ยังจำได้ดีในวันนั้นที่เธอโดนรับน้องคณะบัญชีของตนเองอย่างหนักจนกระทั่งจะเป็นลมตอนเดินกลับบ้าน ผู้ชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาอุ้มเธอไปวางไว้ที่เก้าอี้หินอ่อน หาน้ำมาให้ดื่ม จนกระทั่งเธออาการดีขึ้นจึงพาไปเรียกแท็กซี่ที่หน้ามหาวิทยาลัย
เป็นเขา พี่ธาวินคนนี้ ที่เธอแอบมีเขาในใจตั้งแต่วันนั้น ไม่เคยลืม แต่เขาเองคงจะลืมเธอไปแล้ว ที่นั่งตักอยู่นั่นก็พี่แนน ดาวคณะนิเทศศาสตร์ปีสี่ พ่วงตำแหน่งดาวมหาวิทยาลัยไปด้วย ช่างเหมาะสมกันดีแท้
หัวใจของริสาแกว่งไกวนิดหนึ่งราวกับคนผิดหวังในความรัก ทว่าก็ต้องปฏิบัติตามหน้าที่
“ เดี๋ยวเก็บให้นะคะคุณลูกค้า ” เธอว่าพลางเดินกลับไปหยิบอุปกรณ์ในห้องพนักงาน จังหวะนั้นธาวินรีบยกตัวหญิงสาวออกจากการรวมร่างซึ่งเธอขืนขัดอย่างหงุดหงิด
“ เอาออกทำไมล่ะวิน ”
“ เธอจะบ้าหรือไงแนน เดี๋ยวเด็กนั่นก็กลับมาเก็บจานที่แตกอีก ”
“ แล้วไง มันเก็บแล้วเดี๋ยวมันก็ไป เราก็เอากันต่อได้ ”
“ ไม่ดีหรอก แค่นั่งตักกันก็น่าเกลียดแล้ว ”
“ ไม่ใช่ว่าอยากจะเคลมนังพนักงานนั่นหรอกนะวิน ”
“ บ้าน่าแนน ” การถกเถียงจำต้องหยุดลงเมื่อพนักงานคนนั้นกลับมาพร้อมที่ตักที่ตักผงและไม้กวาด เธอก้มลงเก็บกระเป๋าเป้แล้ววางไปบนเก้าอี้ ก่อนจะหยิบเศษอันใหญ่ ๆ ใส่ที่ตักผง ความตื่นเต้นทำให้มือเธอสั่น แล้วโดนเศษจานบาดเอาทันที
“ อุ๊ย ! ” เธออุทานก่อนชักมือออก ชายหนุ่มรีบปรี่เข้ามาหาอย่างรวดเร็ว
“ เฮ้ยน้อง เลือดออกเลย ” เธอจะชักมือกลับ ทว่าไม่ทันเสียแล้ว เพราะอีกฝ่าย จับนิ้วน้อยที่บาดเจ็บเข้าสู่ริมฝีปากสวยได้รูปเกินชายแล้วดูดมันเบา ๆ
“ อ๊ะ ” เธออุทานอย่างตกใจ แต่มีคนที่ตกใจกว่าคือพี่แนนที่ร้องโวยวายลั่น
“ วินจะบ้าหรือไงวะ ไปดูดเลือดคนอื่นมั่วซั่วแบบนั้นได้ไง เดี๋ยวก็ติดเอดส์ตายห่าพอดี ”
“ หนูไม่ได้เป็นเอดส์นะคะ ” ริสาโต้กลับทันควัน ธาวินกระตุกยิ้มที่มุมปากนิดหนึ่งก่อนจะเอานิ้วของเธอออกจากปาก
“ เอดส์น่ะ มันเป็นได้กับพวกที่สำส่อนทางเพศแล้วไม่ป้องกันนะแนน แต่น้องคนนี้คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก จริงไหม ” ท้ายประโยคเขาหันมาสบตากับริสา เธอหน้าแดงก่ำก่อนพยักหน้าเบา ๆ
“ จะ... จริงค่ะ ”
“ เลือดยังไม่หยุดเลย ” ชายหนุ่มว่าอ้าปากดูดนิ้วน้อยนั้นอีก แต่คราวนี้มันไม่ได้แค่ดู แต่ยังใช้ลิ้นสากเลียขึ้นลง เบา ๆ อีกด้วย
ศีรษะของริสาหมุนคว้าง หัวใจเต้นถี่รัว ดูดห้ามเลือดจำเป็นต้องทำขนาดนี้ด้วยหรือ
แนนลุกขึ้นแล้วเดินมาหาธาวิน พร้อมดึงศีรษะเขาออกจากมือของริสาทันที
“ พอแล้ววิน เกินไปแล้วนะ เธอ ไปได้แล้ว ” ท้ายประโยคเธอหันมาตะคอกริสาที่สะดุ้งเฮือก
“ เอ่อ ค่ะ ตะ... แต่ว่าหนูยังเก็บไม่เสร็จ ” เธอว่าพลางลุกขึ้นยืนแล้วก้มลงกวาดเศษจานใส่ในถังตักผง สายตาแพรวพราวเจ้าเล่ห์ของชายหนุ่มจ้องมองไปยังสะโพกกลมกลึงภายใต้กระโปรงสั้นอันเป็นเครื่องแบบพนักงานไม่วางตา
“ มองเหี้ยไรวะวิน ไปจ่ายตังค์ กลับ ! ” แนนว่าพลางลากร่างใหญ่ไปยังเค้าท์เตอร์คิดเงิน ริสาแอบช้อนสายตาขึ้นมองทั้งคู่ พลันหัวใจก็กระตุกวูบอีกครั้ง เพราะหนุ่มหล่อที่หล่อนแอบมีเขาในใจก็กำลังมองมาด้วยสายตาเยิ้มฉ่ำราวจะกลืนกิน
*************************************
รุ่งเช้า
ริสาตื่นสายนิดหน่อยเพราะเมื่อคืนหลังกลับจากทำงานพิเศษ เธอต้องมาแพ็คข้าวของเพื่อเตรียมย้ายบ้าน หลังจากอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็ว เธอก็วิ่งไปยังป้ายรถเมล์ เพื่อไปมหาวิทยาลัยในทันที
โชคดีที่เธอวิ่งไปทันรถเมล์อย่างหวุดหวิด แต่ก็ยังถือว่าสายอยู่ดี ทันทีที่ลงจากรถ หญิงสาวก็เดินเร็วจนแทบเป็นวิ่งเข้าไปในมหาวิทยาลัย ที่จริงก็อยากจะวิ่งให้ไวแต่ติดที่รองเท้าคัชชูส้นสูงที่สวมอยู่นั่นแหละ
ทว่าเมื่อถึงทางแยกที่จะไปที่ตึก เธอก็เจอเจ้าโอเลี้ยง สุนัขแก่สีดำประจำมหาวิทยาลัยที่กำลังเดินงก ๆ เงิ่น ๆ อยู่กลางถนน มันกระดิกหางใส่ริสาทันทีอย่างจำได้ เพราะเธอเอาเศษอาหารหรือไม่ก็ขนมจากโรงอาหารมาให้มันทุกวัน หญิงสาวทรุดตัวลงลูบศีรษะมันเบา ๆ
“ โอเลี้ยง วันนี้ไม่มีเวลาเล่นด้วยนะ เค้าสายแล้ว เดี๋ยวตอนเลิกเรียนค่อยว่ากัน โอเคไหม ”
แต่เจ้าโอเลี้ยงมันร่าเริงสุดขีด ยังคงทั้งวิ่งทั้งกระโดดทั้งเลียมือริสาดักหน้าดักหลัง เธอเองเดินอยู่บนริมถนนเจ้าโอเลี้ยงก็กระโดดโลดเต้นอย่างดีอกดีใจ
พลันนั้นเธอก็ได้ยินเสียงรถยนต์ เมื่อหันไปมองก็พบรถเก๋งยี่ห้อหรูคันหนึ่งวิ่งเข้ามาใกล้ เธอขยับถอยขึ้นบนฟุตบาธ แต่เจ้าโอเลี้ยงยังคงกระโดดโลดเต้นอยู่กลางถนน อาจจะเพราะมันแก่มากแล้ว ประสาทรับรู้มันคงลดน้อยถอยลง ประกอบกับรถคันนั้นเสียงเบามาก มันจึงไม่ได้ยิน
รถบีบแตรดังลั่นเมื่อเข้ามาใกล้ ริสาเห็นเจ้าหมาแก่ยังคงร่าเริงอยู่กลางถนนก็รีบกระโดดลงไปผลักมันให้พ้นทางรถที่เบรคดังเอี๊ยด !
คนขับรีบเปิดประตูแล้ววิ่งลงมายังทั้งสองทันที
“ อ้าว หนูนี่เอง เป็นไรมากหรือเปล่า พี่ขอโทษนะ พี่ขับรถไวไปหน่อย ”
ริสาลืมตาขึ้นมองผู้ชายที่พยุงร่างตัวเองเข้าไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะตาเบิกโพลงอย่างตกใจ
“ พี่ธาวิน ! ”