Chapter 2 สองมือที่ไม่อาจยื้อเธอไว้ (2)

1433 Words
Chapter 2 สองมือที่ไม่อาจยื้อเธอไว้ (2) แสงจากด้านนอกสาดส่องลอดม่านสีขาวสะอาดเข้ามาในห้อง มาพร้อมกับเสียงนกขับขานพร่ำรำพันถ้อยคำรักดังหวานแว่วอยู่บนคาคบร่มไม้เขียวรื่น...บนเตียงกว้าง...ปราชญ์สะดุ้งตื่นขึ้นมาจากฝันร้ายที่ตามหลอกหลอน เขาฝันว่าได้เซ็นต์ชื่อหย่าขาดจากภรรยาเป็นที่เรียบร้อย หล่อนเดินจากเขาไปกับผู้ชายคนนั้นโดยไร้ซึ่งอารมณ์อาลัยอาวรณ์..สมองที่อื้ออึงหนักอึ้งพยายามสลัดความคิดจากห้วงฝันออกไปจากสมอง แววตาเจือความเจ็บปวดไล่มองไปบนที่นอนข้างกายฝั่งที่ว่างเปล่า ฝ่ามือแกร่งไล้ไปบนผืนผ้าเย็นลื่นด้วยใจที่โหยไห้เมื่อวันนี้ไร้คนนอนเคียงกาย...และ...ผืนผ้าปูที่แปลกไปเมื่อยามสังเกต ทำให้ฝ่ามือแกร่งชะงักการเคลื่อนไหวโดยพลัน "หืมมม..." สติที่ยังไม่เต็มร้อยทำให้เขาเหลียวมองไปรอบกาย เมื่อพลิกกลับมาอีกด้านก็เห็นร่างเล็กยังคงนอนหลับสนิทภายใต้ผ้าห่มอุ่น...นั่นแสดงว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้นอนที่คลินิก แต่เขาขับรถมาที่บ้านท่ามกลางความเมา 'บ้าจริง! ขับมาได้ไง' ชายหนุ่มผลุนผลันลุกนั่งแล้วยกแขนขาขึ้นสำรวจว่ามีอะไรบุบสลายหรือไม่ เมื่อคืนเขารู้แค่ว่าตัวเองเมามากจนขับรถออกมาจากคลินิก รู้แค่ว่าอยากมาหาลูก อยากนอนกอดเด็กๆ ให้คลายจากความเสียใจที่อัดแน่น เมื่อมาถึงบ้านหลังนี้ เหตุการณ์เป็นยังไงต่อนั้นเขาจำไม่ได้เลย 'กานดา!' ต้องพรวดพราดลงจากเตียงเมื่อมองเลยเตียงนอนไปยังฟากตรงข้ามแล้วเห็นร่างที่นอนคุดคู้อยู่บนพื้น...หล่อนไปนอนทำอะไรตรงนั้น สมองของคนที่ยังไม่สร่างดีเริ่มคิดอย่างงุนงง เมื่อมองสำรวจจนทั่วห้องเขาจึงแน่ใจว่าที่นี่คือห้องของดากานดา เขานอนบนเตียงของเจ้าหล่อนมาทั้งคืน และ...สาเหตุ ที่ทำให้หล่อนไปนอนอยู่ตรงนั้นก็คงเพราะเหตุนี้แน่นอน หล่อนยังคงหลับใหลอยู่บนที่นอนปิคนิคที่ใช้ปูรองพื้นชั่วคราว เมื่อความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามา ชายหนุ่มจึงเดินไปหยุดยืนอยู่ใกล้ๆ ย่อกายลงนั่งข้างคนนอนหลับ ก่อนจะค่อยๆ สอดแขนไปใต้ร่างนุ่มนิ่มเพื่ออุ้มหล่อนกลับขึ้นไปนอนบนเตียง "ฮึ้บบบ...อื้อหืมม...เห็นตัวเท่ามดแต่หนักอย่างกับช้าง แต่งกับใครมีหวังเจ้าบ่าวแขนหักตั้งแต่คืนแรกแน่" คนเมาเดินเซเมื่ออุ้มร่างนั้นขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน อดที่จะหัวเราะกับคำพูดและความคิดล้ำลึกของตนไม่ได้ ในขณะที่คนนอนหลับไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลยว่าถูกคนหื่นคิดจินตนาการไปไกล 'กระดุม! หละ หลุด...' เขาดึงสายตากลับมาแทบไม่ทัน เมื่อขณะที่ค่อยๆ วางร่างนั้นลงบนเตียงก็เพิ่งสังเกตเห็นว่ากระดุมเสื้อชุดนอนตรงช่วงอกหลุดออกจากกัน เผยให้เห็นเนินเนื้อที่ซ่อนอยู่ข้างในเต็มสองตาเพราะหล่อนโนบรา คนเมาเบือนหน้าไปทางลูกสาวที่ยังคงหลับตาพริ้ม พร้อมกับมือสั่นๆ ยื่นไปจับสาบเสื้อเพื่อช่วยติดกระดุมให้เรียบร้อย ก่อนที่อะไรๆ จะทะลุทิ่มแทงสายตาของเขามากกว่านี้ "พะ พี่ปราชญ์!" ".....!" "ทะ ทำอะไรคะ!" ความซวยมาเยือนเมื่อดากานดาตื่นมาในจังหวะนั้นพอดี สมองของปราชญ์ยังคงสั่งงานช้าเพราะยังไม่สร่างดี สองมือของเขายังคงจับสาบเสื้อของเจ้าหล่อนเอาไว้อย่างนั้น และ...วินาทีนั้นเอง "กรี๊ดดด! ออกไปนะ" "พล็อก!" "โอ๊ย!" หมัดเล็กๆ กระแทกเข้ากับจมูกคมสันเต็มแรงโดยไม่ฟังเสียง คนถูกต่อยถึงกับผงะเซไปด้านหลัง มือข้างถนัดยกขึ้นกุมจมูกด้วยความเจ็บที่แล่นพล่านไปทั่วใบหน้า มันชาหนึบๆ จนหูอื้อตาลาย "ตาย มึงตายแน่ไอ้ปราชญ์" คนถูกทำร้ายแกล้งลงไปดิ้นกับพื้นคล้ายเจ็บนักหนา ดากานดามองภาพนั้นด้วยแววตาตื่นตกใจจากหลากหลายอารมณ์ ทั้งตกใจที่เข้าใจผิดว่าเขาจะทำมิดีมิร้าย อีกใจหนึ่งคือความห่วง ใยที่ทำเขาเจ็บตัว และในห้วงของความสับสน ร่างที่ดิ้นพล่านเมื่อสักครู่ก็แน่นิ่งไป "พะ พี่ปราชญ์!" "....." "ยะ แย่แล้ว! จะตายมั้ยนะ" การที่เขานิ่งไปไม่ไหวติงทำให้ใบหน้าสวยซีดเผือด ดากานดาปราดเข้าไปนั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆ คนตัวโตด้วยใจที่เต้นแรง สองมือเขย่าร่างนั้นไปมาเพื่อให้เขาตอบสนอง ปลายนิ้วเรียวอังไปที่จมูกของเขาเพื่อตรวจจับจังหวะการหายใจ "มะ ไม่หายใจ! ถะ ถึงตายเลยเหรอ!" หล่อนหดมือกลับท่ามกลางเหงื่อที่เริ่มชื้นขึ้นมาตามฝ่ามือ ไวเท่าความคิด รีบผลุนผลันลุกขึ้นยืนแล้วพรวดพราดเปิดประตูออกไปนอกห้อง...ต้องไปบอกคนในบ้าน หล่อนคิดเช่นนั้น.. "จริงเหรอกานดา!" ปรียานุชและดารณีอุทานออกมาพร้อมกันหลังดากานดาละล่ำละลักบอกเล่าเสียงสั่นจนจับใจความไม่ได้ รู้เพียง แต่ว่าปราชญ์ถูกต่อยจนน็อกแน่นิ่ง ทั้งสองยกมือขึ้นทาบอกแล้วมองหน้าสบตากัน ก่อนจะพูดออกมาพร้อมกันราวนัดเอาไว้ "รีบไปดูตาปราชญ์กันเถอะ ส่วนกานดารีบโทร.แจ้งรถ พยาบาลนะ!" ทั้งสามวิ่งกลับขึ้นชั้นสองไปพร้อมกัน จุดมุ่งหมายคือห้องดากานดา "นี่ค่ะ เขาอยู่ในนี้!" ดากานดาผลักบานประตูเข้าไปแรงๆ เพราะกลัวจะไม่ทันการ และเพียงบานประตูถูกเปิดกว้างตามมาด้วยคนสามคนที่พรวดพราดเข้าไปในห้อง ภาพแรกที่เห็นคือคนสองคนกำลังนั่ง หยอกกันอยู่บนเตียง "หืมมม..." "พากันยกขโยงมาทำอะไรครับ" "กะ ก็ เมื่อกี้ยัง..." ดากานดาพึมพัมกับตัวเองเบาๆ พลางยกมือขึ้นเกาหัวอย่างงุนงง ก่อนจะสบตากับคนที่นั่งซ่อนยิ้มอยู่บนเตียง 'อีพี่ปราชญ์บ้า เขาแกล้งเรางั้นเรอะ...' ปรียานุชสะกิดหลานสาว เมื่อเห็นลูกชายตัวดียังคงอยู่สุขสบายดี ซ้ำยังส่งยิ้มระรื่นมาให้ตนด้วย "กานดา ไหนบอกตาปราชญ์ไม่หายใจไง" "ว่าไงครับคุณแม่ คุณน้า พากันมาทำอะไรแต่เช้าครับ" "นั่นสิคะ คุณย่านุชกับคุณย่าณีมาตามปาป๊าเหรอคะ" สาวน้อยลลินเอียงหน้ามองตาแป๋ว เมื่อไม่เข้าใจว่าผู้ใหญ่เล่นอะไรกันแต่เช้า "สะ สงสัยฟื้นแล้วค่ะ ฟื้นขึ้นมาเอง" เจ้าของห้องล่ะล่ำละลัก พลางใช้มือดันหลังมารดาและคุณป้าให้ออกไปนอกห้อง ท่ามกลางความงุนงงของคนสองคน ส่วนดารณีนั้นมีความหวาดระแวงในตัวหลานชายอยู่ไม่น้อย เพราะเขาเข้ามานั่งเล่นกับลูกอยู่ในห้องนอนของดากานดาหน้าตาเฉย "กานดา ตาปราชญ์เข้ามาตั้งแต่ตอนไหนจ๊ะ" "อะ เอ่อ...มะ มา เมื่อเช้าค่ะ" "เอาจริงๆ นะ อย่าโกหกแม่" "จริงค่ะ แล้วเราก็...เอ่อ...หยอกกันแรงไปหน่อยจนพี่ปราชญ์ต้องเจ็บตัว ก็เลยลงไปตามทุกคนมาไงคะ" เหลือบตามองไปทางคนก่อเรื่อง เห็นเขานั่งยิ้มมองมาด้วยแววตารู้เท่าทัน ซ้ำยังปั้นหน้าทำเหมือนหล่อนเป็นตัวตลกที่ถูกเขาปั่นหัวอย่างง่ายดาย "ดีนะที่ยังไม่โทร.เรียกรถพยาบาล ไม่อย่างนั้นคงถูกด่าไปยันบรรพบุรุษแน่ ทีหลังอย่าเล่นอะไรแบบนี้อีกนะ คนแก่หัวใจจะวาย" ปรียานุชยอมที่จะเดินออกไปเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรต้องห่วง หันไปสบตาน้องสาวให้ตามลงไปพร้อมกันเพื่อเดินออกกำลังกายตอนเช้า ด้านดากานดารีบปิดประตูห้องแล้วมองไปยังคนบนเตียงตาเขม็ง อยากจะตะโกนดังๆ ใส่หน้าเขาที่แกล้งกันได้ทุกเวลา และใจก็ยังไม่เคลียร์เรื่องที่ตื่นมาในจังหวะนั้นพอดี หากแต่แววตาดำขลับของหลานสาวที่จับจ้อง ก็ทำให้ต้องเก็บความขุ่นเคืองเอาไว้ภายใน ไม่อยากให้หลานต้องมารับรู้เรื่องราวของผู้ใหญ่มากไปกว่านี้ ทำได้เพียงอาฆาตแค้นรอวันเอาคืน 'ฝากไว้ก่อนเถอะ แกล้งดีนักใช่มั้ย'
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD