นางเป็นหญิงรับใช้ข้างกายจอมมารประมุขพรรคเพลิงอัคนีที่มีประวัติยาวนานหลายร้อยปี คฤหาสน์ใหญ่โตอลังการเช่นนี้บ่งบอกได้ชัดถึงความยิ่งใหญ่ที่ได้มา นางเคยได้ยินพ่อบ้านจูโหย่งเจาพูดอยู่บ่อยๆ ว่า คฤหาสน์อัคนีแห่งนี้ยิ่งใหญ่ไม่น้อยกว่าวังหลวงเลยทีเดียว แต่ด้วยนางเป็นเพียงเด็กหญิงที่เติบโตในหมู่บ้านชนบท ครอบครัวของนางมีที่นาเล็กน้อยสำหรับเพาะปลูก เลี้ยงวัวนมและมีเป็ดไก่ไว้เก็บไข่กินเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว โลกขอนางเปลี่ยนไปทันทีในคืนนั้น...
หญิงสาวไม่รู้ว่าตัวเองถูกมองอยู่ นางหยิบม้วนหนังสือที่อ่านแล้วใส่ถุงผ้าไหมเรียบร้อยและนำไปวางที่ชั้นตามป้ายชื่อที่ติดไว้ เรื่องเหล่านี้มีพ่อบ้านจูโหย่งเจาสอนนางอีกนั้นแหละ แม้ท่านจอมมารมีบ่าวรับใช้นับร้อยชีวิต แต่มีไม่กี่คนที่ได้ใกล้ชิดเช่นนี้
หญิงงามนางบำเรอที่มีมากนัก ล้วนอยู่ในเรือนด้านหลัง พ่อบ้านจูโหย่งเจาเรียกว่า เรือนบุปผารัญจวน ที่นั่นมีเรือนหลังเล็กแยกย่อยไปให้แต่ละนางอยู่เป็นสัดส่วนพร้อมสาวใช้ติดตามตัวอีกสองคน เสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้และเงินทองนั้น พ่อบ้านจูโหย่งเจาทำบัญชีเบิกจ่าย ไว้อย่างละเอียด ละเอียดแม้กระทั้งว่าหญิงงามนางใดชอบผ้าสีไหน เครื่องประดับชนิดใด ตลอดจนอาหารการกิน ทำให้นางพลอยจดจำไปด้วย การจัดส่งเครื่องใช้ไปให้หญิงเหล่านั้น นางเองย่อมเป็นผู้ช่วยพ่อบ้านจัดการด้วย อู่ชิงและอู่ยินมักพูดหยอกล้อนางบ่อยๆ ว่านอกจากนางจะเป็นหญิงรับใช้ข้างกายท่านจอมมารแล้ว ยังเป็นผู้ช่วยพ่อบ้าน จูโหย่งเจาอีกด้วย แน่นอนว่าหากวันใดที่พ่อบ้านจูโหย่งเจาใช้งานนานเกินไป พ่อครัวเจี่ยนจะถือตะหลิวเข้ามาด้วยท่าทีหงุดหงิด ใช้ตะหลิวชี้หน้าพ่อบ้านจูโหย่งเจาแล้วลากตัวนางกลับไปช่วยงานใครัว ทั้งสองอายุไล่เลี่ยกันอ่อนแก่กว่ากันคงแค่ไม่กี่ปี แต่ทะเลาะกันราวเด็กน้อย บางครั้งพ่อบ้านจูโหย่งเจายื้อแขนซ้ายของนาง และพ่อครัวเจี่ยนยื้อแขนขวาของนาง ทำให้นางได้แต่หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก บ่าวรับใช้มีเป็นร้อย แต่ทุกคนต้องการใช้แรงงานของนางเป็นที่สุด
แต่ไม่ใช่ทุกคนจะเรียกใช้นางได้ แม้ปีนี้จอมมารเหิงหยางเซิงปีนี้จะอายุยี่สิบสามแล้ว แต่ยังไม่แต่งภรรยาเอกและไม่มีอนุ จะว่าไปนางคือสตรีนางเดียวที่ใกล้ชิดจอมมารผู้นี้มากที่สุด ใกล้ชิดเสียจนห้องนอนของนางคือห้องเล็กๆ ติดกับห้องนอนของจอมมารผู้นี้ เพียงเพื่อให้สะดวกแก่การเรียกใช้งาน นางจึงได้พักห้องเล็กเท่าห้องเก็บของข้างห้องของท่านจอมมารผู้ยิ่งใหญ่
ครึ่งปีก่อนหญิงสาวผู้หนึ่งที่ถูกส่งตัวมาเป็นเครื่องบรรณาการแด่ท่านจอมมาร นางเป็นที่โปรดปรานของเหิงหยางเซิงมาก คาดเดาจากการเรียกเข้าไปปรนนิบัติหลายคืนติดต่อกันนานนับเดือน แต่กระนั้นยังไม่มีสิทธิ์ได้ออกมาเดินเล่นนอกเรือนบุปผารัญจวน แต่ไม่รู้สตรีนางนั้นเอาความกล้ามาจากที่ใด เดินออกมานอกบริเวณที่กำหนดไว้ เชิดใบหน้างดงามขึ้นมองผู้อื่นด้วยสายตาหยามเหยียด
คนที่อาศัยอยู่ในพรรคเพลิงอัคนีนี้มีหลากหลาย แต่ก่อน ซินหรานเองเคยหวาดกลัวคนพวกนี้ บางคนใบหน้าอัปลักษณ์ บางคนมีรอยแผลเป็นน่ากลัว บางคนมีแขนเพียงข้างเดียว บางคนมีหกนิ้ว บางคนตัวสูงใหญ่ราวกับก้อนหินยักษ์ ทว่าเมื่อนางอยู่ไปได้เดือนเศษๆ เริ่มเข้าใจได้ดีว่า ภายใต้ความอัปลักษณ์และน่ากลัวนี้ มีจิตใจงดงามซ่อนอยู่ คนเหล่านี้รู้ว่านางผ่านเรื่องใดมา จึงคอยดูแลนางเสมอ อย่างที่รู้กันว่านางเป็นเด็กหญิงคนเดียวที่ไม่ต้องถูกส่งไปฝึกวรยุทธเพื่อเป็นนักฆ่า เรียกว่าเป็น ‘คนปกติ’ เพียงคนเดียวที่มีอยู่ในนี้ก็ว่าได้ แต่ละคนจึงทำเหมือนประคอง ‘คนปกติ’ อย่างนางไว้ในอุ้งมือ เมื่อทุกคนดีกับนาง นางจึงดีกับพวกเขา อาหารที่ฝึกทำนอกจากพี่อู่เฉียงและสหายร่วมสาบานแล้ว ก็เหลือมาแบ่งปันพวกเขาเช่นกัน
แน่นอนว่ามีคนรักย่อมมีคนชัง นางมักถูกหญิงงามของท่านจอมมารรังแกอยู่บ่อยๆ แต่นางไม่เคยโต้ตอบเพราะเห็นว่าตนเองเป็นเพียงหญิงรับใช้ฐานะต่ำต้อยกว่าหญิงเหล่านั้น โดยเฉพาะหญิงงามคนนั้นที่เป็นที่โปรดปรานในเวลานี้
ไม่คิดว่าวันนั้น นางกำลังก้มๆ เงยๆ ที่สวนดอกไม้เพื่อเก็บดอกวานโต่วฮวา (อัญชัน) ไปคั้นน้ำเอาสีน้ำเงินเข้มนั้นไปผสมกับก้อนแป้งให้ได้สีม่วงอ่อนจาง จู่ๆ นางถูกสาดน้ำเข้าใส่อ่างใหญ่ เล่นเอาเสื้อผ้าสีเขียวชุดหญิงรับใช้ของนางเปียกชุ่ม พอนางหันกลับไปมองเห็นหญิงรับใช้ของแม่นางคนงามถืออ่างในมือพร้อมสีหน้าสะใจ
ซินหรานได้แต่ยืนมองด้วยความงุนงง ยังไม่ทันเอ่ยถามอะไร นางถูกหญิงรับใช้ข้างกายหญิงสาวผู้นั้นฟาดฝ่ามือใส่ที่แก้มซ้ายจนใบหน้าสะบัดตามแรงมือ ความเจ็บทำให้นางได้สติยกมือขึ้นกุมแก้มด้านที่เจ็บ ยังไม่ทันก้าวเท้าหนี ร่างในชุดดำของอู่เฉียงมาปรากฏขวางไว้ได้ทันเวลา เขาไปมาไร้ร่องรอยราวภูติผีวิญญาณร้าย
“หลีกไป! ไม่เช่นนั้นข้าจะฟ้องท่านจอมมาร!”
“หากซินหรานทำผิด สมควรส่งนางให้พ่อบ้านจูโหย่งเจาลงโทษ แม่นางไม่ควรลงมือตบตีนางเช่นนี้” อู่เฉียงที่ปกติแทบไม่ค่อยปริปากพูดจา นับว่าครั้งนี้พูดได้ยาวมาก
“ความผิดของนางคือขวางหูขวางตาข้า เช่นนี้แล้วพ่อบ้าน จูโหย่งเจาจะจัดการเช่นไร” หญิงสาวเอ่ยขึ้นอย่างถือตัวว่าตนเองถูกเรียกใช้ไปปรนนิบัติบ่อยครั้งกว่าผู้อื่น
อู่เฉียงเพียงแค่ปรายตามองน้องสาวบุญธรรมของตน หญิงสาวผู้นั้นไม่เอ่ยอะไรอีก เหมือนสาสะใจในการกระทำครั้งนี้แล้วหมุนตัวเดินจากไป เขาจึงลอบถอนหายใจแล้วก้าวไปดูใบหน้าของซินหราน
“รีบใส่ยาเสีย ประเดี๋ยวจะบวมแล้วจะยิ่งระบม ถึงคราวนั้นเจ้าจะเจ็บยิ่งกว่ายามนี้”
ซินหรานพยักหน้ารับ แขนข้างหนึ่งคล้องตะกร้าใส่ดอกไม้ มือข้างหนึ่งกุมแก้มซ้ายเพราะไม่ต้องการให้ผู้ใดมองเห็นรอยฝ่ามือบนใบหน้า แต่เพราะนางผิวบาง โดนอะไรนิดหน่อยก็เห็นเป็นรอยชัดเจน รอยฝ่ามือบนแก้มซ้ายทำให้พ่อครัวเจี่ยนเดือดดาล ถือตะหลิวไปโวยวายกับพ่อบ้านจูโหย่งเจา พ่อบ้านจูโหย่งเจาได้แต่บอกให้นางระวังตัว นางไม่ได้พูดเรื่องนี้กับใคร และเชื่อว่าพี่อู่เฉียงก็คงไม่ทำด้วย แต่ไม่รู้เหตุใด วันถัดมาแม่หญิงคนงามถูกส่งตัวออกไปจากที่เกาะแห่งนี้
กลายเป็นที่รู้กันว่านางไม่ใช่หญิงรับใช้ที่ใครจะแตะต้องได้ แม้นางอยู่ในฐานะหญิงรับใช้แต่คนเดียวที่นางรับใช้คือจอมมาร เหิงหยางเซิง
หญิงสาวหมุนตัวกลับมาเห็นร่างสูงสง่าลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้ว เขาสวมอาภรณ์สีดำขลิบแดง ผ้าคาดเอวสีเงิน เช่นเดียวกับเกี้ยวรัดผมรูปพยัคฆ์คำราม ดวงตาดำขลับมองมาหญิงสาว คล้ายจ้องและไม่จ้องมอง ใบหน้าคมเข้ม คิ้วพาดเฉียงดุจกระบี่ ท่วงท่าองอาจสง่างาม เขาหล่อเหลางดงามดุจเทพเซียน ไม่น่าเชื่อว่าคนผู้นี้คนที่โหดเหี้ยมอำมหิตที่สุดบนพิภพนี้แล้ว
ไร้ถ้อยคำใด ร่างสูงก้าวเดินนำไปก่อน หญิงรับใช้อย่างซินหรานรีบเดินตามไปทันที นางไม่มีหน้าทีเอ่ยถามมีหน้าทีเพียงทำตาม เขาพานางเดินมาห้องคลังเก็บสมบัติ นางเข้ามาบ่อยครั้ง ก้อนทองหรือเพชรนิลจินดาเหล่านั้นไม่ได้ทำให้นางตาโตอีกแล้ว ห้องนี้นอกจากพ่อบ้าน จูโหย่งเจาและท่านจอมมารแล้ว เห็นทีจะมีแค่นางที่ได้เข้ามา
เขาเพียงปรายตามองไปยัง ‘กอง’ สิ่งของเบื้องหน้า หญิงสาวก็เข้าใจความหมายได้อย่างดี
“ของบรรณาการจากพรรควิหคราตรี” นางเอ่ยเสียงเบา แต่กระนั้นก็ยังก้องในห้องที่อัดแน่นด้วยทรัพย์สมบัติมหาศาลนี้ นางไม่เห็นเขาพูดสิ่งใดต่อ นางจึงเงยหน้าขึ้นมองผู้เป็นนาย เขาเดินไปเปิดหีบใบหนึ่งแล้วหยิบสิ่งที่อยู่ด้านในส่งให้นาง
มือเรียวรับไว้แล้วขมวดคิ้ว “หน้ากาก?”
“เก็บไว้”
“หมายความว่าอย่างไรเจ้าคะ”
ให้เก็บเข้าคลังนะหรือ? พ่อบ้านจูโหย่งเจาต้องทำรายการพวกนี้ก่อนนะซิ ไม่เช่นนั้นนางช่วยแยกเก็บให้แล้ว ไม่ใช่เพียงเงินทองเพชรพลอยไข่มุกเท่านั้น ของมีค่าในนี้ยังรวมถึงโสมหายาก ยาวิเศษหลายขนาด และยาพิษที่แสนอันตราย อาวุธแปลกพิสดาร สิ่งของแปลกประหลาดอีกมาก
“ให้เจ้าเก็บไว้” เขาถอนหายใจอย่างหงุดหงิด ไยเรื่องแค่นี้นางไม่เข้าใจ
“ให้บ่าวหรือเจ้าคะ” นางถามย้ำอีกครั้ง หน้ากากครึ่งหน้า นางไม่รู้ว่าหน้ากากนี้ทำจากสิ่งใด แต่น้ำหนักเบา ลวดลายบนหน้ากากงดงามมากกว่าดูน่ากลัวผิดกับหน้ากากอันอื่นที่เคยเห็น เพียงแค่หน้ากากอันนี้ดูจะเล็กไปสักหน่อย น่าจะเหมาะกับสตรี
“ข้าไม่ชอบ เจ้าเก็บไว้ก็แล้วกัน”
“เจ้าค่ะ” นางรับมันมาไว้ในมือ นึกขึ้นได้จึงรีบเอ่ยออกไป “ขอบคุณนายท่าน”