปราการที่อยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ ตอนนี้มิลินรับรู้ได้ถึงลมหายใจไม่สม่ำเสมอของปราการ ลมหายใจรดมายังใบหน้าของมิลิน มิลินตั้งสติได้ จึงรีบตอบปราการอย่างลนลาน “มะ ไม่เป็นอะไร ” หน้าของมิลินจะใกล้เกินไปแล้ว ! ปราการห่างไปอีกนิดได้ไหม มิลินได้แต่พูดในใจ โดยที่ไม่มีใครได้ยิน หลังจากที่จบกิจกรรมรับน้อง ปราการ มิลิน เมษา ฟ้าใส เดินออกมายังหน้ามหาวิทยาลัย “ไปกินข้าวกันไหม” ปราการเอ่ยปากชวนทุกคน “วันนี้มีธุระกับคุณพี่ชายสุดที่รักอ่ะดิ” ฟ้าใสตอบ “เหมือนกันจ้ะ มีธุระ ขอโทษทีนะ เอาไว้วันหลังได้ไหม” เมษาตอบ “”โอเค” ปราการตอบ “กลับบ้านดีๆนะ” มิลินบอกเพื่อนๆ ส่งยิ้มร่าให้ “บายจ้า/บายจ้า” เมษากับฟ้าใสโบกมือลา “เหลือแค่เราสองคนอีกแล้วมิลิน” ปราการพูดกับมิลิน “ไปกินอะไรกันดี” “วันนี้ตามใจมิลินเลย เดี๋ยวเลี้ยงเอง” “คงไม่ได้ลืมเอากระเป๋าตังมานะ” มิลินพูดหยอกล้อปราการ “ไม่ลืมแล้วครับ คนอย่างผมผิดพลาดครั้งเดียวพอครับ” “โอเคค่ะ คุณปราการ” “วันนี้ดูหนังด้วยไหม ไม่ได้ดูหนังนานละ” “มีเรื่องอะไรน่าดูอ่ะ” “มี ไปเถอะน่า” “โอเคได้” หลังจากมิลินกับปราการได้ไปทานข้าวเสร็จแล้ว ปราการจึงได้นำชูก้ามาให้มิลินเล่น เพื่อคลายเหงาเหมือนเดิม ปราการกดกริ่งหน้าบ้านของมิลิน ยืนรออยู่ครู่นึง มิลินก็เดินมาเปิดประตู ทันทีที่เห็นชูก้า มิลินจึงเข้าไปอุ้มทันที เหมือนชูก้าเป็นลูกของมิลินก็ไม่ปาน “ชูก้า อ้วนขึ้นหรือเปล่าเนี่ย” “ชูก้าอ้วนอยู่แล้วมิลิน” ปราการยิ้ม “ป่ะ วันนี้ชูก้ามานอนบ้านมิลินไหมเนี่ย” มิลินตอนนี้สนใจแค่แมวแล้ว “ให้ผมนอนด้วย แมวผมก็อนุญาตให้นอนครับ” ปราการยิ้มกรุ้มกริ่ม มิลินหันไปมองยังใบหน้าของปราการ มองค้อนนิดหน่อย มิลินคิดในใจ ทำไมผู้ชายคนนี้ พักนี้หยอดเธอเก่งจัง มิลินยิ้มบางๆให้ปราการแล้วมาสนใจแมวต่อ “มิลิน” ปราการพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ห๊ะ ว่าไง” มิลินถามปราการ “เรามาคบกันไหม” “อะไรนะ!!!” มิลินตกใจสุดขีด ไม่คิดว่าปราการจะมาขอเธอแบบนี้ “เป็นแฟนกันไหม” ปราการพูดย้ำ บอกว่าไม่ได้ล้อเล่น มิลินหน้าเหวอยิ่งกว่าเดิม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD