ตอนที่ 5 เปิดหูเปิดตา
เช้าต่อมา
มิลินตื่นแต่เช้ามารดน้ำต้นไม้ แล้วไปอาบน้ำเตรียมตัวเพื่อไปห้างสรรพสินค้าแถวนี้ วันนี้ มิลินใส่ชุดเดรสสีอ่อน คลุมเข่า มัดผมเป็นหางม้าหลวมๆ ปล่อยปอยผมด้านข้างเล็กน้อย ทำให้ใบหน้าที่หวานอยู่แล้ว กลับดูหวานละมุนขึ้นไปอีก มิลินตอนนี้ดูเหมือนคุณหนูที่น่าทะนุถนอม
มิลินยิ้มบางๆ ให้กับตัวเองอยู่หน้ากระจก เพื่อให้กำลังใจตัวเอง ผ่านมรสุมมามากมาย จากนี้ต้องรักตัวเองแล้วนะ มิลินพูดเบาๆ ในใจ
ครู่นึงก็มีคนมากดกริ่งอยู่ที่หน้าบ้าน ทำให้มิลินต้องออกไปดู มิลินเปิดประตูกลับพบปราการยืนยิ้มอยู่หน้าบ้าน พร้อมกับรถคันหรูที่จอดรอเธออยู่ มิลินยิ้มรับ
"เดี๋ยวรอแปบนึงนะ มิลินไปหยิบกระเป๋าก่อน" มิลินวิ่งเข้าไปในบ้านหยิบขของใส่กระเป๋าอย่างลวกๆ "คงไม่ลืมกุญแจบ้านหรอกนะมิลิน" มิลินพูดกับตัวเอง ปกติแล้วเธอค่อนข้างขี้ลืม เธอจะมีแม่คอยบอกตลอดว่าของสิ่งนี้อยู่ตรงไหน ตอนนี้ไม่มีพ่อกับแม่แล้ว สิ่งที่ป้องกันไม่ให้แธอลืมได้ คือเธอต้องรอบคอบให้มากกว่าเดิม
ณ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
รถคันหรูได้แล่นเข้ามายังบริเวณห้าง วันนี้รถค่อนข้างเยอะ ทำให้ปราการต้องวนหาที่จอดจนถึงชั้น 4 ทั้งสองคนเดินออกมาจากรถคันหรู เข้ามาในห้าง ถูกสายตาหลายคู่ต่างจับจ้อง หนุ่มหล่อเหมือนนายแบบ กับหญิงสาวที่ใบหน้าหวานละมุน เหมาะสมกันดั่งกิ่งทองใบหยก
มิลินได้แต่ก้มหน้าให้ต่ำลง เมื่อถูกสายตาหลายคู่จับจ้อง ปกติแล้วชีวิตของมิลินไม่ค่อยได้ออกมาข้างนอกเท่าไหร่ อาหารก็ทำไม่เป็น แถมเมื่อคืนยังไม่ได้ทานอะไร ทำให้ตอนนี้ท้องของ มิลินส่งเสียงออกมา มิลินจึงได้แต่เอามือมาสัมผัสหน้าท้องของตัวเองเบาๆ
ปราการที่เห็นท่าทีมิลิน เขารู้ได้ทันทีว่ามิลินกำลังหิวแน่ๆ จึงได้เอ่ยปากชวนมิลินไปทานข้าวก่อน ค่อยไปซื้อของ
"มิลินไปกินข้าวกัน" ปราการยิ้มอ่อนโยนให้มิลิน
มิลินยิ้มบางๆ พยักหน้าแทนคำตอบ
"มิลินจะกินอะไร" ปราการถามมิลิน อีกอย่างอยากรู้เหมือนกันว่ามิลินชอบอะไร ไม่ชอบอะไรบ้าง
"มิลินไม่ค่อยได้มาเดินที่ห้าง ปราการมีอะไรแนะนำบ้างล่ะ มิลินขอเป็นร้านอาหารที่ไม่เผ็ดนะ"
มิลินบอกปราการ ปราการพยักหน้า ยิ้มแล้วจูงมือพามิลินไปยังร้านอาหารใกล้เคียง มิลินปล่อยให้ปราการจูงมือไปอย่างว่าง่าย มิลินรู้สึกว่าอยู่กับปราการแล้วรู้สึกอบอุ่น ไม่โดดเดี่ยวเลย มีเขาเป็นเพื่อนก็ดีเหมือนกัน
เมื่อมานั่งที่โต๊ะ พนักงานที่ร้านเอาเมนูมาให้
"สวัสดีค่ะ คุณลูกค้ามากัน 2 คนนะคะ วันนี้แนะนำเป็นเมนูเซ็ตคู่รักนะคะ เหมาะกับคุณลูกค้ามากๆ ค่ะ แถมยังมีส่วนนลดให้อีก 10 เปอร์เซ็นต์ หากลูกค้าให้ทางร้านถ่ายรูปคู่แล้ว แปะไว้เพื่อโปรโมทร้านของเราค่ะ หรือหากลูกค้ายังไม่รับ เดี๋ยวซักครู่มารับออเดอร์นะคะ" พนักงานพูดจบ โค้งตัวให้เล็กน้อย ก้าวขาถอยไปด้านหลังสองก้าว
มิลินมองไปยังใบหน้าของปราการที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ส่งให้มิลิน เหมือนคนเจ้าเล่ห์ก็ไม่ปาน
"มิลินเอาเมนูนี้ไหม ได้ลด 10 เปอร์เซ็นนะ" ปราการพูดเสนอแนะ เขาไม่ได้สนใจส่วนลดหรออก ที่เขาสนใจคือ ได้ถ่ายรูปคู่กับมิลิน แถมยังต้องถ่ายเหมือนคู่รักกันอีก เพียงเท่านี้ปราการก็ใจเบิกบานพอแล้ว เพรราะในใจของปราการได้หลงรักมิลินตั้งแต่แรกพบ
ปราการมีคุยกับผู้หญิงอยู่บ้าง ตามประสาผู้ชาย แต่เขาไม่ได้รู้สึกชอบใครจริงจังเท่ากับมิลินเลย
"อืม เอาสิ" มิลินตอบ เพราะไม่รู้ว่าจะกินอะไรดี
ปราการยกมือเรียกพนักงานมาเพื่อสั่งอาหารเป็นเซ็ตคู่รัก ผ่านไปครู่นึงอาหารก็ได้ยกมาเสิร์ฟ
"เดี๋ยวทางร้านขออนุญาตถ่ายรูปลูกค้าหน่อยยนะคะ ลูกค้าขยับไปใกล้ๆ กันหน่อยค่ะ" พนักงานแจ้งให้ปราการกับมิลินใกล้ชิดกันมากขึ้น
"ยิ้มนะคะ คุณลูกค้าเอามือคนละข้างยื่นออกมาทำเป็นหัวใจค่ะ" มิลินเลิ่กลั่ก มันจะเหมือนคู่รักกันเกินไปแล้ว แต่เธอก็ยอมทำตตามแต่โดยดี เพราะว่าเธอหิวข้าวแล้ว
"เสร็จแล้วค่ะเหมาะสมกันจังเลยค่ะ สวยหล่อทั้งคู่เลย" มิลินพยักหน้า แอบถอนหายใจเฮือกหนึ่ง เพราะมิลินไม่ค่อยชอบการถ่ายรูปเท่าไหร่
"มิลินทานข้าวเลย" ปราการส่งยิ้มให้มิลิน ผ่อนคลายลง เมื่อกี้เขาแอบเห็นมิลินไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่นัก
มิลินพยักหน้าแทนคำตอบใช้มือหยิบช้อนมาตักข้าวเข้าปาก ปราการมองมิลินไม่วางตา ทุกการกระทำของเธอล้วนเป็นธรรมชาติไม่แต่งแต้ม ต่างจากผู้หญิ่งที่เขาเคยพัวพันด้วย ปราการมองใบบหน้าหวานละมุนของมิลินที่กำลังยิ้มออกมา ทำให้ปราการอดอมยิ้มตามไปด้วย
"อร่อยไหม" ปราการถามมิลิน ใบหน้าของมิลินดูฉายแววความสุขออกมาบ้าง เพราะเมื่อคืนเขาแอบมองมิลินทางหน้าต่าง เห็นมิลินใบหน้าเศร้าศร้อยจนอดสงสารไม่ได้ ถึงแม้ตอนนี้เธอจะดูมีความสุขแค่ไหน ในตอนที่เธออยู่คนเดียวกลับดูโดดเดี่ยวมากเช่นกัน ฉะนั้นเขาจะเป็นคนเติมเต็มให้มันเอง ปราการที่มองมิลินอยู่นั้นก็ได้ละสายตามาตักข้าวบนจานของตัวเองบ้าง
มิลินที่ได้ยินปราการถาม กลับพยักหนน้าแทนคำตอบ เนื่องจากมิลินกำลังเคี้ยวข้าวอยู่เต็มปาก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มิลินไม่ค่อยได้ทานอะไร ตอนที่อยู่โรงพยาบาล ทานแต่อาหารจืดชืดแค่นั้น
เมื่อทั้งสองทานข้าวเสร็จ วางแพลนที่จะไปซื้อโทรศัพท์เป็นอันดับแรก มิลินกับปราการเดินก้าวเท้าออกมาจากร้าน จู่ๆ ก็มีเด็กที่ไหนไม่รู้วิ่งถือไอศกรีมวิ่งชนมิลิน ทำให้ชุดที่มิลินใส่มาถูกป้ายด้วยไอศกรีมจนเลอะ แต่มิลินไม่ได้ถือสา พร้อมกับสอบถามเด็กว่าแม่ไปไหน
ปราการมองหน้าใบหน้ามิลิน เธอไม่ได้โกรธเด็กเลย แถมยังเป็นห่วงเด็ก ตามหาแม่ให้อีก มิลินมองซ้าย มองขวาไม่พบแม่ของน้อง จึงบอกให้ปราการอยู่ตรงนี้ก่อน มิลินจะขอไปล้างมิอ กับชุดที่เลอะ ที่ห้องน้ำ หากพาน้องไปด้วย แม่น้องจะตามหาน้องไม่เจอ บางทีแม่น้องอาจจะอยู่jร้านแถวนี้
มิลินมองป้ายสัญลักษณ์ของห้องน้ำ แล้วก้มหน้าเดินตรงดิ่งไปโดยไม่ทันได้มองทาง กลับบังเอิญชนเข้ากับผู้hชายใส่สูท หน้าตาดี แต่แววตากลับเย็นชา ต่างกันโดยสิ้นเชิง
"ขอโทษนะคะ มิลินไม่ได้มอง" มิลินกล่าวขอโทษอย่างลนลาน โค้งศีรษะให้เขาเล็กน้อย เป็นการขอโทษอย่างจริงใจ มิลินที่เห็นสูททของเขาเปื้อน มือเรียวเล็กของมิลินกลับยื่นออกไป จะเช็ดให้เขา ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ปรายตามอง มือที่กำลังจะมาจับตัวเขา เขาจึงเบี่ยงตัวหลบโดยอัตโนมัติ เขาไม่ชื่นชอบให้ใครมาแตะต้องตัว เว้นเสียแต่เป็นน้องสาวของเขา
มิลินเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าของเขาอีกชัดๆ ทำให้ชายหนุ่มชะงักเล็กน้อย เธอคือผู้หญิงที่เขาช่วยเอาไว้ ตอนที่เธอจะกระโดดสะพาน เขาไม่คิดว่าจะบังเอิญเจอเธอแบบนี้ ภาคินมองไปหน้าหวานละหมุน หลายวันมานี้ใบหน้าหวานละมุนลลอยเข้ามาในหัวของเขาโดยตลอด
ในใจของภาคินคิดว่า หากมีครั้งที่สาม ถ้าเจอเธออีกจจะไม่ยอมปล่อยมือไปนะ เพราะการเจอกันสามครั้ง คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ หวังว่าเธอจะยังไม่มีใครนะ มิลิน
"ขอโทษนะคะ" มิลินกล่าวขอโทษอีกครั้ง เมื่อเห็นชายหนุ่มคนนี้เอาแต่จจ้องใบหน้าของเธอ
ชายหนุ่มที่เห็นสีหน้าของร่างบางที่อยู่ตรงหน้า ทำหน้าเหมือนคนนจะร้องไห้ กลับใจอ่อนยวบ ภาคินถอนสายตาจากใบหน้าหวาน แล้วมามองชุดที่เธอใส่ มันก็เปื้อนเหมือนกัน
"อืม ไม่เป็นไร" ภาคินกล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่งขรึม พร้อมกับล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนนึงให้กับมิลิน มิลินทำหน้างง
"รับไปสิ แล้วก็ไปล้างตัวได้ละ" ภาคินพูดเสียงเข้ม มิลินรับผ้าเชช็ดหน้าอย่างหวาดกลัว แอบคิดในใจ ผู้ชายหล่อคนนีu ทำไมน่ากลัวจัง
เมื่อมิลินเดินเข้าห้องน้ำไป น้องสาวของเขาสวนทางกับมิลินออกมาพอดี เมื่อเห็นผู้หญิงคนเมื่อกี้ทำหน้าหวาดกลัวพี่ชายของตน จึงได้สอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
"พี่ภาคิน เกิดอะไรขึ้นหรอ" ฟ้าใสถามพี่ชายของตน นอกจากฟ้าใสแล้ว พี่ชายของตนไม่เคยสนใจ ใส่ใจผู้หญิงคนไหนเลย แถมยังชอบทำหน้าดุๆ ใส่ผู้หญิงอีก เป็นแบบนี้จะมีแฟนได้เมื่อไหร่
"ไม่มีอะไรหรอก" ภาคินตอบอย่างไม่ใส่ใจ แต่สายตากลับมองเข้าไปในห้องน้ำ น้องสาวที่มองอยู่นั้นกลับรู้สึกได้ว่า พี่ชายของตนสนใจผู้หญิงคนนี้
"เดี๋ยวไปขอไลน์ให้เอาไหม" ฟ้าใสพูดเชิงหยอกล้อ แต่กลับโดนภาคินเอานิ้วดีดหน้าผากไปหนึ่งที
"โอ้ย พี่ภาคินกล้าทำร้ายน้องนะ" ฟ้าใสพูดไม่จริงจังนัก พร้อมกับเอามือจับบริเวณหน้าผากไว้ กลัวจะโดนอีกหนึ่งรอบ
"ถ้าพูดมากกว่านี้ จะโดนมากกว่านี้นะ" ภาคินขู่เสียงเข้ม
"อ่ะ ฟ้าใสไม่เล่นละ แต่ขอไปกินข้าวก่อนได้ไหม หิวอ่ะ" ฟ้าใสพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน สอดมือเข้าไปคล้องแขนพี่ชายของตน
วันนี้ภาคินงานไม่ยุ่งเท่าไหร่ พอจะมีเวลาเหลือเฟือ ตามใจเธอหน่อยแล้วกัน ค่อยไปซื้อชุดนักศึกษาต่อ
"ได้ อยากทานร้านไหนล่ะ" ภาคินถามน้องสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"เอาเป็นร้านใกล้ๆ ตรงนี้ เห็นมีเมนูใหม่ด้วยอยากกิน" ฟ้าใส พูดด้วยเสียงสดใส แล้วจูงมือพี่ชายเข้าไปยังร้านอาหารเดียวกับมิลินก่อนหน้านี้
ฟ้าใสสั่งอาหารที่อยากกินมาเต็มโต๊ะ ภาคินเองก็ไม่ขัด ในระหว่างที่รออาหารอยู่ พลันสายตาของภาคิน กลับไปมองเห็นรูปของมิลินกับผู้ชายคนหนึ่ง แปะไว้บอร์ดรีวิวของร้าน เธอมีใครอยู่แล้วสินะ แล้วทำไมวันนั้นเธอถึงฆ่าตัวตายล่ะ ชชายหนุ่มคิดในใจ
ฟ้าใสที่เห็นพี่ชายมองไปยังบอร์ดรีวิวของร้าน จึงได้หันไปมองบ้าง สายตาก็ปะทะกับรูปชายหญิงคู่หนึ่ง ที่เด่นสะดุดตากว่าทุกรูป แต่ผู้หญิงคนนั้นหน้าคุ้นๆ ฟ้าใสครุ่นคิดในใจ เหมือนเคยเห็นที่ไหน จู่ๆ ก็มีภาพปรากฏเข้าหัวมา ผู้หญิงคนนี้ คือคนที่เจอหน้าห้องน้ำนี่
"ว้า ไม่ทันได้จีบก็อกหักซะละ" ฟ้าใสแซวพี่ชายของตน
"อยากนอนนอกบ้านหรอวันนี้" ภาคินทำเสียงเข้ม ตอบกลับน้องสาวอยย่างกวนประสาทเช่นกัน
"อูย ทำไมวันนี้ใจร้ายจัง" ฟ้าใสพูดพลางลูบแขนไปด้วย รู้สึกสยองจนขนลุกขนพอง
"จะกินไหม" ภาคินเอ่ยยถามน้องสาว เพื่อเปลี่ยนประเด็Hนไม่ให้น้องสาวหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีก
"กินค่ะ รออาหารอยู่ไงคะ "
เมื่อมิลินออกมาจากห้องน้ำ กลับพบว่าปราการได้อออกมารออยู่ที่หน้าห้องน้ำ
"อ้าว เจอแม่เด็กแล้วหรอ" มิลินยิ้มแล้วถามปราการ
"พอดีแม่ของน้อง มารับไปแล้วน่ะ" ปราการยิ้มอ่อนโยนให้มิลิน
" อื้ม ไปซื้อของกันเถอะ"