ตอนที่ 13
“ฟ้าใส” มิลินรีบวิ่งไปหาเพื่อนของตนอย่างดีใจ เมื่อฟ้าใสเดินเข้ามาในบ้าน ก็วิ่งมาหามิลินอย่างรีบเร่ง มิลินพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ “ฟ้าใสไปไหนมา มิลินเป็นห่วง” มิลินพูดออกมาเพราะรู้สึกเป็นห่วงฟ้าใสกลัวว่าเพื่อนรักของเธอจะเป็นอะไรไป
ฟ้าใสหน้ามุ่ย พร้อมพูดว่า “ก็ไปรับพี่ชายตัวดีนั่นแหละ จู่ๆก็โทรมาให้รับหน้าคนในงานให้หน่อย ทั้งๆที่เป็นวันเกิดตัวเองแท้ๆ แล้วก็มีอุบัติเหตุนิดหน่อย”
“แล้วฟ้าใสเป็นอะไรไหม เจ็บตรงไหนหรือเปล่า” มิลินหน้าถอดสี รีบเร่งถามฟ้าใส
“ไม่ได้เป็นอะไรหรอก ไม่ต้องห่วง” ฟ้าใสพูดพร้อมเอามือแตะที่แขนมิลินเบาๆ ฟ้าใสเงียบครู่นึง แล้วถามมิลินต่อ “แล้วพี่ภาคินกลับมาหรือยัง มิลินเห็นไหม”
“ขึ้นไปนอนข้างบนแล้วน่ะ” มิลินยิ้มบางๆให้ฟ้าใส
“เฮ้อ ว่าที่คู่หมั้นของพี่ภาคินอ่ะดิ วางยาพี่ภาคิน ฟ้าใสเลยต้องไปสะสางอะไรนิดหน่อย” ฟ้าใสพูดแล้วดึงแขนมิลินไปนั่งบนโซฟา ฟ้าใสเอนกายลงแล้วหลับตาพริ้ม เพื่อผ่อนคลายอาการเมื่อยล้า
เขามีคู่หมั้นแล้ว ? มิลินคิดในใจ พร้อมทำหน้างง ออกมา ทำไมเขาต้องวางยา?และถ้าเขาโดนวางยาทำให้ขนาดสติครั้งนี้มิลินถือว่าจะไม่ถือสาอะไรแล้วกัน
มิลินหันไปมองฟ้าใสที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่มิลินก็ระบายยิ้มออกมา เอื้อมมือไปคลึงศรีษะให้ฟ้าใสเบาๆ “เหนื่อยล่ะสิ ไหนจะซ้อม ไหนจะวิ่งวุ่นไปงานพี่ชายอีก”
ฟ้าใสลืมตาขึ้นแล้วจับมือ มิลินออก ฟ้าใสจึงค่อยๆโผเข้ากอดมิลิน เอาหน้าซุกไว้ในอ้อมกอดของมิลิน
“กอดมิลินอบอุ่นเหมือนแม่เลย” ฟ้าใสพูดเพราะรู้สึกแบบนั้นจริงๆ
มิลินยิ้มเพราะมิลินเข้าใจการไม่มีแม่มันเป็นยังไง มิลินลูบหลังของฟ้าใสเบาๆ “ถ้าฟ้าใสอยู่กับมิลิน มิลินจะอยู่ให้กอดทุกวันเลยดีไหม” ฟ้าใสลุกขึ้นมา ยิ้มให้มิลิน “ดีสิ ใครจะไม่ต้องการมิลินเนอะ น่ารักขนาดนี้ วันนี้มิลินกลับบ้านได้แล้ว ถ้าดึกกว่านี้มันอันตราย”
มิลินพึ่งนึกได้ว่านัดกับปราการไว้ ลืมไปเสียสนิท นิสัยขี้ลืมนี่แก้ไม่หายจริงๆ
“งั้นมิลินกลับบ้านก่อนนะ” มิลินยิ้มให้ฟ้าใส
“โอเค ถึงแล้วทักมาบอกด้วยนะ”
“รับทราบค่ะ” มิลินโบกมือลาฟ้าใส แล้วเดินออกมาเรียกรถทันที ป่านนี้ปราการยังรอมิลินอยู่หรือเปล่านะ
ณ บ้านของมิลิน
มิลินได้ให้กุญแจสำรองกับปราการไว้ เพราะจะได้ให้ปราการมาเตรียมอาหารรอ มิลินไม่ลืมที่จะยกโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์บอกฟ้าใส ปราการทำอาหารรอมิลินอยู่จริงๆ มิลินมองดูปราการที่ใส่ชุดนักศึกษาพร้อมกับผูกผ้ากันเปื้อนด้วย ทุกอิริยาบถของปราการ ดูดีจริงๆ มิลินยิ้มแล้วเดินเข้าไป
“แฟนใครเนี่ย ทำไมหล่อจัง” มิลินเดินเข้าไปใกล้ๆปราการ พลัยสายตามองไปเห็นเยลลี่ใช้มือหยิบขึ้นมาทันที
“แฟนคุณมิลินคนสวยครับ” ปราการยิ้มหวานส่งให้มิลิน
“ปากหวานจังนะ แล้วนี่กินได้ไหม” มิลินพูด แล้วชูถุงเยลลี่ในมือ
“กินได้สิครับ ผมซื้อมาให้มิลิน” ปราการพูดอย่างเอาอกเอาใจ
“รู้ได้ไงว่ามิลินชอบอันนี้” มิลินถามเพราะมิลินไม่เคยบอกปราการเลย มิลินจึงฉีกซองขนมแล้วเอาเข้าปากทันที
“เก่งไหมครับ ฮ่าๆ เป็นไงอร่อยไหม”
“อื้ม รสชาติไม่เลวเลย” มิลินยิ้มแล้วพยักหน้า
“ขอกินบ้างได้ไหม” มิลินที่ได้ยิน ดังนั้นเธอจึงหยิบเยลลี่อีกหนึ่งชิ้นไปจ่อปากปราการ ปราการส่ายหน้า แล้วพูดต่อ “ไม่ใช่ หมายถึง…..” ปราการโน้มตัวเข้าไปหามิลิน มิลินเข้าใจความหมายของมันดี ว่าปราการกำลังจะจูบเธอ พลันนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในบ้านของฟ้าใส ทำให้มิลินเบี่ยงหน้าหนีปราการ มิลินไม่อยากให้ปราการมาจูบทับรอยคนอื่น
ปราการชะงัก ทำไมมิลินถึงมีท่าทีเปลี่ยนไป หรือว่าเธอรังเกียจเขาแล้ว?
“มิลินไม่รักปราการแล้วหรอ” ปราการพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ ดวงตาหุบต่ำลง มิลินส่ายหน้า
ไม่ใช่นะ!
เมื่อเห็นอาการน้อยใจของปราการ มิลินจึงเดินเข้าไปกอดจากทางด้านหลังของปราการ
“ไม่ใช่ไม่รัก แต่ขอไปอาบน้ำก่อนได้ไหม คืนนี้จะให้นอนด้วยโอเคไหม” มิลินพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเอาใบหน้าถูแผ่นหลังของปราการเบาๆ
ปราการใจอ่อนระทวย มิลินน่ารักจริงๆ มันทำให้เขาอยากจะฟัดเธอให้จมอยู่ตรงนี้
“พูดแล้วนะว่าให้นอน” ปราการยิ้มออกมาอย่างดีใจ
“อื้ม แน่นอน ยิ้มแล้วนี่นา หายโกรธแล้วหรอ” มิลินพูดล้อเลียนปราการ
“ผมไม่เคยโกรธมิลินเลยนะ” ปราการพูดแย้ง
“งั้นก็น้อยใจ โถ หัวก็ยังไม่ล้าน น้อยใจเก่งจังเลย เดี๋ยวมิลินง้อนะ โอ๋ๆ” มิลินยิ้มร่าไปคล้องแขนของปราการแล้วชูนิ้วก้อย เพื่อขอคืนดี ปราการยิ้มอ่อนโยนให้มิลิน
“อาหารเสร็จแล้ว มิลินไปนั่งรอเลย”
“ให้ช่วยไหม” มิลินถามเพราะเธอไม่อยากรอกินอยากเดียว อยากจะช่วยอะไรบ้าง
ปราการส่ายหน้า “ไปนั่งรอเลย”
มิลินมานั่งรออย่างว่าง่าย พร้อมกับพูดว่า “งั้นมิลินขอล้างจานเองนะ” ปราการยกอาหารมาให้มิลินพร้อมกับพยักหน้า เพราะเขาเองไม่อยากขัดมิลิน มิลินคิดจะทำอะไรเขาจะสนับสนุนทุกอย่างเอง
หลังจากที่มิลินทานข้าวเสร็จ มิลินจึงได้ไปอาบน้ำ ส่วนปราการกลับไปอาบน้ำที่บ้าน แล้วจะกลับมาอีก มิลินอาบน้ำขัดตัวทุกซอกทุกมุม ที่ผู้ชายที่ชื่อว่าภาคินนั่น มาสัมผัสร่างกายของเธอ
มิลินมองตัวเองอยู่หน้ากระจก บริเวณหน้าอกของเธอมีรอยช้ำสีแดงฝากเอาไว้ มิลินได้แต่ถอนหายใจเฮือกนึงออกมา นี่มิลินทำอะไรผิดต่อปราการหรือเปล่านะ จะเล่าให้ฟังดีไหม ปราการจะคิดมากหรือเปล่า
มิลินมาแต่งตัวอย่างอ้อยอิ่ง ถอนหายใจเฮือกนึงเบาๆ เธอจะลบรอยขบกัดจากภาคินได้อย่างไร
“มิลิน” เสียงนี้!
“ปราการเข้ามาได้เลย มิลินไม่ได้ล็อกประตู” มิลินบอกปราการ แล้วนั่งหวีผมอย่างเงียบๆบนเก้าอี้
ปราการเปิดประตูเข้ามาด้วยอาการประหม่า เขามาค้างที่ห้องผู้หญิงเป็นครั้งแรก
สายตาของปราการมองไปที่มิลินอย่างไม่วางตา มิลินใส่ชุดนอนบางๆ เผยให้เห็นสัดส่วนของเธออย่างชัดเจน ปราการแอบกลืนน้ำลายเฮือกนึง แล้วเดินเข้าไปหามิลิน ปราการถือวิสาสะหยิบหวีในมือของมิลิน มาหวีผมให้มิลินทีละช่ออย่างเบามือ มิลินไม่ได้ว่าอะไร แต่กลับยิ้มให้เขา
“ปราการเคยทำแบบนี้กับใครหรือเปล่าเนี่ย”
“ไม่ครับ” ปราการยิ้มแล้วหวีผมให้มิลินต่อ
“อย่าไปทำแบบนี้ให้ใครนะนอกจากมิลิน มิลินหวง” มิลินทำเสียงเข้ม
ปราการยิ้มออกมาอย่างดีใจ แล้วหอมแก้มมิลินไปหนึ่งฟอดใหญ่ “ไม่ทำหรอกครับ ผมจะทำให้มิลินแค่คนเดียว” ปราการพูดจริงจัง ดวงตาเต็มไปด้วยความแน่วแน่
มิลินที่หน้าแดงอยู่นั้น หันมาหาปราการแล้วโน้มตัวไปจุ๊บริมฝีปากของปราการเบาๆ ปราการตัวแข็งทื่อ ตอนแรกมิลินดูเหทือนแมวตอนนี้กลับกลายเป็นแม่เสือ ปราการเองก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูน จึงตอบสนองมิลินด้วยจุมพิตอันรุนแรงขึ้น ความปรารถนาในร่างกายของปราการทวีความรุนแรงขึ้น แต่เขายังไม่อยากเอาเปรียบมิลินตอนนี้ รอให้มิลินพร้อมมากกว่านี้หน่อย ปราการถอนริมฝีปากออกมาจากมิลิน แล้วอุ้มมิลินไปนอนบนเตียงอย่างทะนุถนอม
หยิบผ้าห่มมาคลุมให้มิลินเพราะกลัวว่ามิลินจะหนาว แล้วตัวเขาเองก็ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มกับเธอ มิลิน ขยับมาซุกอกของปราการ ปราการเอื้อมมือไปกอดมิลินไว้อย่างหลวมๆ เพราะกลัวจะห้ามใจตัวเองไม่ไหว เขามือมือไปลูบหัวมิลินเบาๆ
“มิลิน”
“หืม” มิลินเลิกคิ้ว
“ขอกำลังใจหน่อย” ปราการพูดยิ้มๆ
มิลินเงยหน้าขึ้นขยับตัวไปหอมแก้มปราการอย่างรู้งาน “สู้ๆนะ” สิ้นเสียงคำพูดของมิลิน หัวใจของปราการร็สึกพองโตอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“ชื่นใจแล้วครับนอนกันเถอะ ฝันดีนะครับ”
“ฝันดีเหมือนกัน”
ผ่านไปครู่นึง บรรยากาศภายในห้องเข้าสู่ความเงียบ มิลินได้หลับไปในอ้อมกอดของปราการจนเช้า