ซีรีส์อ้อมกอดรัก
เล่ม 1. สามีท่านประธาน
ร่างอรชรที่เดินเข้ามาในห้องทำงานคือหญิงสาวที่สวมแว่นตาหนาเตอะ และแต่งชุดเชยแสนเชย
เปรมเงยหน้าขึ้นมอง พลางสำรวจหญิงสาวตรงหน้าอย่างละเอียดลออ
“คุณคงเป็นเลขาที่ผ่านสัมภาษณ์ใช่ไหม” น้ำเสียงทุ้มของเขาเอ่ยถาม ทำให้เธอต้องรีบพยักหน้าพลางตอบรับ
“ค่ะท่านประธาน”
“ชื่ออะไรนะ”
“เรียกฉันว่าพิมพ์ก็ได้ค่ะ” พิมพ์พิศาตอบออกไป
“งั้นเริ่มงานได้เลย” เปรมตอบเสียงเรียบ ก่อนจะบุ้ยใบ้ไปยังแฟ้มเอกสารที่กองพะเนินอยู่บนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ของเขา
“เอาแฟ้มเอกสารพวกนี้ไปจัดการด้วย”
“จัดการยังไงเหรอคะ” พิมพ์พิศาเอ่ยถามอย่างงุนงง เธอไม่ได้เรียนจบมาทางด้านเลขานุการจะให้เธอจัดการอย่างไรเล่า
“มาสมัครงานเป็นเลขาไม่รู้หรือไง”
“คะ” พิมพ์พิศาหลุดอุทานออกมา
“คุณเอาไปอ่าน แล้วก็สรุปมาให้ละเอียดเรียบร้อย อย่าให้มีตกหล่น”
“หมดนี่เลยหรือคะ” พิมพ์พิศาหน้าเหวอ สีหน้าของหล่อนชวนขบขันเสียนี่กระไร
“ใช่ ทั้งหมดนี่เลย ก่อนที่จะเซ็นสัญญาอาทิตย์หน้า ทุกอย่างต้องเรียบร้อย ฉันจะตรวจทานอีกครั้ง”
“ค่ะ” พิมพ์พิศาแบกแฟ้มเอกสารออกไปจากห้องทำงานของเปรม เธอทำแฟ้มเอกสารตกหล่นเพราะแฟ้มเอกสารค่อนข้างเยอะ เขาไม่คิดที่จะมาช่วยหรือใส่ใจ แถมยังส่ายหน้าไปมาทำท่าทีว่าระอาเธอเสียอีก
พิมพ์พิศากัดปากตัวเอง ให้นึกขุ่นเคืองไม่น้อย เขาจำเธอไม่ได้นั่นคือเรื่องจริง เธอรอเขามานานหลายปี แต่ได้เจอกันอีกครั้งเขากลับจำเธอไม่ได้
แท้ที่จริงแล้วเธอกับเปรมเป็นคู่หมั้นกันตั้งแต่เล็ก ก่อนเขาเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศได้หมั้นหมายกับเธอเอาไว้ อีกทั้งสัญญากันว่าเรียนจบกลับมาจะแต่งงานกัน
อย่าว่าแต่เขาจะจำเธอไม่ได้เลย ขนาดเธอใช้ชื่อเล่นว่าพิมพ์เขายังไม่สะดุดหูหรือสะดุดใจเลยสักนิด
‘น้องพิมพ์คงไม่อยู่ในสายตาของพี่เปรมอีกต่อไปแล้วใช่ไหมคะ’
เปรมกลับมาจากต่างประเทศเขาก็เข้ามาทำงานที่บริษัทของบิดาทันที แถมยังมีข่าวกับสาว ๆ ไม่เว้นแต่ละวัน และคงลืมไปแล้วว่ามีคู่หมั้นคู่หมายอยู่แล้ว
บิดมารดาของเปรมและตัวของเขามาเยี่ยมเยียนบิดามารดาของเธอเมื่อหลายวันก่อน แต่ตอนนั้นเธอไปเที่ยวกับเพื่อนหลังจากเรียนจบ จึงไม่ได้เจอกัน
เธอกลับมาถึงบ้านพวกท่านก็บอกเล่าให้เธอฟัง แต่เพราะเธอรู้ว่าเขากลับมานานแล้ว มีข่าวกับสาว ๆ ไม่เว้นแต่ละวัน เพิ่งจะนึกมาเยี่ยมเยียนกัน
“เสียดายที่ลูกไม่อยู่ พ่อเปรมกับคุณลุงคุณป้ามาเยี่ยมเมื่อหลายวันก่อน”
“กลับมาตั้งนานแล้ว เพิ่งนึกมาเยี่ยม สงสัยคงลืมไปแล้วกระมังคะว่ามีคู่หมั้นคือหนูอยู่อีกทั้งคน”
“พี่เขาก็คงงานยุ่งน่ะจ้ะ เรียนจบกลับมาคุณลุงก็ให้เข้าไปรับตำแหน่งประธานบริษัท ดูแลงานต่อจากคุณลุงนพเลยน่ะจ้ะ”
“ยุ่งงานหรือยุ่งอะไรกันแน่คะ หนูเห็นมีข่าวกับสาว ๆ ไม่เว้นแต่ละวัน เนื้อหอมเสียจริง” พิมพ์พิศากอดอกทำปากยื่นตามประสา
“ธรรมดาที่จะมีสาว ๆ มาชอบพอพี่เขานะลูก เพราะพี่เขาเป็นหนุ่มไฟแรงและเป็นทายาทบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ของประเทศ ผู้หญิงคนอื่นไม่สำคัญหรอกจ้ะ ลูกหมั้นหมายกับพี่เขาแล้วก็ต้องเป็นไปตามนั้นจ้ะ”
“ลูกไม่อยากแต่งงานกับผู้ชายเจ้าชู้ค่ะคุณแม่ แค่กลับมาไม่กี่วันก็มีข่าวถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าขืนแต่งงานกันไปได้น้ำตาเช็ดหัวเข่าเป็นแน่”
“ไม่แต่งไม่ได้ แบบนั้นพ่อกับแม่ก็เสียสัตย์ที่เคยให้ไว้กับลุงนพกับป้าอัมพรน่ะสิ”
“คุณพ่อกับคุณแม่ไม่เคยบังคับลูกมาก่อน ครั้งนี้ลูกก็ขอให้เป็นแบบนั้น ถ้าลูกพิสูจน์ได้ว่าพี่เปรมไม่ได้รักลูกจริง อีกทั้งยังเจ้าชู้ไม่เลือก เราขอถอนหมั้นได้ไหมคะ ลูกไม่อยากน้ำตาเช็ดหัวเข่าต้องเป็นเมียหลวงและเห็นสามีมีเมียน้อยค่ะคุณพ่อคุณแม่”
“ตายแล้ว เป็นสาวเป็นแส้พูดออกมาได้ยังไงว่าจะถอนหมั้นกับผู้ชายก่อน ผู้ชายแบบพี่เปรมหาได้ง่าย ๆ เสียที่ไหนกันล่ะ” พิมพ์แก้วยกมือขึ้นทาบอก
“ถ้ารูปหล่อพ่อรวย หาได้เยอะแยะไปค่ะ แต่ถ้านิสัยดีเหมาะที่จะเป็นสามีและพ่อของลูกต้องดูกันอีกยาวไกลค่ะ พี่เปรมจากลูกไปเรียนต่อเมืองนอกตั้งหลายปี ตอนนี้อาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้นะคะ”
“เราก็อคติกับพี่เขาจนเกินไป”
“ไม่หรอกค่ะคุณพ่อคุณแม่ เวลาเปลี่ยนใจคนก็เปลี่ยนไปด้วย” พิมพ์พิศานึกถึงตอนที่เธอไปส่งเปรมที่สนามบินเมื่อหลายปีก่อนได้ดี
“พี่เปรมอย่าลืมน้องพิมพ์นะคะ”
“ไม่ลืมหรอกครับ น้องพิมเป็นว่าที่เจ้าสาวของพี่” เขาลูบผมนุ่มสลวยของเธอไปมาเบา ๆ ด้วยสายตาเอ็นดู
“ก็ได้ พ่อกับแม่จะยอมให้ลูกพิสูจน์ความดีของพี่เขาก็ได้” ประโยคของมารดาทำให้พิมพ์พิศาหลุดจากภวังค์ความคิด
“คุณแม่พูดจริงเหรอคะ”
“จริง เพราะพ่อกับแม่ชื่อว่าพี่เปรมของเราเป็นคนดีจ้ะ” ตั้งแต่เล็กจนโตมาทั้งสองไม่เคยบังคับพิมพ์พิศาเลย แต่สองสามีภรรยาก็มั่นใจว่าเปรมเป็นคนดี
“แต่ถ้าพี่เปรมเขารักลูกจริง และไม่ได้มีหญิงอื่น เป็นเพียงแค่ข่าวลือหรือหญิงอื่นเข้าหาพี่เขาเองเท่านั้น ลูกก็ต้องแต่งงานกับพี่เขา โอเคไหม” เพราะเลี้ยงลูกมาไม่เคยบังคับ ปล่อยให้คิดและตัดสินใจเอง นั่นทำให้สองสามีภรรยา เพลิงกับพิมพ์แก้วปล่อยให้ลูกได้พิสูจน์ใจคู่หมั้นของตนเองก่อนที่จะแต่งงานกัน พิมพ์พิศาเพิ่งอายุยี่สิบเอ็ดและเพิ่งเรียนจบปริญญาตรี ส่วนเปรมเองก็อายุยี่สิบเจ็ดย่างยี่สิบแปด ทั้งสองยังมีเวลาศึกษาดูใจกันอีกหลายปี
“ค่ะคุณแม่ ถ้าพี่เปรมดีจริง ลูกจะแต่งงานกับพี่เขาโดยไม่มีอะไรบิดพลิ้วอีก” พิมพ์พิศาคิดมาถึงตรงนี้ก็แอบกัดปากตัวเองเบา ๆ
หล่อนคิดว่า เขาคงจะทำเป็นลืมเลือนเรื่องการหมั้นหมายในครั้งนี้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องแต่งงานกับเธอ เขาจึงทำเป็นจำเธอไม่ได้
พิมพ์พิศาเองก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับคนเจ้าชู้เช่นเขาเหมือนกัน แต่บิดามารดานั้นยังยึดถือคำมั่นสัญญาระหว่างกัน
เธออยากจะพิสูจน์ให้บิดามารดารู้ว่า ผู้ชายที่เป็นคู่หมั้นของเธอนั้น แท้ที่จริงแล้วไม่ดีอย่างที่ท่านคิด เพียงแค่กลับมาไม่กี่วันก็กลายเป็นหนุ่มเนื้อหอม สาว ๆ รุมกันแย่งอยากที่จะขึ้นเตียงด้วยทั้งนั้น
เมื่อแน่แก่ใจแล้ว ว่าเขาไม่ได้ดีจริง เธอก็จะขอถอนหมั้นกับเขา จะได้ไม่มีใครครหาได้ว่าเธอไม่ดีจนผู้ชายไม่เอามาเป็นเมีย แต่เขาต่างหากประพฤติตัวไม่ดีก่อน
พิมพ์พิศาเข้ามาเป็นเลขาของเขาโดยการปลอมตัวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ใจเธออยากให้เขาจำเธอได้ แต่ปรากฏว่าเธอต้องผิดหวังอย่างรุนแรง