เปลือกตาสีมุกขยุกขยิกอยู่นานก่อนจะเปิดขึ้น นภาลัยตื่นขึ้นมาให้ห้องมืดมิดที่ไม่มีแสงแดดส่องเลยแม้แต่น้อย มือเล็กควานหาโทรศัพท์ที่มักจะเอาไว้ข้างตัว ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ในห้องนอนของตัวเอง
ร่างเล็กลุกพรวดขึ้นทันที ตากลมกวาดมองรอบห้องอย่างระแวง เมื่อคืนเธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ และถ้าจำไม่ผิดตอนนั้นพายุอารมณ์ของดราก้อนยังไม่จบลงด้วยซ้ำ
นภาลัยสำรวจร่างกายตัวเองก่อนจะพบว่ามันเปลือยเปล่า อีกทั้งยังมีร่องรอยที่อีกคนฝากเอาไว้ แต่นั่นไม่เท่ากับความเหนอะหนะกลางร่างกายซึ่งเป็นหลักฐานชั้นดีว่าเมื่อคืนเธอปลดปล่อยมันออกมามากแค่ไหน และที่สำคัญหมอนั่นไม่คิดจะทำความสะอาดให้เธอสักนิด
“ไร้น้ำใจชะมัด”
ถึงจะบ่นอย่างนั้นนภาลัยก็ได้แต่หอบร่างกายเมื่อยล้าเข้าไปในห้องน้ำ แล้วจะได้ออกไปจากห้องนี้สักที และเพราะเสื้อผ้าขาดวิ่นไปหมดเธอเลยค้นหาเสื้อผ้าเจ้าของห้องโดยไม่ขออนุญาต แต่ไม่ทันจะสวมใส่ประตูห้องก็ถูกเปิดออกเสียก่อน
แกรก
“ว้าว ยั่วเหรอ”
“...” นภาลัยตวัดตามองอีกคนที่เอาแต่กวนประสาท แต่ได้รับกลับมาเพียงรอยยิ้มยียวนเท่านั้น
“อะไร เป็นแฟนกันแล้วก็เย็นชาเลยหรือไง”
“พี่อารมณ์ดีอะไรเนี่ย” คำหยอกเย้าทำนภาลัยนึกแปลกใจ
“เพราะเมื่อคืนมั้ง เธอเอามันสุด ๆ”
“แค่ก ๆ หยุดพูดนะ !” เพราะอีกคนกล้าพูดเรื่องน่าอายได้อย่างหน้าตาเฉยทำนภาลัยต้องรีบปรี่เข้าไปปิดปากหยักไว้ แต่แทนที่ดราก้อนจะอับอายเขากลับส่งลิ้นร้อนมาเลียฝ่ามือขาวจนนภาลัยต้องรีบปล่อย
“หึ รีบแต่งตัวจะได้ออกไปกินข้าว”
“ฉันต้องไปทำงาน”
“ตอนเที่ยงเนี่ยนะ”
“ฮะ ?”
ดราก้อนไม่ตอบ เขาชูหน้าจอโทรศัพท์เสมอใบหน้าพลางโบกส่ายไปมาราวกับคนอารมณ์ดีนักหนา และในนั้นก็ปรากฏเวลาเที่ยงตรงอย่างที่อีกคนพูดจริงๆ แต่เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อคืนนภาลัยก็ไม่แปลกใจว่าทำไมตัวเองถึงตื่นสายนัก...
...
นภาลัยนั่งหน้าบึ้งบนรถยนต์คันสวยที่กำลังแล่นไปตามถนน เพราะตอนนี้เป็นเวลาบ่ายโมงกว่าทำให้รถไม่ติดมากนัก แต่สิ่งที่ทำให้เธอไม่พอใจคือเรื่องเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้
“แล้วทำไมฉันต้องไปกินข้าวกับพี่ด้วย”
“เธอมีแฟนไว้ทำแค่เรื่องอย่างว่าหรือไง”
“ก็เปล่า ใครจะมีแฟนไว้เพื่อทำเรื่องอย่างนั้นกัน” เธอไม่ใช่เขาสักหน่อย
“นั่นไง ไหน ๆ ก็แกล้งเป็นแฟนกันแล้วก็ต้องทำให้เนียนหน่อยสิ”
อีกสิ่งหนึ่งที่เธอได้รู้เลยคือดราก้อนเอาแต่ใจมาก ขนาดที่คิดว่าลิลลี่เอาแต่ใจแล้วแต่เมื่อได้เจอคุณพี่ชาย เพื่อนสนิทคือชิดซ้ายไปเลย และสุดท้ายนภาลัยก็ต้องมานั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถอย่างจำใจ
ใช้เวลาไม่นานทั้งสองก็มาถึงห้างสรรพสินค้าชื่อดัง และครั้งนี้ดราก้อนเป็นคนเลือกทุกอย่างโดยไม่ถามความเห็นของเธอสักนิด
แต่เหมือนวันนี้โชคจะไม่เข้าข้างเธออีกแล้ว ทั้งที่ร้านอาหารแห่งนี้มีพื้นที่ไม่น้อยแต่เธอดันได้มานั่งโต๊ะข้างกับสองคนนั้น
นภาลัยมองอดีตคนรักที่กำลังทานอาหารกับผู้หญิงคนอื่นด้วยใจที่เจ็บแปลบเล็กน้อย ภาพในอดีตที่เรามักจะไปทานอาหารหรือหยอกล้อกันฉายวาบเข้ามาในหัวก่อนที่เธอจะขับไล่มันออกไปอย่างรวดเร็ว
แต่เหมือนว่าเมื่อครู่นภาลัยจะจ้องมองสองคนนั้นนานไปหน่อย อเล็กซ์ถึงได้รู้ตัวเข้า และไม่ใช่แค่อเล็กซ์เพราะแก้มใสที่หันหลังให้เธอก็มองตามสายตาเขาเช่นกัน
แก้มใสอยู่ในชุดเดรสสั้นรัดรูปสีขาว ต่างจากเธอที่ใส่แค่เสื้อตัวใหญ่และกางเกงวอร์มที่พอจะใส่ได้ของดราก้อน
นี่สินะที่เขาบอกว่าเมื่อเราไม่ได้แต่งตัวแล้วมักจะเจอแฟนเก่าที่มาพร้อมกับแฟนใหม่ อีกทั้งยังไฉไลกว่าเธอมาก ๆ และเมื่อคิดถึงคนที่ทำให้เธอต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ก็อดส่งสายตาไม่พอใจไปให้ไม่ได้ และอีกฝ่ายทำเพียงเลิกคิ้วอย่างสงสัยเท่านั้น
“เป็นอะไร”
“เปล่า สั่งอาหารเถอะ”
สิ้นเสียงต่างคนก็ต่างสั่งอาหารของตัวเองไร้ซึ่งความโรแมนติก ก่อนจะก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มือถือเพื่อฆ่าเวลารออาหาร และเหมือนว่าชีวิตเธอจะไม่ราบรื่นขนาดนั้น เพราะคนที่ไม่อยากเห็นหน้าที่สุดดันเข้ามาทักทายอย่างหน้าไม่อาย
“ฟ้า”
เฮ้อ…
“อื้ม”
“มากับแฟนเหรอ” นภาลัยชะงักไปครู่หนึ่ง เมื่ออีกแก้มใสเอ่ยถึงคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามอีกทั้งท่าทางพวกเราก็ดูห่างเหินไม่เหมือนแฟนกันสักนิด แต่นั่นไม่เท่าสายตาของผู้มาใหม่ที่เอาแต่มองดราก้อนไม่ละสายตา
ดราก้อนใส่เสื้อผ้าแทบไม่ต่างไปจากเธอ เขาอยู่ในเสื้อยืด แบรนด์เนมไร้โลโก้สีขาวล้วนกับกางเกงวอร์มสีดำแต่แค่นั้นก็ทำให้หมอนี่ดูดีกว่าคนอื่นไปมาก ช่างแตกต่างจากเธอที่อย่างกับเด็กขโมยเสื้อพ่อมาใส่
“อื้ม ถ้าไม่มีอะไรก็อย่ามาวุ่นวายได้ไหม อีกอย่างปล่อยแฟนนั่งคนเดียวแบบนั้นไม่เหงาแย่เหรอ”
“ทำไมเธอต้องใส่ใจแฟนคนอื่นขนาดนั้นด้วยล่ะ”
“ก็แค่สงสารน่ะ คนที่มาด้วยกันเที่ยวส่งสายตาให้แฟนคนอื่นไปทั่วคงไม่ดีเท่าไหร่ แต่อย่างเธอมันคงเป็นนิสัย ไม่สิ เป็นสันดานไปแล้วมั้ง”
“ฟ้า !”
“ช่วยลดเสียงหน่อยได้ไหม พอดีเราเป็นพวกขี้รำคาญน่ะ” ดราก้อนที่เงียบอยู่นานเอ่ยขึ้น เพราะดูท่าแล้วคนที่มาทักทายไม่น่าจะมีจุดประสงค์ที่ดีนัก
และแค่น้ำเสียงราบนิ่งจากคนตัวสูงก็ทำแก้มใสกลืนคำด่าและเสียงแหลม ๆ ลงคอแทบไม่ทัน
“ขอโทษพี่กรด้วยนะคะ ถ้าอย่างนั้นแก้มขอตัวก่อนน้า” ไม่รู้แก้มใสโง่จริง ๆ หรือแกล้งโง่ถึงดูไม่ออกว่ารอยยิ้มที่ได้รับมันจอมปลอมขนาดไหน
นภาลัยหันกลับมามองหน้าร่างสูงที่ยังคงมองตามหลังคนที่เพิ่งเดินออกไป
“พี่อย่าลืมสัญญาของเราล่ะ”
“ไม่ลืมหรอกน่า”
ดวงตาสวยหรี่มองอย่างไม่ไว้ใจเพราะรู้ว่าดราก้อนขึ้นชื่อว่าเป็นตัวพ่อเรื่องเสือผู้หญิง แต่เมื่อเธอลงทุนขนาดนี้แล้วก็คงทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมเชื่อใจ และภาวนาให้เขาจะรักษาสัญญาระหว่างเรา...
การทานอาหารเป็นไปอย่างราบเรียบและไร้บทสนทนา เธอกับดราก้อนไม่ได้สนิทกันพอที่จะพูดคุยอะไรแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้อึดอัดใจอย่างที่คิด แต่สิ่งที่ทำให้นภาลัยหงุดหงิดใจขึ้นมาหน่อย ๆ คือ เธอรู้สึกว่ามีบางคนจ้องมองเธอเป็นระยะ และคนคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากอเล็กซ์แฟนเก่าของเธอนั่นแหละ
ไม่รู้จะมองอะไรนักหนา...
“แค่มันมองก็หวั่นไหวหรือไง”
“เปล่าสักหน่อย” และไม่ใช่แค่เธอที่รู้สึกเพราะดราก้อนที่นั่งอยู่ด้วยกันยังรู้เลย เมื่อได้รับคำตอบเขาก็ทำเพียงยักไหล่อย่างไม่ยี่หระเท่านั้น
“งั้นเหรอ”
“หน้าแบบนั้นมันอะไรกัน” ดราก้อนไม่พูดเปล่าเพราะเขายังทำสีหน้าราวกับกำลังล้อเลียนเธออยู่อย่างนั้น
“เปล่าสักหน่อย”
“พี่กร !” นภาลัยมองอีกคนตาเขียวที่เขาแกล้งพูดตามเธอ แต่ดราก้อนทำเพียงหัวเราะเบา ๆ ต่างจากนภาลัยที่หน้ามุ่ยแล้วมุ่ยอีก
จะว่าไปบรรยากาศระหว่างเราก็ผ่อนคลายขึ้นเหมือนกัน แต่ในตอนที่คิดว่าเรื่องเธอกับดราก้อนกำลังจะดีขึ้นนั้นก็รู้สึกเหมือนมีเงาสีดำของใครบางคนกำลังพาดทับร่างเธอพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามาใกล้ขึ้น...ใกล้ขึ้น ก่อนที่จะ...
ซ่า !